|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ฉันเป็นกระเทยไม่ใช่ผู้หญิง ฉันทำในสิ่งที่กระเทยเท่านั้นที่ทำได้ และก็ไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่มีแต่ผ
ฉันเป็นกระเทยไม่ใช่ผู้หญิง ฉันทำในสิ่งที่กระเทยเท่านั้นที่ทำได้ และก็ไม่สามารถที่จะทำในสิ่งที่มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ทำได้ จึงไม่จำเป็นต้องยอมรับว่าฉันเป็นผู้หญิง ขอแค่เคารพในสิทธิความเป็นคนของกันและกัน...ก็พึงพอแล้ว
ก่อนื่อนขอนิยามคำว่าเคารพสิทธิของฉัน หมายถึง มองเห็นและไม่อคติ ในสิทธิการมีตัวตน หรือการดำรงสภาพ ของบคคล หรือสิ่งใด อันที่จริงแล้วหัวข้อนี้เป็นการพูดอ้อมๆ ถ้าพูดตรงๆก็คือ ฉันพูดถึงว่า แต่ละคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีลักษณะเด่น ความสามารถแตกต่างกัน ควรพึงใจ และเคารพ หรือพึงพอใจในสิ่งนั้นของตน
ยกตัวอย่างเช่น หมาตัวหนึ่ง เห็นนกบินบนท้องฟ้า แล้วอยากจะบินบ้าง พยายามทำทุกอย่างให้บินได้ แต่ไม่เคยคิดเลยว่า นกเองก็ไม่สามารถเห่าหอน หรือเรียนรู้ในแบบของหมาได้ ทำไมหมาจึงไม่คิดจะสนใจหรือให้ความสำคัญในสิ่งที่ตนเองเป็น? แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับหมาจริง แต่กลับเกิดขึ้นกับคน ที่บอกว่าตัวเองฉลาดกว่าหมา แปลกดีไหมคะ
เรื่องการยอมรับความแตกต่างของสรรพสิ่งนั้น แตกต่างที่ว่าฉันไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องอัตลักษณ์หรืออะไรทำนองนั้นเลย ฉันคิดว่าอัตลักษณ์อะไรนี่เป็นเรื่องเอาไว้ตอแหลปรุงแต่งนิยายน้ำเน่ากึ่งความจริงของนักวิชาการบางกลุ่มมากกว่า (ฮา...) ฉันเน้นเรื่อง ธรรมชาติของคน ธรรมชาติของสิ่งนั้นๆ สิ่งไหนก็คือสิ่งนั้น คนคือคน กระเทยคือกระเทย แม้บางอย่างมันจะเปลี่ยนได้ (เช่นเสริมดั้ง เสริมหน้าอก ผ่าตัดแปลงเพศ) แกล้งหลงลืมไปยังไงก็ตาม แต่ยังไงนั่นมันก็คือเรานั่นแล (แตกต่างกับอัตลักษณ์ ตรงที่ความเป็นธรรมชาติเกิดขึ้นก่อน มีอยู่ก่อน อัตลักษณ์มาทีหลัง)
ความขับแค้น คับข้องใจจากการถูกผู้อื่นหยามศักดิ์ศรี ดูหมิ่น ดูถูก อะไรก็ตาม ฉันคิดว่าบางอย่างมันอาจจะเริ่มมาจากเราเอง ไม่ได้เริ่มจากคนอื่น เพียงแต่บทสรุปหรือคำตอบของมันอาจจะยังไม่ได้มาในตอนนี้ มันอาจจะมาเมื่อเราไปเผชิญหน้ากับมัน เมื่อเรายอมรับมัน หรือเมื่อเราขาดมันไป..บางทีตอนนั้นมันอาจทำให้เรายิ้มก็เป็นได้ (เรียกว่า เพิ่งสำนึก หรือ คิดได้ ทำนองนี้) (เป็นสิ่งที่ฉันคิดเอง...คนอื่นอาจเห็นต่างจากนี้.......ฉันมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่าเอ่ย)
สำหรับเรื่องเกียรติและสิทธิ์ของผู้หญิงหรือผู้ชายหรือผู้ไหนก็ตามแต่ ฉันคิดว่า(ขอย้ำว่าที่คิดเอง ไม่บังคับให้ผู้ใดคิดตาม) ตัวความคิดของเราแต่ละคนมากกว่าที่เป็นคนกำหนดปัจจัยและพื้นที่ของเกียรติหรือสิทธิ์ของเราอยู่ว่าอยู่ที่ไห เช่น หากมีคนด่าเราต่อหน้าสาธารณะ เราไม่ด่าตอบเราเก็บกลับมาคิดต่ออีก โกรธเคืองกับคำพูดนั้นๆ นาๆ คิดต่ออีกว่าทำไมมาดูถูกเรา ไม่ให้เกียรติเรา คิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา จนอึดอัด แต่คนที่ด่าเรานอนหลับฝันดีไปแล้ว....
