
ถึงแล้วจ้าเมืองปัว

ที่นี่เมืองปัว

วิวแห่งหุบเขาสวยมากๆ

จะบอกว่าสวยพอๆกับแม่ฮ่องสอนปาย เลยก้ว่าได้

ชิลๆกะบรรยากาศที่นี่เมืองปัว

จากนั้นเราจะไปที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ระหว่างทางวิวสวยๆบรรยากาศท้องทุ่ง

ถนนแคบมากๆนะครับห้ามแซงน่ะ

วิวสวยงามกับอากาศที่เย็นยะเยือก

ขับไปเรื่อยๆครับตั้งใจว่าจะไปบ่อเกลือแต่ก็ไม่ถึงครับถึงแค่อุทยาน

ถึงแล้วครับอุทยานแห่งชาติดอยภูคามีที่พักด้วยนะครับ

ชมหมอกที่อุทยาน

หมอกยามสายๆที่อุทยาน

อยากจะมาพักที่นี่สักคืนต้องรอรอบหน้าแล้วครับ

อากาศดีแสนดีที่น่านแห่งนี้

หมอกเริ่มกระหน่ำอีกแล้วครับ

มาชมต้นชมภูภูคากันนะครับ

ใบนี้ต้นอะไรไม่รู้ไม่ได้ถ่ายป้ายชื่อมาครับ

ใบไม้ร่วงหล่นสวยงามมากที่พื้น

ต้นชมภูภูคาที่ใครไปต้องไปถ่ายรูปกันครับ

ลานกางเต้นท์ของอุทยาน

หมอกสวยๆยามสายๆ ณ.ที่แห่งนี้อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ติดต่อที่พักที่นี่ได้นะครับ

และมีทางเดินชมธรรมชาติด้วยตอนนี้มีแต่หญ่าคลุมคนคงไม่เดินกันมั้ง


กลับแล้วน่ะเดี๋ยวเราไปถ่ายรูปวิวภูเขากัน

วิวเขาน่านยามหน้าฝน

ภูเขาทั้งลูกทำสวนไร่ข้าวโพดกัน

ต้นไม้แทบไม่มีโล่งเตียนไปหมด

มันเป็นความงามรึเปล่าเนี่ย

แต่ใจก็อยากจะให้มีต้นไม้ขึ้นเต็มที่ครับ

อยากจะให้มีพื้นที่ป่าต้นน้ำให้มากๆ

ถือว่าเป็นความงามที่มนุษย์สร้างขึ้นหล่ะกัน

บางทีใจหนึ่งก็อยากให้มีพื้นที่ของป่าต้นน้ำให้มากขึ้นที่นี่น่าจะเป็นป่ามากกว่าไร่ข้าวโพดน่ะ

ชมแล้วดีใจหรือว่าเสียใจที่ป่าหายหมดตอนนี้จะกลับแล้วน่ะครับเข้าเมืองปัวกัน

เข้าเมืองปัว

ชมวิวท้องทุ่งที่เมืองปัวกันต่อ

ท้องทุ่งนาเขียวขจีสวยมากๆ

ถึงแม้จะเป็นเวลาที่เที่ยงน่าจะร้อนมากๆกลับไม่ร้อนเลย

อากาศที่นี่จะบอกว่าดีดี๊ดีมากๆ ต้องสูดลมหายใจให้เต็มที่

มองไปทางไหนมีแต่วิวที่สวยงามมากๆ

อยากมีบ้านที่นี่สักหลังหนึ่ง

ที่ติดกับท้องทุ่งตื่นเช้ามาก็เห็นวิวท้องนาที่สวยงาม

นั่งมองท้องทุ่งนาที่เมืองปัวน่าจะมีเสน่ห์เหมือนเมืองปายนะเนี่ย

อีกที่ที่น่าเที่ยวเมืองปัว

ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝนแต่ฝนก็ตกไม่มากดีนะที่เกษตรกรยังมีน้ำทำนากัน

ขับรถกลับแล้วน่ะแวะวัดหนองบัวท่าวังผา

เป็นวัดที่เก่าแก่ของท่าวังผา

ชมจิตรกรรมผาผนังที่ขึ้นชื่อของวัดหนองบัว

จิตรกรรมนังเก่าแก่ที่มีอายุนานร่วมร้อยปี

เป็นวัดที่ทุกคนต้องแวะมากราบสักการะและเยี่ยมเยือนเมื่อมาท่าวังผา

ภาพที่แสดงวิถีชีวิตของชาวล้านนาในอดีต

เรื่องเล่าในอดีตที่ผ่านออกมาเป็นแบบภาพวาดผนัง

ความงดงามของอดีตถูกถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่นผ่านจารึกที่งดงามณ.วัดหนองบัวแห่งนี้

ไหว้พระที่วัดซะหน่อย

มีป้ายเล็กๆบอกทางเที่ยวที่วัดด้วยนะครับ

มาชมบ้านไทลื้อที่วัดหนองบัวกัน

ที่นี่มีกลุ่มประชากรส่วนใหญ่เป็นไทลื้อ

ผ้าทอที่ขึ้นชื่อของท่าวังผาคือผ้าทอบ้านหนองบัวทอได้สวยงามจริงๆ

ของฝากของที่ระลึกก็มีจัดจำหน่ายที่เรือนไทยลื้อแห่งนี้

ขอโพสต์ท่าถ่ายรูปแอทท่าวังผาซะหน่อย

มุมสวยๆสำหรับถ่ายรูป

ขึ้นไปชมเรือนไทลื้อมะเก่ากันนะครับ

มีการขายและสาธิตผ้าทอแห่งบ้านหนองบัวด้วยนะครับ

วิธีการทอยุ่งยากมากๆราคาก็แพงตามเพราะเป็นงานประณีตจริงๆกว่าจะได้หนึ่งผืนก็ใช้เวลานานมากๆ

บนบ้านไทลื้อมีฮ้านน้ำเรือเรือน้ำไว้สำหรับรับรองแขกด้วย

รูปแม่อุ้ยแห่งบ้านหนองบัวที่สืบทอดบ้านไทลื้อ

ความงดงามของเรือนไทลื้อบ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองสมัยเก่าที่สืบทอดต่อๆกันมา

ก่อนขึ้นเรือจะมีหม้อน้ำและกระบวยไว้ตักน้ำล้างเท้าก่อนขึ้นเรือนนะครับ

ตอนนี้เริ่มร้อนและล้าแล้วขอพักแป้บ

เดินรอบๆตัววัดสักครู่

วัดก็ไม่ใหญ่มากแต่เป็นวัดที่เก่าแก่ของชาวท่าวังผา

มาวัดยังได้มาฟังซอของพ่ออุ้ยของชาวหนองบัวอีกด้วยด้วย

ทุกวันหยุดพ่ออุ้ยจะมาสีซอให้นักท่องเที่ยวได้ฟัง

เป็นกิจกรรมของท่านที่ท่านทำด้วยความตั้งอกตั้งใจ

ที่สำคัญก็ควรจะสืบสานสิ่งที่เรียกว่ารากเหง้าของเราไว้ด้วยนะครับสำคัญมากๆซอ ชื่อนี้ลูกๆหลานๆควรจะช่วยกันสืบต่อ

บ้านเก่าๆของชาวหนองบัวครับ

เดินเที่ยวจนทั่วแล้ว

ถึงเวลาที่จะกลับน่านแล้ว

น่าน ณ.ที่แห่งนี้มีแต่ความสงบเงียบ ของเมืองน่าอยู่

พบกับน่านรีวิวภาคต่อน่ะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมกระทู้