ทริปนี้เกิดได้เพราะคุณสามีได้ วอร์เชอร์ที่พักมาจาก การไปเล่นเกมส์ในแฟนเพจของ Maria na klaibaan ซึ่งพี่สาวใจดีจะมีวอร์เชอร์ที่พักต่าง ๆ มาแจกกันเสมอ ๆ ใครดวงดีก็จะได้รับที่พักไปนอนเล่นกันได้สบาย ครั้งนี้ดวงดีเลยได้ วอร์เชอร์ที่พัก ของ Two Villas Holiday, Phuket ได้ไปนอนพักนอนเล่นที่นี่ 3 วัน 2 คืน ต่อ 2 คน
ครั้งนี้เราเลยชวนเพื่อนสาวไปร่วมทริปนี้ด้วยกันอีกสองคน แต่เพื่อนสาวเราจะต้องจ่ายค่าห้องพักเพิ่มกันคนละ 2,000 บาท
ไปเที่ยวครั้งนี้ไปกับแบบง่าย ๆ ไม่ค่อยได้ว่างแผนอะไรมากมาย กะว่าจะวนรถเที่ยวกันอยู่แต่ในภูเก็ตเท่านั้น ไม่ได้นั่งเรือไปเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ
12 ก.ค. 56 (วันศุกร์) เราเดินทางกันโดยสายการบินนกแอร์ ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เครื่องออก 15.35 น. และหลังจากนั้นก็ไปเช่ารถขับเล่นกัน เรื่องรถเช่าก็ได้พี่สาวใจดีแนะนำไปอีกนั้นแหละ เราได้รถเช่าของคุณเชิด พอไปถึงสนามบินทางคุณเชิดก็ให้พนักงานขับรถมารับไปที่บริษัท และทำสัญญาเช่ารถกัน ทางคุณเชิดคิดค่าเช่ารถเราเพียงแค่สองวัน ในช่วงนี้เป็นช่วงโลซีซั่น เขาก็เลยคิดค่าเช่ารถวันละ 900 บาทเท่านั้น ไม่ต้องว่างเงินมัดจำ
แต่ขอติหน่อยนะ รถที่ให้เช่าถ้ามองภายนอกก็จะเห็นว่ามีร่องรอยถลอกขูด ขีดมาเยอะ แต่ ณ จุดนี้ไม่มีปัญหาเพราะตรวจเช็ครับรถกันเป็นจุด ๆไว้หมดแล้ว แต่มันใช่ว่าจะแค่นั้น ยังมีเบรกอีก เบรกกันทีเสียงดังสนั่น แถมไฟเบรคมือโชว์ ไฟ ABS ก็โชว์ ฮะๆ มามองดูล้อรถอีกที น่ากลัวจริงยางรถสภาพน่ากลัวเหลือเกิน แถมล้อหน้ากับล้อหลังยางมากันต่างสายพันธ์เลยเชียว รับรถเสร็จก็วิ่งหาปั๊มกันเลยเชียวหาที่เติมลมเพราะลมแต่ละล้อมันไม่เท่ากันเลย แต่ดีหน่อยในระหว่างที่ใช้รถคันนี้ในช่วงเที่ยวอยู่ภูเก็ตรถเขาไม่เกเร ไม่ทำให้เราเดือนร้อน ก็โอเคนะ แต่บ้างทีนั่งรถที่สภาพไม่เต็มร้อยก็ความมั่นใจก็หายไปครึ่งหนึ่งแล้ว ถ้าใครคิดจะเช่ารถขับก็ตรวจรับหรือขอเปลี่ยนรถที่สภาพดี ๆ หน่อยก็คงได้นะ วันนั้นพวกเราก็ไม่ทันคิดขอเปลี่ยนคันใหม่ ขับคันนี้ออกมากันแล้ว ก็เลยตามเลยไป ดีที่รถเขาไม่เกเร ใช้ได้ดีตลอดทริปการท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้
นกแอร์ลำสีส้ม ที่พาพวกเราไปภูเก็ต
เราเลือก เช่ารถ TOYOTA YARIS ขับกัน ที่จริงรถคันนี้ถ้าทางบริษัทดูแลดี ๆ เราว่าจะดีเลยทีเดียว เหมือนว่าขาดการดูแลรักษาที่ดีละนะ คุณสามีเราบอกถ้าเป็นรถของเราเองจะดูแลให้ดีกว่าานี้ เพราะความสามารถเขายังมีอีกเยอะ เพียงขาดการดูแลที่ดี ความสะอาดภายในรถก็ไม่ทำก่อนที่จะนำรถส่งให้กับลูกค้า ที่จริงควรทำความสะอาดภายในรถสักหน่อยก็จะดีนะ (แต่ก็ตลกนะพวกเราก็รับรถแบบนั้นมาได้ มานึกได้อีกทีก็ขับไปถึงไหน ๆ มั่วแต่ดูเพียงตำหนิภายนอกกันเท่านั้น) หรือว่าเราตั้งมาตาฐานรถไว้มากเกิดเพราะครั้งที่เราไปนครพนม ไปเช่ารถของพี่ขำ ได้รถที่ดี ไม่มีอะไร สภาพโอเค ไม่มีตำหนิ สะอาด ล้อใหม่เอี่ยม เลยนึกว่าทุกทีจะเป็นเหมือนกัน เลยลืมดูหลาย ๆ จุดไป มาเห็นมารู้ก็ตอนที่รับรถออกมาไกลแล้ว อุ๊ย..