...... จิตรโภชนา....... บุฟเฟต์ 120 บาท ..........(ภาคหนึ่ง มหัศจรรย์แห่ง หอย)
Buffet Diary ตอน จิตรโภชนา บุฟเฟต์ 120 บาท (ภาคหนึ่ง มหัศจรรย์แห่ง หอย)
กาลเวลาผ่านไป แต่ยังคงทิ้งร่องรอยไว้ ร่องรอยแห่งอดีตกาล ที่น่าค้นหา
วันนี้มากินบุฟเฟต์ร้านเก่าแก่ ร้านหนึ่ง ร้านนี้เข้าได้จากทั้งทางพหลฯ และวิภาวดี เราเข้ามาทางถนนวิภาวดี ข้างๆ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ พนักงานต้อนรับแต่งชุดไทย ไต่ถามจะกิน บฟ หรือตามสั่ง พอแจ้งว่าบฟ ก็พาเดินลัดเลาะผ่านเรือนอาหารที่ตั้งกระจายเป็นซุ้มเป็นหมู่ มีชื่อน่ารักเช่นเรือนตากะยาย สื่อแสดงความโบร่ำโบราณได้เป็นอย่างดี พนักงานพาชี้ลงไปยังบันได อันทอดตัวลงสู่ห้องใต้ดินลึกลับมืดครึ้ม แน่นอน ห้องทานตะวันอันเป็นห้องบุฟเฟต์ ไม่ได้ตั้งอยู่บนดินธรรมดา
บรรยากาศในห้องบุฟเฟต์ยังแฝงความขลังอมตะแต่ครั้งโบราณกาล กลิ่นอายคล้ายโรงแรมในยุคแอมบาสเดอร์หรือมณเฑียรสุรวงศ์ บรรยากาศเป็นใจให้มารดาเราเริ่มพรรณนาถึงจิตรโภชนาสุขุมวิท สเต็คโชคชัยบนตึกที่ว่าสูงสมัยก่อน (ที่น่าจะเทียบได้กับโซรอคโคสมัยนี้กระมัง) ฯลฯ เราไม่อาจย้อนไปไกลเพียงนั้น ด้วยยังเยาว์นัก ได้แต่หวนคิดถึงไก่ย่างเสริมมิตรที่ข้างนอกไฟลุกข้างในเย็นเฉียบ มาย้อนยุคกับมารดาบ้าง จำได้ว่าเคยต่อรองขอให้จุดไฟต่ออีกรอบเพราะยังไม่สะใจ ใครจะทราบ ไก่ภูเขาไฟ อาจเป็นต้นตอเพิ่มพลังไฟริษยาให้สมาคมคนโสดจนถึงปัจจุบัน
บันไดวนโค้งสยายตัวจากชั้นหนึ่งทอดยาวลงมาสู่โถงกว้างใต้ดิน โถงใต้ดินที่กว้างขวางมาก ความกว้างไม่ห่างจากห้องพาร์ควิวอันโอ่โถงของอิมฯควีนส์พาร์คนัก รองรับทัพนักบุฟเฟต์ได้นับร้อย ผนังยังเป็นกระจก สะท้อนให้ดูยิ่งกว้างเข้าไปอีก ฝ้าเพดานบางอันพยักเพยิด เปิดออกให้เห็นร่องรอยอดีตกาล ที่แล้วแต่ผู้คนจะจินตนาการกันไป
ไฟสีส้มรอบห้องสาดแสงสลัวส่องให้เห็นไลน์บุฟเฟต์ที่ลดระดับลงไป ปรากฎโถอาหารนับสิบโถ ห้องบุฟเฟต์นี้มีทำเล ลดหลั่นหลายสเตป หากเดินไม่ดี มีสิทธิล้มคว่ำไม่ยาก ไฟสีส้มนี้มันคงจะดี หากไปสะท้อนกระจกมาเข้าตาอยู่เกือบตลอดเวลา สีส้ม มักเป็นสีแห่งอดีตกาล โบราณสถานน้อยแห่ง จะดูเก่าทรงคุณค่า หากเอานีออนไปฉายไว้
มีโต๊ะแยกออกมาตรงกลางสองโต๊ะ จัดเป็นออเดิฟ อาหารฝรั่งพวกขนมปัง เนย ผักผัดเนย เอาพวกแฮมไส้กรอกวางไว้ตรงกลางเป็นจุดเด่นแห่งมุมสลัดนี้ ตรงอาหารหลักเริ่มจากทางริมผนัง จะมี ข้าวขาว ข้าวผัดไข่ ข้าวผัดสัปปะรด แพนงหมู แกงเขียวหวานไก่ สุดมุมนี้จะเป็นน้ำพริก น้ำยา และมีขนมจีนพร้อมผักเคียงปิดท้าย
