Hot is Cool!!
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

Last Chance Harvey (สปอยนะจ๊ะ)



เมื่ออาทิตย์ก่อน ด้วยความว่างหลังจากรับจ๊อบช่วงเช้าที่พารากอน และฝนก็มีทีท่าว่าจะตก

เลยไม่รู้จะทำอะไร ตัดสินใจเข้าไปดูหนังคนเดียวที่ลิโด (เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำมาเป็นปีละ)

พอดูว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่น่าดู ก็พบว่าตัวเองได้ดูไปหมดแล้ว เป็นเดือนที่ดูหนังเยอะจิงอ่ะ

เหลืออยู่เรื่องเดียวก็คือ Last Chance Harvey ที่เคยได้ดูTrailer ในโรงไปแค่ครั้งเดียว

แล้วก็เงียบไปเลย ไม่เห็นว่าจะมีโปรโมทหรือโฆษณาที่ไหนอีก

ตอนดูTrailer ก็คิดว่าน่าสนใจดี แต่ก็ยังไม่ได้มีแรงดึงดูดหรือกระแสอะไรขนาดนั้น

พอดูจบแล้วก็เสียดายจริงๆ เสียดายที่ทำไมไม่โปรโมทมากกว่านี้นะ หรือเพราะช่วงนี้หนังเข้าแน่นโรงก็ไม่รู้


Last Chance Harvey นำแสดงโดย Dustin Hoffman และ Emma Thompson

ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วก็เฉยเฉ้ย เฉยเฉย กับทั้งสองคนนี้ ไม่ได้พิศวาสชื่นชอบเป็นพิเศษ

แต่หลายๆคนก็คงรู้จักกันดีว่าเขาแสดงเก่งกันขนาดไหน (รับประกันได้จากรางวัลที่ได้มาเลยล่ะ)



เรื่องย่อคร่าวๆก็คือ Harvey Shine (Dustin Hoffman) นักแต่งเพลงประกอบโฆษณา

ที่กำลังจะถูกเจ้านายเขี่ยทิ้ง และเขาก็จะต้องขอลางานเพื่อบินไปงานแต่งลูกสาวที่ลอนดอน

โดยสัญญากับเจ้านายว่าจะรีบกลับมาให้ทันประชุมวันจันทร์ (แม้เจ้านายเขาจะไม่ต้องการให้เขากลับมาก็ตาม)

พอไปถึงงานเลี้ยงก่อนแต่ง เขาก็พบว่าเขากลายเป็นคนแปลกแยกสำหรับที่นี่ไปแล้ว

แถมลูกสาวเขายังขอให้พ่อเลี้ยงมาเป็นคนส่งตัวเจ้าสาวแทนที่จะเป็นเขา

แม้เขาจะเสียใจมากแค่ไหน แต่เขาก็ซ่อนความผิดหวังเอาไว้

เขาร่วมงานแต่งในโบสถ์ตอนเช้า แต่ไม่สามารถอยู่ร่วมงานในตอนกลางคืนได้เพราะจะรีบกลับ

แต่เขาก็ต้องตกเครื่อง แถมโดนไล่ออกทางโทรศัพท์อีก

เขาจึงไปนั่งดื่มเหล้าที่บาร์ของสนามบิน และได้พบกับ Kate Walker (Emma Thompson)

ที่นั่งจิบไวน์อ่านหนังสืออยู่คนเดียว เขาได้กล่าวคำขอโทษกับเธอ (เพราะเขาเคยปฏิเสธเธอแบบเสียมารยาท ตอนที่เขากำลังลงจากเครื่องบินมา แล้วเธอขอให้เขาช่วยตอบแบบสอบถาม)

แล้วก็ได้พรั่งพรูความซวยของชีวิตให้กับเธอฟัง จนทั้งสองค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไป


Plot เรื่องนั้นเดาได้เลยว่าเรื่องเป็นยังไงจบยังไง แต่ก็ไม่ได้เรียบง่ายจนขาดความโดดเด่นไป

สิ่งที่น่าสนใจนั้นก็คือ Situation ที่นำมาเลือกใช้มากกว่า ทั้งเรื่องตกงาน งานแต่งลูกสาว ตกเครื่อง ฯลฯ

