เรียนกฎหมายจำเป็นไหมต้องหัวดี
ในการเรียนกฎหมายนั้นทุกคนต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ นาๆ สำหรับการเรียนกฎหมาย ในขั้นตอนเบื้องต้นจากคนที่ไม่รู้กฎหมายเลย หรือ อาจรู้บ้างเเต่เพียงน้อยนิด จนต้องปรับตัวให้เข้าใจความหมายในตัวบทกฎหมาย เเละ ในการจดจำตัวบทกฎหมาย เเละ คำพิพากษาฎีกาซึ่งเป็นบรรทัดฐาน ในการนำข้อเท็จจริง มาปรับเข้ากับข้อกฎหมาย ให้ได้อย่างถูกต้อง ตามเจตนารมณ์ ของกฎหมาย เรื่องนั้นๆไป เเต่ไม่ใช่ว่าคำพิพากษาฏีกานั้นจะถูกต้องเสมอไป ซึ่งอาจมีผูที่คัดค้านไม่เห็นด้วยก็มี เเต่ก็ต้องเคารพในการตัดสินคดีนั้นๆไป ซึ่งเห็นได้จากคำพิพากษาฎีกาในยุคก่อนๆ ได้ถูกกลับในยุคปัจจุบันนี้ก็มีหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งเห็นได้ว่าในเเต่ละยุคเเต่ละสมัยบรรทัดฐาน จะไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งนี้เเหละสำหรับนักกฎหมายที่ควรต้องติดตามเหตุการณ์ว่ายุคนี้บรรทัดฐาน เขายึดถือกันยังไง สำหรับบุคคลทุกคนที่ได้ก้าวเข้ามาสู่การเรียนกฎหมายนั้น ก็ต้องพึงตระหนักไว้ว่าควรอยู่บนความไม่ประมาท เพราะความประมาทนั้นเป็นหนทางเเห่งความตายจริงๆครับ สำหรับการเรียนกฎหมายนี้จำเป็นไหมต้องหัวดี ซึ่งกระผมเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องหัวดีเสมอไป คนหัวธรรมดาเนี่ยเเหละก็เรียนได้ เเต่อาจใช้เวลาในเข้าใจ เเละ จดจำช้ากว่าคนหัวดีหน่อย อันนี้เราไม่เถียง คนหัวดีสามารถเรียนได้เเละไปได้ทุกทางอยู่เเล้วด้วยความสามารถเฉพาะตัวของเขา เเต่ใช่ว่าคนหัวดีจะประสบความสำเร็จกันทุกคนเสมอไปจริงไหม สำหรับคนหัวธรรมดาอย่างเราๆ ก็ต้องรู้จักวางเเผน เเละ ลงมือปฏิบัติ ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุดนั้นก็คือ การเริ่มต้นนี่เเหละ การเริ่มต้นก็คือ การลงมือเนี่ยเเหละ การลงมือก็ไม่ใช่อะไรเลยก็คือการเริ่มอ่านหนังสือเนี่ยเเหละ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญจริง ด้วยปัจจัยหลายประการที่ทุกคนนำมาอ้างจริงไหมครับ ว่าติดโน่นติดนี่ ไปเรื่อย บ้างก็จิตใจไม่พร้อม อันนี้ผมยอมรับจริงๆว่าผมก็เป็นเหมือนกัน เเต่คิดดูสิครับถ้าคุณได้เริ่มต้นก่อน ได้ลงมือก่อน ความพร้อมในการเรียนกฎหมายของคุณก็ย่อมมีก่อนคนอื่นจริงไหมครับ อันนี้เเหละครับที่สำคัญจริงๆ ดังสุภาษิตที่ว่า หนทางไกลหมื่นลี้เริ่มต้นที่ก้าวเเรก ใช่ไหมครับ ปัจจุบันคนที่ประสบความสำเร็จในการเรียนกฎหมาย ไม่ใช่มีเเต่คนหัวดีเสมอไป คนหัวธรรมดาผมคิดว่าเยอะกว่าที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ ด้วยความมานะพยายามฟันฝ่าจนไปถึงเป้าหมายได้ ในบั้นปลายจุดหมาย คนหัวธรรมดาก็อาจไปถึงได้เหมือนกันจริงไหม อย่าคิดว่ามีเเต่พวกหัวดีที่ไปถึง