Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Hong Kong-Macau Trip งกจนได้เที่ยวอีกรอบ: วันแรกที่ Macao (12 Oct 07)

เพิ่งจะกลับจากเที่ยว Hong Kong เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ก็มีเหตุให้ได้ไปอีก
เนื่องจากหลายๆ เหตุผลภายใต้คำว่า “ฟรี”

- มีตั๋วเครื่องบินฟรีของ Air Asia 2 ใบ (ของขวัญจากงานแต่งงาน)
- ได้ห้องพักฟรี 2 คืนที่ Hong Kong (ด้วยการวิ่งเต้นของพี่สาว + ความอุปการะจาก agent ที่ทำ Tour กะปะป๊า)
- ได้ตั๋วเข้า Disney ฟรี (ด้วยการวิ่งเต้นของพี่สาว)

นี่ก็น่าจะเพียงพอที่จะหาเรื่องไปเที่ยวอีก
โดยคราวนี้ลากสามีไปด้วย โดยอ้างว่าไป Honeymoon (รอบที่ล้าน)
และสัญญาว่าจะไม่เดิน shopping เยอะ (สามีเกลียดการเดินมากๆๆ)
ไปคราวนี้ ก็ไปกะพี่สาวซึ่งตั้งใจพาลูกไปเที่ยวช่วงปิดเทอม
Trip นี้จึงสรุปออกมาเป็นวันที่ 12-15 Oct 07
โดยเราอาสาเป็นคนทำ program เอง

การเดินทางครั้งนี้ก็เน้นเอาใจสมาชิกทุกคน
ต้องหาห้างขายพวก model & IT ให้สามี
พาหลานไป Disney & Snoopy World
ส่วนเรากะพี่สาว ก็ shop shop shop


ตาม program เราไปเที่ยวกันวันแรกที่ Macao แล้วข้ามกลับมานอน & เที่ยว Hong Kong
โดยพยายามเก็บที่เที่ยว Highlight ของ Macau ให้ได้มากที่สุด
ในเวลาครึ่งวัน เราไปเที่ยว Senado Square, St Paul Church, Macau Tower & Venetian


เนื่องจากเราแยกบินกันคนละ airline เรากะสามีนั่ง Air Asia ลงที่ Macao
ส่วนพี่สาวกะหลานนั่ง Cathay ลงที่ Hong Kong
ก็ใช้วิธีนัดเจอกันที่ท่าเรือ Macao


ไปถึงไม่ลืมปรับเวลา ที่ Macau เร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง
เราไปแลกเงินแลกเหรียญที่ Airport เพื่อเดินทาง เพราะกะเดินทางไปไหนด้วยรถเมล์
สกุลเงินคือ MOP หรือ ปาตาการ์ แต่สามารถใช้เงิน HKD ได้
ค่าโดยสารจะมี 3 ราคา 2.50 (วิ่งโซนมาเก๊า), 3.30 และ 5.50 (วิ่งข้ามโซน)
เรานั่งรถบัสสาย AP1 จากสนามบินมาเก๊าไปถึงท่าเรือโดยตรง


ส่วนพี่สาวกะหลานข้ามเรือ Ferry TurboJET มาที่ Macau ที่ Sky Pier
โดย Turbo Jet ซึ่งเป็นเส้นทางจากสนามบิน Hong Kong สู่ Macau โดยตรง
ปกตินักท่องเที่ยวจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองฮ่องกง
ทาง TurboJET มีจัดรถรับส่งไว้คอยบริการผู้โดยสารและนำส่งกระเป๋าไปยังท่าเรือ Sky Pier
ซึ่งยู่ห่างจากสนามบินฮ่องกง 10 นาที ใช้เวลาเดินทางอีก 45 นาที




กว่าจะเจอกันก็บ่าย 2 แหละ ก่อนหน้านั้นเรากะสามีก็ฟาดก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ รอ
ก่อนเดินทาง เราเอากระเป๋าเดินทางไปฝากที่รับฝากที่ท่าเรือนั่นแหละ จะได้เที่ยวกันตัวเบาๆ
จากนั้นเราก็นั่งรถเมล์ไปเที่ยวที่แรกคือ Senado Square โดยรถเมล์สาย 3 หรือ 12
คอยมองขวามือ ถ้าเห็นร้าน Bossini ทางขวาและ Esprit กับ Pizza Hut ทางซ้ายก็ใกล้ถึงแล้ว
Senado จะอยู่ทางขวาของเรา


Senado Square โดดเด่นด้วยพื้นถนนที่ปูลาดด้วยกระเบื้อง เป็นลอนคลื่น ล้อมรอบไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรปหลากสีสัน และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีร้านค้าต่างๆ มากมาย
เราจะเห็นโบสถ์เซนต์ดอมินิก (S.Domingos) ตั้งอยู่ภายใน
ได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่มีศิลปกรรมทางศาสนาที่งดงามที่สุด
มีการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลและบารอค
ภายในโบสถ์มีการเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมสิ่งของทางศาสนาไว้มากมาย
อาทิ รูปปั้น ภาพวาด และภาชนะที่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา




จากจุดนี้ เราสามารถเดินไปเที่ยวต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของมาเก๊ากัน.....นั่นก็คือ โบสถ์เซนต์ปอล
ระหว่างทางไปจะมีร้านขายของกิน หมูหวานแผ่น ทาร์ตไข่ คุกกี้ almond
ซึ่งเราได้กินทาร์ตไข่และชานม ทาร์ตไข่อร่อยมากๆ
ตอนเราเดินไป ฝนตกปรอยๆ พอดี แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย กลับดีซะอีก
เพราะเราได้ใช้ร่มเป็น Prop ในการถ่ายรูป เหอ เหอ เหอ




โบสถ์เซนต์ปอล เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊าที่ทุกคนจะต้องขอไปเยือน



โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1602
เพื่อใช้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกของชาวตะวันตกในดินแดนตะวันออกไกล
ในปี ค.ศ. 1835 ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายทั้งหลัง
คงเหลือเพียงประตูหน้าและบันไดทางเข้าเท่านั้น
และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1991



ด้านหลังของประตูโบสถ์ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา เ
พื่อรวบรวมภาพเขียนและจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในการพิธีทางศาสนา
มีหลุมฝังศพของบาทหลวงวาลิคนาโน ผู้ก่อตั้ง
และโครงกระดูกของชาวคริสต์ญี่ปุ่น และเวียดนามที่เสียชีวิตเมื่อคราวที่เกิดไฟไหม้ครั้งนั้น






เราอยู่กันไม่นาน เพราะฝนยังตกปรอยๆ เรื่อยๆ
ก็เลย move ไปเที่ยวที่ Macau Tower
โดยนั่ง Taxi ไปกัน เพราะท่าทางนั่งรถเมล์จะยุ่งยาก
แต่ก็น่ะ Taxi พาไปจอดหน้าตึก เลยไม่ได้ถ่ายรูปคู่กะตึกเยย…..
ขึ้นไปดูวิว และดูคนปีน Tower เห็นแล้วเสียวแทนเจงๆ
ขนาดให้ไปยืนบนพื้นกระจก ชั้นยังต้องคลานกระเดิบๆ ไปเลย




เราเริ่มเที่ยวกันตอนบ่าย 2 และฝนตก ทำให้ฟ้ามืด และค่า Taxi ก็ไม่ได้แพงมากมาย
เราเลยนั่ง Taxi จากนี้ไปที่ Venetian กันต่อ
ไฮไลท์ของ Venetian คือการยก"เวนิส"มาไว้ที่นี่
และมีร้านค้าแบรนด์เนมมากกว่า 300 ร้าน ก็อลังการดีน่ะ
เราก็หาข้าวเย็นกินกันที่นี้






ที่นี้เป็นที่สุดท้ายสำหรับการเที่ยว Macau
เพราะเราต้องนั่งเรือข้ามฟากกลับไปนอน Hong Kong

จาก Venetian มีบริการรถชัตเตอร์บัสฟรีไป Macao Ferry Terminal
เพื่อขึ้น Turbo Jet ก็ได้นั่งไปกันแบบสบายๆ
ไปถึงก็ไม่ลืมที่จะไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้
เรือออกทุกๆ 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 55 นาที (ค่าเรือ 176 HKD)
เราก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋วเรือรอบที่เร็วที่สุด น่าจะ 4 ทุ่มกว่า
ตอนที่อยู่บนเรือ มีลมแรงมาก เรามองไม่เห็นข้างนอก มืดสนิท
แต่รู้สึกคลื่นแรงและสูงจนเรือเหมือนลอยขึ้นฟ้า น่ากลัวมั่กๆ เ
รากะสามีอ้วกแตกกันเลยอ่ะ หลับตาปี๋ตลอดทาง…..

ไปถึง Hong Kong ก็นั่ง MRT จาก Sheung Wan ไปโรงแรมที่เราพักที่ย่าน Mong Kok แต่ใกล้สถานี You Ma Tei ชื่อโรงแรม YMCA International (FREE ค่า) ก็นอนหลับฝันดีหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน


Hong Kong-Macau Trip งกจนได้เที่ยวอีกรอบ: วันที่สองที่ Hong Kong (13 Oct 07)


Create Date : 09 มิถุนายน 2552
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 16:43:02 น. 0 comments
Counter : 1126 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จ้าว..จอม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เมื่อชั้นอยาก

"บอกรักลูกผ่านตัวหนังสือ"

blog นี้จึงได้บังเกิดขึ้นมาเพื่อหมูเรย์ของหม๊ามี๊


Lilypie Premature Baby tickers


วันนี้คุณ "ใจเย็น" แล้วหรือยัง?

อิ อิ ตอนนี้ทำไอติม homemade เสริฟ์ด้วยน่ะเพื่อนๆ
แวะมาใจเย็นกันได้น่ะจ้ะ จุ้บ จุ้บ :)

Friends' blogs
[Add จ้าว..จอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.