คืนค่ำร่ำพิศวาส ตอน 14
คืนค่ำร่ำพิศวาส ตอน 14
คืนค่ำร่ำพิศวาส

........... ยิ่งเดินเข้าป่ายิ่งรกทึบทั้งพุ่มไม้ขึ้นแน่นขนัด ต้นไม้สูงใหญ่เถาวัลย์ขึ้นเบียดเสียดกันแทบไม่โดนแสงแดดกันเลย แต่นั่นเป็นการดีมากสำหรับเลวิส การเดินค่อนข้างลำบาก หากไม่คอยก้มหลบกิ่งไม้เงยหน้า... ศีรษะชนกิ่งไม้ หลบเลี่ยงกิ่งไม้กิ่งอันนี้ มักไปโดนกิ่งไม้อันโน้น เต็มไปด้วยกิ่งก้านสาขาของกิ่งไม้นานาพันธุ์ให้ระเกะระกะไปหมด โดยเฉพาะกอไผ่ไม้รวก พวกมันทิ้งกิ่งหักลงมาแทงพื้นดินมากมายหลายลำไผ่

“โอ๊ย! ...” เสียงร้องด้วยความเจ็บของเลวิสเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย เมื่อเท้าเตะโดนไม้รวก หักเสียบแทงเข้าเนื้อ กาฬวารรีบเข้ามาดูก่อนแต่นายรอดยังไม่ทันเห็น จึงตามมาดูทีหลัง

“รีบทำแผลก่อนเถิดคุณเลวิส เดี๋ยวเป็นบาดทะยัก”

“ฉันไม่เป็นไรมากหรอก” เลวิสบอกมือกุมปลายเท้าของตัวเองอยู่พักหนึ่ง ครั้นเขาปล่อยมือออก กลับไม่มีร่องรอยบาดแผล

“เอ๋... แผลหายเองได้เหรอ” กาฬวารอุทานมองตาเขา... แล้วไม่พูดอะไร พยักหน้าเข้าใจ... เพราะเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บาดแผลจะสมานตัวเองหายได้ไม่เหลือร่องรอย

“เปลี่ยนใส่รองเท้าผ้าใบดีกว่า ฉันเตรียมมาเผื่อ ให้คุณเลวิสใช้เปลี่ยนอีกคู่”ว่าแล้ว จึงหยิบออกจากกระเป๋าเป้ส่งให้ เขาทำตาม และเก็บรองเท้าสานใส่เป้ตนเอง

ยิ่งเดินเข้าไปในป่าลึก นอกจากรกแล้ว มันยังเป็นทางขึ้นเขา...ความชันยิ่งเพิ่มระดับขึ้นเรื่อย แถมเริ่มมีละอองฝนโปรยปรายลงมาผสมปะปนพื้นดินให้เปลี่ยนแปรเป็นดินโคลน แน่นอนมันทำให้พื้นดินสุดจะลื่นต้องระวังแทบทุกฝีก้าว ไม่เช่นนั้นอาจไถลหงายหลังตกลงจากเขาสูงชันการเหนี่ยวดึงกิ่งไม้ไว้บ้างพอช่วยพยุงตัว แต่มันก็ไม่ง่ายนัก หากเป็นกิ่งไม้มีหนามมันก็ตำเอาเจ็บมือจนสะดุ้ง ต้องรีบปล่อยมือ แทบจะลื่นตกเขาเลยทีเดียว

“แย่จัง ฝนตก... โชคดีที่มีใบไม้เยอะเลยไม่ค่อยเปียกกันมากนะคะ”

“ยังอยู่ในฤดูฝน ฝนตกทุกวันอย่างนี้แหละเดินระวังๆ นะครับ มันลื่นมาก” นายรอดบอก ยังไม่ทันขาดคำ...กาฬวารล้มกลิ้งหล่นลงไป ค้างติดคาต้นไม้เบื้องล่าง เลวิสตกใจ ตะโกนลั่น...

“กาฬ...”

“เป็นยังไงบ้างกาฬ...”วิญญาณลมเหนือถามอย่างตกใจเช่นกัน

“ฉันไม่เป็นไร คุณเหนือ”

“ฉันช่วยเธอ รวบรวมกิ่งไม้กั้นไว้ได้ป้องกันร่างเธอ ไม่ให้กลิ้งตกลงไปลึกกว่านี้”วิญญาณลมเหนืออยู่ข้างกายกาฬวารตลอดเวลา ถึงแม้ไม่มีใครมองเห็น คอยช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เธอลื่นล้มถ้าหากไม่มีเขาคอยอยู่ข้างๆ เชื่อว่ากาฬวารอาจลื่นล้มนับครั้งไม่ถ้วนไปแล้ว

“ขอบคุณค่ะคุณเหนือ ต่อไปฉันต้องพยายามระวังให้มากขึ้น” กาฬวารพยายามยันตัวเอง

เลวิสเข้ามาถึงตัวเธอพอดี จับมือดึงให้เธอลุกขึ้นได้หลังจากนั้นเลวิสจับมือเธอบ่อย เพื่อช่วยพยุงไม่ให้ลื่นล้มอีกเมื่อมาถึงโขดหินเกลี้ยง กว้างพอเป็นที่นั่งได้ นายรอดจึงบอกให้พักกินข้าวกลางวันซึ่งเวลาล่วงเลยบ่ายโมง... พักกันไม่นาน จึงเดินทางต่อ...

การเดินทางเป็นไปอย่างทุลักทุเล ทำให้เหนื่อยล้าสุดแรงไปๆ มาๆ แทบก้าวขาไม่ออก โดยเฉพาะกาฬวารเธอเป็นผู้หญิงไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมากมายอะไร สภาพร่างกายจึงอ่อนแรงล้าง่ายกว่าพวกผู้ชายแม้จะไม่ปริปากบ่น แต่ร่างกายกลับไม่ไหว มันจึงออกอาการ...

“ขอหยุดเดี๋ยว ฉันเป็นตะคริวที่ฝ่าเท้า” เธอบอก ลงนั่ง... ถอดรองเท้าถุงเท้าออกหยิบยาหม่องทาถูนวด ทั่วบริเวณฝ่าเท้าของตน

เห็นดังนั้นเลวิสจึงเข้ามาดูอาการให้ความช่วยเหลือ

“ฉันช่วยนวดให้” เขาบอกใช้มือบีบฝ่าเท้าเธอ ด้วยน้ำหนักมือกำลังเหมาะ ช่วยคลายเส้นเอ็นที่บิดเป็นเกลียวตึงความเจ็บปวดค่อยทุเลาลง

“ขอบคุณมากค่ะคุณเลวิส ...ค่อยยังชั่ว ฉันไม่เจ็บแล้ว” เธอกล่าว รู้สึกขอบคุณจากใจ

เลวิสมองตาเธอ รู้สึกใจชื้นขึ้นมาที่สามารถช่วยเธอได้การได้ใกล้ชิด ...จับมือ ...โอบประคอง ทำให้เขารู้สึกชอบเธอมากยิ่งขึ้น

วิญญาณลมเหนือเฝ้าดูอยู่อย่างเงียบเชียบโดยไม่แผลงฤทธิ์... ไม่แสดงความหึงหวงเหมือนที่ผ่านมาเพราะมีบุคคลอื่นร่วมอยู่ด้วย ...จึงได้เพียงนึกในใจ

‘หากเรามีร่างกายเป็นมนุษย์ปกติเราอยากจะช่วยเธอบ้างอย่างที่เลวิสทำ’

“ดีแล้วล่ะ พักให้หายเถอะยังไม่ต้องรีบเดินทางต่อ”

“ฉันกลัวจะมืดเสียก่อนที่จะหาหลวงพ่อพึ่งเจอ”

เพราะความกังวลของกาฬวาร จึงพากันเดินทางไปต่อ...

........... เดินทางอย่างสมบุกสมบันกันมาเวลาล่วงเข้าช่วงเย็น ถึงที่ราบโล่งเดินสะดวก จึงได้พบในที่สุด...

“นั่น... เจอแล้ว พระธุดงค์องค์ที่ตามหากัน หลวงพ่อพึ่งท่านปักกลดอยู่นั่น” นายรอดผู้เดินนำหน้าเห็นก่อนใครเอ่ยขึ้น... ทุกคนจึงรีบพากันเดินเข้าไปกราบไหว้

“หนูมากราบหลวงพ่อพึ่งค่ะ หนูชื่อกาฬวาร”

“เธอนี่เอง... ฉันรออยู่ ต้องการพบฉันเพื่อให้ช่วยใช่ไหม” หลวงพ่อพึ่งถาม น้ำเสียงแสดงความเมตตาน่าเลื่อมใส

“ใช่ค่ะ แต่หลวงพ่อทราบได้อย่างไรว่าหนูจะมา”

“เธอเคยจุดธูปอธิษฐานจิตไว้...ขอให้ได้พบฉันไม่ใช่หรือ”

กาฬวารรู้จากคำตอบของหลวงพ่อแสดงว่าท่านสำเร็จฌานมีฤทธิ์ทางจิต ถึงสามารถล่วงรู้ได้ จึงเร่งพูดธุระสำคัญ

“ใช่ค่ะ คุณเหนือเคยมาสักยันต์กับหลวงพ่อ ตอนนี้วิญญาณเขาเข้าร่างตัวเองไม่ได้”

“วิญญาณโยมเหนือ ตามมาถึงที่นี่...” หลวงพ่อพึ่งกล่าว ด้วยมองเห็นวิญญาณลมเหนือ

“ทำไมวิญญาณผมถึงเข้าร่างไม่ได้” วิญญาณลมเหนือเอ่ยถามหลวงพ่อซึ่งนายรอดเพียงคนเดียว ...ไม่เห็น และไม่ได้ยิน แต่เขาไม่ใช่คนกลัวผีและไม่ลบหลู่สิ่งมองไม่เห็น จึงนั่งฟังอย่างสงบ

“ยันต์นั้นป้องกันสิ่งไม่ดีเข้าตัวก่อนวิญญาณจะออกจากร่าง เธอได้ทำผิดศีล จำได้ไหม ศีลข้อห้าห้ามยุ่งเกี่ยวสุรายาเมาเธอติดยาเสพติด จนหัวใจวาย แต่เธอยังไม่ถึงที่ตาย จึงไปสู่สุขคติไม่ได้ต้องอาศัยผู้อื่นทำบุญอุทิศให้ จึงพออยู่เป็นสุขได้ วิญญาณผู้ผิดศีลอย่างเธอเป็นวิญญาณไม่ดี เมื่อออกจากร่างไป จึงกลับเข้าร่างที่สักยันต์ไว้ไม่ได้”

“แล้ว... หนทางแก้มีไหมคะ”

“ต้องรับศีลใหม่ และต้องตั้งใจมั่น...ต่อไปจะไม่ประพฤติผิดศีล ไม่ว่าข้อไหนทั้งนั้น”

“ผมจะตั้งใจรักษาศีลหลวงพ่อช่วยผมให้กลับเข้าร่างได้ด้วยเถอะครับ”

“หนูขอรับศีลด้วยค่ะ เผื่อจะเป็นแรงบุญ ช่วยเกื้อหนุนวิญญาณคุณเหนือด้วยอีกแรง”

“โยมกาฬวารมีจิตเมตตากรุณาต่อวิญญาณเขาทำบุญอุทิศให้เขา เขาได้รับแรงบุญเหล่านั้นจากโยมอยู่แล้ว การรับศีล ส่งผลดีต่อตัวโยมกาฬวารเองด้วยเอาล่ะ... ตั้งใจรับศีล ...ว่าตามนะ” หลวงพ่อบอกแล้วให้ศีล...

