|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
มารู้จักวิธีการทดสอบการสารแพ้กันดีกว่า
มารู้จักวิธีการทดสอบการสารแพ้กันดีกว่า
เนื่องจากเครื่องสำอางเป็นสารเคมีจากภายนอกร่างกาย เมื่อนำมาใช้กับร่างกายจึงมีโอกาสเกิดปฏิกิริยาต่างๆ กับร่างกายได้ ปฏิกิริยาต่างๆ ที่ร่างกายไม่ต้องการ เรียกว่า การแพ้ การแพ้ที่พบบ่อยจากการใช้เครื่องสำอางจะเป็นลักษณะ ผื่นแพ้ (Contact dermatitis) เกิดได้หลายๆ แบบ คือ ผื่นแดงนูน ตุ่มน้ำใส หรือมีอาการคัน ปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่ใช้ บริเวณของร่างกายที่มีโอกาสแพ้ได้มากที่สุด คือ บริเวณใบหน้าและที่เปลือกตา เพราะเป็นบริเวณที่ผิวหนังบางที่สุด
สารบางชนิดในเครื่องสำอางอาจเกิดการแพ้เป็นรอยด่างดำหรือเกิดรอยด่างดำ เมื่อทาสารนั้นแล้วไปถูกแสงแดดได้ สารที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางแล้วทำให้เกิดการแพ้ได้บ่อยคือ น้ำหอม สารกันบูด และน้ำยาย้อมผม
การทดสอบว่าสารตัวไหนที่ทำให้เกิดการแพ้ เรียกว่า การทำแพ็ทเทสต์ (Patch test) โดยการเอาสารที่สงสัยมาทาไว้ที่ผิวหนังและดูผลว่ามีผื่นเกิดขึ้นหรือไม่ การทำแพ็ทเทสต์ มี 2 วิธี คือ
1. Open patch test
เป็นการทดสอบโดยการเอาสารมาทาไว้ที่บริเวณท้องแขน หลัง หรือ หลังหู ขนาด 1 ตารางเซนติเมตร โดยไม่มีการ ปิดทับด้วยวัสดุใดๆ สารที่นำมาทดสอบด้วยวิธีนี้ มักเป็นสารที่มีประวัติให้ความระคายเคืองหรือเกิดการแพ้ได้บ่อย เช่น ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาดัดผม แต่ถ้าเป็นสารที่เกิดปฏิกิริยามาก อาจทำการเจือจางเสียก่อน โดยให้ลดความเข้มข้นลงเหลือ 1 ใน 10 ก็พอ สารที่ทำให้ระคายเคืองมักจะเห็นผลภายใน 12 ชั่วโมง ส่วนสารที่ทำให้เกิดการแพ้นั้นจะแสดงปฏิกิริยาภายใน 48 ถึง 72 ชั่วโมง หรือทำการทดสอบง่ายๆ โดยการทาสารนั้นที่ใบหูทุกวันติดต่อกันนานประมาณ 10 วัน
2. Close patch test
เป็นการทดสอบโดยใช้ผ้าก๊อซและแผ่นพลาสเตอร์ที่มีสารเคมีหรือสารตัวอย่างที่จะทำการทดสอบ และนำมาติดที่ผิวหนัง ถ้าทำจำนวนน้อยก็อาจทำบริเวณต้นแขน หรือทำบริเวณแผ่นหลังในกรณีที่ต้องการทดสอบสารจำนวนมากและจะอ่านผลหลังจาก 48 ชั่วโมง จะดึงแผ่นที่แปะออกและดูว่าบริเวณที่แปะมีอาการแพ้หรือไม่ อาการแพ้อาจเกิดที่บริเวณอื่นที่ไม่ได้ติดแผ่นทดสอบก็ได้ การทดสอบสารบางอย่างอาจจะมีการฉายแสงโดยใช้หลอดไฟ Mercury arc lamp เพื่อใช้แทนแสง UV ด้วย หากมีปฏิกิริยาการแพ้เกิดขึ้นเรียกว่า Photoallergic contact dermatitis
ถ้าข้อมูลซ้ำกับใคร ต้องขออภัยด้วย เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ เลยนำมาให้อ่านกัน
Create Date : 15 มีนาคม 2551 |
Last Update : 2 มกราคม 2553 7:30:34 น. |
|
0 comments
|
Counter : 356 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|