มิถุนายน 2562

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
11
12
13
14
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
28
30
 
 
All Blog
สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย Quantum Superposition ในชีวิตประจำวัน
สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตายที่เรียกว่า Quantum Superposition เป็นสภาวะที่เกิดจากการซ้อนทับกันภายในสภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย และภายในสภาวะกึ่งเป็นและหรือภายในสภาวะกึ่งตาย และระหว่างสภาวะกึ่งเป็นและสภาวะกึ่งตายที่ซ่อนอยู่ภายในเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์และนำไปสู่การพัวพันกันภายในสภาวะกึ่งเป็นและหรือภายในสภาวะกึ่งตาย และระหว่างภายในสภาวะกึ่งเป็นและภายในสภาวะกึ่งตายที่ซ่อนอยู่ภายในเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์ ยกตัวอย่างง่ายๆคือ การเกิดการตาย ความคิดความรู้สึก (บวกลบ) การตื่นการนอน เหรียญมีสองด้าน ความดีความชั่ว คนดีคนเลว ผู้หญิงผู้ชาย พ่อแม่ ความรักที่มีขอบเขตและความรักที่ไร้ขอบเขต การให้การรับ ความรักและเคารพในตัวเองและความไม่รักและไม่เคารพในตัวเอง ตำรวจผู้ร้าย ครูนักเรียน สูตรคำนวณคณิตศาสตร์ (บวกลบคูณหาร) ทุกสิ่งในชีวิตประจำวันของเราหรือทุกสิ่งภายในและภายนอกโลกใบนี้ล้วนอยู่ภายใต้สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย Quantum Superposition ทั้งสิ้นไม่มีอะไรที่ไม่ใช่

สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย Quantum Superposition คือ ความใช่และไม่ใช่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน สิ่งเดียวกันใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และเวลาเดียวกันใช่และไม่ใช่เวลาเดียวกันในเวลาเดียวกัน ความใช่และไม่ใช่ของทั้งสามมิติเกิดจากมิติของความกว้าง ยาว สูง(ลึก) ช่องว่างและเวลา ยกตัวอย่างเช่น การเมืองดีและหรือไม่ดี เศรษฐกิจดีและหรือไม่ดี สังคมดีและหรือไม่ดี คนดีและหรือคนไม่ดี คนรวยคนจน หัวก้อย สูงต่ำดำขาว ซ้ายขวาหน้าหลัง อ้วนผอม จริงไม่จริง