เเต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าคนหัวดีเเละธรรมดา จะต้องปฏิบัตินั้นก็คือ การอ่านหนังสือ เนี่ยเเหละครับ ต่อให้คุณหัวดีสักเเค่ไหน ลองไม่อ่านหนังสือดูเลยสิ เเล้วไปสอบผมเชื่อว่า ผลออกมาก็ไม่น่าจะรอดเหมือนกันเเหละครับ ดังนั้น ในสายกฎหมายตอนนี้จึงมีพวก เเพทย์ วิศวะ เภสัช เเละ อื่นๆ หันมาเรียนกฎหมายกันมากขึ้น เพราะหากเเพทย์ ผ่าตัดผิดพลาดทำให้เขาเสียหายก็อาจถูกฟ้องคดีได้จริงไหมครับ ดังนั้นบุคคลเหล่านี้ เราถือว่าพวกเขาหัวค่อนข้างดีเลย ดังนั้นการเเข่งขันกันทางสายกฎหมายจึงเริ่มสูงขึ้นทุกวัน เเต่ใช่ว่า เเพทย์ จะสอบเเข่งขัน เเล้วชนะคนอื่นเสมอไปจริงไหมครับ ผมเห็นยังมีคนที่สอบได้คะเเนนดีกว่า บุคคลเหล่านี้ก็มี เเละ เชื่อว่าต้องมีคนที่หัวธรรมดาด้วยที่ได้คะเเนนมากกว่า เเต่เหนือสิ่งอื่นใดการเตรียมพร้อมอยู่เสมอย่อมไม่มีอะไรทำให้เราเสียหายจริงไหมครับ ซึ่งผมได้ไปอ่านในบทความของอาจารย์ท่านนึง ท่านเป็นอาจารย์ของผมด้วยอ่ะครับ อาจารย์สอบเนติบัณฑิตได้ลำดับที่ 1 ในบทความอาจารย์เขียนว่า "คนที่เรียนกฎหมายนั้นไม่จำต้องเป็นคนหัวดีเเต่ขอให้มีความสม่ำเสมอ" ซึ่งเป็นเเรงบันดาลใจที่ดีมากครับสำหรับคนที่คิดท้อเเท้เเละคิดว่าตัวเองหัวไม่ดี ซึ่งก็เป็นเเรงบันดาลใจสำหรับผมด้วยครับ เเละผมก็ยังมีบทความที่น่าสนใจขอนำมาลงไว้ให้อ่านกัน เพื่อเป็นประโยชน์เเก่คนที่กำลังคิดท้อเเท้ อยู่นะครับ " ยอดคน " กับ " คนธรรมดา ฟ้ามิได้เเบ่ง ยอดคน กับ คนธรรมดา ออกจากกัน ยอดคนจะปรากฎขึ้นเสมอ เเต่นั่นมิใช่เพราะฟ้ากำหนด การที่ยอดคนปรากฏขึ้นได้เพราะเขาผ่านการฝึกฝนเเละเรียนรู้ ที่จะเป็นยอดคน อันนี้สำหรับความผิดพลาด&ผิดหวัง เเต่ใจไม่ยอมเเพ้ หนูวิ่งผ่านไปแล้ว แมวจับไม่ได้ เป็นอดีต หนูวิ่งผ่านมา แมวจับได้ เป็นปัจจุบัน หนูยังไม่วิ่งผ่านมา แมวจะจับได้หรือไม่ เป็นอนาคต
นมเต็มแก้วหกลงบนพื้นทราย คิดอย่างไร ทำอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้นมกลับมาเต็มแก้วดังเดิมได้ ดังนั้นกระผมขอนำคำกล่าวในบทความของผู้สอบได้อันดับที่ 1เนติบัณฑิตสมัยที่ 58 ซึ่งให้เเง่คิดที่อาจเปลี่ยนชีวิตได้ ดังคำกล่าวต่อไปนี้
ไม่มีอะไรในชีวิตได้มาอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องลงทุนลงเเรง ทุกอย่างมีราคาเเละต้นทุน การมีเเรงบันดาลใจที่เเรงกล้า การตั้งเป้าหมาย การรู้จักจัดสรรเวลา เเละความขยันหมั่นเพียร จะทำให้เราประสบความสำเร็จ เเละขอให้ระลึกเสมอว่าคนที่เกิดมาเก่งโดยธรรมชาตินั้นมีน้อยเเต่คนที่ประสบความสำเร็จด้วยการทำให้ตนเป็นคนเก่งนั้นมีมากเเละสามารถทำได้
Create Date : 12 ตุลาคม 2549 |
|
16 comments |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 3:08:30 น. |
Counter : 4280 Pageviews. |
|
|
|