พักสบาย ๆ ที่รีสอร์ทแห่งใหม่ เดอะ ลอฟท์เบอรี่ รีสอร์ท (The Loftberry Resort )สวนผึ้ง
พักสบาย ๆ ที่รีสอร์ทแห่งใหม่ เดอะ ลอฟท์เบอรี่ รีสอร์ท (The Loftberry Resort )สวนผึ้ง มาเที่ยวสวนผึ้งรอบนี้ตั้งใจที่จะมาพักผ่อนให้เต็มที่นี่สวนผึ้งดินแดนแห่งแกะ และที่มีอากาสดีที่สุดของภาคกลางที่บรรยากาศคล้ายภาคเหนือมาชมรีวิวกันครับ กับ รีสอร์ทที่เปิดใหม่ของสวนผึ้ง

เป็นที่พักที่เปิดใหม่ล่าสุดครับทางเข้าที่พักยังไม่ได้เป็นถนนที่ลาดยางแต่ว่าเข้าไป ลำบากนิดหนึ่งต้องคอยสังเกตให้ดี

ป้ายเล็กๆที่บอกทางเข้ารีสอร์ท เล็กมากบางทีขับรถจนหลงทาง เพราะเข้าใจผิด นึกว่าไปอีกทาง

เข้าถึงรีสอร์ทแล้วนะครับเข้าที่พักกันเลยเชคอินแล้วน่ะ เจ้าของที่พักให้การต้อนรับอย่างดี

เมื่อเชคอิน แล้ว เข้าที่พักกันลืมบอกไปนะครับว่าผมจองจากอาโกด้าในราคาคืนละสองพันบาท ห้องที่จองเป็นห้องดีลักซ์

รีวิวที่พักแล้วนะเนี่ยก็ต้องถ่ายรูปทุกซอกทุกมุมของรีสอร์ทพร้อมทั้งเล่าเรื่องราวต่างๆ

ห้องที่จองขอบอกว่าเห็นวิวที่สวยงามเป้นวิวภูเขาลิบๆ

ห้องพักบรรยากาศน่านอนมากๆเตียงนุ่มน่านอนเป็นที่สุด

หาที่พักค่อนข้างจะยากมากๆตอนนี้ขอหยิบผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำก่อนน่ะ

ที่พักใหม่ๆยังคงได้กลิ่นสีและปูนอยู่เลยแต่ไม่แรงมากเท่าไหร่เพราะว่าเขาทำความสะอาดอย่างดี

มุมดูทีวีและมุมทำงานเล็กๆ

ห้องกว้างมากๆครับเข้าไปนอนแล้วรู้สึกไม่อึดอัดเลย

ห้องเป็นแบบปูนเปลือยเข้าที่พักแล้วจะรู้สึกแบบเข้ากับธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งเลย

ที่นี่มีไดร์เป่าผมและปลั๊กพ่วงให้ด้วยน่ะครับ ไว้สำหรับต่อพ่วงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่นำมาเล่นด้วย

มินิบาร์เล็กๆ ขนมให้กินฟรีไม่คิดเงิน

มุมชากาแฟ มินิบาร์ อีกมุมนี่ก็ให้ฟรีทุกอย่าง

ชอบตรงที่มินิบาร์ไม่ต้องเสียเงินนี่หล่ะครับ

ห้องโล่งและกว้างมาก และสบายๆยามมาเที่ยวสวนผึ้ง

รีวิวแล้วก็ต้องรีวิวให้ครบทุกมุมของห้องเข้าไปดูห้องน้ำกัน

ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำแยกส่วนกันห้องกว้างมากสะใจสุดๆ

น้ำไหลไม่ค่อยแรงมากเท่าไหร่ควรปรับปรุงอย่างยิ่งและจะได้ยินเสียงห้องข้างๆคุยกันเสียงดัง ด้วยตรงนี้ก็น่าจะปรับปรุงนะครับ

