+-+ OncE UPoN'-'a MaN +-+ รักนะ.. คนอ่าน เข้ามาดู.. โดนใจ ออกไป.. อย่าลืมกัน
Summary for Best of the Year 2012 ..Please CLICK!!

สวัสดี ตุลา :: ที่นี่..ประเทศไทย ไม่ใช่..ประเทศเรา (แล้วละมั้ง?)

สวัสดี ตุลาคม ครับ...เพื่อนๆพี่ๆ ชาว "บล็อคแก๊งค์" ที่น่ารักทุกคน


[เดือนนี้ ..ขอรุนแรง กับการเมืองหน่อยละกัน ...ถ้า 'ไม่อยากจะเครียด(ไปมากกว่านี้)' ขอแนะนำว่า 'อย่าอ่าน' ครับ]

สถานการณ์ของบ้านเรา ณ เวลานี้ ขอพูดตรงๆ(และหยาบเล็กน้อย)ว่าได้ถึงคราว "ชิบหายวายป่วง" ไปหมดแล้ว ..แบบว่า ที่เคยเป็นมาว่าหนักเท่าไหร่ กลายเป็นเพียงแค่เรื่องจิ๊บๆ สิวๆ ไปเลย เมื่อเอามาเทียบระดับชั้นกัน

ตลอดเดือน สองเดือนที่ผ่านมานี้ นับแต่พันธมิตรบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ..ตั้งแต่นั้น สัญญาณอันตรายของประชาธิปไตย ก็กระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ และแล้วมันก็ถึงทีที่เกิดเสียงร้องไซเรนจนได้ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551.. ซึ่งมันอาจจะหมายถึง ความอันตรายเป็นที่สุด กำลังจะได้เกิดขึ้นเสียแล้ว

และ หากถ้ามันไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดยั้ง ให้หยุดนิ่งได้ ก็เตรียมตัวเตรียมใจ ต้อนรับวันมหาวิปโยค เฉกเช่นที่ 35 ปีที่แล้วเคยเกิดขึ้นมาในช่วงเวลาเดียวกัน

ที่ผมบอกอย่างนี้ อาจจะมีคนด่าหาว่าปากเสีย ไม่มีหูรูด หมาไม่รับประทาน อะไรก็ตามแต่ ..หากนั่นก็คงจะไม่มีทางลบคำพูดนี้ได้หรอก เพราะสิ่งที่ผมเหมือนจะพลั้งพลาดไป แต่ยังไง ความน่าจะเป็นจริงมันก็ใกล้เคียงกันจริงๆ

ภาพของวันนี้... เราอาจจะเห็นแค่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุม และเห็นคนอีกฝ่ายพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่

แต่หากถ้าลองนึกภาพในอนาคตอันใกล้ เทียบเคียงกับประวัติศาสตร์อันเลวร้ายที่ผ่านมา(ไม่ว่าจะ 14 ตุลา 16, 6 ตุลา 19 หรือว่าพฤษภาทมิฬ) ..สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็คือจุดเริ่มต้นดีๆ ที่สามารถจะติดไฟ แล้วมอดไหม้ลามเลียไปถึงเชื้อเพลิงใดๆ ก็ยังได้ ...หากตราบใดจะไม่มีใครสักคน แสดงความกล้าออกมาสกัดเพลิงลูกนี้ได้ มันก็จะไม่มีทางสงบลง และผู้คนที่อยู่ใกล้จะต้องเสียชีวิตไปมากกว่านี้

ถ้านับแค่วันนี้.. เพิ่งจะมีคนสูญเสียไปไม่ถึงสิบ อาจจะบอกว่าเล็กน้อยก็ยังได้ หากสำหรับผมแล้ว เพียงแค่มีใครสักคนเดียวต้องพลีชีพให้กับเหตุการณ์ครั้งนี้ นั่นก็นับว่า เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจยอมรับว่ามันเล็กน้อยได้เลย ..ยิ่งในกรณีเป็นการสูญเสียที่เกิดขึ้นมาจากการขัดแย้งทางการเมืองเช่นนี้ด้วยแล้ว มันสุดแสนจะรุนแรง