กาฬวารและวิญญาณลมเหนือพนมมือตั้งใจรับศีลรับพร...

แต่เลวิสไม่ใช่ชาวพุทธ เขาไม่รู้และไม่เข้าใจจึงได้แต่นั่งมองเฉย เช่นเดียวกับนายรอด เขารักษาศีลห้าไม่ได้ครบถ้วนจึงไม่รับศีลเช่นกัน

“เอ... หลวงพ่อ ทำไมวิญญาณคุณเหนือถึงยังไม่กลับไปเข้าร่างตัวเอง” กาฬวารยังเห็นวิญญาณลมเหนือนั่งอยู่ด้วยจึงสงสัย เลยเอ่ยถาม

“เพียงเท่านี้ยังไม่พอหรอก ต้องทำน้ำมนต์ให้ด้วย มีไหม?น้ำดื่มก็ได้ ถือเป็นน้ำบริสุทธิ์” หลวงพ่อพึ่งเรียกหา

“มีค่ะ นำติดตัวมาด้วย” กาฬวารนำออกมาวางตรงหน้าของหลวงพ่อ ท่านหยิบบาตรเปล่าหงายขึ้น เทน้ำดื่มลงไปจากนั้นจึงใช้ม่านจากกรดเพื่อบังลมพัด แล้วจึงจุดเทียนไข และเพ่งกระแสจิตที่เที่ยงแท้แน่วแน่บริกรรมพระคาถา พลางหยดเทียนลงในน้ำ ...จากนั้นไม่นานจึงเทน้ำจากบาตรลงใส่คืนในขวดน้ำดื่ม แม้จะหกออกจากขวดไปบ้าง แต่ไม่มากมาย เห็นมีหยดเทียนติดมาด้วยแล้วนำออกมาวางไว้ให้กาฬวาร

“นำน้ำมนต์นี้ ไปให้เขาดื่ม เพียงกรอกใส่ปาก วิญญาณเขาจะกลับเข้าร่างได้ทันที”

“ขอบคุณค่ะหลวงพ่อ” กาฬวารหยิบขวดน้ำมนต์นั้นด้วยอาการสองมือประคอง จับแน่น... ราวกับกลัวมันจะหลุดหล่นหายไปแล้วนำใส่ในกระเป๋าเป้ของตน

“เขาจะเป็นผู้ไม่ตายด้วยศาสตราวุธ ยิงแทงอย่างไรไม่เข้าแม้กระทั่งคมเขี้ยวของสัตว์ร้าย ...ถึงมาขบกัด จะไม่ระคายผิว คุณไสอีกทั้งสิ่งชั่วร้ายจะไม่กล้ำกรายเข้าตัวเขา แต่เขาจะป่วยตายตามธรรมดาโลก เมื่อถึงวาระหมดอายุขัย”หลวงพ่อพึ่งกล่าว แล้วอยู่ในอาการสงบสำรวม ใบหน้าเรียบเฉยตามปกติสงฆ์ผู้อยู่ในวินัยอันงามไม่มีใครอยากซักถามอะไรต่อไปอีก

“ถ้าอย่างนั้น... พวกเราขอกราบลาหลวงพ่อค่ะ” กาฬวารก้มลงกราบลา

“การเดินทางขากลับไม่ราบรื่นหรอก ที่ผ่านมาย่อมรู้กันดีหากกลับไปตอนนี้ คงมืดค่ำกลางทาง ยิ่งลำบากและอันตราย สัตว์ร้าย...งูมีพิษออกหากินเวลากลางคืน พวกโยมพักกางเต็นท์อยู่แถวนี้เถิดเช้าค่อยเดินทางกลับจะปลอดภัยกว่า”

“จริงอย่างหลวงพ่อแนะนำ เราควรพักค้างคืนแถวนี้ห่างไปไม่ไกลมีลำธาร ตอนเช้าจะได้ทำอาหารกิน แล้วค่อยเดินทางกลับ” นายรอดบอกกับทุกคน

“ดีเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้น... หนูจะทำอาหารเช้าใส่บาตรหลวงพ่อท่านจะได้มีฉันท์เช้า ไม่ต้องออกไปเดินบิณฑบาต หนทางยิ่งลำบากอยู่ด้วย”

........... จากนั้นจึงช่วยกันกางเต็นท์และทำอาหารเย็นกินกันอย่างง่าย

“ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย เพลียเหลือเกินไม่เคยเดินไกลลำบากอย่างนี้ ขอเข้านอนก่อนนะคะ จะได้พักผ่อน” กาฬวารบอกกับนายรอดและเลวิส

“เชิญพักผ่อนก่อนเถิดครับ”

“ผมจะก่อกองไฟเอง” เลวิสบอกนายรอดมองดูเด็กหนุ่มวัยรุ่น...

“ไม่เหนื่อยเหรอเลวิส” นายรอดถามด้วยไม่รู้ประสีประสา เลวิสเพียงยิ้มให้

‘แวมไพร์ในเวลากลางคืน ยิ่งแข็งแกร่ง... และเป็นเวลาออกล่าเหยื่อ’

“ไม่เหนื่อยเลยครับ ร่างกายผมแข็งแรงดีมาก” เลวิสตอบ ...นั่งเล่นข้างกองไฟและนึกอยากออกหาอาหารกิน... แต่ก่อนที่เขาจะทำอย่างใจนึก วิญญาณลมเหนือมาบอก...

