นิยายรักหลากหลายแนว by ไตรติมา
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รักหื่นขมของคมเคียว บทที่ 13 by ไตรติมา . รักหื่นขมของคมเคียว . อยากได้เมียเป็นพยาบาล ดันมาเจอสัตวแพทย์สาวเข้าท่า น่าไล่ปล้ำที่สุด แต่เธอไม่ค่อยโอเคกะผมเลย ทำยังไงดีนะเธอจะรักกันได้ไหม . w-----w-----w-----w-----w-----w-----w-----w-----w-----w บทที่ 13 . ..........ช่วงตีหนึ่งชาวบ้านคงหลับกันไปหมดแล้ว ยกเว้นมนุษย์กลางคืนอย่างผม นั่งเล่นเน็ตเช็คเรตติ้งของตัวเองในฐานะนักร้องนำประจำวงดนตรี ดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงนิดๆ หน่อยๆข่าวว่าได้เป็นพระเอกใหม่ในกองถ่ายเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำละครผี สักพักได้ยินเสียงหมาหอนและเห่า... ผมไม่แน่ใจว่าข้างนอกบ้านนั่นจะมีผีหรือมีอะไรบางอย่าง จึงชะโงกเมียงมองจากหน้าต่างชั้นสองห้องนอนของผม ข้างดงกล้วยมีดวงไฟลอยต่ำเหนือพื้นดินประมาณฟุตกว่า นั่นผีกระสือหรือว่าอะไร บ้านนอกต่างจังหวัดอาจยังมีสิ่งนี้อยู่ ผมสงสัยใช้ความคิดคาดเดา แล้วให้นึกถึงคนที่ผมอยากอยู่ใกล้ให้อุ่นใจ ก๊อก ก๊อก ก๊อก... ผมเคาะประตูหน้าห้องของเรียวอคีเบาๆ แบบว่าเกรงใจแม่ผมที่นอนหลับอยู่ในห้องติดกัน คี... คี... เรียวอคี ผมส่งเสียงเรียกพอให้ได้ยินเข้าไปในห้องโดยไม่ตะโกน เกรงแม่ผมจะตกใจตื่นกลางดึก เธอเปิดประตูออก อยู่ในชุดนอนผ้าแพรสีเทาทั้งเสื้อกับกางเกงนอนขายาวคืนนี้ดูเรียบร้อยไม่เหมือนคืนก่อนโน้น ใจผมนึกเสียดายอยากเห็นเธอเซ็กซี่เหมือนวันนั้นอีก มีอะไรพี่เคียว เธอถามทั้งตาหรี่ปรือดูงัวเงียยังง่วงนอนอยู่ มีผีกระสือ หืม? ดวงตาเรียวอคีเบิกโตขึ้นพร้อมเสียงอุทาน ไม่เชื่อชะโงกออกไปดูที่ดงกล้วยโน้นสิ เธอหันหลังกลับ เดินไปที่หน้าต่างมองออกไปตามมือที่ผมชี้ ผมเดินตามหลังเธอติดๆ เข้าไปในห้องและยื่นหน้าเข้าไปใกล้เผื่อเธอหันมาจะได้ชนกันพอดิบพอดี อิ... อิ... ผมนี่ช่างวางแผนเต๊าะหญิงได้เนียนอยู่ตลอด แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีนะไอ้ผีกระสือนี่ ที่เห็นนั่นอาจจะ... เธอกำลังพูดพลางหันมา จมูกเฉี่ยวโดนกันอย่างบางเบา เลยชะงักคำพูด... ตามองตา... นิ่งงงงันอยู่ครู่หนึ่ง มองดูอย่างผู้ชำนาญเกมจีบหญิง ผมพอเดาใจเธอได้ว่าเริ่มรั่วไหลพลั้งเผลอมีใจให้ผมแบบเต็มๆ พี่เคียวนี่คนชอบฉวยโอกาส ผมโดนเธอต่อว่าพร้อมตีต้นแขนเข้าให้แบบเบาๆ ต่อด้วยค้อนให้แบบเอียงอาย เราต้องออกไปดู เฮ้... มันจะอันตรายเกินไปหรือเปล่า ผมจับท่อนแขนเธอเหนี่ยวรั้งช่างใจไว้ พี่เคียวมีเคียวอาคมอยู่ไม่ใช่หรือ มันป้องกันตัวได้ และนี่อยู่ภายในเขตรั้วบ้านฉันมันสมควรจะออกไปดู เธอชี้มายังเคียวอาคมในมือขวาของผม จริงตามเหตุผลดังกล่าวผมเลยต้องเดินตามเผื่อจะได้ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยอันตราย ..........