● บันทึกน้ำตา 1 ปิ๊บ






วันที่ 19 ส.ค พาวีโก้ไปทำหมันตามนัด 9 โมงเช้า เที่ยงไปรับวีโก้ออกจาก ร.พ ด้วยอาการสลึมสลือ พอวีโก้ได้ยินเสียงแม่กับพ่อ เค้าพยายามยกหัวโซซัดโซเซ เห็นแล้วสงสารลูกจับใจ

มาถึงบ้านให้นอนในกรงใหญ่ที่พ่อเตรียมไว้ให้ ด้วยการเอาไปตากแดดยามเช้าจนถึงเวลาก่อนออกไปรับลูก ตลอดเวลาของการรอคอยลูกกลับบ้าน พ่อของลูกบ่นเป็นระยะว่าสงสารลูก ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง จะเจ็บมากมั๊ย ทำไมทาง ร.พ ยังไม่โทรกลับมาให้ไปรับนะ ทำให้แม่อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าหรือลูกของเราจะสลบแล้วไม่ยอมตื่นอีกเลยหรือเปล่า

เคยเห็นเรืองทำหมันของลูก ๆที่ห้องแมวเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอถึงเวลารู้ซึ้งเลยว่าเราเป็นห่วงลูกแค่ไหน คิดไปต่าง ๆ นานาน้ำตาจะไหลหรือว่าเราส่งลูกไปทำหมันเร็วเกินไปลูกเพิ่งจะพ้นวัยเด็กได้ไม่นาน ในความรู้สึกของแม่กับพ่อลูกยังเป็นเด็กขี้อ้อนตัวเล็ก ๆ ที่ฉลาดแสนรู้ เข้าใจภาษาท่าทางที่สื่อถึงกัน โดยเฉพาะกับแม่ เช่นแค่แม่ตบน่าตักลูกก็จะกระโดดขึ้นมาหาแม่ทุกครั้ง เป็นเพราะเราแม่ลูกอยู่ด้วยกันเกือบตลอดทั้งวันลูกจึงเรียนรู้และเข้าใจภาษากายที่แม่สื่อให้กับลูก จนแม่คิดว่านี่ลูกเป็นแมว หรือลูกเป็นหมากันแน่

อุ้มลูกเข้ากรง ลูกได้ยินเสียงตาทั้งที่ตายังสลืมสลือลูกเอามือยืนออกมานอกกรงเหมือนจะควานหามือแม่กับพ่อ พ่อยื่นมือไปจับมือลูก ลูกอ้าปากร้องแต่ไม่มีเสียง ลูกพยายามโงหัวขึ้นหนูรู้มั๊ยพ่อเค้าสงสารลูกจนน้ำตาซึมตานี้อย่างแดง บ่นว่าถ้ารู้ว่าลูกต้องเจ็บขนาดนี้ถ้าย้อนกลับไปได้จะไม่พาลูกไปทำหมัน แม่ปลอบใจทำดีแล้วหล่ะ เกิดลูกพลาดมีหลานออกมาหลายตัวเราคงทำใจไม่ได้ที่จะให้ใคร และก็คงเป็นการยุ่งยากที่เราจะเลี้ยงหลานหลายๆ ตัวเนื่องจากพ่อก็เป็นภูมิแพ้ไม่น้อยไปกว่าแม่

ลูกยังโงหัวขึ้นลงไม่ยอมหยุด แม่เลยเอานิ้วให้ลูกดมลูกนิ่งขึ้น แม่คอยลูบหัวลูกเกาหัวให้ลูก ลูกถึงยอมหลับต่อไปได้ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่ลูกหลับพักผ่อน

เมื่อช่วงค่ำขณะจะเชียร์มวย เราอุ้มลูก กอดลูกเดินไปเดินมาลูกเริ่มรู้สึกตัวปกติมากขึ้น แม่กับพ่อพยายมพูดกับลูก ลูกมีเสียงตอบรับ พ่อมานน้ำตาซึมอีกแล้ว บรึ๋ย...................................ยยย