“เลวิส ช่วยกาฬด้วย กำลังมีไข้ขึ้น หนาวสั่นตัวร้อนมาก”

“อืม... จริงสิ ก่อนจะเข้านอนเธอบอกแล้วว่าไม่ค่อยสบาย” เลวิสเข้าไปดูอาการมือแตะหน้าผากเธอ ได้สัมผัสไออุ่นร้อน เนื่องจากพิษไข้นั้น จึงค้นหายาแก้ไข้ออกมาจากกระเป๋าเป้

“กาฬ... ลุกขึ้น กินยาแก้ไข้สิ” เลวิสเรียก แต่เห็นเธอไม่ยอมลืมตารู้ว่าเธอตื่นอยู่ แต่กำลังแย่... หมดเรี่ยวแรงเพราะพิษไข้ จึงจับตัวเธอ...ประคองให้นั่ง แล้วป้อนยาเม็ดแก้ไข้ ตามด้วยน้ำดื่ม...

“ขอบใจนะเลวิส”

“ไม่ต้องขอบใจหรอกฮคคุ ฉันต้องช่วยกาฬอยู่แล้ว”

“เฮ้ย! ...เลวิสนายจะทำอะไรกาฬ” วิญญาณลมเหนืออุทานเมื่อเห็นเลวิสรูดซิปเสื้อคลุม ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวในออกหมดทุกเม็ดเปิดเผยหน้าอกผิวขาวออกชมพู แล้วลงนอนกกกอดกาฬวารอยู่ในท่านอนตะแคง ทั้งแขนขานั้นกอดรัดไว้แน่นแล้วค่อยใช้ผ้าห่มคลุมสองร่างไว้ภายใต้ผ้าห่มด้วยกัน

“นายเห็นไหม? เรามีผ้าห่มผืนบาง แต่กาฬหนาวมาก จนสั่นขนาดนี้ฉันกำลังให้ไออุ่นกับร่างกายเธอ”

“นายเป็นผีดิบ ร่างกายไม่มีไออุ่น”วิญญาณลมเหนือเถียง

“ฉันยังไม่ได้ถูกทำให้ตายสนิท ก่อนหน้านั้นฉันเป็นคนปกติมีเลือดเนื้อเลือดแวมไพร์ยังแทนที่เลือดมนุษย์ไม่หมดยังมีกระแสเลือดมนุษย์ไหลเวียนอยู่ในร่างกายฉัน ตัวฉันยังคงอุ่นอยู่ฉันยังอยู่ในสภาพใกล้เคียงมนุษย์ที่สุด ฉันถึงให้ความอบอุ่นกับร่างกายกาฬได้”เลวิสอธิบายให้วิญญาณลมเหนือเข้าใจ

“แต่นายกำลังนอนกอดเมียฉัน ฉันหวงของฉันนะ” วิญญาณลมเหนือบอก เปล่งแสงสีแดงสว่างเจิดจ้าออกจากนัยน์ตาแสดงความหึงหวง...

เลวิสหาได้หวาดกลัวไม่ ด้วยหัวใจในยามนี้อบอุ่น อิ่มอกอิ่มใจกับการได้กอดสาวในดวงจิตพิศวาสความรู้สึกไหวหวามช่วยคลายความกลัวผี จะอีกกี่ผีเฮี้ยนคงไม่ทำให้ตกใจกลัวได้เลย

“กาฬไม่ได้เป็นเมียนายเสียหน่อย ฉันอ่านใจเธอออกเธอยังไม่ได้รักนาย ...ฮคคุ” เลวิสบอก

ซึ่งลมเหนือรู้ใจกาฬวารเช่นนั้นเหมือนกันเขาได้แต่เฝ้าดู... อยู่ไม่ห่างอย่างหวงห่วง

ส่วนกาฬวารเปิดเปลือกตาปรือมองเลวิสอย่างระโหยโรยแรง

‘ขอบคุณที่ให้ความอบอุ่นกับฉัน’

เธอเพียงนึก... ไร้เรี่ยวแรงจะเอื้อนเอ่ยรู้ว่าเลวิสอ่านใจเธอได้

“ฉันรู้แล้ว เธอไม่ต้องพูด ฉันเป็นห่วงเธอ ...จากใจจริง” เลวิสกล่าวเบาๆ แนบข้างใบหูกาฬวาร และเธอค่อยๆ ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขาวิญญาณลมเหนือดูท่าทีพี่ชายอย่างนั้น... รู้ใจเลวิสว่าชอบกาฬวาร ในใจตนเริ่มเป็นกังวล

........... รุ่งเช้า...เลวิสหุงข้าวเช้า และต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เผื่อกาฬวาร...

“เช้านี้ต้องกินยาแก้ไข้ หลังอาหารอีกมื้อนะกาฬแล้วตอนนี้อาการเป็นไงบ้าง” ถามพลางใช้หลังมือแตะอังดูความร้อนจากหน้าผากเกลี้ยงเกลาของกาฬวาร

“อาการดีขึ้นแล้วค่ะ คุณเลวิส ก่อนทานอาหารเช้า ฉันต้องการอาหารเพิ่มอีกชุดจะไปถวายหลวงพ่อพึ่ง”

เลวิสทำเผื่อไว้ และใส่ชามแบ่งให้แล้ว กาฬวารจึงจัดการนำไปถวายหลวงพ่อพึ่ง

“หนูนำอาหารมาถวายหลวงพ่อค่ะ มีข้าวสวย บะหมี่ต้มและไข่เค็ม มีมะขามหวานคลุกน้ำตาล ...เป็นของหวานด้วยค่ะ พวกอาหารง่ายๆ แบบนี้หลวงพ่อพอฉันท์ได้ไหมคะ”

“ได้โยม หลวงพ่อไม่เลือกกินมากหรอกหลวงพ่อจะให้พร โยมตั้งใจรับพรนะ” หลวงพ่อพึ่งสวดมนต์ให้พรกาฬวารพนมมือรับพร เสร็จแล้วหลวงพ่อยังบอกอีกว่า...