เราสองคนเดินออกจากบ้านใหญ่สุนัขสองตัวของเธอกระดิกหางให้อย่างเป็นมิตร เราพากันเดินไปถึงดงกล้วยเจอสุนัขสามตัวของเธอยืนสังเกตการณ์อยู่ก่อนแล้ว ใครอ่ะ? มาทำอะไรแถวนี้ เรียวอคีฉายไฟฉายส่องพร้อมร้องถาม ลุงชายเองไอ้เคียว มาส่องปลาจะเอาไปกินซะหน่อย ลุงยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย ที่แท้เป็นคนรู้จักกัน ญาติห่างๆ ละแวกบ้านใกล้เรือนเคียงถือฉมวกในมือและตะข้องไม้ไผ่สานคล้องไหล่ สิ่งที่เห็นเป็นดวงไฟออกสีส้ม คือไฟฉายชนิดหนึ่งซึ่งเป็นแบบตั้งพื้นได้มันจึงดูไม่เหมือนไฟฉายแบบกระบอก แล้วได้ปลาบ้างหรือยัง ได้สองตัวแล้ว พอแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวจะเอาไปย่างกิน กินข้าวบ้านฉันสิ มีข้าวสวยอยู่เดี๋ยวฉันไปตักมาให้ลุงไปนั่งรอบนแคร่หน้ากระท่อมนั่นก็ได้ เธอบอกกับญาติและชี้มือไปทิศทางนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้านตึกใหญ่ ..........ผมเดินไปนั่งบนแคร่หน้ากระท่อมมีหลอดไฟส่องสว่างแบบหลอดตะเกียบประหยัดพลังงาน 10 Watt. เมื่อก่อนเธอเคยนอนในกระท่อม ตอนนี้ปิดกระท่อม ข้าวของใช้หลายอย่างยังอยู่ภายในนั้น ลุงชายใช้กิ่งไม้ปักลงดินสองกิ่ง แล้วใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกเล็กยาวพอเสียบปลาช่อนตัวเขื่องได้มันถูกฆ่าตายสนิท ท่อนไม้กับเศษกิ่งไม้ปนฟางหญ้าแห้งถูกไม้ขีดจุดไฟติดเปลวไฟลุกขึ้นมากลายเป็นกองไฟอยู่ตรงกลางระหว่างสองกิ่งไม้ที่ปักอยู่บนดิน แล้วปลาช่อนเสียบไม้จึงได้ถูกนำขึ้นวางพาดกับกิ่งไม้ทั้งสอง กลายเป็นปลาช่อนย่างไฟ เรียวอคีตักข้าวสวยใส่จานอุ่นๆ มาตั้งรอลุงชายที่นั่งย่างประช่อน ส่วนตัวเธอนำมะม่วงสุกมาปอกใส่ชาม มีช้อนกลางให้ตักกินสองสามคัน ผมเลยได้กินมะม่วงสุกเป็นของว่างกลางดึกด้วย ..........พอลุงชายย่างปลาเสร็จจึงได้นั่งกินกับข้าวสวย ส่วนผมกับเรียวอคีไม่ชอบกินปลา เลยปล่อยให้ลุงชายกินคนเดียว พวกสุนัขของเรียวอคีสี่ห้าตัวรายรอบแคร่นี้ นั่งรออย่างมีระเบียบ คงได้รับการอบรมมาดีมันอยู่กันเงียบๆ นั่งเฝ้าดูลุงชายกินข้าว คงกะจะรอเศษอาหารเหลือจากลุงชาย ผมพอใจกับชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ มีวิถีชีวิตแบบชาวบ้านกินง่ายอยู่ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน ...ฝันถึงอนาคตอันยาวไกลอยากได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้ไปนานแสนนานมีครอบครัวมีลูกหลานอยู่ที่นี่ได้คงดีที่คิดอย่างนี้คงเพราะมีเธออยู่เคียงกายให้ความอบอุ่นใจกัน กองไฟยังไม่มอดดับ เปลวไฟยังคงลุกท่อนไม้ให้ความสว่างผมมองดูแล้วให้รู้สึกสบายใจมาก เมื่อสบายใจจึงได้นั่งหันหลังพิงด้านข้างแขนเรียวอคีและเอนศีรษะหนุนหัวไหล่ของเธอ แหงนมองดูดวงดาวเบื้องบนที่ส่องแสงกระพริบพราย ที่นี่มองเห็นดาวเด่นชัดกว่าอยู่ในเมืองเนอะ โน่นดาวอะไร ไหน? เธอร้องถามเนื่องจากผมยังไม่ได้ชี้ให้ดู ผมลุกขึ้นมานั่งโอบไหล่เรียวอคีแล้วชี้ให้มองดวงดาวที่สุกสว่างทั้งรู้อยู่แล้วว่าดาวดวงนั้นคือดาวอะไร ผมไม่ได้อยากรู้ชื่อดาว แค่เพียงอยากโอบกอดเธอมากกว่าและเธอไม่หลบเลี่ยงหนีผมก็พอใจแล้ว นั่นดาวเหนือไง ใครๆ ก็รู้จัก เธอบอก แหงนมองเหม่อดูดาวบนท้องฟ้าอยู่เช่นกัน ท่าทางเธอชอบดูดาวดูเธอสบายใจให้เห็นรอยยิ้มเย็นๆ สองเราเพลิดเพลินสุขใจกับการนั่งชมดาว... ลุงชายอิ่มข้าวแล้วจึงถามขัดจังหวะสำราญใจขึ้น เอ็งเป็นแฟนกับหนุ่มกรุงเทพฯ นี่แล้วเหรอ ไวไฟจริงนะไอ้คี เปล่านะลุง ลุงคิดงั้นได้ไง เห็นเอ็งนั่งเฉยปล่อยให้เขาโอบไหล่ แบบนี้ไม่เรียกว่าแฟนแล้วจะให้เรียกว่าอะไร เธอหันมามองท่อนแขนผมที่พาดบนไหล่เธอ แล้วปัดทิ้ง ลุงส่งลูกชายไปเรียนมหาลัยในเมืองกรุงก็บอกสอนมันว่าอย่าได้ไปหลงใหลใฝ่ฝันคนเมืองกรุง เขาเจอคนมากมายรักเผื่อเลือกเลือกใครก็ได้ ถ้าเขาไม่รักจริงทิ้งเราไป เราจะหกอักช้ำใจ เรามันคนบ้านนอกจริงใจซื่อเกินไปให้คิดบ้างว่าใครเขาจะมารักเราจริง ลุงได้แต่พูดเตือนลูกชายลุงเอ็งก็เหมือนกันยังไม่เคยอกหักกับรักครั้งแรก ลุงก็เป็นห่วงเอ็งตัวคนเดียว ลุงชายพูดกับเรียวอคี เธอหน้าม่อย ก้มหน้าลง คงใช้ความคิดและคงคิดมากแน่... ผมฟังดูเสียเครดิต หมดอารมณ์ชื่นมื่นในหัวใจ ลุงชายหันมาพูดกับผมบ้าง ไอ้คีมีชีวิตลำบากมานาน อยู่กันสองคนย่าหลาน ย่ามันเป็นอัมพฤตอัมพาตเดินไม่ค่อยได้ขี้เยี่ยวราดพื้นให้เช็ดกันทั้งวัน พอมันไปเรียนกลับมาบ้านเลอะไปหมดพวกญาติเขาก็รังเกียจขี้ไม่มีใครชอบหรอก เอาของกินมาให้ก็ต้องแขวนไว้บนกิ่งมะม่วงเดี๋ยวหมามันมากัดถุงกับข้าวแย่งกันกิน ผมสงสัย... แล้วทำไมไม่ให้ใส่แพมเพิร์ตล่ะครับ ไอ้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่แบบใช้แล้วทิ้งน่ะเหรอ มันแพงอันละหลายสิบบาทวันไหนท้องเสียขี้ราดเยี่ยวราดเปลี่ยนทิ้งกันไม่หวาดไม่ไหว