ครีมอาบน้ำและแชมพู หอมนวลมากๆ

อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งตรงระเบียงหน้าห้องพักชมวิวแสงไฟยามค่ำคืนของรีสอร์ท

นอนเต็มอิ่มแล้วนอนสบายมากเงียบสงบจริงๆเหมาะสำหรับการพักผ่อนมากๆ เช้าแล้วมุมนั่งเล่นของรีสอร์ท

เช้าๆกาแฟสักแก้วจิบกาแฟกับบรรากาศที่สดชื่นยามเช้า

เดินเล่นที่รีสอร์ทมาที่สระว่ายน้ำมาชมหมอกยามเช้า

พอสายๆมารับประทานอาหารเช้ากัน ผมสั่งข้าวต้มที่นี่ดีตรงที่จะสั่งได้ทั้งข้าวต้มและ ABF ได้

ขนมปังปิ้งกินคู่กับ ABF

ABF ยามเช้ากินไปนั่งชมวิวไปไม่ต้องเร่งรีบอะไรเลย

บรรยากาศของห้องอาหารที่รีสอร์ทครับมีไม่กี่โต๊ะเอง แต่การจัดวางของตัวรีสอร์ททำได้ดีทีเดียว

ด้านหลังรีสรอ์ทเป็นแม่น้ำครับ มาชมวิวได้

วิวรีสอร์ทอาจจะไม่ได้เห็นวิวภูเขาได้แบบดล่งมากนักแต่ก็เห้นได้บางส่วนแต่การจัดวางตัวรีสอร์ทดีมากๆครับ

กินอิ่มแล้วนะครับขอเดินถ่ายรูปเล่นซะหน่อย

มุมดอกหญ้าพร้อมกับตัวห้องที่พักสวยงามอีกแบบ

สายๆมาว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำกันนะครับว่ายเห็นวิวภูเขานิดๆ

รีสอร์ทตกแต่งด้วยดอกหญ้าหาปลูกได้ง่ายแต่สวยงาม

เป้นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่น่าพักงียบสงบเหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ

ตอนนี้ขอถ่ายรูปกับป้ายรีสอร์ทซะหน่อย

ความเรียบง่ายของการตกแต่งมันก็สวยงามอีกแบบ

ห้องอาหารของรีสอร์ทที่มองจากห้องพัก

ถึงแม้จะไม่ได้เห็นวิวภูเขาหรือแม่น้ำมากนักแต่ก็สวยงามตรงที่เห็นวิวแบบโล่งโปร่ง

มาพักที่ใหม่ๆและเปิดใหม่ทุกอย่างก็จะใหม่หมด

ทุกอย่างใหม่หมด ของใช้ในห้องพักก็ใหม่หมดใช้เป็นคนแรกนะเนี่ย

ทางรีสอร์ทเลี้ยงเจ้ากระต่ายให้ผู้ที่มาพักดูด้วยน่ะครับ

หลังจากนั้นเชคเอ้าท์ครับออกไปเที่ยวต่อกันน่ะ
 ขับรถไปเรื่อยๆตามทาง ชมวิวและถ่ายรูปวิวสวยๆที่สวนผึ้ง

