|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
"คำฟ้อง"
"คำฟ้อง" คำฟ้อง ตามบทวิเคราะห์ศัพท์มาตรา 1(3) สรุปได้ดังนี้ คำฟ้องเสนอด้วยวาจาหรือทำเป็นหนังสือ ตามหลักทั่วไป ผู้ประสงค์จะฟ้องคดีจะต้องทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลตามมาตรา 172 แต่ถ้าเป็นคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรียกว่า คดีมโนสาเร่ ตามมาตรา 189 โจทก์ฟ้องด้วยวาจาได้ตามมาตรา 191 ถ้อยคำที่โจทก์แถลงข้อหาถ้อยวาจาต่อศาลก็เป็น คำฟ้อง คำฟ้องเสนอต่อศาลชั้นต้นหรือชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา การเสนอข้อหาต่อศาลไม่ว่าจะเป็นการเสนอต่อศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลฎีกา ก็ถือว่าเป็น คำฟ้อง แต่เรียกแตกต่างกันไป ในกรณีเสนอต่อศาลชั้นต้นเรียกว่า คำฟ้อง เสนอต่อศาลอุทธรณ์เรียกว่า ฟ้องอุทธรณ์หรืออุทธรณ์ เสนอต่อศาลฎีกา เรียกว่า ฟ้องฎีกาหรือฎีกา คำฟ้องเสนอโดยคำฟ้องหรือคำร้องขอ กรณีที่มีผู้โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ ผู้ถูกโต้แย้งก็เสนอคดีต่อศาลอย่าง คดีมีข้อพิพาท โดยฟ้องผู้โต้แย้งเป็นจำเลย กรณีนี้ผู้เสนอคดีต้องทำเป็น คำฟ้อง เสนอต่อศาล แต่ในกรณีต้องใช้สิทธิทางศาล โดยไม่มีผู้ใดโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ ไม่ฟ้องผู้ใดเป็นจำเลย อันเป็นการดำเนินคดีอย่าง คดีไม่มีข้อพิพาท กรณีนี้ผู้เสนอคดีต้องทำเป็น คำร้องขอ เสนอต่อศาล คำร้องขอ นี้ถือว่าเป็น คำฟ้อง อย่างหนึ่ง คำฟ้องเพิ่มเติมหรือแก้ไข เมื่อได้ยื่นคำฟ้องแล้ว บางกรณีมีความจำเป็นต้องขอเพิ่มเติมหรือแก้ไขคำฟ้องที่เสนอไว้ คำร้องขอเพิ่มเติมหรือแก้ไข ถือว่าเป็น คำฟ้อง เมื่อศาลอนุญาตแล้วก็นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของ คำฟ้อง ข้อพึงสังเกต คำร้องขอเพิ่มเติมหรือแก้ไขคำฟ้อง เป็น คำคู่ความ ตามมาตรา 1(5) ในฐานะเป็น คำฟ้อง ตามมาตรา 1(3) แตกต่างกับคำร้องขอเพิ่มเติมคำให้การ ไม่เป็น คำให้การ ตามมาตรา 1(4) จึงเป็นคำคู่ความตามมาตรา 1(5) ในฐานะเป็น คำร้อง ที่ยื่นต่อศาลเพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความ (ฎีกาที่ 1012-1013/2505 ประชุมใหญ่, ฎีกาที่ 96/2509 ประชุมใหญ่) คำฟ้องแย้ง ฟ้องแย้ง หมายความว่า เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยแล้ว จำเลยกลับฟ้องโจทก์ในคดีเดียวกันนั้นเป็นจำเลย ฟ้องของจำเลยเรียกว่า ฟ้องแย้ง ซึ่งเป็นคำฟ้องอย่างหนึ่ง คำฟ้องโดยร้องสอดเข้ามาในคดี กรณีที่ผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความโดยร้องสอด จะเป็นโดยสมัครใจหรือถูกบังคับ การร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีถือว่าเป็นคำฟ้อง คำฟ้องโดยมีคำขอให้พิจารณาใหม่ ในกรณีที่ศาลได้พิจารณาพิพากษาไปโดยคู่ความขาดนัดไม่มาศาล ฝ่ายที่ขาดนัดและแพ้คดีอาจยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคำขอของฝ่ายโจทก์หรือจำเลยก็เป็นคำฟ้อง (ฎีกาที่ 821/2511 ประชุมใหญ่) ระยะเวลาเสนอคำฟ้อง คำฟ้องอาจเสนอต่อศาลได้ 2 ระยะ คือ ก.เสนอในขณะเริ่มคดี ได้แก่ 1.คำฟ้อง 2.คำร้องขอ ข.เสนอในภายหลังเริ่มคดี ได้แก่ 1.คำฟ้องเพิ่มเติมหรือแก้ไข 2.คำฟ้องแย้ง 3.คำร้องสอดเข้ามาในคดีด้วยสมัครใจหรือ ถูกบังคับ 4.คำขอให้พิจารณาใหม่
Create Date : 05 ธันวาคม 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 1:10:16 น. |
Counter : 4524 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Frank Abanel (Frank Abanel ) 18 กุมภาพันธ์ 2550 23:05:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กชาย ก IP: 182.93.250.22 17 สิงหาคม 2553 11:20:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กชาย ก IP: 182.93.250.22 17 สิงหาคม 2553 11:21:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กชาย ก IP: 182.93.250.22 17 สิงหาคม 2553 11:23:33 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
" อย่ามักน้อยหวังเพียงปัญญา เพื่อใช้ทำมาหากิน อย่าหวังเพียงเรียนกฎหมายให้จบสิ้น เพื่อทรัพย์สินชื่อเสียงตำเเหน่งงาน
ขอจงเป็นดั่งเทพยุติธรรม ผู้รู้โลกลึกล้ำเกินคำขาน
บูชาความถูกต้องเป็นตำนาน มุ่งสืบสานประโยชน์สุขเเก่มวลชน "
|
|
|
|
|
|
|
แวะมาทักทายค่ะ มีความสุขในวันพ่อน่ะค่ะ