ตอนที่29 เรื่องเล่าบนแผ่นไม้....บันได

ขออภัยที่ห่างหายไปนาน อันเนื่องมาจาก ต้องสาละวนกับงานที่หลังเปิดปีใหม่มาก็เข้าอย่างท่วมท้นจนไม่มีเวลามาจัดการอัพบล็อคกันเลยทีเดียว......

จากที่ว่า ตอนนี้เป็น เรื่องเล่าบนแผ่นไม้....ซึ่งก็จริง เพราะ ประวัตินั้นยาวนานจริงๆ ว่ากันเป็นปีๆ....เพราะเทียวไป..เทียวมา หลายร้าน หลายโรงงานทั้งในกรุงเทพ,ปริมณฆลและหลุดไปถึงแถบชายแดนไทย 555+

..... ซึ่งมีหลายเรื่องที่จะนำมาเล่า...และแฉ.....ตามสไตล์....ของผม..........


ความว่า.....คุณยายท่านอยากให้บ้านผมได้มีส่วนผสมของไม้บ้าง จึงแนะนำคนรู้จักที่ไปเปิดโรงงาน ทำไม้อยู่แถบชายแดนไทย.......ผมเองก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนและชมผลงานของคุณลุงท่านนี้ถึงถิ่น...ก็ต้องยอมรับฝีมือเค้าครับ...ฝีมือดีจริง....(ขนาดที่ว่า Brand ดังอย่าง Index ก็ไปว่าจ้างแกทำ เก้าอี้ไม้เนื้อแข็ง...แท้ๆ (สัก, ประดู่, มะค่า)......ขอย้ำ ว่า ไม้แท้ๆนะครับ มิใช่ไม้แอบอ้าง).....ราคานั้นหรือ...หากขึ้นบน Index แล้ว เค้าไปโม้กันที่ราคา 7-8 หมื่นบาท กันเลย...แต่ต้นทุนจริงๆที่จ้างแกทำคือ หมื่นต้นๆ....แค่นั้น -*-........ ซึ่งถ้าหากราคาหมื่นต้นๆ ใน Index เราก็จะไปได้แค่ ไม้อัดบุผ้า กันเท่านั้นล่ะครับ จะหาไม้แท้ๆ เนี่ย...จับกันไม่ลงทีเดียว


นั่นก็ค่อยไปว่ากันอีกทีในเรื่องของ Furniture เน๊าะ....แต่ตอนนี้ผม ตาสว่าง ขึ้นมามากทีเดียวหลังจากได้เข้ามาคลุกกับเรื่องไม้ๆอยู่พีกนึง.....

ตอนนี้ step งาน บ้านผมเอง ก็ต้องการ ประตูไม้ (คุณยายย้ำว่าเอามะค่าเท่านั้นนะ.. -_-".......ได้แต่รับปากว่าคร้าบๆๆ....)

ครับ งั้นมาว่ากันเรื่อง "ประตูไม้" อย่างเดียวก่อน....เพราะมีการคัดเกรดไม้มาทำต่างกันกับการใช้ไม้ทำส่วนอื่นๆในบ้าน.....

ไม้ที่มีขายในปัจจุบัน...ในหลายๆเจ้า...ต่างอวดสรรพคุณกันต่างๆนานๆว่าดังนี้

ร้านแถวบางโพธิ์ : เน้นไม้สักแท้, เอาถูกๆ ก็ไม้สยาแดง, สยาเหลือง นะ เอาไม๊
ข้อพิจารณา : ครับใช่.....ในบางโพธิ์นั้นมีไม้ให้เลือกหลากหลาย แต่คุณทราบไหมว่า...หากพูดกันในเรื่องไม้สัก.....ปัจจุบัน คุณจะไปหาไม้สักลายสวยๆเนื้อไม่อ่อนจนเกินไปได้ที่ไหน....ตอบได้เลยว่า....ไม่มีครับ ทั้งประเทศไทยตอนนี้ไม่มีไม้สักอายุเยอะๆมาให้ตัดใช้กันละ.....มีแต่ไม้สักอ่อนปี....