ไอ้คีมันเคยซื้อให้ย่ามันใช้แต่ย่ามันไม่ชอบใช้ว่าแพงสิ้นเปลือง พอเงินหมดไม่ได้ใส่ผ้าอ้อมก็เลอะเทอะนั่งกระโถนไม่ทันพ่อแม่มันอยากร่ำอยากรวยซื้อตึกผ่อนตึกหลังใหญ่เงินเลยเหลือน้อยที่ส่งให้ลูกกับแม่ ไอ้คีมันเลยเงินไม่พอใช้ ไปหารับจ้างทำงานอะไรก็ไม่ได้เพราะต้องเรียนหนังสือคอยอาบน้ำเช็ดตัวให้ย่ามัน เช็ดถูทำความสะอาดบ้านตลอด มีผู้ชายเคยมาชอบมัน มาหายันบ้านพอได้เห็นสภาพบ้านเลอะขี้เลอะเยี่ยวของย่ามันแล้วก็ไม่มาอีกเลยบุญดีที่ไอ้เคียวมันยังไม่นึกรักชอบผู้ชายเลยไม่ต้องเสียใจ ลุงชายเล่ายาวท้าวความหลังให้ฟัง ผมเข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงยังไม่มีแฟน ชีวิตที่ขื่นขมยากลำบากมาอย่างยาวนานส่งผลให้เธอมีนิสัยเงียบขรึมกว่าผู้หญิงสาวโดยทั่วไป และเธอดูจะไม่ค่อยคาดหวังกับเรื่องความรัก อิ่มแล้ว ลุงกลับบ้านล่ะ ขอบใจที่เลี้ยงข้าวนะไอ้คี ญาติของเธอลากลับไปแล้ว ..........เหลือเราสองคน ผมรีบกอดติด พูดปลอบใจเธอ หนูคีอย่าคิดมากเลยสักวันเธอต้องเจอคนรักจริงเพราะเธอเป็นคนดีและยังสาวยังสวย ช่างมันเถอะ จะยังไงก็ช่างลุงชายพูดถูกแล้วเขาหวังดีและเป็นห่วงฉันเสมอ พี่เคียวปล่อยฉันเถอะ เธอบอก พร้อมกับพยายามแกะมือผมที่เหนียวเหนี่ยวรัดตัวเธอไว้ดังงูจงอางหวงไข่ บอกไว้ก่อนถ้าโดนผมเกาะติดล่ะแกะออกยาก เสร็จผมแน่ ไม่มีใครมาห้ามปรามหรืออยู่เป็นกขค.แล้วตรงนี้ห่างตัวตึกใหญ่ แม่ผมคงไม่ตื่นมาช่วยหนูคี ความคิดของผมมาพร้อมกับผลักเธอให้ตกอยู่ภายใต้เรือนร่างใหญ่โตกว่าของผม จุ๊บ... จุ๊บ... ผมหอมแก้มนุ่มของสาวน่ารักทั้งซ้ายขวาไปสองที ...ชื่นใจ เธอดิ้นใหญ่... โดนผมคร่อมทับอยู่และยังกอดรัดแน่น ทำให้เธอดิ้นไม่หลุด พี่เคียวทำอะไรน่าเกลียด หมามันนั่งมองอยู่ตั้งหลายตัวอายมันบ้างสิพี่เคียว โฮ่ง... โฮ่ง... สุนัขส่งเสียงเห่าเหมือนมันอยากจะถามว่าเราสองคนเล่นอะไรกัน ผมเผลอตัวหันไปมองพวกมัน ไม่ทันระแวงระวังตัวเองเลย เท่านั้นล่ะร่างผมได้กระเด็นกลิ้งตกลงจากแคร่ ลงมาอยู่บนพื้นดินเสื้อผ้าเลอะเศษดินแห้งๆ ผมต้องลุกขึ้นมาปัดๆ ไม่ใช่โดนอะไร แค่โดนเท้าของสาวน่ารักยันออกมา ทำไมถึงทำกับผมได้ คนใจร้าย ผมต่อว่าเธอ เธอหันมาแลบลิ้นหลอกและกล่าวเยาะเย้ย สมน้ำหน้า ...ไปล่ะ . |
สมาชิกหมายเลข 2795671
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] นามปากกา... ไตรติมา เขียนนิยายหลากหลายแนว รักหญิงชาย วาย Yaoi LGBTQ ผี แฟนตาซี Sci-fi ดราม่า คอมเมดี้ ฯลฯ
Group Blog All Blog
Friends Blog Link
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |