ธันวาคม 2563

 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
29
30
31
 
 
All Blog
เหมียว เหมียว เหมียว แมวน้อยอลเวง จวี๋ฮวาซั่นหลี่ เขียน


15/12/2020


 



 
 
 

เหมียว เหมียว เหมียว แมวน้อยอลเวง (4 เล่มจบ) 

จวี๋ฮวาซั่นหลี่ เขียน  พริกหอม แปล 

สำนักพิมพ์แจ่มใส  แนวมากกว่ารัก 

1,316 บาท  1,624 หน้า 

 

#แปลจีน #นิยายแปล #นิยายชายหญิง #เหมียวเหมียวเหมียวแมวน้อยอลเวง #จวี๋ฮวาซั่นหลี่ #แจ่มใส #รีวิวนิยาย #ออโอ



 

หลังปก 

 

เพียงพลัดตกจากที่สูง พรากจากเจ้านายผู้เป็นที่รัก ‘ฮวาเหมียวเหมียว’ ก็ต้องก้าวเข้าสู่โลกที่ไม่รู้จัก ที่นี่อีกา สุนัขกลายร่างเป็นคนได้ คนส่องแสงประกายบินว่อน ปลาในน้ำก็เป็นสาวงาม 

  

ใคร ๆ ก็บอกว่านางเป็นปีศาจแมว แต่ผิดแล้ว! เหมียวเหมียวเป็นแค่แมวนะ! อยากนึกแค่ว่าชีวิตนี้จะมีปลาให้กินหรือไม่ มีที่ให้นอนผึ่งพุงอาบแดดหรือเปล่า 

  

จนวันหนึ่งนางได้พบกับคนที่มีหน้าตาเหมือนเจ้านาย ผู้อื่นเรียกเขาว่า ‘เทพปี้ชิง’ คนผู้นั้นไม่เพียงรับนางเป็นลูกศิษย์ แต่ยังบงการในเรื่องอื่น ๆ ทั้งจับแมวอาบน้ำเย็น บังคับให้ไปเล่าเรียนหนังสือ 

  

ไม่อนุญาตให้นางเปลื้องผ้าต่อหน้าผู้อื่น ไม่ให้ไปคลอเคลียออดอ้อน หรือนั่งตักใครอื่นนอกจากเขา เอาเถิด ถึงเขาจะมีกฎมากมาย แต่การได้กระโดดขึ้นเตียง นอนข้างๆ เขาทุกคืน ก็ทำให้แมวนอนหลับได้สนิท แต่ไฉนอาจารย์ถึงได้โมโหทุกครั้งที่นางกระโดดขึ้นเตียงเขาเล่า! 

 



 

คุยกันหลังอ่าน 

 

ตอนอ่านตัวอย่างโอคิดว่าเรื่องนี้น่าจะสนุกดีนะ อยากลอง แม้ว่าจะมีมุกทะลึ่งตึงตังที่โอไม่ค่อยชอบนักอยู่พอสมควร อารมณ์แบบการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีมุกสาวผ้าผ่อนหลุดน่ะ   

 

แต่พออ่านจริง ส่วนที่ไม่ค่อยชอบมันมีอยู่มากกว่าที่คิด 

 

อันดับแรก นางเอกเปลืองตัวเหลือเกิน อย่างที่บอกไปว่าเรื่องนี้เล่นมุกผ้าผ่อนหลุดบ่อย ๆ  มุกคลุกวงในก็ค่อนข้างมากเกินไป ส่วนตัวโอเป็นคนที่ค่อนข้างหวงนางเอก ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับจิ้นไม่จิ้น แต่หมายถึงโอไม่ค่อยชอบให้พระรองหรือคนอื่นมาทำรุ่มร่ามกับนางเอกมากเกินไป ซึ่งเรื่องนี้ มันมากเกินขอบเขตของโอ  

 

อันดับสอง โอไม่ชอบให้ตัวนางเอกเป็นศูนย์กลางของเรื่อง ในที่นี้คือทุกคนชอบ ทุกคนเอาใจ โลกหมุนรอบตัวนาง ยิ่งถ้าตัวนางเอกไม่มีศักยภาพพอที่จะทำให้ทุกอย่างหมุนรอบตัว โอจะรู้สึกขัดแย้งตลอด เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ฮวาเหมียวเหมียวเป็นตัวป่วน ทุกคนบอกว่านางน่ารัก ใสซื่อ ซึ่งก็จริงส่วนหนึ่ง แต่โอว่ามันยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้ทุกคนรักและเอาใจขนาดนั้น อ่านไปก็ขัดแย้งไป เหมือนเขาเขียนว่าน่ารัก แต่เราไม่รู้สึกว่าน่ารักนั่นแหละ 

 

อันดับสาม เรื่องมีความจับฉ่าย จับนู่นผสมนี่ เหมือนหยิบเอาส่วนผสมประหลาดมายำรวมมิตรกัน อย่างเรื่องนี้ก็คือ นางเอกเป็นแมวจริง ๆ ในโลกยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติเข้ามาในโลกเทพเซียนยุคโบราณ ส่วนผสมก็คือ แมวที่ไม่มีความคิดแบบมนุษย์ โลกเทพเซียนที่มีพลัง และโลกยุคปัจจุบันเทคโนโลยีล้ำสมัย 

 

เหล่านี้มันคือส่วนที่โอไม่ชอบ แต่ทันทีที่รู้สึกว่าอ่านแล้วอึดอัด มันก็จะมีส่วนที่คิดว่าโอเคโผล่เข้ามา เป็นอย่างนี้ทั้งเรื่อง เพราะฉะนั้นจะบอกว่าไม่ชอบทั้งหมดก็ไม่ใช่ มันก็มีส่วนที่คิดว่าน่ารัก คิดว่าดี  

 

ช่วงสองเล่มแรก เรื่องแบบง่าย ๆ สบาย ๆ ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปกับเหมียวเหมียวและโลกของเธอ โอกำลังจะมาบอกทุกคนว่า เรื่องแนวเทพเซียนเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นตรงไม่มีดราม่าแหละ ทันใดนั้น ดราม่าก็มาทันทีค่ะ สองเล่มหลังเป็นช่วงวิบากกรรมของเหมียวเหมียวก็ว่าได้ แต่โชคดีที่นางมีคนที่รักและเอาใจใส่อยู่เคียงข้าง แถมเหมียวเหมียวไม่ค่อยมีอารมณ์คร่ำครวญเสียใจเหมือนมนุษย์ ความรู้สึกนางจะตรง ๆ อยากทำอะไรก็จะทำ ซื่อบ้าง โง่บ้างไปตามเรื่อง ตรงนี้เป็นเสน่ห์ของนางที่ทำให้ทุกคนในเรื่องเอ็นดูหรือหลงรักละ 

 

ช่วงในโลกปัจจุบันเป็นช่วงที่โอไม่ชอบที่สุดก็ว่าได้ มันมีส่วนประกอบที่โอไม่ชอบอยู่มากเกินไป แม้สุดท้ายผู้เขียนจะพลิกกลับมาเฉลยว่าเป็นอีกแบบก็ตาม แต่เพราะนำเสนออย่างนั้นมาเกินครึ่ง จึงทำให้ติดภาพจำมาไม่ดี อ่านแล้วมีส่วนที่ทำให้อึดอัดค่อนข้างมาก 
 

 

อ้อ ความรักในเรื่องนี้โอค่อนข้างรู้สึกแปลกอยู่บ้าง โอไม่รู้ว่าเทพปี้ชิงรักเหมียวเหมียวตอนไหน หรือยังไง เทพปี้ชิงค่อนข้างให้ภาพที่ต่างจากเทพเซียนเรื่องอื่น ๆ คือเขาไม่ได้ทำตัวบริสุทธิ์เหนือกิเลส ค่อนข้างทำตัวเป็นคนปกติทั่วไป (และน่าจะเป็นทาสแมวด้วย) อาจเพราะเรื่องเป็นแนวคอมเมดี้เป็นหลัก อย่าไปนึกเรื่องความสมจริงสมจังนัก ความรักโอเข้าไม่ค่อยถึงในจุดเริ่มต้น แต่การพิสูจน์ความรัก หรือบททดสอบความรักของทั้งคู่นั้นทำได้ค่อนข้างดี 

 

 

สิ่งที่โอชอบมากที่สุดน่าจะเป็นบรรดาพรรคพวกเทพเซียนปีศาจสิงสาราสัตว์ เวลาแปลงร่างเป็นสัตว์แล้วเกิดภาพที่น่าเอ็นดู เวลาสุมหัวกันทำเรื่องป่วนก็ฮา ๆ โอชอบกระต่าย ลั่วลั่วหรือเปล่าจำชื่อไม่ได้ กับอิ๋นจื่อ  กระต่ายขาวขี้กลัวกับคนแปลกหน้า แต่ความจำดี ไหวพริบเลิศ อิ๋นจื่อเป็นอีกาขาวที่ร่างแปลงหน้าสวยจนนึกว่าผู้หญิง (ผู้เขียนเลยจับอิ๋นจื่อมาแกล้งบ่อยครั้ง) อีกาชอบเพชรนิลจินดา ของแวววาวมีราคาทั้งหลาย  

 

โดยรวมเป็นเรื่องแนวคอมเมดี้ ที่จะว่าไร้สาระก็ไม่เชิง มีสาระก็ไม่ใช่ คือมันมีพล็อตอยู่ และค่อนข้างเก็บได้ครบถ้วน มีจุดดึงอารมณ์ที่ทำได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีองค์ประกอบประหลาด ๆ อยู่เยอะ มีความพยายามปล่อยมุกมาระหว่างบทระหว่างบรรทัดพอสมควร ฮาบ้าง ไม่ฮาบ้างไปตามเรื่อง ชอบความพยายามที่จะโยงคำว่าแมวมาในสำนวนต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง ถ้าชอบแมวน่าจะลองเรื่องนี้ดู โอก็ไม่ยืนยันนะว่าอ่านแล้วจะถูกใจไหม แต่รู้สึกเห็นความพยายามของคนเขียนในการจะโยงแมวให้เป็นตัวเอกในทุกบทบาทดี (เพราะนางเอกเป็นแมวที่เชื่อว่าแมวนั้นดีและน่ารักที่สุดไง!) 

 

โอว่าเรื่องค่อนข้างยืด ถ้าเล่าแบบกระชับนี่ว่าจบได้ในสองเล่ม แต่ช่วงที่ว่ายืดก็เป็นส่วนที่สามารถใส่มุกใส่ตัวละครเข้ามาสร้างสีสัน ถ้าชอบก็จะอ่านเพลินได้อยู่ 

 

มีการจับเรื่องไซอิ๋วมาใส่ด้วย ส่วนนี้อันที่จริงแง้มมาตั้งแต่หน้าแรกของบทแรกเลย (ที่ว่าเรื่องของฉันไม่โด่งดังเท่า ‘ไซอิ๋ว’ ‘ตำนานนางพญางูขาว’ และ ‘โปเยโปโลเย’ ) โอไม่ใช่แฟนไซอิ๋ว แต่ก็รู้จักซุนหงอคง พระถังซำจั๋ง และตือโป๊ยก่าย 

 

3 ดาว 

 

อ่านตัวอย่าง คลิก

รูปเล่ม 1 2 3 4 

 

 

ถ้าอยากอ่านเรื่องย่อ โอเล่าเรื่องหลักคร่าว ๆ ซึ่งสปอยล์แหละ อยู่ข้างล่างนะคะ 

 

 

***Spoiler Alert*** 

 

มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง อาจทำให้เสียอรรถรสในการอ่าน 

 

 

ลากเมาส์ค้างไว้ยาว ๆ หรือกด ctrl+A 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นางเอกชื่อฮวาเหมียวเหมียว เป็นแมวสามสีในโลกปัจจุบันที่ร่วงตกตึกตายแล้วทะลุมิติไปเข้าร่างปีศาจแมวในโลกโบราณที่มีเทพเซียน ด้วยความที่เป็นแมวจริงไม่ใช่เก๊ นางก็จะไม่มีสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ อะไรที่คนปกติทำนางไม่เข้าใจหรอก นางเป็นแค่แมว หิวก็กิน ว่างก็นอน ยิ่งช่วงแรก เสื้อผ้าก็ไม่ค่อยอยากใส่ มุกผ้าผ่อนหลุดเลยถี่มาก เจ้าของร่างที่ฮวาเหมียวเหมียวไปอาศัยเป็นปีศาจแมวที่สวยมากและเก่งมาก นางมีพลังเยอะ พอฮวาเหมียวเหมียวไม่พอใจก็ซัดปีศาจอื่นปลิวกระจาย ปีศาจแมวมีลูกน้องเป็นปีศาจอีกาขาวชื่ออิ๋นจื่อ เป็นน้องสาวบุญธรรมของจอมมารวัวกระทิงที่เป็นสามีของหลัวช่า ช่วงแรก ๆ เป็นช่วงที่เหมียวเหมียวใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเฉื่อย ปกครองภูเขาแห่งหนึ่งในแดนมนุษย์ ทั้งอิ๋นจื่อ จอมมารวัวกระทิง และหลัวช่า ต่างเข้าใจว่านางสมองกระทบกระเทือน พยายามสอนเรื่องทั่วไปให้เหมียวเหมียว แต่เหมียวเหมียวเป็นแมวที่ไม่อยากเข้าใจความเป็นมนุษย์ ส่วนใหญ่ก็เลยไม่มีอะไรเข้าหัวนัก จนกระทั่งวันหนึ่ง เทพปี้ชิง ซึ่งเป็นเทพสงคราม ปราบปีศาจร้ายมาถึงภูเขาที่เหมียวเหมียวอาศัยอยู่ และตัดสินใจพานางขึ้นสวรรค์ รับนางเป็นศิษย์ เทพปี้ชิงหน้าตาคล้ายเจ้านายเก่าของเหมียวเหมียวสมัยที่นางเป็นแมว เหมียวเหมียวเลยรู้สึกผูกพันและอยากใกล้ชิดกับเทพปี้ชิงเป็นพิเศษ พอขึ้นไปบนสวรรค์ วันแรกที่เทพปี้ชิงพาเหมียวเหมียวมา คนอื่นในวังก็ตกใจ แต่ไม่นานก็รู้ว่าเทพปี้ชิงตามใจเหมียวเหมียวมาก จึงได้แต่ทนยอมนาง ไม่ว่าเหมียวเหมียวจะป่วน จะไม่รู้เรื่องรู้ราวขนาดไหน หลายครั้งที่นางพลั้งมือทำร้ายบรรดาสาวใช้ในวังเสวียนชิงเพราะควบคุมพละกำลังไม่ได้ ทำลายทรัพย์สินของเทพปี้ชิง แต่ทุกคนก็จำต้องยอมเหมียวเหมียวเพราะเทพปี้ชิงตามใจเหมียวเหมียวมาก และก็ตามประสาแมวที่ไม่รู้ธรรมเนียมชายหญิง แมวอย่างเหมียวเหมียวอยากเข้าไปนอนเตียงเทพปี้ชิง เดือดร้อนท่านเทพต้องไล่นางออกมา ได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วงนี้ผู้เขียนให้เหมียวเหมียวเรียนรู้วิธีอยู่ร่วมกับมนุษย์ ให้นางรู้จักคิดเผื่อผู้อื่น รู้จักขอโทษ รู้ผิดชอบมากขึ้น เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เหมียวเหมียวเลยได้เป็นเพื่อนกับสาวใช้ในวังของเทพปี้ชิง ต่อมาเทพปี้ชิงรู้สึกว่าถ้าตนส่งเหมียวเหมียวไปเรียนกับเหล่าเซียน (เด็ก ๆ ) ก็น่าจะทำให้เหมียวเหมียวรู้เรื่องมากขึ้น เลยส่งนางไปเรียน เหมียวเหมียวเลยได้ผูกมิตรเพิ่มกับเซียนเด็ก ๆ เหล่านั้น แน่นอนว่ามีเรียนย่อมต้องมีสอบ เหมียวเหมียวต้องลงไปทำภารกิจในแดนมนุษย์ หาเงินกลับมาหนึ่งพวง ช่วงนี้เหมียวเหมียวก็จะได้รู้จักคนและปีศาจเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ เหมียวเหมียวได้รู้จักองค์ชายสามแห่งวังมังกรที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้อย่างเอ๋าอวิ๋น และโม่หลินที่เป็นหมอในแดนสวรรค์และเป็นเพื่อนกับเทพปี้ชิง  

 

จะเห็นว่าตัวละครเยอะมาก ทั้งเทพเซียนและปีศาจ แต่ละคนแต่ละผู้ก็จะมีร่างจริง เป็นพืชบ้าง สัตว์บ้าง อย่างเหมียวเหมียวเป็นแมว เทพปี้ชิงมีร่างจริงเป็นงู อะไรอย่างนี้  

 

วันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โม่หลินรู้ว่าเทพปี้ชิงชอบเหมียวเหมียว เลยยุให้ขอนางแต่งงาน เทพปี้ชิงก็เลยทำตาม ปรากฏว่าเหมียวเหมียวตกลงทั้งที่นางยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องชายหญิงหรือความรักนัก แต่เหมียวเหมียวรู้สึกว่าอยู่กับเทพปี้ชิงที่นางชอบก็ดี งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่จึงจัดขึ้น เทพปี้ชิงดีใจมาก เหลืออีกไม่กี่วันจะเป็นวันแต่งงาน เทพปี้ชิงกับเหมียวเหมียวก็มีอะไรกัน แต่เรื่องเพิ่งจะมาถึงครึ่งทางเอง ยังไม่จบง่าย  ๆ วันแต่งงานจึงมีเรื่องเกิดขึ้น ศัตรูจากแดนปีศาจบุกงานแต่งงาน ชิงตัวเหมียวเหมียวไป เทพปี้ชิงช่วยเหลือเหมียวเหมียวจนตัวเองต้องตาย ตอนนั้นเหมียวเหมียวช็อกไปเลย จึงนึกเรื่องที่เทพปี้ชิงเคยเอ่ยถึงพระบรมศาสดา จึงขอร้องให้เอ๋าอวิ๋นพานางไปหาท่าน แต่แค่รู้ทางยังไม่พอ ต้องอาศัยแรงใจที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าจึงจะได้พบ ซึ่งเหมียวเหมียวนั้นมี นางวิงวอนขอร้อง ในที่สุดพระบรมศาสดาจึงบอกว่า ที่ภูเขาที่เหมียวเหมียวเคยอาศัยอยู่ในแดนมนุษย์นั้นมีหินที่มีน้ำหยดอยู่ วันใดที่น้ำหยดจนหินทะลุ วันนั้นเทพปี้ชิงจะได้กลับมา ตั้งแต่นั้นเหมียวเหมียวจึงย้ายลงไปลงหลักปักฐานที่หินก้อนนั้น มีบรรดาคนใกล้ชิดสนิทสนมลงไปเป็นเพื่อนนาง และตอนนั้น เหมียวเหมียวก็ท้องลูกของเทพปี้ชิงแล้ว เวลาผ่านไปหลายร้อยปี เหมียวเหมียวคลอดลูกชายชื่อเสี่ยวเมา (มีร่างจริงเป็นแมวดำ เท้าสีขาว) ที่เฉลียวฉลาดคนหนึ่ง ตอนนั้นเสี่ยวเมาอยู่ในวัยกำลังซุกซน และต่อต้านพ่อที่แม่ยึดมั่นไม่เสื่อมคลายคนนั้น จึงก่อเรื่องทำลายหินที่เหมียวเหมียวเฝ้าให้ทะลุก้อนนั้น ตอนที่เหมียวเหมียวช็อกอีก เพื่อนปีศาจที่เฉลียวฉลาดจึงนึกคำอธิบายว่า นี่ไง หินแตกก็คือหินทะลุแล้ว เพราะฉะนั้นเดี๋ยวเทพปี้ชิงต้องกลับมาแน่นอน เหมียวเหมียวก็เชื่อ และวันนั้น นางก็ดันเจอมนุษย์คนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายเทพปี้ชิงมากคนหนึ่งเข้าจริง ๆ  เหมียวเหมียวมั่นใจมากว่านั่นคือเทพปี้ชิงของนาง แม้เขาจะเป็นมนุษย์และไม่มีความทรงจำเดิมเลย เพื่อนปีศาจที่มาอยู่กับเหมียวเหมียวจึงรวมหัวกันคิดแผน ให้สองคนนี้ได้แต่งงานกัน (ตลกตรงที่อันที่จริงเพื่อนปีศาจก็ไม่ค่อยจะเชื่อว่านั่นคือเทพปี้ชิงนัก แต่บอกว่า ประเด็นคือเหมียวเหมียวเชื่อ งั้นก็ต้องเป็นไปตามนั้น) การทำให้สองคนนี้ตกร่องปล่องชิ้นกันนั้นเป็นเรื่องยากพอดู เพราะคนหนึ่งเป็นปีศาจแมวโง่ อีกคนเป็นมนุษย์ที่ปราบปีศาจเป็นงานหลักแถมยังมีนิสัยทึมทื่อ แต่ในที่สุดงานก็สำเร็จจนได้ ช่วงนี้ก็จะเห็นความป่วนของผองเพื่อนเหมียวเหมียวและตัวเหมียวเหมียวเองที่พยายามสุดฤทธิ์กับแผนการ บวกกับตัวละครใหม่อย่างเสี่ยวฉาที่เป็นคนยุคปัจจุบันที่ทะลุมิติมาอีกคน (ตอนอ่านนี่แบบ... อะไรเนี่ย) แต่อย่าลืมว่ามนุษย์มีข้อจำกัดเรื่องอายุขัย ในที่สุดเทพปี้ชิงในภาคมนุษย์นั้นก็ตาย หลังจากนั้น เหมียวเหมียวจึงใช้ไฟสวรรค์ (มีชื่อแต่โอจำไม่ได้) เผาทั้งบ้านทั้งคนตามเทพปี้ชิงไป เพราะเมื่อไม่มีเทพปี้ชิงแล้ว เหมียวเหมียวก็รู้สึกว่าไม่รู้ว่าตนเองจะอยู่ต่อไปทำไม สู้ลงไปเกิดใหม่เป็นเพื่อนเทพปี้ชิงดีกว่า  

 

ต่อไปจึงเป็นภาคของแดนมนุษย์ในยุคปัจจุบัน แวบเดียว  เหมียวเหมียวใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาธรรมดาหน้าตาไม่โดดเด่นเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ จนเข้ามหาวิทยาลัยปีสอง ตอนนี้เองที่โลกพลันผลิกหมุน เพราะอยู่ ๆ ก็เจอเรื่องประหลาด บรรดาพรรคพวกเทพเซียนปีศาจผลัดกันมาทักทาย รวมถึงเอ๋าอวิ๋น เสี่ยวเมา และเทพปี้ชิงของนางที่เป็นมนุษย์ในภาคนี้ และเรื่องก็เฉลยว่า ปี้ชิงภาคมนุษย์ที่เป็นเทพปี้ชิงกลับมาเกิดนี้ เป็นเจ้าของฮวาเหมียวเหมียว แมวสามสีที่ตกตึกตายในบทแรก ซึ่งกลายมาเป็นเหมียวเหมียวในปัจจุบัน ก็คือสถานการณ์ที่หมุนบรรจบเชื่อมต่อหัวหางเข้าด้วยกันนั่นเอง 

 

เรื่องจบได้สุขสันต์ชื่นมื่น (กว่าที่คิด) 

 

เรื่องนี้มีตอนพิเศษสองตอน ตอนแรกเป็นของเอ๋าอวิ๋น ตอนที่สองเป็นของอิ๋นจื่อ ซึ่งเป็นตอนที่อีกาขาวได้รู้จักปีศาจแมว เจ้าของร่างที่แท้จริงที่เหมียวเหมียวไปอยู่ ตอนนี้เราจะได้รู้จักเจ้าของร่าง เป็นการเฉลยบางอย่าง (แต่ก็ไม่ทั้งหมด) โอชอบที่เรื่องเอ่ยถึง ไม่งั้นคงงงเหมือนกันว่า ถ้าแมวมาอยู่ในร่าง แล้วเจ้าของร่างเดิมล่ะไปไหน 




 




 




Create Date : 15 ธันวาคม 2563
Last Update : 3 กรกฎาคม 2564 13:11:06 น.
Counter : 1845 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณSai Eeuu, คุณnewyorknurse

  
นิยายแนวแมวทะลุมิติแบบนี้ ดูแปลกมากเลยค่ะ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 17 ธันวาคม 2563 เวลา:1:34:02 น.
  
คุณ Sai Eeuu พล็อตขอบคนแต่งคนนี้ค่อนข้างแปลก แหวกแนวดีค่ะ ขอบคุณที่โหวตให้บล็อกโอด้วยนะคะ

ขอบคุณคุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurseที่โหวตให้โอด้วยค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 18 ธันวาคม 2563 เวลา:12:07:49 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments