จากนั้นไปเที่ยววัดต่อครับที่วัดแม่แอน (พระพุทธบาทห้วยหลวง)
ผ่านอ่างเก็บน้ำ
วิวสวยดีครับแวะถ่ายรูป นั่งชมสักครู่
ทางเข้าวัดยากหน่อยน่ะครับ ทางลูกรังสลับกับทางราด
ตรงทางนี้เป็นทางราดยาง วัดขึ้นเขาเล็กน้อย
ถึงวัดแล้วนะครับอ่านประวัติวัดเล็กน้อยไม่ไกลจากตัวแม่ริมมากเท่าไหร่
เข้าไปสักการะรอยพระพุทธบาทและรอยพระหัตถ์กันนะครับ
มาดูประวัติซะนิดหน่อยน่ะครับว่ารอยพระพุทธหัตถ์-รอยพระพุทธบาทบ้านแม่แอน
เท่าที่ได้คุยกับผู้เฒ่าผู้แก่แถวนั้นท่านได้เล่าว่า
มีพระธุดงค์ ได้มาธุดงค์ในป่าบ้านแม่แอนได้ 5 วันท่านมีนิมิตว่ามีรอยพระพุทธบาทในป่าบริเวณนี้
ท่านจึงบอกข่าวแก่ชาวบ้านชาวบ้านบอกท่านว่าแถวนี้ไม่มีหลอก
รอยพระบาทจะมีก็ที่บ้านสะลวงที่เดียวพระธุดงค์องค์นั้นจึงค้นหาในป่าเอง
และได้เจอรอยพระพุทธบาทรอยแรกจึงให้ชาวบ้านค้นหาเพิ่ม
และได้เจอรอยพระพุทธหัตถ์เพิ่ม
ในปี 2551 กรมศิลปกรได้มาตรวจสอบและได้ยืนยันว่าเป็นรอย
พระพุทธบาทจริง จึงได้ทำพิธีบวงศรวงขึ้นในปีนั้น
ตรงจุดนี้เป็นรอยฝีพระหัตถ์ของพระพุทธเจ้า
คงทำพีธีได้ไม่นานมากนะครับมีล้อมด้วยไม้ไผ่และตุงตามประเพณีล้านนา
มาเที่ยววัดก็มาด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ก่อกำเหนิดของความศรัทธา
ก้อนหินก้อนนี้จะมีน้ำทิพย์ไหลผ่านตลอดเวลา
น้ำหลจากก้อนหินก้อนนี้ไหลออกตลอดเลาจนกลายเป็นน้ำทิพย์เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งให้คนหันมาเข้าวัด
สายน้ำทิพย์ครับ ไหลออกจากก้อนหิน ทำให้เป็นการอนุลักษณ์ต้นน้ำได้อีกทาง
ความศรัทธาก่อให้เกิดความเชื่อมั่นความศรัทธาก็เริ่มจากต่ำที่สุดไปสู่ที่สูงสุด
คุณลุงครับมาช่วยแนะนำในการทำบุญที่วัดแห่งนี้
ตอนนี้ยังเป็นวัดเล็ก ๆ ที่คนยังไม่รู้จักมากนักวัดเล็ก ๆ ใจกลางป่าก็ว่าได้
จากนั้นบ่ายๆไปกันครับไปวัดพระพุทธบาทสี่รอยกันไปตามทางที่เขียนบอกไว้ผ่านท้องทุ่งนา
วัดนี้หน้าฝนที่ข้าวเริ่มเขียวน่าจะสวยมากๆ
ตอนนี้ยังไม่ได้ทำนา ช่วงนี้เชียงใหม่ฝนยังไม่ตกแล้งมากๆ
ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลมันเปลี่ยนแปลงตลอด
อากาศตอนนี้ร้อนมากๆ แทบไม่น่าเชื่อว่ามาเที่ยวช่วงหน้าฝน
มาวัดพระพุทธบาทสี่รอยมาลำบากมากๆครับ ขอบอก 30 กม.จากตัวแม่ริม
ที่สำคัญขึ้นเขามาลำบากมากๆทางขึ้นดอยตลอดแต่พอมาถึงขอบอกว่ามาด้วยความศรัทธาจริงๆ
ไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยกันนะครับ
มีร้านกาแฟคอฟฟี่ไนน์คอยบริการด้วยครับ ราคาก็ขอบอกว่าแพงเอาการ
มุมรับบริจาคครับเป็นสัดส่วนดีไม่จำเป็นต้องมีตู้บริจาคทุกจุดรวมกันแบบนี้จะดีมากๆ
ขึ้นไปที่ศาลาไปไหว้พระพุทธบาทสี่รอยกันน่ะครับ
พระสงฆ์ท่านมาด้วยความศรัทธากับพระพุทธบาทสี่รอย เป็นภาพที่น่าเลื่อมใสยิ่งนัก
พระพุทธบาทสี่รอยที่นี่มีที่เดียวที่วัดที่แม่ริมตั้งอยู่ที่บ้านพระพุทธบาทสี่รอย
เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา
ผมว่าเดินทางมาลำบากมากๆแต่ด้วยความศรัทธายังไงก็มาถึงให้ได้
จากนั้นจะพบว่ามีรอยพระพุทธบาทสี่รอยซ้อนทับกันอยู่
มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง๔ พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้ คือ
รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะรอยแรกเป็นรอยใหญ่ยาว 12 ศอก
รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะเป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก
รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ 3 ยาว9 ศอก
รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ(ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กสุดยาว 4 ศอก
ประวัตินิดหน่อยนะครับ เมื่อมาถึงสมัยพระยาธรรมช้างเผือกผู้ครองนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยบริวาร 500 คนก็ขึ้นไปกราบสักการะบูชาพระพุทธบาท 4 รอยและได้สร้างพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยไว้ชั่วคราวโดยแต่เดิมถ้าใครจะดูรอยพระพุทธบาทบนยอดหินก้อนใหญ่
ต้องใช้บันไดพาดขึ้นไปหรือปืนขึ้นไปดูซึ่งก็คงจะขึ้นได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นดังนั้นพระยาธรรมช้างเผือกจึงตรัสสร้างแท่นยืนคล้ายๆนั่งร้านรอบ ๆ ก้อนหินที่มีพระพุทธบาทสี่รอยเพื่อที่ผู้หญิงจะได้เห็นรอยพระพุทธบาทด้วย และได้สร้างหลังคาชั่วคราวมุงไว้ต่อมาในสมัยพระชายาเจ้าดารารัศมีก็ได้ขึ้นไปกราบนมันสการพระพุทธบาท 4 รอย
และได้มีพระราชศรัทธาก่อสร้างวิหารเป็นการกราบบูชารอยพระพุทธบาทไว้ 1 หลัง หลักเล็กปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้วทั้งหลัง จะเหลือไว้แค่ผนังวิหารพื้นวิหารและแท่นพระซื่งยังเป็นของเดิมอยู่
พอมาสมัยเมื่อปี พ.ศ. 2472 ครูบาศรีวิชัยนักบุญแห่งล้านนาไทยก็ได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย
และได้รื้อพระวิหารที่เจ้าพระยาธรรมช้างเผือกสร้างไว้ชั่วคราวและได้สร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาทไว้ใหม่
และได้ฉาบปูนครอบรอยพระพุทธบาทไว้เพื่อรักษาให้อยู่ค้ำชูพุทธศาสนาไปตลอดกาลนาน
ไหว้เสร็จแล้วไปกันต่อที่ศาลาด้านหลังวัดครับ
ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
ไปวิหารด้านหลังวัดกันนะครับ
เข้าไปชมความอลังการด้านในกันสวยงามมากๆ
มองออกไปด้านนอกเขียวขจีสวยงาม
การตกแต่งที่ทำด้วยความปราณีตบรรจงตามฝีมือของสล่าล้านนา
อากาศตอนนี้ร้อนมากๆข้างนอกแต่ในตัววิหารเย็นมากๆนั่งให้จิตสงบสักครู่
จากนั้นไปปิดทองลูกนิมิตรกันนะครับ
พระสงฆ์ท่านก็มาปิดทองลูกนิมิตรด้วยความศรัทธา
ลวดลายความงามที่รอบๆตัววิหาร วิจิตรงดงามมากๆ
ความงดงามของวัดที่บางครั้งมาชมความงามและทึ่งในความสามารถของช่างไทย
ความงดงามของตัววิหารที่นี่ครับ
ท้องฟ้าเริ่มครึ้มฝนมาแล้ว เหมือนฝนจะตกแต่ก็ไม่ตก
แม่ญิงเอาผัวป้อจายออกลูกครับคำคมที่ทำให้ต้องคิด
ความหมายก็คือ แม่ญิงเอาผัว หมายถึง ธรรมชาติของผู้หญิงต้องมีสามีมีครอบครัวมีลูกสืบเผ่าพันธุ์. ป้อจายออกลูกหมายถึง ผู้ชายบวชเป็นพระก็เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป. ผ่านศาลเพียงตาครับ
ชื่อว่าร้านครัวริมธารครับน่ากินราคาถูก
หิวแล้วแวะทานก๋วยเตี๋ยวข้างวัดซะหน่อย
ก๋วยเตี๋ยวเห็นธรรมดาอย่างนี้ขอบอกว่าอร่อยมากๆ
อร่อยจนต้องชมป้าที่ทำครับ แถมราคาไม่แพงครับ
ร้านค้าธรรมดาที่ขายข้างวัดแต่ความอร่อยสุดยอด
ร้านติดลำธารจึงชื่อว่าครัวริมธาร
ไปก่อนนะวัดพระพุทธบาทสี่รอยแล้วจะกลับมาทำบุญอีกหน
หมู่บ้านเล็กๆบ้านพระพุทธบาทสี่รอย บ้านที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาเล็กๆ
ระยะทางขอบอกว่าไกลครับ และต้องชำนิชำนาญเส้นทางมากๆครับจะไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย
จากนั้นขับรถกลับผ่านทุ่งดอกปอเทืองแวะถ่ายรูปซะหน่อยหนึ่งน่ะ
ท้องทุ่งดอกปอเทืองท่ามกลางท้องนาและขุนเขา
อากาศยามบ่ายที่ร้อนแสนร้อน ยามต้นฝนแต่ฝนยังไม่ตกเลยที่เชียงใหม่
ต้องขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่มาชมบล็อกของผมทุกท่านมากๆครับพบกันรีวิวหน้านะครับ
ไว้จะไปให้ได้ค่ะ