One Love One Life ... For You... Harley Babie and Bowling
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
27 มกราคม 2553

ประโยชน์หลักของน้ำหมักชีวภาพและสูตร

คัดลอกบางส่วนมาจาก //home-of-gsdlovers.pantown.com/
ขอบคุณคุณ checgo (ji-ju) แนะนำไว้ในกระทู้นี้ค่ะ //www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J8812223/J8812223.html

----------------
นายทหารมาจากจังหวัดลพบุรี ท่านได้มาคุยให้ฟังถึงเรื่องประโยชน์ของน้ำสกัดชีวภาพ (น้ำหมักจากเศษผักผลไม้) ซึ่ง ประโยชน์ หลักจริง ๆ นั้น เราใช้สำหรับการทำเกษตรแบบธรรมชาติ คือใช้ในการทำปุ๋ยหมักชีวภาพหรือใช้เป็นปุ๋ยน้ำก็ได้ และใช้ร่วมกับสมุนไพรบางตัวทำเป็นยาป้องกันไล่แมลงศัตรูพืช อย่างได้ผล โดยไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังใช้สำหรับแช่เมล็ดพืชก่อนนำไปหว่านเพาะ ช่วยเร่งการงอก,ใช้ฉีดพ่นดอกป้องกันการร่วงก่อนตัดผลและฉีดพ่นผลที่สุกได้ที่แล้วเพื่อป้องกันการร่วงเร็ว ใช้ใส่ในบ่อปลา และปรับสภาพน้ำในบ่อพักน้ำต่าง ๆ เพื่อให้น้ำมีสภาพสมดุลย์ จนสามารถนำกลับไปใช้ได้อีก ฯลฯ

วิทยาการท่านนี้ เล่าว่าถ้าใช้น้ำสกัดชีวภาพแบบเข้มข้น ไม่ต้องผสมอะไรเลย เอามาราดเป็นแนวรอบตัวบ้านปรากฏว่า แมลงคลานต่าง ๆ โดยเฉพาะที่น่ารำคาญที่สุดสำหรับคน คือมด กับ แมลงสาปนั้น ไม่มากล้ำกรายอีกเลย

ที่น่าสนใจอย่างมากคือ ท่านบอกว่า ท่านเคยลองเอามาล้างเนื้อล้างตัวดู รู้สึกแสบยิบ ๆ ตรงที่มีแผล หรือเป็นรอยถลอก ท่านก็ลองทิ้งไว้จนตัวแห้ง แล้วราดน้ำสะอาดล้างตัวอีกครั้ง รู้สึกสดชื่นมาก ท่านว่าตัวหอมกลิ่นสดสะอาด คล้ายกลิ่นดินเวลาฝนตก และทำอย่างนี้บ่อยๆ แผลเล็กแผลน้อย, ผื่นคันต่าง ๆ แห้งสนิทได้เองอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องทายา

ต่อมามีนายทหารที่ท่านเคารพผู้หนึ่ง เลี้ยงหมาเยอรมันเช็พเพอดไว้ มาบ่นให้ท่านฟังเรื่องหมาเป็นโรคผิวหนัง เป็นแผลสะเก็ดหนองทั่วตัว ขนร่วง จนสาระรูปดูไม่ได้เลย รักษามาหลายหมอแล้ว เปลี่ยนอาหารหมามาสาระพัดอย่าง ก็ยังไม่ทุเลาเสียที

ท่านเห็นว่า ตัวเองได้ลองใช้น้ำสกัดชีวภาพดูแล้ว ได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างที่มาเล่าให้เราฟัง (ผิวพรรณของท่านปัจจุบัน ในวันที่มาเป็นวิทยากร ก็ดูเกลี้ยงเกลาสดใสกว่าวัยจริง ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาบน้ำสกัดชีวภาพหรือเพราะอะไรอย่างอื่น)