อาหารหลักอีกไลน์หนึ่ง ผัดไทย ต้มจืดฟักมีเนื้อไก่บ้างแต่ไม่มีโครงไก่ให้เห็น แกงส้มมีเนื้อปลา เน้นในส่วนหลังและครีบมากสักนิด และแกงเลียงซึ่งสามารถกู้ภัยนำกุ้งตัวเล็กขึ้นมาได้สี่ห้าตัว
แกงคั่วหอยขม หอยขม เป็นหอยพิเศษชนิดหนึ่ง แน่นอน หอยขมเหล่านี้ล้วนแต่สิ้นชีวิตหมดแล้ว หอยพิเศษ ย่อมมีวิธีการกินที่พิเศษ
ข้างๆแกงนี้มีไม้แบบไม้เสียบลูกชิ้นวางไว้ให้กำใหญ่ ด้วยจุดประสงค์ใด บางท่านก็อาจนำมาแคะฟัน สำหรับเศษอาหารในซี่ที่ลึกเกินกว่าไม้จิ้มฟันไซส์มาตรฐานจะจิ้มถึง เช่น หากหอยไปติดอยู่ในฟันกรามซี่ลึกสุด ไม่อยากกลับบ้านไปใช้ไหมขัดฟัน ไม้นี้อาจพอบรรเทา
หลายท่านไม่แคะฟัน แต่ใช้ไม้นี้แคะหอย แน่นอน หอยขมอาศัยอยู่ในบ้านต้องปิดประตูไว้มิดชิด ไม้แทงทิ่มเข้าไป จะพบประตูของมันหลุดเป็นแผ่นมาชิ้นหนึ่งก่อน แล้วทิ่มทะลุต่อเข้าไป ได้เนื้อหอยติดปลายไม้ออกมา ยาวสั้นตามขนาดแห่งหอยนั้น
หอยนี้ยังไม่ธรรมดา ก้นหอยเกลียวที่ควรจะเป็นปลายแหลม กลับถูกตัดแหว่งไปหน่อยหนึ่ง แหว่งไปไม่มาก จนเสียรูปลักษณ์โดยรวมแห่งหอย แต่ก็ไม่น้อย พอที่จะทำให้มันเป็นรู พอควร รู พอที่คนจะมองส่องลงไปเห็นเนื้อหอยได้ แถมหอยทั้งเล็กแลใหญ่ ล้วนถูกเจาะรูทั้งสิ้น ใครเล่นวิตถาร ไปเจาะรูดูหอยทั้งเล็กใหญ่พวกนี้ ไม่อาจทราบได้
ผู้ใดใช้วิชาพิสดาร มานั่งเจียรตัดปลายหอย ปลายหอยทั้งหมดล้วนแต่ถูกตัดจนมนทู่ คนตัดต้องลงทุนลงแรงไม่น้อย ไม่ใช่งานง่ายเลย ที่จะมาเป็นช่างตัดปลายหอยเช่นนี้ แล้วยิ่งหอยทั้งถาดไม่ใช่สิบตัว แต่เป็นร้อยตัวด้วยแล้ว ช่างตัดหอย เป็นบุคคลเหนือธรรมดาจริงๆ แล้วช่างตัดหอย นี้มีวัตถุประสงค์ใด
เราทราบเพียงว่า คนเรามีหลายประเภท คนบางประเภท พอใจเอาไม้ทิ่ม แคะหอยออกมา คนบางประเภท ทะนุถนอมหอยเสมอมา ไม่อยากเอาไม้แหลม ทิ่มแทงหอย กินมันโดยนุ่มนวล เอาหอยประกบปาก บรรจงดูดเนื้อหอยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา หากมีรูตรงปลายก้นหอยเช่นนี้ ดูดเนื้อออกมาง่ายกว่าหอยก้นทึบ หอยยังต้องการช่องอากาศ เพื่อช่วยอำนวยการดูดให้สะดวก ทุกชีวิตต้องการทางออกสักทางหนึ่งจริงๆ
พร่ำเรื่องหอยจนยาวมากไป ที่เหลือเชิญชมในภาคสองต่อไป
ปล ช่วงนี้มีคติใหม่ นอนป่วยก็ใช่ที่ ตราบใดยังเดินได้ กินบฟ ดีกว่า 555
จากคุณ : อู๋ปังจู้
Create Date : 27 มกราคม 2548 |
|
12 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2548 8:14:06 น. |
Counter : 1436 Pageviews. |
|
|
|