ตั้งเต่หนูเริ่มรู้สึกตัวหลังผ่าตัด หนูไม่มีอาการขู่แม่กับพ่อเลยซักนิด พ่อเรียกแม่เรียกลูกจะขานรับ มีเสียงบ้างไม่มีเสียงบ้าง อุ้มหนูพูดคุยกับหนู หนูพยายามเปิดตามอง แม่รู้สึกดีและรักหนูมากที่แม้กระทั้งหลังผ่าตัดหนูยังจำแม่เสียงแม่กับพ่อได้ไม่มีอาการหวาดระแวง หรืออาการใดๆ อย่างที่แม่เคยอ่านกระทู้เรืองหลังการผ่าตัดทำหมันเรืองจะจำอะไรไม่ได้เลยในชวงระยะเวลาฟื้นตัวจากยาสลบ แม้กระทั่งพ่อกับแม่ แต่ลูกของแม่ไม่เป็นอย่างนั้น แม่ไม่ได้หมายความว่าแม่เลี้ยงหนูและรักหนูดีกว่าครอบครัวอื่น แม่หมายความถึง เราแม่ลูกมีเวลาใกล้ชิดผูกพันกันมาก พูดคุยสือสารกันเกือบตลอดทั้งวัน ด้วยท่าทางและคำพูดและลูกก็เข้าใจในสิ่งที่แม่สื่อเป็นอย่างดี


ลูกเป็นแมวที่แม่ไม่เคยคิดว่าเป็นแมวเลยสักนิด นิสัยของลูกแต่งต่างจากน้อง ตุ๊ก ตุ๊ก มาก คงเป็นเพราะมีที่มาทีไปแตกต่างกัน ลูกคงเป็นเด็กเบเบาะจากบ้านใครบ้านหนึ่งที่ซน ๆ มุดเข้าไปเล่นใต้ท้องรถกระบะแล้วหล่นลงมาอยู่กับแม่ ส่วนน้อง ตุ๊ก ตุ๊ก เป็นเด็กจรข้างถนน มีชีวิตทีต้องเพิ่งตัวเอง พบเจอคนมากมายในแต่ละวัน บ้างก็อาจจะใจดีแบ่งเศษอาหารให้น้อง บ้างก็ไม่ชอบใจที่มีแมวมายุ่ง อาจจะโดนไล่ตะเพิดให้กลัวบ้าง จนมีนิสัยที่ไม่ค่อยจะไว้ใจใคร ตุ๊ก ตุ๊ก ไม่ค่อยสนิทกับแม่ เค้าข่อนข้างเป็นตัวของตัวเองในแบบของเค้า ซึ่งแม่ก็เข้าใจ

ถามว่าแม่รักใครมากกว่ากัน ระหว่างหนูวีโก้ กับน้อง ตุ๊ก ตุ๊ก แม่รักเท่ากันนั่นหล่ะ แต่การแสดงออกและการเอาใจใส่ของแม่ ก็คงต้องอยู่ที่ตัวของ ลูก ๆ ว่าอยากจะรับจากแม่แค่ไหน ตุ๊ก ตุ๊ก แม่รักเค้าแบบเอ่อ เค้าตลก ๆ ดี น่าสงสารดี ไม่ค่อยยุ่งกับใครดี วัน ๆ ชอบเล่นกับหนู บางทีแม่อยากจะอุ้ม อยากจะหอมเค้า เจ้าตุ๊ก ตุ๊ก เอามือดันหน้าแม่ หันหน้าหนี บางที่เดินไปหายังวิ่งหนีแม่อีก เอิ๊ก เอา เอา แม่ยอมรับในตัวลูกได้


สำหรับวีโก้ แม่อ่ะรักหนูในแบบ ต่างคนต่างชอบที่จะเป็นแม่ลูกที่ใกล้ชิดกัน ตั้งแต่หนูผ่าตัด แม่ลงมานอนห้องข้างล่างกับหนู หนูนอนข้างแม่จนถึงเช้าในคืนแรก คืนทีสองหนูตื่นก่อนแม่อีก หนูมานั่งบนหมอนเหมือนอยากจะปลุกแม่ แต่เห็นนั่งเงียบอยู่อย่างนั้น แม่เลยถามตื่นแล้วเหรอลูก ลูกขานรับ แม่อุ้มลูกออกมานอกห้อง ลูกก็เข้าห้องน้ำทั้งฉี่ทั้งอึ สบายตัวไปเลย และแล้วตั้งแต่วันที่ลูกผ่าตัดแม่ก็ยังนอนกับลูกที่ห้องข้างล่าง และคิดว่าคงไม่ขึ้นไปนอนห้องนอนข้างบนอีกต่อไปแล้ว เพราะลูกไม่คุ้นกับห้องชั้นบน และแม่ก็คิดได้ว่าเป็นการประหยัดค่าไฟไปในตัว 555+++ เพราะห้องนอนของแม่แอร์ 18000 บีทียู ลงมานอนห้องคอมข้างกับลูกใช้แอร์ 13000 บีทียู ประหยัดเห็น ๆ อิอิ


เมื่อคืนก่อนนอนลูกเล่นซนมาก กระโดดขึ้นไปบนผ้าม่าน แม่ทั้งดุกลัวลูกแผลจะแตก ลูกก็ไม่ยอมหยุด จนแม่ต้องจับมาตีก้น ลูกทำหางแกว่งไปมาทำสายตาเหมือนเด็กโดนดุ แม่ก็เลยพูดขู่ว่าอย่าเล่นนะ ตี ตี นะ ลูกก็ร้องแอะๆ เบา ๆ ในลำคอ เล่นเอาแม่ขำ บอกพี่เค้าว่า วีโก้ทำแกล้งร้องไห้ด้วยอ่ะ ก็ลองดุเค้าใหม่เค้าก็ทำเหมือนเดิม หางงี้สบัดไปมา ร้อง แอ แอ แล้วแม่ก็จับลูกมานอนหนุนแขน เกาคางให้ลูกก็หลบคาอกแม่ จนเช้าตื่นมาอีกทีลูกอยู่บนหมอนหัวนอนอีกแล้ว


แม่แปลกใจมากนะ ที่แม่ไม่เป็นภูมิแพ้ขนแมวอีกแล้ว เด๋วนี้ทั้งกอดทั้งอุ้มโดยไม่มีผ้าปิดจมูกแล้ว หรืออาการแพ้ขนแมวจะสิ้นสุดในคราวที่แม่เป็นครั้งสุดท้าย แบบเป็นเอามาก มากซะจนคิดแล้วคิดอีกว่า จะไปเก็บน้อง ตุ๊ก ตุ๊ก มาเลี้ยงเพิ่มอีกหรือเปล่าดี จนตัดสินใจเก็บมาเลี้ยง อาการแพ้ขนแมวก็ไม่มีอีกเลย คงเพราะดูแลตัวเองด้วย ไม่นอนดึก พักผ่อนให้พอนีสำคัญมากเลย และอาจเป็นเพราะมันมีอาการแพ้จนไม่รู้จะแพ้ยังไงแล้ว หรือภูมิต้านทานชินกับขนแมวแล้วมั้งนะ คงงั้นหล่ะ


การทำหมันให้วีโก้ลูกสุดที่รัก ก็ผ่านไปด้วยดี ต่อไปคงถึงคราวน้อง ตุ๊ก ตุ๊ก แต่คงอีกหลายเดือนเน๊อะ


รัก





Create Date : 25 สิงหาคม 2551
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2552 9:32:38 น. 0 comments
Counter : 390 Pageviews.

One LoVe Family
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เด็กตาวิเศษเค้าเก่งจัง
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
25 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add One LoVe Family's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.