ท่านว่า ถ้าคนใช้ได้ผลดี ก็น่าจะดีกับหมาด้วย ท่านก็เลยเอาน้ำสกัด ชีวภาพนี้ ให้ไปทดลองใช้กับหมาดู โดยผสมน้ำให้เจือจางลง,ลองดูว่าพอหมามันทนได้(ไม่แสบจนมันเข็ดไม่ยอมให้อาบ) ราดตัวหมาทิ้งไว้ รอจนตัวแห้ง ตรงไหนมีสะเก็ดแผล, ขี้เรื้อนก็เน้นตรงนั้นให้มากหน่อย ราดให้ถูกผิวหนังให้ทั่ว พอตัวแห้งดีก็ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเป็นอันเสร็จ ท่านบอกว่าเจ้าของหมานำไปใช้ ไม่นานก็เชิญท่านไปดูผลงาน ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์เช่นกัน

เจ้าเช็พเพอดขี้เรื้อนกลับกลายเป็นเจ้าชายเช็พเพอดผู้สง่างาม ขนหนาแน่น หางเป็นพวง เปิดขนดูหาแผลสะเก็ดหนองที่เคยเป็นเต็มตัว ไม่เจอเลยสักแผลเดียว ขนก็สวยเป็นมันแถมยังกลิ่นสะอาดอีกต่างหาก ท่านภูมิใจหนักหนากับยาขนานนี้ ถึงกับให้เบอร์โทร.ของเจ้าของหมาไว้ด้วย ว่าถ้าไม่เชื่อที่ท่านเล่า ก็ไปดูด้วยตาตัวเองได้เลย

สำหรับผู้เขียนเอง เมื่อได้ฟังก็แสนจะดีใจเป็นหนักหนา พอกลับถึงบ้านก็รีบดำเนินการตามที่ได้ฟังมา น้ำสกัดชีวภาพ ทำเองไม่ทันก็ซื้อเขาเอามาก่อน ขวดละ 15 บาท เท่านั้น (ขนาดน้ำสิงห์ขวดใหญ่) ซื้อจากสหกรณ์เลมอนฟาร์มที่ไปอบรมนั่นแหละ

ที่บ้านมีหมาอาวุโสเจ้าปัญหาอยู่ตัวหนึ่ง อาการเหมือนกันเปี๊ยบ ก็จัดการให้คุณแม่บ้านชโลมน้ำยาและทำตามขั้นตอนที่ฟังมา ทุก 2-3 วัน เดือนเดียวให้หลังเห็นผลทันตา แต่ไม่ถึงกับกลายร่างเป็นนางพญาเช็พเพอดเพราะยายแกอายุถึง 11 ปี แล้ว ขนก็ขาวเกือบทั่วตัวแต่แผลหายหมด กลิ่นตัวก็ไม่มี

แถมผลพลอยได้คือ คุณแม่บ้านที่แกมักจะเป็นโรคแพ้ผงซักฟอกเป็นหนองตามซอกเล็บมือ (เขาเรียกกันว่า โรคน้ำกัด……) ก็พลอยหายสบายมือไปด้วย ตั้งแต่นั้นมา คุณแม่บ้านเธอก็จัดการทำน้ำสกัดชีวภาพเก็บไว้ใช้เองประจำบ้านมิได้ขาด และมีชีวิตอยู่โดยปราศจากโรคน้ำกัดมืออย่างมีความสุขตลอดไป

เอาละกลับมาฟังบรรยายจากท่านวิทยากรต่อ

นอกจากรักษาโรคผิวหนังเช็พเพอดได้ชงัดแล้ว ยังมีประโยชน์ที่คาดไม่ถึงและไม่น่าเชื่อ สำหรับพวกเราคนเลี้ยงหมาอีกเรื่องหนึ่ง คือ สามารถกำจัดกลิ่นอึหมา,ฉี่หมา ที่พวกเรา (พยายามที่จะทำความ) คุ้นเคย อันสุดแสนจะทนทาน ยิ่งถ้าคนที่บ้านหรือคนรอบข้างรังเกียจหมาด้วยแล้วละก้อ แทบจะต้องเป็นปัญหาบ้านแตกกันทีเดียว

ท่านวิทยากรเล่าว่า เรื่องนี้หมูมาก

เอาน้ำสกัดชีวภาพผสมน้ำสัก 1:50 ถึง1:100 (ใช้น้ำสกัดชีวภาพมากน้อย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกลิ่น) ล้างพื้นด้วยน้ำธรรมดาสะอาดแล้ว ก็เทน้ำสกัดชีวภาพที่ผสมไว้ ราดลงไปให้ทั่วบริเวณแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่าแปรงฟัน แต่งตัวลงมาอีกที รับรองบ้านหอมเหมือนอยู่ชายเขาหลังฝนตกใหม่ ๆ , ตรงไหนเหม็นก็ราดลงไปตรงนั้น ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ตั้งใจให้ดีอย่าวอกแวก ทำสมาธิจิตอธิษฐานในใจว่า “หายเหม็นแน่ ๆ” มันก็ต้องหายเหม็นอย่างที่ตั้งใจแน่นอนซิน่า

มีเคล็ดลับที่ต้องระวังอยู่อย่างหนึ่ง สำหรับการใช้น้ำสกัดชีวภาพ เนื่องจากตัวมันเอง มีสภาพเป็นจุลินทรีย์ ซึ่งจะทำงานโดยการย่อยสลายอินทรีย์สาร และสารพิษต่าง ๆ ให้เกิดสารอินทรีย์และเอนไซม์ที่มีประโยชน์ ดังนั้น ไม่ควรใช้ร่วมกับสารเคมีที่มีฤทธิ์ ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ เช่น ผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างพื้นล้างห้องน้ำที่มีกรดเข้มข้น ซึ่งจะทำลายจุลินทรีย์ธรรมชาติ ในน้ำสกัดชีวภาพ ที่นี้พอใช้แล้วไม่ได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์เหมือนเราก็จะมาหาว่าหลอกกันละซี
----------------------------------------------------------------------------------

คราวนี้ ก็จะเป็นกรรมวิธีการทำน้ำสกัดชีวภาพ หรือน้ำมหัศจรรย์ ซึ่งมีคนหัวใส เอาไปผสมน้ำใส่ขวดส่งขายทางไปรษณีย์ขวดละ 200-300 บาท ทำนองว่าเป็นปุ๋ยมาจากสวรรค์อะไรเทือกนั้นป่านนี้ คงรวยเละไปแล้ว

ก่อนอื่นก็มาทำควรรู้จักกับน้ำสกัดชีวภาพกันก่อน ซึ่งก็คือน้ำที่ได้จากการหมักพืชผัก ผลไม้ ประเภทอวบน้ำทั้งหลาย (เช่นผักตบชวา, ต้นกล้วย, ผักกาด, สับปะรด, มะละกอ ฯลฯ) กับน้ำตาล โดยหมักไว้ในสภาพไร้อากาศ จะได้น้ำหมัก ที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ และสารอินทรีย์หลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นยีสต์, แบคทีเรียที่สร้างกรดเลกติก และรา แบคทีเรียสังเคราะห์แสงก็เคยพบบ้างในน้ำสกัดชีวภาพนี้

การหมัก ต้องใช้ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เพื่อให้วัสดุหมักอยู่ในสภาพไร้อากาศ อย่างที่บอกตอนแรก เพราะถ้ามีอากาศเข้าไปได้ ก็จะมีจุลินทรีย์ที่ไม่ได้รับเชิญ แอบแฝงเข้ามาในกระบวนการหมักของเรา ก็จะทำให้เกิดหนอน และมีกลิ่นเหม็นได้ แต่ก็ไม่เป็นโทษ

ท่านที่เลี้ยงนก เลี้ยงไก่ หรือเลี้ยงปลา ก็สามารถช้อนหนอน ในน้ำหมักนี้ไปให้นก ให้ไก่ ให้ปลากิน ได้มีวิตามินดีเสียอีก ส่วนน้ำหมักก็นำมาใช้ได้ตามขั้นตอนปกติ แต่จะไม่หอมน่าใช้ เท่ากับน้ำหมักที่ได้จากการหมักในสภาพไร้อากาศจริง ๆ