ความรุนแรงในที่นี้ หมายถึง ความป่าเถื่อน ไร้อารยธรรม และไร้ซึ่งคุณธรรมในหัวจิตหัวใจ ของสองฝักสองฝ่าย ที่สุดท้ายกลายมาเป็นความตาย ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหาเรื่องเข้าไปเกี่ยว หรือจะใครสักคนที่ทำตัวนิ่งๆ แต่อยู่ผิดที่ผิดเวลา ...แต่ถ้านั่นคือชีวิตของคนแล้ว มันคุ้มหรือที่จะเข้ามาเสี่ยงในเรื่องไม่เป็นธรรมอย่างนี้

แต่ถึงวันนี้จะเสียใจในสิ่งที่เป็นไปอย่างไรก็ตามแต่ ..หากสุดท้ายมันจะไม่สิ้นสุดลง และมีใครให้ต้องสละชีวิตมากไปกว่านี้อีก ...ต่อจากนี้ มันก็คงจะทำได้แค่ทำใจ แล้วปล่อยให้มันเป็นไปตามกงกรรมกงเกวียนที่ผู้คนเหล่านั้นสร้างขึ้นมาเพื่อประหัสประหาร ด้วยความหวังว่า จะต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้

แต่ในท้ายที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ ที่จริงเสียยิ่งกว่าจริงก็คือ ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของประเทศ ของแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ และของคนไทยทุกๆคน ที่ต่อให้ไม่ได้ร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ก็มิวายจะถูกเหมาจากคนอีกหลายล้านคนรอบข้างนานาประเทศ ว่า "คนทุกคนที่อยู่ในประเทศนี้ คือไอ้ขี้แพ้"

ถ้ามันได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ...จะอับอายมั้ยล่ะครับ ที่ถูกคนมีอารยธรรมสูงกว่า ดาหน้าด่าด้วยความสะใจ และเห็นเรามันก็เป็นแค่ สิ่งมีชีวิตที่ต่ำชั้นกว่าพวกเขา

เอ้าละเว้ย! งานนี้ใครจะหาว่าผมหยาบคาย ก็ตามใจเลย ...แต่สิ่งที่ผมพูดออกไปทั้งหมดนี้ มันพูดจากใจจริงๆ ที่ทั้งเหลืออดกับสิ่งที่เป็นไป และสงสารประเทศไทย ที่ต้องมาเจออะไรแย่ๆของผู้คนที่อาศัยอยู่อย่างนี้

ทุกวันนี้ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า เราอยู่ในประเทศไทยจริงๆใช่มั้ย ..ทำไมหนอที่ใครๆเขาเคยว่า ที่แห่งนี้เป็น "สยามเมืองยิ้ม" ในวันนี้ มันกลับกลายเปลี่ยนแปลงเป็น "สยามเมืองเถื่อน" ไปได้

ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดทางความคิด หรือเนื่องจากสัญชาตญาณสัตว์ป่าได้ถูกปลุกขึ้นมา ให้เข่นฆ่าล่าเนื้อสิ่งที่มีชีวิตด้วยกันก็ตามแต่ หากสุดท้ายแล้ว คำว่า "สยามเมืองเถื่อน" ก็คือคำที่ดี และตรงที่สุด ที่จะพูดถึงประเทศไทยในวันนี้ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ

จากที่ประเทศไทย เคยเป็นของคนไทยทุกคน ..ในวันนี้ มันกำลังพยายามจะถูกทำให้กลายเป็นของใครบางคน และอาจย่อมไม่ใช่คนทุกคนที่ควรจะได้เป็นเจ้าของ

และถ้าตราบใด ผลการแข่งขันยังไม่รู้ผลแพ้ชนะที่แท้จริงอยู่อย่างนี้ ..ผมคนนี้ คนหนึ่ง ที่ไม่ได้มีความต้องการจะอยู่ฝ่ายไหน ก็คงจะได้เป็นเพียงแค่เศษเถ้าถ่านไม่มีค่ามวลเล็กๆ ที่พร้อมจะลอยละล่องปลิวไปกับสายลม หาไม่มีแผ่นดินใดจะได้อาศัยอยู่อย่างสงบนิ่งเป็นแน่

