ขั้นตอนการส่งสุนัขไปทางเครื่องบิน ver 2 คัดลอกมาจาก //www.thaidogcenter.com/archive/index.php/t-37615.html ขอบคุณ คุณ takeshi เงื่อนไขในการรับส่งสินค้า และ พัสดุภัณฑ์ (ด้านหลัง AIRWAY BILL) 1. ผู้ส่งของได้รับทราบ และ ได้ยอมรับเงื่อนไขในการรับส่งสินค้า และ พัสดุภัณฑ์ตามที่ระบุดังต่อไปนี้ 2. ผู้ส่งของยอมรับผิดชอบทั้งหมดหากพบว่า ของที่ส่งนั้นเป็นของผิดกฏหมาย สิ่งของต้องห้าม และ/หรือ เป็นอันตรายในการขนส่ง ในกรณีที่ของนั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อผุ้ขนส่ง ในกรณีที่ของนั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อผุ้ชนส่งหรือบุคคลที่สาม ผุ้ส่งขอยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดทันที 3. ผู้ขนส่งจะรับผิดชอบต่อการสูญหายหรือความเสียหายตามเงื่อนไขต่อไปนี้เท่านั้น ก) ผู้ขนส่งยอมชดใช้ให้ไม่เกินกิโลกรัมละ 300 บาท หรือ มูลค่าจริงของสินค้านั้นตามราคาท้องตลาดแล้วแต่มูลค่าใดจะต่ำกว่า ข) ถ้าผุ้ส่งของต้องการให้ผู้ขนส่งรับผิดชอบตามมูลค่าจริงของสิ่งของที่ส่ง ผุ้ส่งของต้องแจ้งราคาจริงของสิ่งของนั้นในใบรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ในการนี้ผุ้ส่งของต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกร้อยละ 0.5 ของราคาที่แจ้งไว้ ค) ผู้ส่งของจะแจ้งราคาสิ่งของที่ส่งได้ไม่เกินวงเงิน 500,000 บาทต่อใบรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ 1 ฉบับ 4. ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดกับสิ่งของที่ขนส่งอันเนื่องมาจากเครื่องบินล่าช้า หรือ ยกเลิกเที่ยวบิน หรือ เครื่องบินประสบอุบัติเหตุ หรือ เหตุสุดวิสัยนอกเหนือจากอำนาจควบคุมของผุ้ขนส่ง หรือ ความเสียหายโดยการเสื่อมสภาพในตัวเอง ถูกโจรจี้ปล้น ฯลฯ 5. เมื่อได้รับเเจ้งจากผุ้ขนส่งว่าของถึงปลายทางแล้ว ผุ้รับต้องรับด้วยตนเอง หรือมอบฉันทะเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผุ้อื่นรับแทน 6. ในกรณีที่สิ่งของนั้นไม่มีผุ้ใดมารับจนพ้น 60 วันนับจากวันที่ส่งของนั้นถึงปลายทางด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม และผุ้ส่งของไม่มีคำสั่งใดมอบหมายไว้ ถือว่าผุ้ส่งของสละสิทธิ์ยอมให้สิ่งของที่ส่งนั้นตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผุ้ขนส่งโดยอัตโนมัติ 7. ในกรณีที่สิ่งของที่เน่าเสียได้ ไม่มีผุ้รับภายในกำหนดเวลา หรือว่าผู้ส่งของอนุญาตให้ผุ้ขนส่งขายทอดตลาดสิ่งของนั้นได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งผุ้ส่งของต้องขอรับเงินที่ขายได้ในจำนวนซึ่งได้หักค่าระวางพาหนะ และค่าอุปกรณ์ตลอดจนค่าใช้จ่ายทั้งหลายในการขายทอดตลาดแล้วจากผู้ขนส่ง 8.ผุ้ขนส่งพ้นความรับผิดชอบทั้งหมดทันทีที่ผุ้รับได้รับสิ่งของนั้นไปเรียบร้อยตามระเบียบ แม้สิ่งของที่ได้รับไปนั้น จะเห็นไม่ได้จากสภาพภายนอกว่ามีความสูญหาย หรือบุบสลายในขณะที่รับของนั้น 9. การเรียกร้องค่าเสียหายต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และยื่นต่อผุ้ขนส่งภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับสิ่งของนั้นไป หรือวันที่ได้รับมองจากผุ้ขนส่ง ถ้าพ้นกำหนดนี้ ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดชอบ 10. ถ้าผู้ขนส่งเสนอขายการประกันภัยสินค้าซึ่งตรงกับความประสงค์ของผุ้ส่งของ และ ถ้าผุ้ส่งของชำระค่าเบี้ยประกันแล้วโดยระบุในแผ่นหน้าของเอกสารนี้ สินค้าที่ส่งภายใต้ใบรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์นี้ จะได้รับความคุ้มครองการประกันภัยตามจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้ (การชดเชยค่าเสียหายจะไม่เกินมุลค่าจริงของสินค้าที่สูญหายหรือเสียหาย และไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้) เงื่อนไขรายละเอียดความคุ้มครอง (พร้อมกับข้อยกเว้นบางประการ) ผุ้ส่งของสามารถตรวจสอบได้ที่ สำนักงานของผุ้ขนส่ง หากมีกรณีสูญหายหรือเสียหายเกิดขึ้น โปรดแจ้งให้ผุ้ขนส่งทราบทันที ด้านหน้า : ระบุ ชนิดของสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เป็น 1 LIVE DOG (ผมส่งสุนัขมีชีวิต 1 ตัวครับ) สำหรับผุ้ขนส่งสุนัข 1. ต้องเป็นกรงที่มีถาดรองสิ่งขับถ่าย 2. กรงต้องใหญ่พอให้สุนัขอยุ่สบาย กลับตัวได้ด้วย 3. ห้ามติดขวดน้ำในกรง หรือ วางถาดอาหาร แต่วางผ้า หรือของเล่นนิดหน่อยได้ 4. อัตราค่าระวาง 27 บาทต่อกิโล (ของผมน้ำหนักรวมกรง 13.5 กก. แต่คิดค่าระวางตามขนาดกรงด้วย เป็น 22.5 นะครับ จึงคิดเป็นเงินทั้งสิ้น 608 บาทครับ 5. ระบุ ชื่อจริงผุ้รับ นามสกุล และ เบอร์โทรศัพท์ รวมถึงจังหวัดด้วย (ของผมระบุ คุณ... 08*-***-**** เชียงใหม่) สำหรับผุ้ไปรับสุนัข เตรียม บัตรประชาชนไปอย่างเดียวครับ หรือถ้าให้คนไปแทน ต้องมีใบมอบฉันทะ ---------------------------------------------------------- ขอบคุณ คุณ tongtastique อีกครั้ง เราสามารถนำน้องหมาที่มีน้ำหนักรวมกับกรง/กระเป๋า ไม่เกิน 5 กิโลกรัมขึ้นไปนั่งในห้องโดยสารกัยเราได้นะครับ โดยเมื่อจองซื้อตั๋วกับการบินไทยแล้วก็บอกขนาดของภาชนะใส่น้องหมาว่าขนาดเท่าไหร่ แต่ตามมาตรฐานไม่ควรจะใหญ่กว่ากระเป๋าหมาทั่วไปนะครับเพราะว่าหมาต้องกลับตัวได้และภาชนะนี้จะต้องวางเอาไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าของเราเวลานั่งในห้องโดยสารนะครับ แล้วจำนวนของหมาก็ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบินด้วยครับ เช่นที่เคยนั่งไปเชียงใหม่ด้วย Airbus 300-600 ก็ไม่น่าจะเกิน 3 ตัวนะครับ ส่วนการบินไทยเค้ามี Boeing 747-400 ที่หัวโตๆ อ่ะครับ ก็น่าจะรับน้องหมาได้ซัก 