“เมื่อคืนหลวงพ่อได้นั่งสมาธิ ...ตรวจดู โยมยังมีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่อีกใช่ไหมและเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นผีดูดเลือด...ที่ต้องการกลับมาเป็นมนุษย์”

“หลวงพ่อทราบ?...” กาฬวารให้แปลกใจเนื่องจากเธอยังไม่เคยเอ่ยบอกเล่าเรื่องใดให้หลวงพ่อได้รับรู้เลยเหตุที่หลวงพ่อล่วงรู้... เพราะหลวงพ่อมีญาณวิเศษนึกแล้วกาฬวารให้เกิดศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพ่อพึ่งยิ่งขึ้นอีก

“ถูกแล้ว โยมอยากช่วยเขาไหมล่ะ”

“ค่ะ หนูอยากช่วยเขา”

“พักอยู่ที่นี่อีกสักคืนเถอะ หลวงพ่อจะทำการปลุกเสกทำให้เลือดของหนูมีพลังเหมือนน้ำมนต์ รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ล้างพลังชั่วร้ายผีดูดเลือดเพิ่งเกิดใหม่ ถ้าได้ดื่มเลือดที่มีพลังนี้ จะกลับคืนเป็นมนุษย์แน่นอน”

“หนูสงสัย... ต้องให้เขาดื่มเลือดปริมาณแค่ไหนคะ”

“หนึ่งลิตร แล้วเขาจะสลบไปตลอดคืน ...เมื่อตื่นขึ้นจะกลับคืนเป็นมนุษย์ดังเดิม”

........... จากนั้นกาฬวารมาบอกเลวิสจึงต้องเลื่อนกำหนดกลับเป็นอีกวันถัดไป

ตกตอนกลางคืนดึกสงัด หลวงพ่อพึ่งสั่งเลวิสมาบอกกาฬวารให้นั่งสมาธิในเต็นท์เพียงลำพัง นายรอดกับเลวิสเฝ้าดูอยู่หน้าเต็นท์ ส่วนหลวงพ่อพึ่งนั่งสมาธิในกลด

นายรอดเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่มีพลังพิเศษใดเขาจึงไม่เห็นอย่างที่เลวิสเห็น...

แสงเรืองโรจน์...สว่างทั่วทั้งร่างหลวงพ่อพึ่งภายในกลด และสว่างทั้งร่างกาฬวาร มีลำแสงเป็นสายเชื่อมต่อเนื่องกันสว่างแวบวาบราวกับสายฟ้า เป็นแฉกแตกรัศมีฟุ้งกระจาย ...แต่ทว่ากลับเงียบเชียบ สัมผัสได้กับพลังแรงแห่งกระแสจิตจากหลวงพ่อพึ่ง ส่งผ่านถึงกาฬวาร กินระยะเวลานานสองถึงสามชั่วโมง...

ยังผลให้นายรอดนั่งงีบสัปหงก หลังจากนั้นแล้วเหลือเวลานอนหลับกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง...

รุ่งเช้า...กาฬวารถวายภัตตาหารเช้าแด่หลวงพ่อพึ่ง แล้วทานอาหารร่วมกับนายรอดและเลวิส ต่อมาจึงช่วยกันเก็บเต็นท์และข้าวของก่อนจะเดินทางกลับ ได้พากันมากราบลาหลวงพ่อพึ่งซึ่งท่านได้กล่าวเตือนสติวิญญาณลมเหนือด้วยมีญาณหยั่งรู้อนาคตภายหน้าว่าจะเกิดเหตุรักสามเส้าระหว่างพี่น้องให้ลมเหนือต้องทนทุกข์ยากลำบากใจอีกในวัยผู้ใหญ่

“โยมเหนือ มีเรื่องจะเตือน... อย่าทำผิดศีลข้อสามกาเม... อย่าไปล่วงล้ำลูกเขาเมียใคร อย่าแย่งคนรักหรือของหวงของใครแล้วผู้ที่รักโยมจริงด้วยใจบริสุทธิ์ จะสงสารเห็นใจ จำคำอาตมาไว้ แล้วทำให้ได้ไม่ทำผิดศีลทุกข้อ”

“ครับ หลวงพ่อ” วิญญาณลมเหนือรับคำตอนนี้เขาทั้งเชื่อและศรัทธา... ย้ำจำคำของหลวงพ่อพึ่งจนขึ้นใจ

“ขอให้ไปดี... มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง”หลวงพ่อพึ่งให้ศีลให้พรก่อนลา

การเดินป่าขากลับ ไม่เจอฝนตกการเดินทางลำบากน้อยลง จนกระทั่ง... กลับถึงบ้านพักรับรอง และเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ

........... ทั้งคุณนายจินตนาคุณฮิงาชิ คุณทาคามิ เลวิส และกาฬวาร รวมตัวกันอยู่ในห้องคนไข้พิเศษ

“ขออาราธนาคุณศักดิ์สิทธิ์บุญบารมีแห่งหลวงพ่อพึ่ง...ขอให้น้ำมนต์นี้ช่วยคุณเหนือฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ด้วยเถิด...” กาฬวารกล่าว พร้อมทั้งรำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อพึ่งขณะชูขวดน้ำมนต์ขึ้นจรดเหนือศีรษะ

ร่างลมเหนือถูกจัดให้อยู่ในท่านั่งเอนมีหมอนหนุนพิงแผ่นหลัง แล้วกาฬวารค่อยกรอกน้ำมนต์ใส่ปากของเขาจากนั้นทุกคนเฝ้าดูผล...

