06 พฤษภาคม 2555

วันนี้พี่แป๊ะพาเราไปพัทยา เพื่อให้เราไปทำภาระกิจที่บอกกล่าวไว้นานหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำเสียที นั้นคือเมื่อหลายปีก่อน เคยไปไหว้กรมหลวงชุมพรฯ ที่เขาพระตำหนัก พัทยาใต้ และได้บอกกล่าวไว้เรื่อง ๆ หนึ่ง ถ้าสำเร็จจะมาไหว้อีกครั้งพร้อมกับดอกกุหลาบ 100 ดอก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นที่เราขอไว้ได้สำเร็จไปนานแล้วแต่เราก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปทำตามที่เราพูดสักครั้ง และมันก็คือสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจเรามานานหลายปี จนวันนี้เราได้ไปทำตามที่บอกกล่าวไว้สำเร็จแล้ว เหมือนกับยกภูเขาออกจากอกจริง ๆ นะ ( มันเหมือนกับการที่เราไปสัญญาอะไรกับใครสักคนว่าจะทำบ้างอย่างให้ แต่แล้วไม่ทำให้ มันก็จะติดอยู่ในใจ ทำให้เราไม่มีความสุขเลย  แต่วันนี้เราได้ทำตามที่เราบอกแล้ว ทำให้เราสบายใจสุด ๆ ) งานนี้คงต้องขอบคุณคุณสามีที่จัดการพาเราไป ที่จริงเขาจะพาเราไปทั้งนานแล้ว แต่เราเป็นฝ่ายผลัดไว้ตลอดอะคะ

วันนี้พอเราไปถึงพัทยา ฝนก็ตกลงมาอย่างแรง งง เลย เพราะขับรถไปตลอดเส้นทางก็ไม่มีวีแววว่าจะได้เจอกับฝน พอเข้าเขตพัทยาซึ่งอีกไม่กี่กิโลก็จะถึงศาลกรมหลวงชุมพรอยู่แล้วฝนก็ตกมาอย่างแรง แต่ดีนะที่ตกมาแป๊บเดียวก็หยุด หลังจากฝนหยุดตก ก็ร้อนแสนร้อนเลยละ

ไปถึงศาลกรมหลวงชุมพรฯ ก็จัดการไปหาที่ใส่ดอกกุหลาบ เดินไปถามกับพี่ทหารเจ้าหน้าที่ดูแลขายของไหว้กรมหลวงชุมพรฯ ว่ามีอะไรใส่กุหลาบได้บ้างไหม เขาก็บอกว่าไหนดอกกุหลาบส่งมาได้เลยเดียวจัดให้ (อุ๋ยน่ารักเชียวนะ จัดให้เราเลย)

เสร็จแล้วเราก็จัดการไปไหว้ และบอกกล่าวว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ ฮะๆๆไหว้เสร็จก็่ถ่ายรูปเล่นกันต่อ แต่ถ่ายได้ไม่นานคะ ร้อนมากมาย ฝนหยุดตกไปนึกว่าอากาศจะเย็นแต่ที่ไหน ร้อนมาก ๆ เลย

หลังจากนั้นเราก็เดินไปไหว้พระที่วัดพระบาทกันต่อ ซึ่งจากอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ กะวัดพระบาทอยู่ใกล้กันเลยคะ

จากนั้นเราก็ขับรถไปไหว้พระกันต่อที่วัดพระใหญ่ พัทยา วัดพระใหญ่พัทยาเป็นสถานที่ที่มีองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดชลบุรี ที่ซึ่งมีความสูงกว่า 300 ฟุต ซึ่งได้ถูกสร้างตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ.2520 

 และเมื่อไหว้พระกันที่วัดพระใหญ่เสร็จ แล้วเราก็ไปเที่ยวไร่องุ่นของสุพรรษากันต่อ คือไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ที่นี้เราเคยมาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกัน มีตึกคล้าย ๆ ที่เขาใหญ่ด้วย และที่นี้ก็เคยถ่ายละครของช่องสาม หลายเรื่องอยู่เหมือนกัน  สถานที่สวย เหมาะสำหรับคนชอบถ่ายภาพ 

ก่อนจะเข้าไปชมและถ่ายภาพภายในไร่ก็มีให้เลือก จะเลือกแบบเดินชมเองโดยเสียค่าเข้า 30 บาท (หน้าจะใช้นะอันนี้ไม่แน่ใจมองผ่าน ๆ ) หรือจะเลือกนั่งรถรางของทางไร่ พาชมไร่ ซึ่งราคา 70 บาท / คน ซึ่งจะมีไกด์ค่อยแนะนำสถานที่  หรือว่าจะปั่นจักรยานก็ได้ ราคาอยู่ที่ คนละ 50 บาท และแล้วเราก็ไม่พลาดที่จะปั่นจักรยาน เช่าจักรยานคนละคัน ปั่นเล่น แต่ไม่ไหวอะ  ปั่นตอนขาไปก็ดีละลงจากเนินเขา แต่ตอนขากลับเนี้ยซิแย่มาก เหนื่อยจนหายใจไม่ทันเลย และจักรยานเขาก็ปั่นยากอีกต่างหาก ได้เหงื่อจนได้เรา