มนุษย์มีความพยายามในการใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความดีและความไม่ดีมาโดยตลอดโดยไม่รู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความดีและความเลว เราใช้ความดีต่อสู้กับความเลว และใช้ความเลวต่อสู้กับความดี โดยที่เราทุกคนคิดว่าตัวเองคือ คนดีแต่อีกฝ่ายคือคนไม่ดี โดยหารู้ไม่ว่าการกระทำของเราจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนของความดีและไม่ดี และภายในส่วนของความดีจะแยกออกเป็น ดีคือดี และ ดีและไม่ดีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และภายในส่วนของความไม่ดีจะแยกออกเป็น ไม่ดีคือไม่ดี และ ไม่ดีและดีในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งเราสามารถมองเห็นหรือแยกความดีและความไม่ดีออกจากกันอย่างชัดเจนได้ แต่การแยกความดีและไม่ดีที่อยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งที่คนเรายังไม่รู้ไม่เข้าใจ เมื่อเราไม่รู้ไม่เข้าใจจึงเป็นธรรมดาที่เราจะทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้ตัวเราเองเกิดมีความรู้ความเข้าใจหรือมีปัญญา การคิดนอกกรอบและการทำนอกกรอบสามารถเกิดขึ้นได้ภายใต้สภาวะกึ่งเป็นและถึ่งตาย หรือภายใต้ความดีและความไม่ดีขึ้นอยู่กับว่า เรายืนอยู่จุดไหน และการยืนอยู่จุดไหนไม่สำคัญเท่าเราไปจุดไหน
มนุษย์ทุกคนคือ อัจฉะริยะ เรามีความเป็นอัจฉะริยะอยู่ในตัวเราทุกคนไม่มีใครไม่มี เราเพียงแค่เดินเข้าไปหยิบมันออกมาใช้เท่านั้นเอง เราพยายามแบ่งแยกความดีออกจากความชั่ว แบ่งแยกคนดีออกจากคนไม่ดีโดยหารู้ไม่ว่าความพยายามในการแบ่งแยกที่เราปฏิบัติกันมาตั่งแต่ยุคแรกเริ่มจนถึงปัจจุบันนั้นเป็นความพยายามไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและโลกเลย ความดีและหรือความเลวเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงและไม่เปลี่ยนแปลงไปของพลังงานบวกและหรือลบเท่านั้น ซึ่งพลังงานบวกและหรือพลังงานลบ=สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย ดังนั้นความดีและหรือความเลวจึงใช่และไม่ใช่เครื่องมือในการใช้ชีวิต ความหมายคือ ใช่คือใช่ ไม่ใช่คือไม่ใช่ ใช่คือไม่ใช่และไม่ใช่คือใช่ ความดีใช่ความดีและความดีก็ไม่ใช่ความดี ความเลวใช่ความเลวและความเลวก็ไม่ใช่ความเลว ความดีและหรือความเลวคือ สิ่งที่ช่วยสร้างและทำลายตัวเองและกันและกัน การสร้างและทำลายใช่และไม่ใช่การสร้างและทำลายในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน โลกไม่อาจดำเนินต่อไปได้โดยปราศจากขั้วใดขั้วหนึ่งโลกจำเป็นจะต้องมีทั้งขั้วบวกและขั้วลบมนุษย์ก็เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ใช่การกำจัดหรือแบ่งแยกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันและม่ใช่การกำจัดหรือแบ่งแยกในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน เราต้องทำทั้งสองทางพร้อมกัน (คำว่า พร้อมกัน จะมีความพร้อมและไม่พร้อมอยู่) ซึ่งโดยธรรมชาติทั้งสองกระบวนการเกิดขึ้นภายในพร้อมกันเสมอ แต่เป็นตัวเราเองที่เลือกที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่ทำอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งการเลือกที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่ทำอีกสิ่งหนึ่งมาจากความต้องการที่จะทำอยู่ภายใต้ความสะดวกสบายและความเคยชินเก่าของเราเองโดยให้เหตุผลกับตัวเองว่า นี่แหละคือฉัน นี่คือจุดยืนของฉัน สิ่งที่เราทำจะทำให้คนอื่นเห็นได้ว่า เราอยู่ในสภาวะเป็นหรือตาย แต่เราจะเห็นว่าตัวเราเองอยู่ในสภาวะเป็นเสมอ (สิ่งที่เราทำถูกต้องเสมอ) การเลือกที่จะไม่ทำอีกสิ่งหนึ่งของเราจะมีสองสถานะคือ ใช่และไม่ใช่อยู่ ความหมายคือ เลือกที่จะทำโดยไม่ทำเองแต่ให้คนอื่นทำให้ ซึ่งจะทำให้เราได้รับผลสองทางคือ 1.ได้รับผลจากการเลือกทำโดยไม่ทำของเราเอง 2.ได้รับผลจากการลงมือทำของคนอื่น ซึ่งทั้งสองทางจะทำให้เราได้รับผลเหมือนกันและแตกต่างกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันคือ ผลจากการกระทำรวมร่วมกัน และผลจากการกระทำส่วนบุคคลคือ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น ผลทั้งสองทางคือ สภาวะกึ่งเป็นกึ่งตาย สิ่งที่เราทำจะทำให้คนอื่นเห็นได้ว่า เราอยู่ในสภาวะเป็นหรือตาย แต่เราจะเห็นว่าตัวเราเองอยู่ในสภาวะเป็นเสมอ (สิ่งที่เราทำถูกต้องเสมอ) เราจะมองเห็นผลจากการกระทำของคนอื่น แต่เราจะมองไม่เห็นผลจากการกระทำของตัวเราเอง ซึ่งการมองไม่เห็นไม่ได้หมายความว่าเรามองไม่เห็น แต่เป็นการเล่นเกมซ่อนหาภายในระหว่างสภาวะกึ่งเป็นและกึ่งตายของเราเอง เกมนี้คือ เกมที่สามารถให้ทั้งความสุขและความทุกข์กับเราได้ในเวลาเดียวกัน นี่คือสาเหตุ/บ่อเกิดแห่งความสุขและความทุกข์ของเราเอง เราคือ ผู้สร้างและผู้ทำลายของเราเอง



Create Date : 29 มิถุนายน 2562
Last Update : 29 มิถุนายน 2562 8:14:41 น.
Counter : 737 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3784113
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



จุกมุ่งหมายคือ การรู้แจ้งเห็นจริงในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

There is no way to happiness, happiness is the way.

การปิดทองหลังพระ ถ้าเราไม่หยุดปิด วันหนึ่งทองก็จะล้นมาด้านหน้าพระเอง

คำพูดที่ปราศจากการกระทำนั้นได้ตายไปแล้ว