ข้อเสีย คือลายไม้จะยังไม่ชัดเจนและจะไม่ชัดตลอดไปเพราะอายุยังน้อยก็ไปตัดมันมาใช้กันแล้ว ..อีกทั้ง ไม้สักอ่อนจะต้องผ่านการอบก่อนมิเช่นนั้น จะเจอปัญหาในเรื่อง ประตูบิดบ้างล่ะ...โก่งบ้างล่ะ...แตกบ้างล่ะหรือศัพท์ช่างเค้าจะเรียกว่า "ไม้หาว - คืออาการที่ไม้หลังจากประกอบเข้าลิ่มทำประตูไปแล้วยังมีการหดตัวอยู่ ทำให้รอยต่อแยกออกมา...หรือถ้ามากกว่านั้นก็คือไม้แตกลั่นยาวกันไปเลย" เอาแค่ต้นได้ขนาดก็เอามาเลย ฉะนั้น ความสวยของลาย ไม่ต้องพูดกัน.........ซึ่งหากแนะนำความสวยเอาจริงๆก็ต้องไปที่ ต้นสักทอง ซึ่งจะมีสีของเนื้อไม้ออกเหลืองและลวดลายจะคมชัดกว่า...ราคาก็สูงปรี๊ดตามกันขึ้นไป

ข้อดี ถึงจะอายุไม่ถึงขั้น แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีในระดับนึง ปลวกก็ยังไม่กินซึ่งเป็นข้อดีทุนเดิมของไม้สักซึ่งถึงจะอ่อนปีแต่ปลวกก็ยังไม่ได้แอ้ม..อีกทั้งเนื้อไม้ก็ยังไม่แข็งไม่อ่อนจนเกินไป..เหมาะมากกับการแกะสลักบานประตู...นี่ล่ะจึงเป็นสาเหตุให้ยังคงโดนใจคนซื้อและคนขายและช่างสลักลายไม่ต้องตอกจนมือสะท้าน (บางร้านนำเครื่อง CNC มาแกะลายกันไปบ้างแล้ว...แต่ถ้าเนื้อแข็งเกินไปเครื่องก็แกะกันไม่ลงเหมือนกัน)


ข้อควรระวังในการซื้อ : สำหรับไม้สัก ขอบอกว่าก็จะโดนต้มกันน้อย เพราะไม้สักนั้นหาง่ายและมีเยอะ..แค่ให้ระวังในเรื่องการอบให้ดีๆ แค่นั้น



ซึ่งถามว่าไม้ที่จะเอามาใช้(ต้ม) หรือแอบอ้างนั้น....มีครับ...คนท้องถิ่นเค้าก็ใช้ ต้น "กฐินเทพา" ซึ่งจะมีลวดลายคล้าย


ร้านขายไม้ชายแดนไทย : ของผมถูกกว่าเป็นไหนๆและอีกทั้งไม้ก็เป็นไม้ป่าเพื่อนบ้านซึ่งมีเยอะ (ขนกันมายังงัยผมเองก็ไม่ได้ถามน่ะครับ....คงมีทั้งผิดกฎหมายและถูกกฎหมายคละเคล้ากันไป...มิกล้าแตะเรื่องนี้)....ที่นี่ อย่าถามเอาสักเลยครับ...มาถึงถิ่น...ก็ต้องว่ากันที่ มะค่า,ประดู่ ซึ่งถูกใจคนแก่(คุณยายผม) ซะเหลือเกิน

ตามคำกล่าวอ้าง ของร้านในแถบนี้...ว่าไม้ผมซิดี ร้านไหนในไทยส่วนใหญ่ไม้อ่อนทั้งนั้น

ข้อพิจารณา ไม้ชายแดน...หาไม้ผ่านการอบยาก ส่วนใหญ่ก็คือการอบไม้แบบบ้านๆเลยคือ ตากแดด นั่นเอง.....ซึ่งการอบจริงๆนั่นคือการอบ stream หรือไอน้ำเพื่อให้ไม้มีความชื้นที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดการ บิด การ โก่งหรือแตก .... เทคนิคเยอะแยะมากมาย แต่โดยรวมคือเพื่อให้ไม้เกิดตำหนิน้อยที่สุด

ข้อดี ได้ไม้คุณภาพงามและไม้ที่มีอายุมากขึ้นมาอีกหน่อย...ราคานั้นก็ถูกกว่าในเมืองครึ่งต่อครึ่ง

ข้อเสีย ฝีมือช่างอาจจะไม่คุ้มค่ากับไม้ที่นำมาทำ ไม่ได้เหมารวมนะครับว่าช่างตาม ตจว.นั้นมีฝีมือด้อยกว่าในเมือง หากแต่ว่าจะหาช่างมีฝีมือดีๆนั้นได้ยากมาก หากเจอที่ดีๆก็ดีไปถือเป็นโชคกันเลยทีเดียว เพราะได้ของดีราคาถูกและสวยงาม (3 เด้ง).....ในการขนส่งหากเป็นไม้ดิบหรือยังไม่ได้ผ่านการแปรรูป ยากนักที่จะเล็ดลอดเข้ามาในเมืองเพื่อมาไสมาตั้งลำกัน

ข้อควรระวังในการซื้อ : ท่านอาจจะโดนย้อมแมวได้อันเนื่องมาจากมีไม้ให้เลือกเยอะมาก ร้านที่ดีเค้าก็จะแนะนำดีและไม่หลอกขาย เช่น ไม้มะค่า ก็มะค่าจริงๆ...ไม่ใช่เอาไม้เทียบเช่น "ไม้นนทรี" ซึ่งมีลักษณะแทบจะเหมือนกันทุกประการ แยกด้วยสายตาเราๆที่ไม่ชำนาญเนี่ย ดูกันไม่ออกเลยทีเดียว

จริงๆมีอีกหลายอย่างกับเรื่องของไม้ค่อยๆทะยอยเล่าไป เพราะประตูก็ยังไม่มาตอนนี้เพิ่งได้สั่งทำไป...เพราะมัวแต่เรื่องมาก (บ่นตัวเองครับ)...เอาเรื่องไม้บันไดก่อน.....
ไม้ที่ใช้ทำบันได ก็มีให้คัดสรรกันหลากหลายแต่ที่นิยมกัน ก็มีไม้ตะเคียน ไม้มะค่า ไม้แดง สำหรับผมก็ไม่พ้น "ไม้แดง" ครับ เพราะ ราคาเหมาะกับกระเป๋าหน่อย...เพราะเล่นมะค่าก็คงกระเป๋าฉีกกระจุย.... ชื่อไม้แดงฟังดูพื้นบ้าน ผมเองก็ยังไม่รู้ว่ามันทำมาจากไม้อะไร...ถามคนแก่ก็ว่า ไม้แดงๆ ไม่ให้เหตุผลประกอบอื่นนอกจากที่ว่า ไม้แดง ก็เพราะ เนื้อไม้มันสีแดง

คุณสมบัติมันก็ดีตรงที่ เนื้อไม้นั้นแข็ง อีกทั้งปลวกก็ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่หรือแทบจะไม่กิน เพราะว่ามันแข็งมาก...แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่กินเอาเลยนะ..ก็อาจจะโดนได้หาก เจอปลวกโหย....

ไม้ประเภทนี้เมื่อใช้ไปนานๆแล้วสีจะเข้มขึ้นอีก ลวดลายก็สวยงามใช้ได้ หากเลือกไม้ที่ไม่มี "กระพี้-ส่วนที่มีสีจางๆเป็นปื้นๆ" ติดมาด้วย ลายที่ได้ก็จะสมบูรณ์

ตอนเลือกดูไม้ที่จะมาใช้ทำขั้นบันไดก็ไปเลือกมาหลายที่ สุดท้าย....ก็มาลงเอยที่ บางโพธิ์ เพราะสืบไปมากลายเป็นไปรู้จักน้องสาวคุณอาข้างบ้านที่มีกิจการร้านขายส่งไม้ร้านใหญ่ที่ส่งไม้ให้กับร้านค้าในบางโพธิ์ หลายๆที่.....ซึ่งพอผมถามหาไม้แดง...คำตอบคือมี....แถมท่านให้ราคาถูกกว่า ไม้แดงที่ผมไปเสาะหาจาก ตจว.ซะอีก

(ที่บอกนี่ไม่ได้ว่าผมไปสนิทชิดเชื้ออะไรกับท่านเจ้าของโรงไม้แห่งนี้นะครับ แต่มีคุณอาข้างบ้าน เรียกว่านับถือกันเป็นญาติผู้ใหญ่ทีเดียว ท่านเมตตาให้ติดต่อกับน้องสาวที่เปิดทำโรงไม้แห่งนี้...ผมจึงได้มีโอกาสเข้ามาจับต้องของดีในราคาเบาได้......ขนาดไม่ใช่ญาติกันเป็นเพียงเพื่อนบ้าน คุณอายังมีไมตรีจิตถึงเพียงนี้.....ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ด้วยครับ....จนอดคิดไม่ได้ว่า ญาติกันยังช่วยกันไม่ได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ย....พูดตรงไปต้องขออภัยด้วยนะครับ)

นึกย้อนเสียเวลาไปหลายรอบกับค่าน้ำมัน ค่าแกส ค่าแรง วิ่งกันวุ่นวาย....สุดท้าย คำตอบที่เข้ามาในสมองช่วงสุดท้ายคือ.....

"ไม้...ไม่ว่าจะดีมีคุณค่าแค่ไหน หากไม่ได้ผ่านการขัดเกลาจากช่างที่มีฝีมือ....มันก็เป็นไม้ธรรมดา"

ผมก็ตกลงสั่งทำประตูไม้มะค่าแกะลายที่ถูกใจกับร้านของอาอี้(น้องสาวคุณอาข้างบ้าน)...พร้อมทั้งสั่งไม้แดงที่ใช้ทำพื้นบันได ไปด้วยเลย...ในราคาลดกระหน่ำยิ่งกว่าซัมเมอร์ sale ......







ไม้ชุดนี้สำหรับทำลูกนอน มีการกลึงจมูกมาให้ 2 ด้าน โดยจะต้องระบุว่า ผนังบันไดบ้านตอนเดินขึ้น อยู่ ซ้าย หรือ ขวา.....ของผมอยู่ทางฝั่งซ้าย ช่างก็จะคัดไม้และเลือกด้านลายที่สวยขึ้นเพื่อทำการกลึงขอบด้าน จมูกบันไดและด้านขวามือ.........เกือบลืมไป การวัดว่าจะใช้ไม้กว้างยาวเท่าไหร่ ก็ให้วัดขนาดขั้นบันไดที่ฉาบเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ...โดยทางร้านส่วนใหญ่เค้าจะเผื่อความยาวมาให้อีก 3 - 5 เซ็นติเมตร มาด้วย ไว้ปรับ,ตัด,ไส กันได้...ส่วนเรื่องความหนาของไม้นี่ก็แล้วแต่ความพอใจกัน...ของผมเลือกไม้หนาขนาด 1.5 นิ้ว เพราะจะป้องกันการบิดหรือโก่งตัวของไม้ได้ดีกว่า ไม้หนา 1 นิ้ว....ซึ่งปกติ จะใช้ความหนากันที่ 1 นิ้ว สำหรับทั่วไป, 1.5 นิ้วใช้สำหรับไม้ปูพื้นบันไดพิเศษ และความหนาขนาด 2 นิ้ว ที่ส่วนใหญ่จะใช้ สำหรับทำบันไดไม้โดดๆ เหมือนบันไดไม้สมัยเก่าๆ ที่ใช้คานไม้มาวางรองด้านล่างกัน






ชุดนี้สำหรับ ทำลูกตั้ง หรือ ไม้ปิดบันไดแนวตั้งนั่นล่ะครับ...ไม้ชุดนี้จะไม่มีการกลึง...และเลือกใช้ความหนาที่ 1 นิ้ว





ไม้ส่วนนี้ใช้สำหรับทำเป็นจมูกของชานพัก....ซึ่งบ้านผมเองมีชานพักอยู่ 4 จุด ก็จะมีการทำจมูกชุดนี้ไว้ 4 ชุดเหมือนกัน โดยใช้ไม้ขนาดความยาวเต็มหน้าบนไดในแต่ละช่วง....ที่บอกอย่างนี้เพราะว่า.....การทำชานพักบันไดนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ไม้เต็มช่วงความยาวก็ได้ ซึ่งเราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้อีกสามารถใช้ไม้ต่อเข้าลิ้นกันได้.........เรื่องนี้ผมเองก็เข้าใจดีแต่เมื่อมีโอกาสเราเองก็เลยได้จัดไปหนักๆได้





ชุดนี้สำหรับทำไม้พื้นชานพักส่วนในที่ใต่อกับจมูกชานพักตัวข้างบน ชุดนี้ผมก็ได้จัดแบบหนักไปอีกเช่นกัน ทางเลือกประหยัดก็เหมือนกับที่กล่าวไปแล้วข้างต้นครับ...ซึ่งการต่อหากต่อไม้ฝีมือจริงๆก็จะเนียนเรียบดี เพียงแต่ ลายไม้จะไม่ต่อเนื่องกันเท่านั้น








รวมๆแล้วทั้งหลังต้องใช้ ไป 37 ขั้นกับอีก 4 ชานพัก หมดไป เกือบๆจะ 4.8 หมื่น ได้......ซึ่งถ้าเป็นที่อื่นงานนี้ ผมคงโดนเป็นแสนกว่า ซึ่งเป็นราคาของร้านใหญ่ในสหกรณ์วังน้ำเย็น ราคามันเวอร์ไปเพราะว่า เป็นราคาไม้มะค่า น่ะครับ มันจะเทียบไม่ได้กับไม้แดง....แต่ก็นะร้านเค้าไม่มีไม้แดง ตัดบทให้เราเลือกได้เท่านี้ก็เลยต้องกลับมาชั่งใจกันก่อน.......





....ของมาวางพักไว้เพียงอาทิตย์เดียว...ไม้เริ่มมีการแตกขอบแล้วครับ...ซึ่งไม่เป็นปัญหา เป็นปกติธรรมชาติของไม้อยู่แล้ว เพราะเด๋วพอติดตั้งโป้วขัดลงสีเสร็จดูกันไม่ออกเลยเชียว (ซึ่งอาอี๊ท่านบอกว่า ปกติไม้ที่เราๆไปสั่งมาทำลูกขั้นบันไดจะไม่มีการอบไม้มาหรอกนะ ส่วนใหญ่เค้าอบแต่ไม้ที่ทำประตูหน้าต่างเท่านั้นแหล่ะ )





ต้องหาของหนักๆมาช่วยกดเอาไว้สำหรับไม้ที่มีความหนา 1 นิ้ว...ส่วน 1.5 นิ้ว ยังสบายๆไม่มีการโก่งให้เห็น


ตอนหน้าจะมาเล่าขั้นตอนการติดตั้งไม้และเทคนิคของช่างมาเล่าอีกครับ....งานนี้ผมก็ได้ช่างของคุณอาข้างบ้านมาอีก เป็นช่างของร้านคุณอาที่บางโพธิ์อีกเช่นกัน...ซึ่งก็ได้ในราคาชนิดอาเฮียผู้รับเหมาให้ตอบตกลงทันทีเหมือนกัน...อิอิ..... แถมรับประกันฝีมือโดยผ่านงานบ้านราคา 50-60 ล้านมาหลายหลังแล้ว ....ช่างจะเข้ามาทำให้ผมวันเสาร์ที่จะถึงนี้ละ....คงได้เอางานฝีมือช่างบางโพธิ์ชุดนี้มาให้ชมกันตอนหน้าครับ

Create Date : 25 มกราคม 2554 Last Update : 25 มกราคม 2554 20:30:11 น. Counter : 28155 Pageviews.		11 comments
Share Tweet