Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

xinchao Vietnam (ตอนจบ)



หลังจากข้ามเส้นเขตแดน ก็มาจอดตรงด่านตรวจคนเข้าเมืองบ้านนาเพา ของ สปป.ลาว ให้พนักงานบริษัททัวร์ ขึ้นไปติดต่อประสานงานด้านเข้าเมืองก่อน

ตัวอาคารด่านบ้านนาเพา ของ สปป.ลาว ยังเป็นตัวอาคารเดิม ส่วนอาคารหลังใหม่นั้น กำลังก่อสร้างอยู่ครับ



ระหว่างที่จอดรอนั้น มีสิบล้อคันหนึ่ง มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นสิบล้อสัญชาติไทย กลับจากลานขนถ่ายสินค้าที่ด่านจอลอ (Cha lo) ของเวียตนาม เข้าใจว่าเป็นสิบล้อขนส่งลิ้นจี่

ที่เดาเอานั้น เพราะป้ายทะเบียนเป็นของ จ.เชียงราย



ตัวอาคารด่านตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานด้านศุลกากร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างจวนแล้วเสร็จ



หลังจากเวลาได้ล่วงผ่านไปได้ราว 20 นาที ท่ามกลางเสียงถอนหายใจโล่งอกของไกด์ เพราะเกรงว่าจะติดเวลานอนพักกลางวันของเจ้าหน้าที่ด่าน ทำให้เสียเวลารอโดยใช่เหตุร่วมชั่วโมง

ล้อเริ่มเคลื่อนออกจากด่านนาเพา ตามทางหลวงหมายเลข 12 ของ สปป.ลาว ไปยังเมืองท่าแขก ซึ่งมีระยะทางราว 130 กม.



สภาพบ้านเรือนริมเส้นทาง เหมือนบ้านเราในต่างจังหวัดนะครับ แต่สภาพบรรยากาศนั้น เริ่มจะแห้งแล้ง ผิดจากด้านตรงข้ามที่อยู่ในประเทศเวียตนาม เพราะเป็นเขตเงาฝน



เด็กน้อย กำลังปั่นรถถีบไปเรียนภาคบ่ายที่โรงเรียน

ที่นี่เหมือนเวียตนาม ให้เด็กนักเรียนกลับไปทานมื้อกลางวันที่บ้าน และนอนพักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง



ดูจากหน้าตาเชยๆ แล้ว สงสัยว่าเป็นรถที่ปลดประจำการจากกองทัพประชาชน ชาวบ้านเลยเซ้งมาใช้งาน



เส้นทางสายนี้ รถที่วิ่งมีไม่มาก แถมยังไม่มีหลุมบ่อ เหมือนเส้นทางหมายเลข 9 (สะหวันนะเขต - ดานัง) ซึ่งเป็นเส้นทางยอดฮิต และมีรถราวิ่งมากมาย

บางครั้ง คนขับมองซ้ายมองขวา แล้วเหยียบคันเร่งจาก 60 กม./ชม. เป็น 120 กม./ชม ก็หลายหน

บางช่วงผมเห็นคาราวานรถบรรทุกวิ่งตามกัน โดยมีการคุ้มกันอย่างแข็งแรง

เลยนึกออกว่า คงเป็นคาราวานขนสินแร่ทองคำจากเหมืองไปส่งที่โรงงานครับ



บ้านเรือนชาวบ้านสองข้างทางครับ



แถบนี้มีภูเขาหินปูนสูงชันอยู่หลายแห่ง สามารถมองเห็นได้จากตัวเมืองนครพนม ทำให้มีถ้ำมากมาย เช่น ถ้ำชู้ ถ้ำกองลอ และถ้ำนางแอ่น เป็นต้น

ใครที่เคยไปเที่ยวถ้ำเหล่านี้ คงเล่ารายละเอียดได้ดีกว่าผมเป็นแน่



ชุมชนตลาดเมือง (อำเภอ) ยมมะลาด (ยมราช) แขวงคำม่วน



ผ่านเมือง (อำเภอ) ยมมะลาด (ยมราช) แล้ว รถจะวิ่งผ่านคลองระบายน้ำจากโครงการเขื่อนพลังไฟฟ้าน้ำเทิน 2



ผ่านโรงเลื่อยจักรขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งไกด์บอกว่า เจ้าของเป็นนายทหาร และยังคงดำเนินการจนบัดนี้



ปั๊มน้ำมันริมทางครับ อย่าหวังว่ามีร้าน 7-11 อย่างบ้านเราเชียว



ตลาดนัดริมทาง ปากทางเข้าสู่ถ้ำชู้ ถ้ำนางแอ่น ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนเทพสุดา เคยเสด็จมาทอดพระเนตรแล้ว

ว่ากันว่า คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ ชวนกันมาบนบานศาลกล่าวขอบุตรกันที่นี่ ซึ่งมักจะสมปรารถนา



พ้นจากภูเขา วิ่งตามทางราบอีกไม่นาน ก็เข้าสู่ชานเมืองท่าแขก



จอดแวะให้ลูกทัวร์ลงไปหาดูซื้อข้าวของพื้นบ้าน ที่ตลาดนัดหลักสี่ ตัดกับเส้นทางหลวงสาย 13 เส้นทางสายหลักของ สปป.ลาว

มีอนุสาวรีย์ของท่าน ไกสอน พมวิหาน อดีตประธานประเทศคนแรกของ สปป.ลาว ตั้งอยู่ตรงสี่แยกแห่งนี้ด้วย



เดินดูซื้อหาข้าวของเสร็จสรรพ ทางไกด์ก็พาขึ้นรถไปเยือนเมืองท่าแขก ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 4 กม. ทำนองว่ามาถึงบ้านเขาแล้ว จะเลยไปก็ยังไงกระมัง ?