6 ตัวนะ อันนี้ไม่แน่ เราจำเป็นต้องรีบแจ้งผ่านคนจองตั๋วก็เพื่อจองที่ให้น้องหมาเราไง ไม่งั้นคนอื่นรีบจองก่อนก็เอาหมาขึ้นบ่ได้นะจ๊ะ ไปเชียงใหม่มาปลายปี 2550 สำหรับค่าน้องมะขามก็จ่ายไป 160 บาทครับเพราะหนัก 3.5 กิโลแล้วการบินไทยเค้าคิดเป็นกิโล คุ้มจะตาย (แต่ขากลับตังค์หมดเลยนั่งรถไฟนะครับ) ได้ข่าวว่า นกแอร์ก็รับหมาขึ้นเครื่องแต่ว่าให้เอาไว้ในห้องกระเป๋าใต้ท้องเครื่อง สำหรับลูกเราเป็นหมาเล็กก็อย่าเสี่ยงดีกว่าครับเพราะว่าเสียงดังมาก แอร์หนาว และความดันอากาศไม่ค่อยคงที่ ถ้านักบินลืมปรับค่าต่างๆ น้องมาออกมาเป็นมาแช่แข็งหรือแก้วหูแตกครับ ไม่ใช่เพราะเสียงนะแต่ว่าเป็นแรงดันอากาศ ส่วนบางกอกแอร์เวยส์ก็ทำเหมือนกแอร์ครับ (แต่ราคาเท่าไหร่ไม่รู้นะครับ ต้องโทรถาม 1771) แต่ว่ามีเครื่องบินอยู่แบบนึงชื่อ ATR72-500 เป็นแบบ 2 ใบพัด น้องหมาจะไม่ได้นั่งตักเราแต่ว่าจะถูกเรียกว่าโหลดไปในห้องกระเป๋าแต่จริงๆ แล้วก็เก็บไว้ในห้องกระเป๋าหลังครัวที่มีตะข่ายและม่านกั้นเท่านั้นเอง ใช้อากาศเดียวกันกับผู้โดยสารครับ แต่เครื่องบินลำเล็กๆ นี้ใช้ในเส้นทางกรุงเทพ-เกาะสมุย, กรุงเทพ-ตราด และ กรุงเทพ-สุโขทัยครับ แต่จะไปภูเก็ตก็ได้นะแต่ต้องนั่ง กรุงเทพ-สมุย-ภูเก็ต เสียเวลาครับ ไปการบินไทยดีกว่า มีบินตังหลายเส้นทางจากกรุงเทพ สำหรับคนที่จะไป น่าน ระนอง สกลนคร ร้อยเอ็ด ก็ลองถาม PB Air ดูได้นะครับเพราะว่า สายการบินนี้เช่าเครื่องบิน ATR72-500 ของบางกอกแอร์เวยส์ไปบินให้ครับ และสุดท้ายเพื่อนๆ ที่จะพาหมาไปยุโรป โดยต่อเครื่องที่ Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ หรือ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ก็ติดต่อที่สายการบินแอร์ฟรานซ์-เค แอล เอ็ม นะครับ เค้าให้เอาไปนั่งด้วยได้แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำหนักของหมาห้ามเกิน 4 หรือว่า 6 กิโลครับ (นี่ไม่ได้พูดถึงเรื่องเอกสารนะ) หรือถ้าจะไป ไต้หวัน หรือเวียดนาม ก็ติดต่อสายการบินนี้ได้นะครับเพราะว่าผมเคยทำงานอยู่ -------------------------------------------------------------- ถ้าไปใต้หวันก็แนะนำ KLM ถ้าจะเอาขึ้นเครื่องบินแบบนั่งด้วยกันก็น้ำหนักร้องไม่เกิน 4 กิโล นะคับ ถ้าจะเอาใส่ใต้ท้องเครื่องบินก็ติดต่อสายการบินก่อนเดินทางนะคับ ถ้าจะเข้ายุโรปก็แนะนำ Air France ทุกกรณีเหมือน KLM แต่น้ำหนักน้องหมา+กระเป๋าต้องไม่เกิน 6 กิโล (ไม่รู้ว่าลดเป็น 4 กิโลหรือยัง) แต่เรื่องเอกสารนำหมาออกนอกประเทศและเข้าประเทศอื่นนี่ รากเลือดมากๆ คับ เสียตังค์ประมาณ 40,000 ได้อ่ะคับ Create Date : 07 กรกฎาคม 2553 Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 16:05:42 น. 0 comments Counter : 6756 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet