ความสำเร็จ...ไม่มีคำว่าเดี๋ยว
|
|||
20161008 : THESIS ของฉันได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งแล้ว ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ฉันเคยเรียนป.โทอยู่ที่โครงการหนึ่ง ปีสุดท้ายก่อนตัดสินใจลาออก ฉันพยายามอย่างเต็มที่ แต่เวลาผ่านไปหนึ่งปี ฉันกลับได้กลับมาแค่คำว่า "ไปคิดใหม่...อ่านเพิ่มอีก" โดยที่ไม่มีคำแนะแนวใดๆเพิ่มเติมเลย แต่ฉันก็ไม่ได้โทษโครงการนั้นเพียงอย่างเดียว ฉันโทษตัวฉันเองด้วย ที่ไม่รู้จักปรับตัวเข้าหาอาจารย์ที่ปรึกษา เมื่อไม่เห็นทางที่จะจูนกันได้อีก ฉันจึงตัดสินใจเดินออกมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เพราะฉันคิดว่า หากหันมาเรียนอะไรที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ น่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่า จากเหตุการณ์ครั้งนั้นฉันเสียใจหนักมากจริงๆ กอดคอร้องไห้กับเพื่อนสนิทแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เนื่องจากฉันเป็นคนที่มองโลกในความจริงเสมอ ฉันจึงลุกได้ไว ในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน ฉันก็กล้าเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กับสาขาวิชาใหม่...มหาวิทยาลัยเดิม "การจัดการการสื่อสารองค์กร" การเรียนของสาขานี้เป็นไปอย่างมีระบบมาก เป็นระบบไตรภาค ปีละสามภาคการศึกษา ซึ่งในระหว่างที่เรียนแต่ละเทอม แต่ละวิชา ฉันกลับมานั่งสร้างตัวแปร เขียนหัวข้อไว้ตลอดทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ ประกอบกับโหลดงานวิจัยของมหาวิทยาลัยและที่อื่นมานั่งอ่านทุกๆปิดเทอม จนผ่านมาเทอมที่สี่ ที่ผ่านมาฉันขีดเขียนหัวข้อมาแล้วเป็นสิบหัวข้อ นั่งเขียนเอง ลบทิ้งเอง จนกระทั่งมาเคาะได้ล่าสุดก็เมื่อเดือนก่อน คือหัวข้อที่รู้สึกว่าไฟนอลแล้ว ทำได้แน่นอน มีประโยชน์ต่อการศึกษาในอนาคตด้วย (ขอทุนเรียนต่อป.เอก) - - - - ไม่ขอเปิดเผยชื่อหัวข้อนะคะ ปัญหาต่อมาของฉันคือการตัดสินใจเลือกแผนการศึกษา ก่อนหน้าที่จะเรียนสาขานี้ ฉันกลัวประวัติศาสตร์ซ่้ำรอยอย่างหนัก ฉันมุ่งมั่นที่จะเลือกแผน ข ทำสารนิพนธ์แน่นอน "เพราะจบทัน2ปีแน่นอน" แต่พอเรียนๆไป เริ่มรู้สึกอยากต่อปริญญาเอกสาขานี้ จึงอยากทำวิทยานิพนธ์ ฉันครุ่นคิดหนักมาก อยากทำแต่กลัวเรียนจบไม่ทันเพื่อน จะทำไงดี สุดท้ายฉันคิดถึงโอกาสในการศึกษาในอนาคตมากกว่า ฉันจึงเลือกแผน ก ด้วยความเชื่อว่าคนเรามีแค่ชีวิตเดียว ทำอะไรทำให้สุด (ไม่ได้หมายความว่าแผน ข จะเรียนป.เอกไม่ได้นะคะ แต่ฉันจะขอทุนการศึกษาค่ะ แผน ก น่าจะมีโอกาสมากกว่า) หลังจากที่ทะเลาะกับตัวเองมากนานจนเลือกแผนการศึกษาได้ ขั้นตอนต่อไปคือการเข้าหาอาจารย์ที่ปรึกษา โชคดีอย่างที่ความบ้าของฉันทำให้อาจารย์จำหน้าได้ แต่ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยเข้าหาผู้ใหญ่เลย แม้แต่นายที่ทำงาน ถ้าเขาไม่เรียกให้ฉันเข้าไปคุยงาน ฉันก็ไม่คิดจะเดินผ่านหน้าห้องเขาเลยค่ะ กลัวอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่นายก็ใจดี แต่ครั้งนี้ไม่ได้ค่ะ คือฉันมีอาจารย์ที่ปรึกษาในใจตั้งแต่แรกที่อาจารย์ยังไม่รู้จักฉัน ตอนที่อาจารย์มาสอนแทนอาจารย์ท่านหนึ่งคาบแรก อาจารย์ท่านนี้สดใสที่สุดตั้งแต่ที่เคยเรียนมา ฉันพูดกับเพื่อนในคลาสว่า นี่แหละ...อาจารย์ที่ปรึกษาของฉัน เทอมต่อมาที่ได้เรียนกับอาจารย์ท่านนี้จริงๆ ฉันก็ได้แอดเฟชบุ๊คอาจารย์ เข้าหาอาจารย์เพื่อคุยเรื่องรายงานวิจัยกับอาจารย์ แต่หลังจากนั้นมา ก็ไม่ได้คุยกันอีก ฉันแค่ไปกดไลค์สิ่งที่อาจารย์แชร์ในเฟชบุ๊คบ้างประปราย และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าหาอาจารย์ที่ปรึกษาจริงๆ ฉันก็ไม่กล้าคุยตรงๆสักที เพราะฉันยังไม่ได้ลงลึกทฤษฎีอะไรเท่าไร จนกระทั่งเมื่อวาน อาจารย์อินบ็อกในเฟชบุ๊คให้ช่วยโหวตคลิปหนึ่ง ฉันเลยรวบรวมความกล้าแล้วเริ่มคุยกับอาจารย์อีกครั้งเรื่องหัวข้อวิจัย ครั้งนี้ฉันมั่นใจและพูดเต็มปากเต็มคำว่าฉันจะทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งผลตอบรับดีมาก แค่อาจารย์บอกว่าหัวข้อของฉันน่าสนใจ แค่นี้ก็ดีมากๆแล้ว (เพราะที่ผ่านมาฉันไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย) เพียงแต่ฉันต้องหาตัวแปรเพิ่ม ซึ่งอาจารย์ก็ยกตัวอย่างมาให้น่าสนใจ ทำให้ฉันรู้ว่า การทำวิทยานิพนธ์สักเล่ม งานวิจัยต่างชาติเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ แม้แต่เรื่องที่ฉันทำก็ตาม ต่อมา ฉันก็ถามอาจารย์ตรงๆเลยว่า "อาจารย์ขา มีคนติดต่อขออาจารย์เป็นที่ปรึกษาเยอะรึยังคะ ฝ้ายมาทันมั้ยคะ" 55555+ อันนี้ตลกมากอ่ะ เพราะอาจารย์ก็เป็นที่หมายตาของนักศึกษาจำนวนมาก ฉันตุ้มๆต่อมๆ กลัวอาจารย์บอกเต็มโควต้าเหลือเกิน แต่สุดท้ายเรื่องก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่อาจารย์บอกว่า ครูโหดนะ...แต่ฉันก็บอกว่า โหดก็โหดค่ะ โหดแล้วจบหนูก็โอเค 55555 วันนี้ปักหมุดอาจารย์ที่ปรึกษาเรียบร้อย ซึ่งท่านก็ไม่ใช่ใคร "ผู้อำนวยการโครงการปริญญาโทฯ" นั่นเอง ตอนนี้องค์ประกอบทั้งหัวข้อ อาจารย์ที่ปรึกษาลงตัวแล้ว ที่เหลือตอนนี้ก็แค่ "อ่านเพิ่มเพื่อมาบรรเลงบทที่2ให้จงได้" แต่ที่สำคัญที่สุดคือ "ฉันต้องสอบประมวลวิชาครั้งนี้ให้ผ่าน" ไม่อย่างนั้นหมดสิทธิ์ทำวิทยานิพนธ์ทันที (อันนี้กดดันมาก เพราะได้ยินว่าปีที่แล้วมีคนสอบไม่ผ่านประมาณ10คนเชียว) ฉันตั้งใจเขียนบล็อกนี้ เพื่อบันทึกชีวิตการทำวิทยานิพนธ์สาขานี้อย่างตรงไปตรงมา อย่างน้อยที่สุด หากมันจะช่วยให้คำปรึกษาใครไม่ได้ แต่มันก็จะเป็นการบันทึกโมเม้นการทำวิทยานิพนธ์แต่ละขั้นตอนของฉันได้เป็นอย่างดี....เพราะความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ แล้วจะมาอัพเดทอีกครั้ง หลังจากที่เขียนดราฟแรกไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาในเร็วๆนี้นะคะ ^.^ เพราะความสำเร็จ ไม่มีคำว่าเดี๋ยว พาฝัน อ้าย หนี่ : 8 ตุลาคม 2559 |
สมาชิกหมายเลข 3458491
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |