18/7/2019

#นิยายแปล #แปลอังกฤษ #หุ่นยนต์ผจญภัยในป่ากว้าง #TheWildRobot #หุ่นยนต์หนีภัยในเมืองใหญ่ #TheWildRobotEscapes #PeterBrown #UniversalPublishing #รีวิวนิยาย #รีวิวหนังสือ #ออโอ
.

หุ่นยนต์ผจญภัยในป่ากว้าง  The Wild Robot 

Peter Brown เขียน  วัชรวิชญ์ แปล 

สำนักพิมพ์ Universal Publishing 

240 บาท  247 หน้า 

คุยกันหลังอ่าน 

โอว่าเรื่องนี้เหมาะสำหรับเป็นหนังสือที่คุณแม่อ่านให้ลูก หรือผู้ปกครองอ่านให้เด็กฟัง หรือเป็นหนังสือเล่มแรก ๆ ที่เด็ก ๆ หัดอ่าน วัยที่เหมาะสมโอคิดว่าอยู่ในช่วงประถม ซึ่งพออ่านรางวัลที่ได้รับ ก็จริง ๆ หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนังสือขายดี หนังสือเด็กดีเด่น หรือหนังสือเด็กประถมปลายดีเด่น  

จะบอกให้ว่าทำไมโอถึงคิดอย่างนั้น  

ภาพรวมก่อน ตัวหนังสือมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เด็กสามารถหัดอ่านได้ง่าย มีภาพประกอบน่ารักชวนอ่าน จำนวนคำต่อบทไม่เยอะ เด็กอ่านแล้วจะไม่รู้สึกถอดใจที่จะอ่าน  

ด้านเนื้อหา เนื้อหาเป็นเรื่องราวผจญภัยของหุ่นยนต์และสัตว์ต่าง ๆ เขียนได้น่าติดตาม ใช้ภาษาที่ไม่ยากแต่สามารถเห็นภาพได้ดี มีคำที่หลากหลาย ได้คลังคำศัพท์เพิ่ม มีเนื้อหาสอดแทรกคำสอนให้เด็กเข้าใจและสามารถคิดตามในหลายด้าน 

เรื่องเล่าถึงหุ่นยนต์ตัวหนึ่งซึ่งรอดจากเหตุการณ์เรือบรรทุกสินค้าล่ม และโดนพัดพาเข้าไปในเกาะที่เต็มไปด้วยสรรพสัตว์ หุ่นยนต์ลืมตาตื่นขึ้นและพยายามเรียนรู้การเอาตัวรอด หุ่นยนต์ศึกษาธรรมชาติของสัตว์ต่าง ๆ เข้าใจภาษาสัตว์ จนสามารถสื่อสารกันได้ แต่พวกสัตว์ต่าง ๆ ก็ยังไม่ไว้ใจ จนกระทั่งหุ่นยนต์ได้รับเลี้ยงลูกห่านเพิ่งฟัก หุ่นยนต์กลายเป็นแม่ห่าน เหตุการณ์นี้จึงเป็นเหมือนกาวประสานที่ช่วยให้สัตว์ต่าง ๆ เข้าใจและยอมรับหุ่นยนต์ จากลูกห่านตัวน้อยที่เพิ่งฟัก ค่อย ๆ เติบโตเป็นห่านหนุ่ม แต่แล้วหุ่นยนต์ก็ถูกจับตัวไป 

ในเล่มแรกเหตุการณ์จบลงเช่นนี้ แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่สอดแทรกเข้ามาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของชีวิต ธรรมชาติ การเอาตัวรอด การใช้ชีวิตในสังคม การมีน้ำใจ การให้อภัย ความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชีวิต และความเหมือนของหุ่นยนต์กับสัตว์ สิ่งที่โอประทับใจเป็นพิเศษคือเขาสอนเรื่องการตายว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ สัตว์ต่าง ๆ มีเกิดแล้วก็ตาย ไม่ว่าจะตายโดยธรรมชาติ ตายจากภัยธรรมชาติ หรือตายจากการวัฏจักรชีวิตโดยผู้ล่า โดยไม่ได้ใช้น้ำเสียงน่ากลัว ความตายจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรกลัว แต่เป็นเรื่องจริงที่ทุกสิ่งมีชีวิตต้องประสบในที่สุด และหลาย ๆ ครั้งสิ่งที่เหลือจากความตายก็สามารถก่อประโยชน์ให้ผู้ที่อยู่ต่อไปได้ ชอบธรรมชาติในเรื่อง ธรรมชาติของฟ้า ของน้ำ ของฤดู ของสัตว์ โอชอบคำศัพท์ในเรื่องด้วย หลายหลายอย่างเหมาะสม 

จากบางตอนในเล่ม 1 

. 

. 

. 
 

รอซยืนบนนยอดเขา มองดวงอาทิตย์ตกจมมหาสมุทร มองความมืดค่อย ๆ แผ่คลุมเกาะขึ้นมาถึงข้างภูเขา เธอเฝ้ามองดาวฉายแสงทีละดวงจนท้องฟ้ามีจุดแสงเกลื่อนกลาดนับล้าน นี่เป็นคืนแรกในชีวิตของหุ่นยนต์ 

เธอเปิดไฟส่องทาง ทันใดนั้นลำแสงจ้าจากดวงตาก็สาดส่องทั่วทั้งยอดเขา สว่างจ้าเกินไป เธอลดแสงให้สลัว แล้วจึงปิด นั่งลงในความมืด ฟังเสียงหรีดหริ่งระงมยามราตรี 

ผ่านไปสักพัก สมองกลของหุ่นยนต์ก็ตัดสินใจว่าได้เวลาประหยัดพลังงาน เธอจึงนั่ง เอามือยึดหินไว้ ปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น แล้วหุ่นยนต์ก็หลับแบบหุ่นยนต์ 

หน้า 33  บทที่ 11 หุ่นยนต์หลับ 
 

. 

. 

. 
 

น้ำหยด น้ำไหลริน น้ำไหลหลาก ในที่สุดแผ่นหิมะและน้ำแข็งก็เริ่มละลาย สีขาวหายไป เผยให้เห็นสีเทาและสีน้ำตาลที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ ยอดเขียวเล็ก ๆ ปรากฏทุกหนแห่ง ดอกไม้สีสดเป็นกลุ่มงอกจากดิน ไม้ช้าเกาะจะมีกลิ่นหอมฟุ้งและสีสันสวยงาม ในที่สุดก็ถึงฤดูใบไม้ผลิ 

ผู้พักพิงกลับบ้านของตน ผู้จำศีลโผล่จากที่ซ่อน รอซท่องทั่วเกาะ ทักทายนาก หมี และเพื่อน ๆ ที่เธอคิดถึง แล้วจึงกลับบ้านไปทำสวน หลังจากฤดูหนาวทารุณที่สุดที่แต่ละตัวจำได้ ชีวิตค่อย ๆ กลับดำเนินไปตามปกติ 

ทว่า ฤดูใบไม้ผลินี้เงียบ มีแมลงบินหึ่ง ๆ น้อยลง นกร้องน้อยลง หนูวิ่งปรูดปราดน้อยลง สัตว์มากมายแข็งตายในฤดูหนาว เมื่อหิมะละลายหมดจึงค่อย ๆ เห็นซากสัตว์ บางครั้งป่าดงพงไพรก็ช่างน่าชัง แต่ความน่าชังนั้นก็ทำให้เกิดความงามน่าชม สัตว์น่าสงสารที่ตายไปกลับคืนสู่ดิน ร่างเป็นปุ๋ยให้ดินซึ่งส่งต่อให้ดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิงามที่สุดเท่าที่เกาะเคยเห็น 

หน้า 178  บทที่ 59 ฤดูใบไม้ผลิ 

===================================================== 

หุ่นยนต์หนีภัยในเมืองใหญ่  The Wild Robot Escapes 

Peter Brown เขียน  วัชรวิชญ์ แปล 

สำนักพิมพ์ Universal Publishing 

240 บาท  252 หน้า 

คุยกันหลังอ่าน 

เล่มนี้เป็นเรื่องราวต่อจากเล่มแรก หลังจากหุ่นยนต์ในป่าถูกจับไปแล้วเกิดอะไรขึ้น  

หุ่นยนต์ถูกซ่อมแซม จากนั้นก็กลับไปทำหน้าที่ที่ควรจะทำอีกครั้ง คือช่วยเหลือมนุษย์  

หุ่นยนต์กลายเป็นหุ่นยนต์อีกครั้ง ต้องทำงานในฟาร์ม แต่เธอไม่เคยหลงลืมเรื่องบนเกาะและลูกของเธอ หุ่นยนต์ต้องการหนีเพื่อกลับบ้าน แต่ตัวเธอเพียงลำพังไม่สามารถหนีไปได้ หุ่นยนต์จึงต้องขอความช่วยเหลือ สัตว์ต่าง ๆ ในฟาร์มได้ฟังเรื่องของเธอ เรื่องของหุ่นยนต์ที่มีลูกเป็นห่านถูกเล่าขานเป็นทอด ๆ เหล่าสัตว์มากมายที่ฟังแล้วประทับใจและต้องการช่วยเหลือ ลูกห่านและหุ่นยนต์กลับมาพบกันอีกครั้ง ที่เหลือก็คือกลับบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องผจญภัยครั้งใหญ่ทีเดียว 

เล่มนี้ต่างจากเล่มแรก ฉากกลายเป็นเมือง มีมนุษย์เข้ามาเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้อง เมืองที่มีหุ่นยนต์ช่วยเหลือกลายเป็นอย่างไร หุ่นยนต์ผจญภัยเป็นหุ่นยนต์ที่ชำรุดจริงหรือไม่ หุ่นยนต์จะได้กลับบ้านหรือไม่ ถ้าได้ อย่างไร 

ส่วนตัวโอชอบฉากในเล่มแรกมากกว่า มีเกาะ มีสัตว์น้อยใหญ่ แต่เล่มนี้ก็ทำให้เรื่องราวเป็นภาพใหญ่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เห็นการช่วยเหลือ ความร่วมมือเกื้อกูลกัน และก็ยังคงมีการผจญภัยที่ตื่นตา ที่สำคัญคือบทสรุปประทับใจ 

โดยรวมเป็นเรื่องที่อ่านสนุก แม้จะไม่ใช่เรื่องที่อ่านแบบไม่หลับไม่นอนหรือคาดเดายาก แต่ก็เป็นเรื่องที่อบอุ่นและถ่ายทอดสิ่งดี ๆ ออกมา มีคำถามให้ฉุกคิด มีภาพประกอบน่ารัก (ซึ่งผู้เขียนเป็นผู้วาดด้วย เก่งจัง!) เหมาะสมกับเด็ก ดีต่อใจสำหรับผู้ใหญ่ และถ้าผู้ใหญ่และเด็กอ่านด้วยกันก็จะยิ่งเสริมข้อดีให้ออกมามากขึ้น โอเห็นภาพผู้ใหญ่ไขข้อข้องใจให้เด็กน้อยช่างสงสัย แล้วมันก็ อืม อบอุ่นดีนะ 

4 ดาว  

หลังปก และที่คั่น น่ารักดีค่ะ






ตัวอย่างภาพประกอบเล่ม 1







ตัวอย่างภาพประกอบเล่ม 2