|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
5.บทไตรสรณคมน์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
บทนี้เป็นการน้อมเอาพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง เหตุที่ต้องว่าถึง 3ครั้งเพื่อเป็นการตอกย้ำจิตให้รำลึกอยู่เสมอว่า ที่พึ่งอย่างอื่นของเราผู้เป็นชาวพุทธไม่มี พระรัตนตรัยเท่านั้นเป็นที่พึ่งอันประเสริฐสุด อานิสงส์การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเป็นหนทางไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ พ้นจากอบาย (อบายหมายถึงหนทางที่นำไปสู่ความเสื่อม) เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ดังมีพุทธดำรัสตรัสไว้ว่า "ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นผู้ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง ชนเหล่านั้นละร่างกายมนุษย์ไปแล้วจักไม่ไปสู่อบายภูมิ จักบังเกิดเป็นเทวดาโดยสมบูรณ์" (เสริมคำอธิบายโดย ไพยนต์ กาสี)
Create Date : 14 มีนาคม 2554 |
Last Update : 14 มีนาคม 2554 23:29:04 น. |
|
1 comments
|
Counter : 312 Pageviews. |
|
|
|
โดย: shadee829 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:0:20:23 น. |
|
|
|
| |
|
|