**วิธีการ ก็เริ่มด้วยการ นำ พืชผัก ผลไม้ ประเภทอวบน้ำ ที่หาได้ (ถ้าบ้านอยู่ใกล้ตลาดอาจไปขอเศษผัก หรือเปลือกสับปะรด, หรือเศษผลไม้ที่มีน้ำมากจากแม่ค้า เอามาคัดที่เน่า ๆ ออกทิ้งก่อน) ควรใช้ของสด ๆ จึงจะได้น้ำมาก

นำมาใส่ในถัง (หรือถุงพลาสติกแบบไม่รั่ว)ผสมกับน้ำตาล ในอัตราส่วน น้ำตาล 1 ส่วน ต่อ พืช 3 ส่วน โดยน้ำหนัก คลุกให้เข้ากันดี (ถ้าใช้กากน้ำตาลใหม่ ๆ จะดีมากถ้าหาไม่ได้ ใช้น้ำตาลอะไรก็ได้) เมื่อคลุกจนทั่วแล้ว หาของหนัก ๆ วางทับข้างบนจะได้ไล่อากาศ (วางทับไว้สัก 1 คืน ก็เอาออกได้) เสร็จแล้วต้องปิดภาชนะหมักให้สนิท ถ้าเป็นถุงพลาสติก ต้องแน่ใจว่าจะไม่รั่ว มัดปากถุงให้แน่น เพื่อไม่ให้อากาศเข้าได้ เป็นการสร้างสภาพที่เหมาะสมให้จุลินทรีย์ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ควรวางถังหรือภาชนะหมักไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแดดถูกฝน หรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมากเกินไป ก็เป็นอันเสร็จกรรมวิธีการหมัก

จากนั้นก็ทิ้งไว้ ให้จุลินทรีย์เขาทำงานแบ่งตัวเอง เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมากมาย ผลิตสารอินทรีย์หลากหลายชนิด รวมทั้งเอนไซม์ ฮอร์โมนและไวตามินบางชนิด ด้วย

ประมาณ 10-14 วัน ก็เปิดภาชนะ, ถ่ายน้ำสกัดชีวภาพออกใส่ภาชนะพลาสติกไว้ น้ำหมักที่ได้ใหม่ ๆ จะยังเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ เนื่องจากกระบวนการหมักยังไม่สมบูรณ์ต้องคอยขยับเปิดฝาภาชนะบรรจุ ทุกวัน จนกว่าจะหมดก๊าซ (ถ้าใส่ขวดพลาสติกไว้ ก็คอยคลายเกลียวฝาขวดจนได้ยินเสียงลมออกมาจึงหมุนเกลียวปิดตามเดิม ทำทุกวัน จนไม่มีเสียงลม) จากนี้ก็นำไปใช้ได้เลย
-----------------------------------------------------------------------------------

น้ำหมักที่มีคุณภาพดี จะมีกลิ่นและรสเปรี้ยวเหมือนน้ำผักดอง มีกลิ่นแอลกอฮอล์บ้าง ถ้าใช้ผลไม้ที่สะอาด และใช้น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายขาว เมื่อหมักได้ที่แล้ว นำมากรอง ดื่มอร่อยเหมือนไวน์ และมีประโยชน์ มากด้วยเพราะประกอบด้วยจุลินทรีย์, เอนไซม์, ฮอร์โมนและวิตามินหลายชนิด ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก ดีกว่าไปซื้อเหล้านอก, ไวน์นอกราคาแพง มากินให้เสียดุลย์การค้า

**เอกสารอ้างอิง : คู่มือโครงการห้องเรียนเกษตรกรรมธรรมชาติ จัดทำโดย สหกรณ์เลมอนฟาร์มพัฒนา จำกัด ร่วมกับ ชมรมเกษตรธรรมชาติ แห่งประเทศไทย
--------------------------------------------------------------------------------



Create Date : 27 มกราคม 2553
Last Update : 27 มกราคม 2553 17:41:58 น. 2 comments
Counter : 6145 Pageviews.  

 


โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:19:36:10 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 27 มกราคม 2553 เวลา:22:53:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

mooaoun
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




One Love One Life...
Love Harley Babie Angie and the Gangs
& Bowling...2 ka
Background.MyEm0.Com
[Add mooaoun's blog to your web]