เก็บภาพบรรยากาศมาฝากคะ

ตึกส้มนี้ละคะที่มีเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่สมบูรณ์ดีนะคะ คิดว่าภายในตึกต่อไปอาจมีร้านค้าก็ได้ เพราะตอนนี้ที่เห็นมีเพียงร้านกาแฟร้านเดียวเท่านั้น ไว้ปีหน้าไปดูใหม่

ทีนี้เราไปปั่นจักรยานถ่ายรูปเล่นด้านในกันต่อดีกว่า

และนี้ก็คือจักรยานที่เราเอามาปั่นเล่น

หยุดพักถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ

จุดนี้ถ้าใครนั่งรถรางมาเขาจะปล่อยให้ลงถ่ายรูปตรงนี้ และให้ดักรอขึ้นรถคันต่อไป

ซูม ได้ไกลเหมือนกัน ตึกส้มจะอยู่หน้าทางเข้า เรายื่นอยู่ตรงกังหันและซูมไปที่ตึกส้ม

รถรางจะขับลงน้ำ แต่จักรยานเส้นทางนี้ห้ามปั่นผ่าน

 เก็บตกก่อนกลับบ้าน

หลังจากถ่ายรูปเล่นกันเป็นที่พอใจแล้วก็พากันกลับบ้านที่แปดริ้ว เพราะต้องกลับไปทำภาระกิจต่อ โดยพรุ้งนี้จะไปวัดหลวงพ่อโสธร วันนี้เลยต้องกลับไปต้มไข่ไก่ 100 ฟอง พรุ้งนี้ทำภาระกิจต่อที่วัดหลวงพ่อโสธร

 7 พฤษภาคม 2555

ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง เดียวนี้จะนอนตื่นไวมาก เวลาประจำเลยก็ประมาณนี้ละนะ ตื่นมาก็เห็นพ่อกะแม่ตื่นมาแล้วเหมือนกัน แม่ตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้ามืดเลย เพราะประมาณตีห้าครึ่งพ่อกับแม่จะออกไปปั่นจักรยานกัน ส่วนเราก็อาบน้ำเตรียมตัวออกไปวัดหลวงพ่อโสธร ต้องไปแต่เช้าเพราะถ้าสายที่วัดคนจะเยอะ วัดเปิดเจ็ดโมงเช้า ไปถึงวัด ก็เห็นมีผู้คนมารอจะเข้าไปไหว้หลวงพ่อโสธรอยู่หลายคนแหละ ขนาดเรามาเช้าก็ยังมีคนที่เช้ากว่าเราอีกนะเนี้ย

ไปถึงระหว่างรอโบสถ์เปิด เลยถ่ายรูปเล่นซะหน่อย

เจ็ดโมงโบสถ์ก็เปิดแล้วคะ เราก็จัดการเข้าไปไหว้หลวงพ่อโสธรและก็บอกกล่าวเรื่องที่เราบอกไว้ว่าเราทำสำเร็จแล้วและก็นำไข่ไก่มาถวายพร้อมกับละครชุดเล็กอีกหนึ่งชุด เป็นอันจบสิ้นสิ่งที่บอกกล่าวกันไว้

ราคาละครสำหรับแก้บน

หลังจากนั้นก็แวะไปรับน้องแซมน้องซันที่ค่ายศรีโสธรเพื่อจะพากันกลับไปบ้านพ่อกับแม่ แต่ก่อนกลับเราก็แวะไปร้าน 8 ริ้วกาแฟสดกันก่อน เพราะเป็นเพื่อนกับร้านนี้ทางเฟสบุ๊ค เลยอยากเจอตัวกันเป็น ๆ ซะหน่อย

ไปถึงก็สั่งเครื่องดื่มและขนม พร้อมขออนุญาติถ่ายรูปเล่น

หลังจากใช้เวลาอยู่กับร้าน 8 ริ้วกาแฟสดได้สักพักเราก็ขอตัวกลับเข้าบ้าน เพื่อพาน้องซันกับน้องแซมไปส่งให้ปู่กะย่า ส่วนเรากับคุณสามี ก็ได้เวลาเดินทางกลับเข้านนท์

เรียกว่าสองวันนี้ เราก็ทำภาระกิจที่ค้างคาใจเราจนจบสิ้นและสบายใจกลับบ้านเลยละคะ

เรียกว่าเป็นสองวันที่มีค่าจริง ๆ วันแรกไปพัทยาเพื่อทำภาระกิจ สิ่งที่ได้ตามมาคือเราได้เที่ยวหลังจากทำภาระกิจเสร็จสิ้น  ส่วนวันที่สองทำภาระกิจต่อ เราก็ได้กลับไปบ้านได้พูดคุยกับพ่อกะแม่ มีความสุขดีจัง  แถมยังได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ทางเฟสบุ๊คอีกด้วย

Create Date : 08 พฤษภาคม 2555
Last Update : 24 พฤษภาคม 2555 15:41:30 น.		6 comments
Counter : 2960 Pageviews.
Share Tweet