บล็อกนี่จะเป็นบล็อกพาเที่ยวหรือบล็อกบ่นเรื่องรถละนี่เรา เอ้า..ไม่บ่นแล้ว พอละ ยังไงเขาก็พาเราเที่ยวได้จนจบทริปโดยไม่ทำให้เราเดือนร้อนและไม่เป็นอะไรไประหว่างการท่องเที่ยวโอเคจบนะเรื่องรถ ..มาเที่ยวกับเราต่อดีกว่า
จากรับรถกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปแวะไหว้พระกันก่อนเลย มาถึงภุเก็ต อันดับแรกก็ต้องไหว้พระก่อน ในความตั้งใจมาภูเก็ตครั้งนี้จะมาไหว้พระ 3 แห่ง วันนี้วันแรกเก็บไหว้พระไปก่อนสักสองที่แล้วกัน
วัดแรกที่เราแวะไหว้พระคือวัดพระทอง (วัดพระผุด)อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตรไปตามถนนเทพกษัตรีผ่านสี่แยกอำเภอถลาง ถึงที่ว่าการอำเภอถลางทางด้านขวาจะมีทางแยกเข้าวัดพระทอง วัดนี้มีพระพุทธรูปผุดขึ้นจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์เมื่อคราวศึกพระเจ้าปะดุง ยกพลมาตีเมืองถลาง พ.ศ. 2328 ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่าแต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายามต่อมาชาวบ้านได้นำทองหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ดังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง" เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ตเช่น จังซุ่ย เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุกรองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีนที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้น
ตอนพวกเราไปถึงวัดจอดรถได้ ฝนก็ตกลงมาทันทีเลย แต่พอเราเข้าไปไหว้พระขอพรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะไปกันต่อฝนก็หยุดตก จากนั้นตลอดทริปที่อยู่ที่ภูเก็ตก็ไม่มีฝนตกเลย ดีจริง ๆ มาตกอีกทีตอนพวกเราจะกลับ ขอบคุณนะ สายฝนที่ตอนรับพวกเราไปเยือนภูเก็ตได้ดีแบบนี่
จากนั้นก็แวะไปไหว้พระกันต่อที่วัดฉลองหรือชื่อที่เรียกเป็นทางการ ก็คือ วัดไชยธารามเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของภูเก็ต ถ้าใครมา ภูเก็ตจะต้องมาแวะนมัสการ หลวงพ่อแช่ม แห่งวัดฉลองเพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเอง เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ กิตติศัพท์ในการรักษาโรค บุญญาบารมีและเมตตาธรรมที่สูงส่งของหลวงพ่อทำให้มีผู้เลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมากเล่ากันว่าในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นถึงกับมีผู้ที่รอปิดทองตามแขนและขาของท่านจนแลดูเหลืองอร่ามไปทั่วราวกับปิดทองพระพุทธรูปและแม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นเวลานับหนึ่งร้อยปีมาแล้วก็ตามชื่อเสียงเกียรติคุณ และบารมีของท่านก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมา
อีกทั้งที่วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมี ประกาศเป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกาวัดฉลองแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใน ภูเก็ตอีกแห่งที่ ใครๆที่มาเที่ยวภูเก็ตจะต้องมาวัดแห่งนี้
อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุรกุล เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลองวัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร
จากไหว้พระกันเสร็จก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก เราพักกันที่ Two Villas Holiday,Phuket, Thailand Oriental style at Naiharn Beach ไปถึงที่พักก็ห้าโมงกว่าแล้ว
เก็บของแล้วรีบออกไปแหลมพรหมเทพ ไปถึงแหลมพรหมเทพแทนที่่จะจอดรถและเดินขึ้นไปดู กลับขับรถเลยวนรถลงมาอีก เอ้าจะมืดแล้วงั้นไม่ต้องดูแล้ว เพราะทุกคนตอนนี้หิวข้าวกันตาลาย หาร้านนั่งกินข้าวกันดีกว่า ข้อมูลหา ๆ มาไปไหนหมด ร้านอยู่ในตัวเมืองทั้งนัน หิวจนสมาชิกไม่ยอมไปให้ถึงตัวเมืองแล้ว ขอหาไรกินแถวใกล้ๆ แล้วกัน งั้นก็ไปดูแถวหาดราไวย์แล้วกัน ขับรถวนไปวนมา ก็มาลงเอยที่ร้าน ครัวแม่คล่อง นี่ละนะ
กินกันแบบไม่พูดไม่จ่าย พออิ่มเท่านั้นแหละต่างคนต่างมีแรง อยากเที่ยวอีก คุณสามีเลยชวนไปเดินเล่นตลาดปล่อยของที่อยู่ในเมืองภูเก็ต ไปเดินเล่นกันสักพัก ได้เสื้อกันมาคนละตัว
เดินเล่นกันได้สักพัก ก็กลับที่พัก กลับไปถึงที่พัก ก็จะสี่ทุ่มแล้ว แต่ยังมีเรียวแรง ขอเล่นน้ำกันก่อน แบบว่าเพื่อนเล่นน้ำกันแบบสนุก แต่เราไม่สนุกอะ สระน้ำมันลึก เรากลัว ฮะๆๆ
คืนนี้กว่าจะได้นอนกันก็ปาเข้าไปตีหนึ่งเลย ...หลับฝันดีนะคะ สำหรับคืนนี้ เดียวตามเที่ยวกันต่อวันพรุ้งนี้....
13 ก.ค. 56 (วันเสาร์) ตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไม่รู้เราจะรีบตื่นทำไม ทั้ง ๆ ที่นัดแม่บ้านเข้ามาทำกับข้าวให้ทานมื้อเช้าตั้ง 8 โมงกว่า ตื่นมานั่งเล่นไปเรื่อย ๆ ทริปนี้บอกตามตรงเราไม่ค่อยสนุกเท่าไรเพราะวันที่เรามาเที่ยว แม่เราก็เข้าโรงพยาบาลพอดี เลยทำให้เที่ยวในทริปนี้ไม่สนุก เพราะความกังวลและห่วงแม่มีเยอะมาก ๆ แต่ก็ต้องทำใจให้สนุกไม่อยากให้เพื่อนๆที่ร่วมทริปมาด้วยกับเราไม่สนุกไปกับเราด้วย เพราะอุตสาชวนเพื่อนมาแล้ว และเราจะมาทำตัวให้เพื่อนไม่สนุกก็ไม่ควรนะ ในส่วนลึกใจมันไม่อยากเที่ยวแล้วละ มันเหนื่อยไปหมด ใจมันไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว และอีกอย่าง ในวันแรกที่สัมผัสกับภูเก็ตรู้เลยว่าเป็นจังหวัดที่วุ่นวายดีแท้ รถมอเตอร์ไซด์เยอะมาก ขับรถกันไม่มีระเบียบวินัย นึกจะออกก็ออก ไม่มองไร ทำให้เวลาอยู่ในรถเราจะเบื่อ ๆ กังวลไปหมด (พูดไปเรื่อยอีกแล้วเรา)