ทุกอย่างที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิตคนๆหนึ่ง (เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยเป็น)

สำหรับคนที่เคยมีความสำคัญ เคยเป็นพ่อคนเดียวของลูกสาว เคยเป็นมือขวาของเจ้านาย

กลับต้องถูกลดความสำคัญลง ถูกเพิกเฉย จนแทบจะกลายเป็นคนแปลกแยกไป

ตรงนี้อยากจะบอกว่าชอบมุมภาพที่ถ่ายออกมาทีเดียว รู้สึกเคว้งๆเหงาๆ เหมือนอยู่คนเดียวในโลกไปเลย


แต่หนังไม่ได้ซ้ำเติมชีวิตให้ดูเป็นMelodrama นำ้เน่า ที่ว่าHarvey เป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

กลับสะท้อนให้เห็นว่า ตัวHarvey เองก็เคยเป็นผู้กระทำเช่นเดียวกัน อย่างเช่น

ตอนที่อดีตภรรยาบอกกับเขาว่าทำไมถึงเลิกกับเขา แล้วทำไมสามีใหม่จึงดีกว่า

เพราะเขาเป็นคนที่สนุกตลกสำหรับเธอ ซึ่งเธอชื่นชมในตัวเขาเพียงฝ่ายเดียว

แต่สามีใหม่เธอกลับเป็นฝ่ายชื่นชมและให้ความสำคัญกับเธอ เห็นว่าเธอสามารถทำให้เขามีความสุขได้

หรือการที่ลูกสาวเขาขอให้พ่อเลี้ยงเป็นคนส่งตัวเธอแทนพ่อแท่้ๆของเธอ ก็เพราะว่าพ่อเลี้ยงเธอ

เป็นคนช่วยจัดการงานแต่งนี้ให้สำเร็จขึ้นมา โดยที่พ่อของเธอเองไม่เคยมาสนใจหรือช่วยอะไรเลย


สิ่งเหล่านั้นอาจเกิดจากการกระทำที่ไม่ตั้งใจของHarvey เช่นเดียวกับตอนที่เธอนัดเจอKate

ที่ลานน้ำพุ เพื่อแสดงความจริงใจของเขาที่มีต่อเธอ แต่แล้วมาไม่ได้เพราะเกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติกระทันหัน

ทำให้เขาเกือบจะสูญเสียเธอไป แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสครั้งนี้หลุดลอยไปเหมือนทุกครั้ง

แม้ว่าเขาจะได้รับการติดต่อจากเจ้านายให้กลับไปทำงานเหมือนเดิมก็ตาม

เพราะเขาได้เรียนรู้จากเธอ เมื่อตอนที่เธอพยามยามคะยั้นคะยอให้เขาไปงานแต่งลูกสาวในตอนกลางคืนให้ได้

และนั่นก็ทำให้เขาใช้โอกาสอันยิ่งใหญ่ กลับมาเป็นพ่อที่มีความสำคัญกับลูกสาวของตัวเองได้

และยังดึงเอาความรักความภูมิใจของลูกสาวที่มีต่อเขากลับมาได้อีกด้วย

เขาเลยได้ใช้โอกาสครั้งสุดท้ายเพื่อขอคืนดีกับเธอ และตัดสินใจใช้ชีวิตกับเธอที่ลอนดอน


ในส่วนของบริบททางสังคมในเรื่องนี้ก็น่าสนใจ ที่เอาความเป็นอเมริกันของ Harvey และความเป็นอังกฤษของ Kate มาเจอะกัน

อะไรง่ายๆไม่ยุ่งยากแบบอเมริกัน ได้เข้ามาเปิดใจความเป็นผู้ดีอังกฤษ

เราจะเห็นได้ว่า Kate ยังโสด และยังไม่ถูกใจใคร แม้เธอจะนัดเดทกับหนุ่มที่ดูพร้อมสรรพ

และกำลังจะเปิดใจรับเขา แต่ด้วยสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยคนรู้จักของเขา ด้วยมารยาทสังคมต่างๆ

ทำให้เธอรู้สึกเบื่อหน่าย และเลือกที่จะหลีกหนีมากกว่า

พอเจอ Harvey เธอเองก็กล้าๆกลัวๆที่จะเปิดใจรับคนๆนี้ ซึ่งค่อยๆก้าวเข้ามาในชีวิตเธอ

และวันที่เขาผิดนัดกับเธอ มันทำให้เธอเสียใจ และปิดหัวใจของตัวเองอีกครั้ง

จนกระทั่งเขาไปตามคืนดีกับเธอ Kateได้ให้โอกาสกับเขาด้วยรอยยิ้มตอบรับของเธอ


หรืออย่างในกรณีแม่ของเธอที่เข้าใจคนโปแลนด์ข้างบ้านผิดว่าเป็นฆาตกร

เพราะแอบมองเขาทางหน้าต่าง แล้วเห็นเขาอุ้มห่อลักษณะคล้ายๆคนเข้าไปที่เตาเผา

จนวันหนึ่งเขาเอาห่อกระดาษส่วนหนึ่งมาให้เธอ แต่เธอไม่กล้าเปิดรับ เขาจึงวางมันไว้ที่หน้าบ้าน

แม่Kate เอามันไปแอบซ่อนไว้ที่ใต้บันได แล้วKateมาเจอเข้า แล้วถามแม่ว่าเอาแฮมมาวางไว้ใต้บันไดทำไม

แม่Kateจึงเข้าใจว่าที่ชาวโปแลนด์ข้างบ้านเผาไม่ใช่คน แต่เป็นหมูแฮม

สุดท้ายแม่เธอจึงใช้โอกาสนี้ไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านคนนี้แทน

(ชอบที่ใส่เรื่องของแม่มานะ ตัดได้จังหวะฮามาก แล้วก็ทำให้เรื่องมีความลึกของBackground นางเอกมากขึ้นด้วย)


อย่างที่เห็นในหลายSituation ในเรื่องนี้อ่ะนะ ก็น่าจะตีความได้ว่า

คำว่า "Last Chance" ตามที่เข้าใจเอาเอง น่าจะหมายถึง ถ้าเราคว้าโอกาสที่ผ่านมาเอาไว้ได้

เราก็ไม่จำเป็นต้องรอโอกาสครั้งต่อไป และมันก็จะเป็น"โอกาสครั้งสุดท้าย" ของเรา

ซึ่งจะดีไม่ดีนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับคนที่ยอมให้โอกาสและยอมให้อภัยด้วยนะ...


ส่วนเรื่องที่เราจับผิดได้ ก็...ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่เห็นตัวประกอบเดินวนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมาแค่นั้นเอง

แล้วก็มีที่แอบไม่continueบ้าง 55 ไม่ชัดมากแต่แอบเห็น ตอนHarveyยกแขนเสื้อน่ะ มีครั้งนึงที่ป้ายTagที่ติดอยู่มันไม่มี

เฮ้อ...นิสัยไม่ดีไปจับผิดเค้า



เอาเป็นว่าส่วนตัวก็ชอบเรื่องนี้ระดับนึงเลยล่ะ ไม่ได้ตรึงอยู่ในใจ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือหวือหวา

นักแสดงสองคนนี้ทำให้เรื่องนี้ดูมีอะไรขึ้นมาอีก

พอดูแล้ว รู้สึกทั้งเศร้า ทั้งอบอุ่ม บวกอมยิ้มนิดๆ กำลังดีเลย...




 

Create Date : 15 เมษายน 2552
3 comments
Last Update : 16 เมษายน 2552 0:54:02 น.
Counter : 2300 Pageviews.

 

สรุปว่าคุ้มค่ากับการดูใช่ไหมคะ ชอบดัสติน ฮอฟแมนค่ะ

 

โดย: ดา ดา 6 พฤษภาคม 2552 10:05:26 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: baareeraa 6 พฤษภาคม 2552 23:14:20 น.  

 

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

 

โดย: koreaserie (loveyoupantip ) 6 สิงหาคม 2554 10:57:51 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Dozen One
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Busy*
Fuzzy*
Clumsy*
Sweetie*

Friends' blogs
[Add Dozen One's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.