“นั่น... ฮคคุเริ่มขยับตัว” เลวิสชี้ให้ดูที่ปลายมือดูเขาออกจะตื่นเต้นดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นน้องกำลังจะฟื้นขึ้นมา ค่อยลืมตา...

“คุณเหนือฟื้นแล้ว...” น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจของกาฬวารไม่ต่างจากทุกคนที่พากันดีใจมากด้วยเช่นกัน

คุณมิลินรีบเรียกพยาบาลเข้ามาดูอาการและตรวจเช็คร่างกายลมเหนือ

เมื่อพยาบาลเข้ามาในห้องแล้ว ...หลังจากนั้นทุกคนจึงออกมารอนอกห้อง

“พวกเราขอบใจเธอมากนะ กาฬ...เธอเป็นคนสำคัญที่ช่วยให้ฮคคุฟื้นขึ้นมา” คุณทาคามิกล่าวขอบคุณแทนทุกคน

“ในฐานะที่เป็นแม่... ฉันต้องขอบคุณกาฬด้วยเหมือนกัน”

“ที่ฉันทำไป เพื่อตอบแทนบุญคุณที่พวกคุณช่วยเหลือครอบครัวฉันมาตลอดค่ะ”

ต่อไปเป็นหน้าที่แพทย์ ต้องตรวจร่างกายลมเหนือให้ละเอียดถึงผลกระทบต่างๆเพราะนอนหลับไปนาน

........... ลมเหนือร่างกายแข็งแรงดีทางโรงพยาบาลจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น...

ถึงคราวกาฬวารต้องช่วยเหลือเลวิส

“ต้องให้เลือดถึงหนึ่งลิตร ร่างกายของกาฬคงไม่ไหวหรอกอันตรายต่อสุขภาพมาก ทางที่ดีต้องมีคนให้เลือดเธออีกต่อหนึ่งเธอเลือดกรุ๊ปบีเหมือนกันกับฉันใช่ไหม” ลมเหนือให้ความเห็นอย่างเป็นห่วงเอ่ยถามแล้วเห็นกาฬวารพยักหน้ารับ

“นายเพิ่งฟื้นคืนชีวิต อย่าเพิ่งเสียเลือดเลยฮคคุ”เลวิสเข้ามากุมมือน้องชาย แล้วบีบมือแสดงความห่วงใย

“หมอรักษาร่างกายฉันให้แข็งแรงดีแล้วฉันสามารถให้เลือดกาฬวารได้ อย่าห่วงเลยเลวิส” ลมมือใช้อีกมือกุมมือพี่ชายบีบกำด้วยเช่นกันพูดให้พี่ชายคลายความกังวลใจ สายตาที่มองสบตากันในวันนี้ คืนความรักอบอุ่นในความเป็นพี่น้องคงความห่วงใยไมตรีที่ดีต่อกัน เฉกเช่นวันเก่าก่อนคุ้นเคยกันนานมา

‘พี่ชายน้องชายที่แสนดี...’

กาฬวารอมยิ้ม...อดมองภาพประทับใจตรงหน้าไม่ได้ อิ่มเอมใจไปกับความห่วงหาอาทรกันฉันพี่น้องบริสุทธิ์ใจ



Create Date : 09 ธันวาคม 2558
Last Update : 9 ธันวาคม 2558 12:09:58 น.
Counter : 542 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 2795671
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