ถูกใจผมมากครับ อาจมาเยือนเพียงครั้งเดียวก็ได้



ถ้าเป็นบ้านเรา คงเรียกว่าจังหวัดทหารบกคำม่วน แน่ๆ



ที่ทำการแขวงคำม่วน กระทรวงภายในประเทศ สปป.ลาว



มองข้ามฝั่งโขง เห็นตัวจังหวัดนครพนมอยู่ข้างหน้า แผ่นดินไทยอยู่ใกล้แค่นี้เอง

เป็นโอกาสหายากที่ได้เห็นครับ เพราะเคยยืนมองจากฝั่งตัวเมืองนครพนม มายังเมืองท่าแขกเท่านั้น



นางแบบจำเป็น หน้าโรงแรมริเวียร่า แขวงคำม่วน



คงเป็นสุราของชาติลาว ทำนองเดียวกับสุราแม่โขงของไทย



ฝูงรถสกายแล็ป หน้าท่าเรือขนถ่ายสินค้าข้ามฟากของเมืองท่าแขก สปป.ลาว ซึ่งปัจจุบันนี้เลิกใช้งาน เพราะมีสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 3 ข้ามแม่น้ำโขงแล้ว



หลังจากอิ่มอกอิ่มใจชมริมโขง ฝั่งท่าแขกแล้ว ล้อก็เริ่มหมุนไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าแขก

ผ่านสี่แยกกลางเมืองท่าแขก มีโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ผับ คาเฟ่ และร้านอินเตอร์เน็ต อยู่หลายแห่ง

ใครที่คิดจะมานอนค้างที่นี่ เพื่อรับบรรยากาศที่สงบเงียบแล้ว รับรองไม่ผิดหวัง



ร้านจำหน่ายรถยนต์ คิดว่า เจ้าของร้านยังไม่รวยนะครับ

ไม่เช่นนั้นคงมีโชว์รูมโอ่อ่าเช่นเดียวกับเวียตนาม



แบบฝึกหัดอ่านภาษาลาวครับ



สวนกันรถโดยสารประจำทางเที่ยวบ่าย ระหว่างกำแพงนะคอนเวียงจัน กับเมืองปากเซ



ถึงทางแยกเข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง ของ สปป.ลาว ประจำเมืองท่าแขกแล้วครับ

ถ้าตรงไป จะไปยังเมืองปากซัน แขวงบอลิคำไซ และกำแพงนครเวียงจัน



แล้วเราก็มาถึงด่านฯ ท่าแขก ช่วงบ่ายสามโมงเศษ เพื่อกลับแผ่นดินไทย



กับรถประจำทางระหว่างประเทศ สปป.ลาว - ไทย สายสั้นที่สุด คือ เมืองท่าแขก มายัง นครพนม

สายยาวที่สุดเท่าที่ผมเห็นในขณะนี้ เห็นจะเป็น เชียงใหม่ - หลวงพระบาง ครับ

แต่ถ้าสาย กรุงเทพฯ - กำแพงนะคอนเวียงจัน เปิดบริการเมื่อใด คงคว้าแชมป์ไปครองแน่ๆ



ป้ายจารึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ คราวเปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม กับสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3



หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนมแล้ว ไกด์ก็เริ่มคืนพาสปอร์ตให้กับลูกทัวร์ทุกคนล่ะครับ ก่อนที่จะแวะทานอาหารมื้อเย็นที่โรงแรมวิวโขง แกรนด์วิว

ลูกทัวร์แทบทุกรายยอมรับว่า กินข้าวที่เวียตนาม กลิ่นบ่แซ่บ สู้ข้าวเหนียวปลาร้า ส้มตำบ้านเฮาบ่ได้

จากนั้นก็ลุยข้ามภูพาน ผ่าน จ.สกลนคร จ.กาฬสินธุ์ ถึงปลายทางที่ขอนแก่นโดยสวัสดิภาพ ในเวลาสี่ทุ่มเศษๆ

สำหรับผมนั้น น้องสาวเป็นธุระขับรถมาส่งยังสถานีขนส่ง ก่อนที่ผมจัดแจงเปลี่ยนเที่ยวรถในตั๋วจองซึ่งแต่เดิมระบุเป็นวันพรุ่งนี้ เป็นคืนนี้เที่ยวห้าทุ่มครึ่ง แล้วหลับๆ ตื่นๆ มาถึงกรุงเทพฯ เวลาตีห้าครึ่ง

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมมาตลอดนะครับ  




 

Create Date : 15 กันยายน 2556
4 comments
Last Update : 15 กันยายน 2556 23:39:00 น.
Counter : 5001 Pageviews.

 

สนุกดีค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 18 กันยายน 2556 17:11:57 น.  

 

ขอบคุณที่แวะชมครับ

 

โดย: owl2 IP: 58.8.239.225 18 กันยายน 2556 22:18:31 น.  

 

 

โดย: tuk-tuk@korat 29 ธันวาคม 2556 13:34:11 น.  

 

สุขสันต์รับปีใหม่เช่นกันนะครับ

 

โดย: owl2 10 มกราคม 2557 23:27:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


owl2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add owl2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.