เมื่อก่อนฉันเคยเป็นนะ และคิดไปๆ ก็กลายเป็นว่า เราเองหรือเปล่าที่ดูถูกตัวเอง ส่วนใหญ่เจออาไรแบบนี้จะไม่ขอคิดนาน เซ็งเสร็จแล้วก็ขอโยนทิ้งค่ะ เรื่องเกียรติ หรือศักดิ์ศรี สำหรับฉันมัน นามธรรมและยิบย่อยเกินไปที่จะไปฟุ้งซ่านกับมัน ฉันเองเมื่อก่อน(อาจรวมทั้งหลายๆคน)อาจดูหนังหรือละครช่อง7เยอะไปรึเปล่าไม่รู้ เลยอาจติดมาในภาพจำของสมองส่วนการรับรู้หรือการตอบสนองมาเยอะไปหน่อย เลยฟินมาก อิอิอิ
..............สำหรับฉัน(เน้นว่าสำหรับตัวฉันอิอิ) ก็ปล่อยวางค่ะ วางไว้หน้ามัน หน้าอีคนที่ด่าแหละค่ะ อาจเงยหน้ามองเค้าแบบงงๆอีกนิด ยิ้มมุมปากหน่อยๆ เฉยใส่ ไม่สนใจค่ะ หรือจะโต้ตอบก็ได้ค่ะ ถ้ามันห้ามไม่ได้ คงเหมือนปวดฉี่แหละค่ะ ถ้าได้ปล่อยเวลาที่ดีๆก็สุขหว่างขาค่ะ ปล่อยผิดที่ผิดเวลาก็ทรมาน ฉันนะคะ เวลามีคนมาด่าอะไรเรื่อยเปื่อย จะวิเคราะห์ลึกไปถึงสภาพจิตใจเขาขณะนั้น ปมด้อยของเขา หรือนิสัยปกติของเขา บางทีอาจกลายเป็นสงสารหรือตลกไปก็ได้ค่ะ มันเป็นโลกธรรม8ค่ะ มีเรื่องบวกก็ต้องมีเรื่องลบ(แต่บางทีถ้าเค้าคอมเมนท์เรื่องงานก็อย่าลืมเอามาพิจารณานะคะ ว่าเราผิดจริงรึเปล่า).................................
…………สำหรับฉัน เรื่องศักดิ์ศรี เลยกลายเป็นเรื่องที่มาทีหลังกับสังคมสภาพแวดล้อม แก้ง่ายกว่าแก้นิสัยหรือสัญชาตญาณ (หรือง่ายๆว่า สันดาน อิอิอิ) .........เรื่องนิสัยนี่ต้องยอมรับกลอนที่ว่า
ฝูงชนกำเนิดคล้าย คลึงกัน ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง ห่อนแก้ ฤาไหว
.............“ห่อนแก้ ฤาไหว” ที่ ร.5 ตรัสถึงนั้นมันจริงมาก เพราะเรื่องนิสัยของคนที่แตกต่างกันและยากจะแก้มาก และจะไหวมั้ย นิสัยหรือสันดานของคนมี ยีน ในร่างกายเป็นตัวกำหนด ถ้าจะแก้คงต้องไปแก้ที่ยีน หรือไปเกิดใหม่นั่นเอง ( แต่ไม่แน่ถ้าพยายามที่จะทำ!) สุดท้ายนี้ก็เป็นกำลังใจให้พี่บิวละกันค่ะ ปัญหามีไว้จอยค่ะ เพิ่มความเก่ไก๋ให้ชีวิตมนุษย์ ที่มีเวลาแค่ 80 ปี (น้อยกว่าเต่าทะเลอีกนะ แล้วเต่ามันไม่เจออารายเลย มันจะเบื่อมั้ยเนี่ย
นนทลี
หอสามชาย ห้อง150
Create Date : 17 ธันวาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 17 ธันวาคม 2553 1:16:44 น. |
Counter : 1469 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: MaFiaVza วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:3:43:29 น. |
|
| |
|
NONTALEE |
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
นักศึกษาด้านศิลปะ สนใจในเรื่องศาสนา จิตวิญญาณ การนิยามปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมต่างๆของมนุาย์ และธรรมชาติ ศิลปะกับการใช้ชีวิต และการเข้าถึงศิลปะของสังคมไทยในอนาคต
|
|
|
|