วิวสวยงามมีหมอกนิดๆ

ชมวิวไปเรื่อยๆแล้วไปต่อที่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

ด้านหน้าธารน้ำร้อนบ่อคลึงจะมีอ่างเก็บน้ำวิวสวยงามด้านหน้ามีเขาเป็นฉากหลัง

เข้าไปด้านในธารน้ำร้อนบ่อคลึงด้านในมีอ่างน้ำร้อนสวยงาม 
มาช่วงเช้าๆคนน้อยมากๆสายๆคนก็จะมาอาบน้ำอุ่นที่ธารนี้เต็มเลย 
ติดใจวิวอ่างเก็บน้ำด้านหน้าสวยงามท่ามกลางวิวภูเขาสวย 
จากนั้นขับรถไปต่อที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมสาขาวัดช่องลม 
วัดนี้อยู่ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบและติดถนนใหญ่ 
มีพระพิฆเนตรองค์ใหญ่มากตั้งตระหงานท่ามกลางวัด 
ข้างๆองค์พระพิฆเนตรจะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมด้วยขอบอกว่าวัดนี้วิวสวย และอากาศดีมากๆ 
จากนั้นขับรถไปต่อที่ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม 
ใครๆมาสวนผึ้งก็มาดูแกะกัน 
แกะก็เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของสวนผึ้งไปเลย 
ตอนนี้ทางฟาร์มปรับปรุงให้เป็นที่ให้อาหารแกะแล้วยังมีโชว์สุนัขอีกด้วย 
พนักงานรีสอร์ทตั้งใจทำงานเตรียมหญ้าให้แกะกินแอบบถ่ายเบื้องหลังการทำงานซะหน่อย 
ด้านในยังมีที่พักเหมือนเดิมครับ แต่ที่พักดูจากเวบไซต์แล้วขอบอกว่าราคายังแอบแพงเข้าไปขอแอบถ่ายก็พอแล้ว

ซีนเนอรี่น่าเดินเที่ยวมากๆครับทุกจุดจะเซตไว้เป็นจุดถ่ายรูปเอาใจลูกค้าทุกจุด

โซนส่วนนี้จะเป็นโซนแบบหมู่บ้านคาวบอย มีรถโบราณปั๊มน้ำมันแบบเก่าๆมาแสดง เก๋ไก๋ไม่เบา

มุมนี้มุมจิบกาแฟ ชิลๆได้บรรยากาศที่สวนผึ้งมากๆ

สวนผึ้งโด่งดังก็เพราะว่ามีซีนเนอรี่นี่แหล่ะตอนนี้ก็มีแหล่งที่เที่ยวเยอะแยะตามเปิดใหม่มากมาย

ด้านนอกซีนเนอรี่ก็มีร้านขายของที่ระลึกมากมายให้เลือก

เดินๆเล่นที่ซีนเนอรี่ฟาร์มแป้บๆเที่ยงแล้วขอแวะทานข้าวที่ครัวม่อนไข่

ที่นี่อาหารไม่แพง ได้เร็ว และอร่อย

จากนั้นขอแวะอามันเต้คอฟฟี่ซะหน่อยเป็นร้านกาแฟที่ติดกับครัวม่อนไข่ 
มีทั้งโรงคั่วกาแฟและสวนกระต่าย ยังไง ๆเข้าไปดูกันน่ะครับ 
กาแฟที่คั่วแล้วแตรียมบดและชงเป้นกาแฟสดให้ลูกค้า 
ขอนั่งจิบกาแฟชิลๆที่ร้านก่อนน่ะก่อนจะเดินทางไปต่อ

ร้านกาแฟโลโก้กระต่ายน่ารักๆ แถมขนมปังเอบี ซีอีกด้วย

จิบกาแฟที่สวนผึ้งชิลๆกับบรรยากาศจริงๆ

ร้านอามันเต้ เป็นร้านที่จัดร้านได้สวยงามใช้ได้ตกแต่งลงตัวมีหลายจุดให้นั่งได้ดูวิวสวนเล็กๆได้

มีดาราหลายท่านนะครับที่มาจิบกาแฟชิลๆที่ร้านอามันเต้แล้ว

เขาบอกว่ามาอามันเต้ต้องมาดูกระต่ายกระต่ายที่เลี้ยงไว้ไปดูกันครับ

เดินไปนิดหน่อยก็ถึงแล้วกรงกระต่ายกรงใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย

เจ้ากระต่ายตัวน้อยหลบอยู่มุมเชียวนะไม่ออกมาให้เห็นเลย

ดูกระต่าย แล้วก็หามุมถ่ายรูปกันทางร้านจัดให้เป็นมุมถ่ายรูปน่ารักๆหลายจุดทีเดียว

อามันเต้ จิบกาแฟ ดูกระต่ายชิลๆจริงๆน่ะที่สวนผึ้งแห่งนี้

ฝนเริ่มตกลงมาแล้วสวนผึ้งนี่ฝนตกบ่อยเหมือนกันน่ะเนี่ย

อากาศที่สวนผึ้งคล้ายกับอากาศทางเหนือจึงเป็นอีกที่ที่ทำให้ใครๆก็อยากจะมาเที่ยวสวนผึ้ง