นามปากกา... ไตรติมา
เขียนนิยายหลากหลายแนว รักหญิงชาย วาย Yaoi LGBTQ ผี แฟนตาซี Sci-fi ดราม่า คอมเมดี้ ฯลฯ
เคหาสน์คราม
ไตรติมา
www.mebmarket.com
นิยายโรมานซ์ ไซไฟ ...เธอคือสิ่งประดิษฐ์ผิดพลาดที่เขาต้องฆ่าทิ้ง! ทั้งที่เธอมีเลือดเนื้อมีชีวิตจิตใจเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง ทั้งที่เธอถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่รักของเขาทั้งชีวิตจิตใจ จะทำกันได้ลงหรือไรเมื่ออยู่ภายใต้เคหาสน์คราม
SET รักหื่นขมของคมเคียว ( ชุด 3 เล่ม )
ไตรติมา
www.mebmarket.com
อยากได้เมียเป็นพยาบาล ดันมาเจอสัตวแพทย์สาวเข้าท่า น่าไล่ปล้ำที่สุด แต่เธอไม่ค่อยโอเคกะผมเลย ทำยังไงดีนะเธอจะรักกันได้ไหม (ภาค1)อยากได้เมียเป็นพยาบาล ดันมาเจอสัตวแพทย์สาวเข้าท่า น่าไล่ปล้ำที่สุด แล้วเธอก็ตกเป็นเมียผมสุขสมใจ แค่คิดว่าจะทำอะไรกับเมียบ้างก็ฟินแล้ว (ภาค2)ผมมันคนรูปหล่อ สาวก็หลงรักอยากจับไปทำสามี แต่ผมไม่โสดนี่ซี มีปัญหาครอบครัวกลัวเมียจะรู้ ไม่ได้เจ้าชู้เป็นคนรักลูกรักเมียเดียว ไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับใครแต่ใครๆ ก็รัก คนหล่อหนักใจ๊ หนักใจ...(ภาค3)
มารความรัก
ไตรติมา
www.mebmarket.com
ไม่อยากรักกลับรัก ไม่รู้จะวางเธอไว้ที่ไหนในเมื่อเธอ... เป็นส่วนเกินของเรา แต่เราก็ขาดเธอไม่ได้“ทรมาน...”มีเพียงคำพูดสั้นๆ กับท่าทางเหมือนอยากจะชักดิ้นชักงอของหนุ่มหล่อเท่านั้น“อะไรกัน ทิ้งฉันไปหาผู้ชายที่ตัวเองแอบรักเขาอยู่ข้างเดียว นึกว่าสมหวังแฮปปี้เอนดิ้งกันไปแล้ว ฉันอุตส่าห์บินจากเกาหลีเพื่อมาดูหน้านาย”“หมดมารความรักแล้วฉันได้แฮปปี้เอนดิ้งชัวร์ แต่ว่า... ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยรู้สึกตายอดตายอยากเพราะอยากได้ผู้หญิงขนาดนี้ โอ๊ย... มันทรมานจะตายให้ได้ ฉันควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองยังไงดี”
เปลวไฟในกระแสลม ภาคคุกคาม
ไตรติมา
www.mebmarket.com
เฮอริเคน เป็นแก๊งวัยรุ่น รวบรวมคนดี เด่น หล่อ สวย รวย แรง เที่ยวเล่นผจญภัยไปกับผองเพื่อนตลอดจนแก๊งยากูซ่า เต็มไปด้วยมิตรภาพ ความรักบริสุทธิ์จริงใจต่อกัน ... ถ้าเป็นผู้ชายเหมือนกันคงได้วางมวยต่อยไปไม่ยั้งแล้ว ฮายาโตะโมโหควันออกหู ไมเกรนขึ้นสมอง คิด คิด... จะห้ำหั่นยังไงให้นางมารร้ายข้างกายนี่แหลกรานแพ้ราบคาบไปเลย และแล้วก็นึกออกในที่สุดจุดอ่อนของปลายมีนาคือหวงตัวยิ่งกว่าสิ่งใด!“อยากโดนบี้จนปากปลิ้นใช่ไหม เคยเจอไหมจูบแบบเจ็บๆ โหดๆ หรือชอบซาดิสม์ จะปล้ำจูบตรงนี้เลยเอาไหม”ปฏิกิริยาจากปลายมีนาคือสะบัดหน้าหนีทันทีทันควัน ทำคอยืดคอยาวฝืนกายให้ห่างชายหนุ่มออกไปอีก และส่งเสียงกรี๊ดลั่น ไม่ใช่ชอบใจหรอกนะ ชักจะกลัวโดนลวนลามขึ้นมาแล้ว“อ๊ายยย... ปล่อยปลายนะ”
เพื่อนรักปรารถนา
ไตรติมา
www.mebmarket.com
นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า "เธอเคยพูดจะไม่เก็บความสาวไว้ให้เขาคนนั้น ถ้าเธอจะเสียมันไปขอให้ฉันได้ไหม ฉันคือเพื่อนที่เธอวางใจได้ไปตลอดกาล จะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนเขาคนนั้น" เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน?
รักสุขสมของคมเคียว
ไตรติมา
www.mebmarket.com
อยากได้เมียเป็นพยาบาล ดันมาเจอสัตวแพทย์สาวเข้าท่า น่าไล่ปล้ำที่สุด แล้วเธอก็ตกเป็นเมียผมสุขสมใจ แค่คิดว่าจะทำอะไรกับเมียบ้างก็ฟินแล้วปิดล็อคประตูไม่ให้ใครเข้ามายุ่งไม่ว่าจะเป็นแมวหรือหมาหน้าไหนลากเมียขึ้นนอนเตียงแผ่หลา ชุดนอนกระโปรงสั้นของเธอบาง พอมองเห็นรำไรตรงพุ่มปทุมถันสองเต้าเต่งตูมและเม็ดบัวสีชมพูชูคอล่อตาล่อใจ
รักหื่นขมของคมเคียว
ไตรติมา
www.mebmarket.com
อยากได้เมียเป็นพยาบาล ดันมาเจอสัตวแพทย์สาวเข้าท่า น่าไล่ปล้ำที่สุด แต่เธอไม่ค่อยโอเคกะผมเลย ทำยังไงดีนะเธอจะรักกันได้ไหม...เธอยืนติดฝาผนังตรงที่ไม่มีจิ้งจกเกาะ ผมวางแผนไว้ไม่ให้มันมาร้องทักขัดจังหวะช่วงสำคัญๆ แต่คนที่เกาะผนังคือตัวผมเอง มีเธออยู่กึ่งกลางระหว่างสองวงแขนซ้ายขวาของผม “คือว่า... ทำไมต้องคุยกันใกล้แบบนี้ด้วย” เธอเริ่มมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด “เราคุยความลับกันมันต้องกระซิบ อยู่ห่างกันเดี๋ยวไม่ได้ยิน”
จุดจบแห่งใจ
ไตรติมา
www.mebmarket.com
"พระเจ้า...ขอให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดไปด้วยเถิด"เป็นคำอธิฐานของ ยูกิฮิโตะ ที่ไม่มีวันเป็นจริงพระเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป จึงได้พรากเราสองแยกจากกันห่างไกลคนหนึ่งเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในความฝันแสนหวานกับอดีตวันวานที่จะไม่มีวันได้หวนคืนมาส่วนอีกคนหนึ่งถูกขังอยู่ในแดนไกลโพ้น พลัดพรากจากดินแดนบ้านเกิดเมืองนอน ไม่รู้วันเดือนปีใดจะได้กลับคืน หรือไม่ก็อาจถูกจองจำชั่วชีวิตด้วยกรงกามแห่งความรักลุ่มหลง
nass.net ร้านเน็ตน้อยคอยรัก
ไตรติมา
www.mebmarket.com
ร้านเน็ตเล็กๆ ที่อบอวลไปด้วยไอรักและความสนุกสนานของเกมส์ บริหารงานโดยเจ้าของร้านแสนขยัน กับผู้ช่วยจอมกวนที่เป็นเกย์ และมีลูกค้าประจำที่ชอบมาจีบเจ้าของร้าน
รักไหล
ไตรติมา
www.mebmarket.com
หากจำใจต้องไปได้สามีเป็นคู่เกย์ ชีวิตจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร นิยายไบเซ็กช่วลเกย์ รักเป็นสิ่งสวยงาม? รักไม่เคยทำร้าย? หากคนที่มีความรักทำลายทุกอย่าง ทั้งหัวใจแหลกสลายแต่ใจยังอยากรัก รักไหลไม่นิ่งไม่แน่นอนอยู่กับใคร“ฉันพร้อมเป็นเพื่อนที่ดีของเธอ คอยอยู่ดูแลและรักษาพยาบาลอย่างมิตรในยามเธอเจ็บทุกข์มา เราอยู่ด้วยกันอย่างบริสุทธิ์ใจได้โดยไม่มีอะไรกัน”คีย์ปล่อยมือจากชลี และลุกขึ้นยืนบังประตูทางออกห้องนอนนี้ทันที!“มุนีเคยพูดกับฉันเหมือนอย่างที่เธอพูด แต่เขายังอยาก... กอดฉันจูบฉัน ฉันรู้ในใจเธอชอบฉัน ...ชอบมาก แต่เธอพยายามทำใจแข็งทั้งที่ใจโหยหา เธอเป็นสุขเมื่อมีฉันได้เข้าไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ”“พอ... หยุดพูดอย่าพูดฉันไม่อยากได้ยินเธอพูดเรื่องเสียวเดียวใจไม่ดี"
อสูรซ่านสวาท
ไตรติมา
www.mebmarket.com
รักต้องห้ามและความเข้าใจผิด ทำให้เขาต้องซ่อนปรารถนาร้าย แอบไว้ในหน้ากากพี่ชายที่แสนดี กับน้องสาวที่น่าสงสาร เกิดมาแม่ก็ไม่รัก...“เดหวาก็รักพี่เหมราชเกินพี่ชายมานานแล้วเหมือนกัน แต่เราสองพี่น้องมีพ่อคนเดียวกันและแม่ก็หวงเดหวามากมันยากที่เราจะได้เป็นผัวเมียกัน”“ถ้าไม่บอกจะไม่มีใครรู้ถ้าไม่ส่งเสียงร้องคงไม่มีใครได้ยิน ถ้ามันลำบากทำใจเป็นพี่น้องกันและพี่ทรมานใจต้องทนอดกลั้นจนทนไม่ไหวแล้ว เราแอบเป็นผัวเมียกันลับๆ เถอะ”เดหวาตาเบิกโตหัวกระตุกวาบหวิวไหวไม่ต่างกับโดนไฟฟ้าแรงสูงช็อตด้วยแรงดึงดูดมหาศาลเกินใจต้านทานไหว
คู่หมั้นคืนเหงาใจ [ฉบับเต็ม]
ไตรติมา
www.mebmarket.com
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ..........ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพันอ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญหรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครองหรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง.ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
ขอจันทร์ดวงนั้นให้ฉันได้ไหม
ไตรติมา
www.mebmarket.com
นิยายไบเซ็กส์ช่วล-เกย์บาดหัวใจเมื่อหนุ่มหล่อสองคนเป็นแฟนกัน รักใคร่หลงใหลในกันและกันแล้วสาวน้อยนั้นก็เข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจชายหนุ่มมาก่อนกลายเป็นเมียหลวง หญิงสาวมาทีหลังต้องพลอยเป็นน้อยเขาทุกอย่างไม่ใช่ พวกเขาไม่ใช่เกย์แต่แรกแบบเกิดมาเป็นสัญชาตญาณผู้ชายมันหยุดไม่ได้ ทำให้เธอต้องกลายเป็นที่รองรับกามารมณ์แต่ความรักที่ฝังอยู่ในหัวใจเรียกร้อง... ขอจันทร์ดวงนั้นให้ฉันได้ไหม...ติดตามอัพเดทเพจ>>https://www.facebook.com/oranamarinlove

ป่าอาถรรพ์รัก_Boy's Love
ไตรติมา
www.mebmarket.com
แนวแฟนตาซีสวยงาม นิยายวาย ชายรักชาย *** มีรูปภาพประกอบสวยงามน่ารักแทรกภายในเล่มไพรเวทย์ เป็นป่าอยู่ระหว่างโลกมนุษย์เชื่อมต่อกับเมืองลับแล แต่หมู่บ้านนี้มีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่เข้าไปได้ จัสตินหนุ่มหล่อติดตามเนื้อคู่ข้ามภพชาติมา สิ่งใดดลใจให้เขาหลงรักใคร่ชายหนุ่มเมืองนี้ “ผู้ชายทุกคนจะเลือกสาวงามเลอเลิศขนาดไหนเป็นคู่ครองสุดแต่ใจเขาปรารถนา แต่ถ้าหากว่าผมนั้นเลือกคู่ครองเองได้ขอเลือกชายงามล้ำเลอค่าที่สุดแห่งป่าไพรเวทย์ที่ชื่อยามะ เพราะทั้งใจกายของผมได้มอบให้ไปหมดแล้วด้วยความรักเขาเจียนจะขาดใจ แม้แลกด้วยความตายหากได้เกิดมาใหม่ได้อยู่เป็นคู่ครองกับเขาผมยินดี ผมยอมตายถวายชีวิตเพื่อเขาเพียงผู้เดียว”จัสตินอ้อนคำรำพันรักแทนแสนล้านความรู้สึกที่ไม่อาจวัดค่าปริมาณเป็นมาตราริกเตอร์แห่งความสั่นไหวในดวงจิตได้.กดไลค์เพจ - ติดตามอัพเดท >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
ธันวาคม 2558

 
 
1
3
5
6
8
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
All Blog