ที่พักเราจะมีแม่บ้านเข้ามาทำอาหารเช้าให้ทานกันถึงที่เลย และแล้วก็ได้ทานอาหารกันแล้วคะ และนี่ก็คืออาหารเช้าสำหรับพวกเราคะ มีเราทานข้าวผัดอยู่คนเดียวเอง อิๆๆ (แบบว่าไม่อร่อยเลย ฮะๆๆ)
จากทานอาหารเช้ากันเสร็จก็ได้เวลาเที่ยวกันแล้ว ก่อนจะไปที่ไหนกันเราก็ไปไหว้พระกันก่อน โดยไปไหว้พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีหรือ พระใหญ่ ภูเก็ต
ประดิษฐานอยู่ที่เขานาคเกิด เลยจากวัดฉลองไป ไม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตในกลุ่มนักท่องเที่ยว ลักษณะเด่นของพระใหญ่ ได้แก่พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เห็นได้รอบเกาะภูเก็ต โดยมีนัยสำคัญใน การก่อสร้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสันติความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและความหวัง การก่อสร้างพระพุทธรูปมิ่งมงคลเอกนาคคีรีสำเร็จได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจบริจาคของประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยหากคุณมีโอกาสมาเยือนภูเก็ต ควรหาโอกาสไปกราบไหว้ เคารพสักการะที่วัดพระใหญ่บนเขานาคเกิดและชมทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะภูเก็ตในมุมสูง
พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี(พระใหญ่) เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปแบบร่วมสมัย ขนาดหน้าตักกว้าง 25.45 เมตรความสูง 45 เมตร โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับผิวด้วยหินอ่อนหยกขาว สุริยกันต(สุริยกันตะ)จากพม่า น้ำหนักเฉพาะหินอ่อน หยกขาวประมาณ 135 ตัน หรือประมาณ 2,500 ตารางเมตร
จากนั้นก็ไปต่อที่จุดชมวิว กะรน จะเห็นทิวทัศน์ 3 อ่าว คืออ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะ และอ่าวกะรน ตามลำดับ (ใกล้ไปไกล)โดยมีการจัดสร้างศาลาสามารถขึ้นไปชมวิวได้ ซึ่งบริเวณนี้สามารถมองเห็นวิวได้เกือบทั่วบริเวณ ซึ่งลักษณะจะเป็นแบบโค้งแบบเสี้ยวพระจันทร์ติดต่อกัน 3 อ่าวและ ณ จุดชมวิวนี้ ยังสามารถมองเห็นเกาะปูเป็นสถานที่มีชื่อเสียงทั้งไทยและต่างชาติและเป็นที่นิยมสำหรับถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ละลึกอีกด้วย
จากถ่ายรูปเล่นกันที่นี่ได้สักพักก็ไปต่อที่หาดกะตะ ไปเดินเอาเท้าจุ่ม ๆ น้ำเล่น สักพัก
ต่างชาติเยอะดี มาเป็นคู่ เดินเล่นชายหาด
จากนั้นก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี ขับเข้าเมืองกันอีกแล้ว ไปกินข้าวกลางวันที่ร้านบะหมี่ต้นโพธิ์
ไปถึงก็งง ไม่รู้จะสั่งไรดี แต่ก็ดีนะ พี่ที่ร้านเขามาแนะนำเลยให้กินไร ให้ทานกันคนละอย่างและแบ่ง ๆ กันกินจะได้รู้ว่าอะไรอร่อย ก็เลยตามนั้นสั่งกันมาคนละอย่างเลย ไปที่นี่ขาดไม่ได้คือห่อหมก เขาบอกว่าอร่อยกัน (ก็อร่อยดีนะ สั่งมากินกันคนละสองห่อ )
กินกันอิ่นแล้วก็ไปต่อที่ทุ่งคา กาแฟ บนยอดเขาวัง เพื่อนจะไปชิมกาแฟที่นี่ว่าอร่อยแค่ไหน ไปถึงเราก็ไม่ได้ทานหลอกนะกาแฟ ทานไอศรีมแทน อิๆๆ
จากนั้นก็วนกลับเข้าที่พัก ไปนอนรอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ กลับไปหลับหนึ่งตื่น เพราะกินอิ่มเกินพิกัด
ออกจากที่พักไปแหลมพรหมเทพตอนสี่โมงครึ่งก่อนขึ้นไปแหลมพรหมเทพ ก็แวะไปจุดชมวิวกังหันลมก่อน อยู่ใกล้ ๆ กับแหลมพหรมเทพนั้นแหละ
เป็นจุดชมวิวด้านทิศใต้ของเกาะภูเก็ต อยู่ถัดมาจากแหลมพรมเทพเล็กน้อย จากจุดชมวิวแห่งนี้จะมองเห็นแหลมพรมเทพ และหาดยะนุ้ย (หาดเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างแหลมพรมเทพกับจุดชมวิวแห่งนี้) อีกด้านหนึ่งจะมองเห็นหาดในหานอยู่ไกลๆ จุดชมวิวแห่งนี้ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยรู้จัก จึงมักจะมีคนไม่มากนัก หากที่แหลมพรมเทพคนเยอะ อาจจะหนีมาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็สวยงามไม่แพ้กัน หากเดินลงไปด้านล่างจะมีมุมถ่ายภาพมากมาย ในฤดูร้อนหญ้าบริเวณนี้จะเป็นสีเหลืองทองตัดกับน้ำทะเลสีครามใสสวยงามเป็นอย่างยิ่ง แถมในวันที่อากาศดีๆ ก็มีคนมากระโดดร่มร่อนให้ชมกันอีกด้วย
จากนั้นก็ขึ้นไปแหลมพรหมเทพ ทีแรกกะว่าจะรอดูพระอาทิตย์ตก แต่ทำไปทำมา ก็ไม่รอดูแล้วเพราะยังไงวันนี้พระอาทิตย์ตกก็ไม่สวยแน่นอน มองจากท้องฟ้าก็เดาออกว่าไม่สวย ได้แต่ไปถ่ายรูปกันและก็ลงมาหาซื้อกับข้าวที่หาดราไวย์เพื่อเอาเข้าไปทานที่บ้านพักในตอนเย็น
จากแหลมพรหมเทพ เราก็จะมองเห็นจุดชมวิวกังหันลมที่เราไปมา และมองไปไกลก็จะเห็นองค์พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีที่เราไปไหว้มาเมื่อตอนเช้า
ช่วงเย็น ๆ แหลมพรหมเทพนักท่องเที่ยวเยอะมากคะ พวกเราชิงลงจากแหลมพรหมเทพกันก่อน ไปแวะหาดราไวย์ไปซื้ออาหารทะเลสด และก็ให้ร้านแถว ๆ นั้นทำให้ แล้วเอากลับไปทานกันที่บ้านพัก มื้อเย็นวันนี้เราปาตี้กันที่บ้านคะ อิ่มมากมาย
คืนนี้กินกัน อิ่มมากมาย เก็บล้าง ทำแก้วไวร์ของทางที่พักแตกไปหนึ่งใบ สงสัยคนล้างจะเมา อิๆๆ วันเช็คเอาท์จ่ายค่าเสียหายไป 120 บาท (หักจากเงินประกัน)
14 ก.ค. 56 (วันอาทิตย์) วันสุดท้ายแล้วสำหรับการมาเที่ยวภูเก็ต วันนี้ตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม นัดกันว่าเช้านี่จะไปทานติ๋มซำกัน ส่วนอาหารเช้าของทางที่พักเราแจ้งให้แม่บ้านมาทำให้ทานช่วง 10 โมงกะว่า ทานแทนมื้อกลางวันไปเลย
เช้านี้ขับรถเข้าตัวเมืองภูเก็ตกันอีกแล้วคะ ไปทานติ่มซำที่ร้าน บุญรัตน์โกลด์ ที่ร้านนี่เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 11 โมงเช้า เรามาถึงร้านประมาณ 6โมงครึ่ง
มาถึงไม่ต้องสั่งนะคะ เขาจะยกมาเป็นถาดให้เราเลย ถ้าอันไหนเราไม่ทานเดียวเขาก็จะเก็บกลับไปคะ แต่สำหรับพวกเรา ยกมาให้เท่าไรก็ทานกันหมดเลยคะ เพราะจะได้รู้ว่าอันไหนอร่อยหรือว่าอันไหนไม่อร่อยถูกปาก ถ้าอันไหนอร่อยถูกปากก็สั่งกันเพิ่มอีก แต่เช้า ๆ แบบนี่สำหรับเราทานได้ไม่เยอะทานได้นิดเดียวเอง
จากทานติ่มซำกันเสร็จแล้วก็พากันไปเดินเล่นเมืองเก่าภูเก็ต ชิโนโปรตุกีส
ทางเทศบาลเมืองภูเก็ตได้เห็นถึงความสำคัญของ สถาปัตยกรรมเหล่านี้โดยได้ทำการอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสนี้ไว้และจัดให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของการท่องเที่ยว จัดให้มีเส้นทางเดินชมเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความสวยงามของบ้านเรือนเก่าแก่ของภูเก็ตและสถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่สวยงามพร้อมๆ กับได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนภูเก็ต
เดินเล่นกันได้สักพักก็กลับเข้าที่พัก อาบน้ำ กินข้าวเตรียมเดินทางกลับ ก่อนกลับต้องแวะเอาชุดกุญแจบ้านพักไปคืนที่สำนักงาน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ จุดมุ่งหมายในวันนี้คือไปแวะซื้อของฝากที่ร้านแม่จู้ ถ้ามีเวลาเหลือพอก็จะไปเดินเล่นถ่ายรูปที่สะพานสารสินธ์
เรามาถึงร้านแม่จู้ประมาณเที่ยง เลือกซื้อของฝาก เสร็จเห็นยังมีเวลาเหลือพอ เพราะเราจะต้องถึงสนามบินเวลา 14.00 น. ก็เลยขับรถไปเที่ยวสะพานสารสินธ์ก่อน
และแล้วก็ได้เวลาต้องกลับบ้าน หมดเวลาเที่ยวแล้ว โทรแจ้งทางคุณเชิด ให้ไปรับรถที่สนามบินภูเก็ต เราถึงสนามบินประมาณบ่ายสอง คืนรถ เรียบร้อยก็เข้าไปเช็คอิน และรอเวลาขึ้นเครื่องกลับ ...
บายบ๊าย...จ้าภูเก็ต ..โอกาสหน้าคงได้มาใหม่
เบอร์โทรรถเช่า ติดต่อคุณเชิด 0815370255 (ถ้าไปภูเก็ตหารถเช่าก็โทรคุยตามเบอร์นี้ได้คะ แต่ก็บอกทางคุณเชิดว่าขอรถที่ใหม่หน่อยนะคะ ไม่อยากให้เจอรถสภาพที่เราไปเจอ แต่เจ้านี่ดีที่เขาไม่จู้จี้ จุกจิกกับเรา ตรวจสภาพรถก่อนรับทุกจุดที่มีร่องรอยถลอกอะคะ)
สรุปค่าใช้จ่าย
1.ค่าใช้จ่าย/คน (นี+พี่แป๊ะ)
- ค่าตั๋วเครื่องบิน 3,833 บาท + ค่าเช่ารถ 2 วัน 450 บาท +ค่าน้ำมัน 305 บาท+ค่ากิน 1,420 บาท
2.ค่าใช้จ่าย/คน(เพื่อนกุ้ง+เพื่อนดา)
-ค่าตั๋วเครื่องบิน 4,130 บาท + ค่าที่พัก 2,000 บาท ค่าเช่ารถ 2 วัน 450 บาท +ค่าน้ำมันรถ 305 บาท +ค่ากิน 1,175 บาท
ป.ล.น่าหนุกเนอะ เดี๋ยวไปเล่นเกมส์ที่พักในแฟนเพจจิบมั่งดีก่า แต่ปัญหาคือพี่เล่นเฟสไม่เป็นอ่ะ 555