แวะถ่ายรูปเรื่อยเปื่อยที่สวนผึ้งว่ากาลครั้งหนึ่งที่เคยมาที่สวนผึ้งแล้ว

ตอนนี้ที่สวนผึ้งมีไร่ที่ผุดขึ้นมามากมายเช่นไร่ทานตะวัน ช่วงที่ไปยังเป็นช่วงปลูกต้นยังเล็กอยู่เลย

ชมไร่ไปก่อนหล่ะกัน

ความสวยงามของสวนผึ้งไม่ใช่มาดูแกะอย่างเดียวยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย

แอบถ่ายเจ้าตูบกำลังชะเง้อมองหาลูกน้อยอยู่ เขามาสวนผึ้งมาดูแกะน่ะไม่ใช่ดูตัวเองนะ

ไปกันต่อครับที่ร้ากาแฟคลอโรฟิลด์ เป้นฟาร์มปลูกเมลอนแห่งใหม่ของสวนผึ้ง ที่นำเสนอการเพาะปลูกรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานงานดีไซน์ลงไปในการเกษตรอย่างลงตัว

ความหมายของคลอโรฟิลกันนะครับ Coroแปลว่า เวลา Field แปลว่า สนามกว้างๆ Corofield จึงมีความหมายว่าสนามสีเขียวที่ทำให้เวลาของเราเดินช้าลง นั่นแหล่ะที่เป็นความหมายที่ลงตัว

เป็นการท่องเที่ยวแบบผสมผสานที่ลงตัวมากๆ

ทางฟาร์มมีลานโล่ง วิวที่สวยงามและยังให้ความรู้ด้านการเกษตรอีกด้วย

ที่สำคัญอย่าลมมาถ่ายรูปกับเจ้าโคโรโระคุง (Cororo) มาสคอตอารมณ์ดี น่ารักๆ

น่ารักมากๆ บางทีก็โหล่มาจากดินเจ้าของเนี่ยไอเดียสุดยอดจริงๆ

นอกจากนี้ร้านยังขายของที่ระลึกเช่นไม้กระถางเล็กๆให้เด็กๆได้ระบายสีต้นไม้กระถางอีกด้วย

ทางร้านยังจำหน่ายพวกสินค้าด้านการเกษตรอีกด้วย

แต่ที่ขึ้นชื่อของฟาร์มคือเมล่อนนั่นเองราคาค่อนข้างแพงแต่อร่อยมากๆ

หลังจากที่ชมฟาร์มเพะแล้วมานั่งพักผ่อนจิบกาแฟสักครู่ก่อนกลับ

ร้านกาแฟผสมผสานกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม การเกษตรสมัยใหม่ต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ

การเกษตรที่ไม่ต้องพึ่งเงินที่ขายผลผลิตอย่างเดียวแต่ยังได้เงินจากการท่องเที่ยวเชิงการเกษตรอีกด้วย ซึ่งยุคนี้ป็นยุคที่ต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่แล้วว่าการท่องเที่ยวเชิงเกษตรคือ อีกแนวทางในการทำให้เกิดรายได้อย่างมากมาย


จบรีวิวสวนผึ้งแล้วนะครับขอบพระคุณทุกท่านที่มาชมรีวิวที่แสนจะธรรมดาของผมทุกท่านนะครับ พบกันรีวิวหน้านะครับ
Create Date : 22 มกราคม 2559 |
Last Update : 22 มกราคม 2559 1:10:21 น. |
|
5 comments
|
Counter : 9700 Pageviews. |
 |
|
ปล. ภาพสวยนะคะ ชอบจัง