เหมือนจะเศร้านะที่เปรียบตัวเองเป็นอย่างนั้น ..แต่มันก็คงจะดีกว่า หากผมยอมปวารณาตัวเองกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อแลกกับความไม่แน่ใจ ว่าสุดท้าย
เราจะได้เป็นเจ้าของประเทศนี้หรือไม่

หากเราชนะ ..เรามีความสุข
หากเราแพ้ ..เราเคียดแค้น (พร้อมหาเรื่องจะกลับมาล้างแค้นได้ตลอด)


แต่ถ้าเราเลือกจะเป็นเพียงเถ้าถ่าน ..อย่างน้อยๆ มันก็ยังคงมีอิสระที่จะคิดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ โดยไม่มีสิ่งใดมาเป็นกรอบคอยจำกัด ให้เราว่าถูกก็ต้องถูก ผิดก็ต้องผิด เฉกเช่นที่รัฐบาล หรือว่าพันธมิตร กำลังล้อมกรอบให้กับผู้คนของแต่ละพวกต้องคิดตามไปซะทุกอย่าง

ถ้าลองให้ผมเลือกจะมีชีวิตอยู่ในกรอบอย่างนั้น ..คงเห็นจะได้เศร้าสลดยิ่งกว่า และมีหวังจะทุกข์ใจอับเฉา จนถึงยอม ให้ตำรวจยิงแก๊สพิษใส่ รมควันตัวเองให้ตายไปเลยก็ได้ซะคงดี .....ละมั้ง!!?

หนังโรงน่าดูชม...ตุลาคม

(โปรแกรมความน่าดูอาจเปลี่ยนแปลง..มากขึ้น หรือลดลง มีเพิ่มเรื่อง หรือหายไป โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้านะจ้ะ..อิอิ)
* "I Will Loving It" หมายความว่า ...หนังเรื่องนั้นในรอบเดือน ถือเป็นที่สุดที่ผมรอคอยจะดู และคาดหวังว่ามันจะดีอย่างที่ต้องการ




ดู{หนัง}แล้วอยากเล่า...


นี่คือส่วนที่จะมีมาอัพเดทกันโดยตลอด หลังจากดูหนังจบปุ๊บ ผมก็จะมาเล่าปั้บ แบบสั้นๆ กะทัดรัด ได้ใจความ ...จะดี ไม่ดี ก็จะเล่าให้หมดทุกเรื่อง ไม่สปอยไม่สแปลซให้เสียรมณ์อย่างแน่นอน

และถ้าหนังบางเรื่องมีอะไรให้ประทับใจ หรือให้มีอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียน ก็จะกลายสภาพไปเป็น "ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์" -> หนังโรง หรือ "ดู{หนัง} @ My Home" -> หนังแผ่น รีวิวฉบับเต็มด้วยครับ


ตุลาคม 2551


หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย -> เกรด C



ประโยคที่ว่า "ไม่ใช่ทุกครั้ง ที่ตัวอย่างหนังจะตัดสินหนังเต็มๆทั้งหมดได้" ยังคงจริงเสมอ..

และ "หลวงพี่เท่ง 2" ก็ได้พิสูจน์ว่ามันจริงมากๆ ..ที่บางครั้ง การหลวมตัวไปดูหนังที่เนื้อในไม่น่าคาดหวังอะไร เพียงเพราะตัวอย่างมันหลอกความรู้สึกเราได้ ...มันมักจะให้ผลลัพธ์ที่ ...เซ็งเป็ด!

ทั้งๆที่ผมก็ว่า ตัวเองพยายามปล่อยวางแล้วนะ.. และแค่จะให้โอกาสที่ท่านผู้กำกับปากห้อย กะจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยหนังเรื่องนี้ (แกพูดให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนั้น) อีกทั้งเชื่อว่าประเด็นที่หนังเอามาเล่น (การทำเหมืองหินที่นำมาซึ่งความเดือดร้อนของชาวบ้าน และ การที่คนพุทธ คริสต์ และอิสลาม มาอยู่รวมกันได้อย่างมีสามัคคี) สามารถจะทำให้จริงจังก็ย่อมได้ ...แต่สุดท้ายมันก็แค่ความคาดหวัง ที่ไม่อาจมีวันเป็นจริงในเครดิตการเป็นผู้กำกับของ "โน้ต เชิญยิ้ม"

ถ้าบอกว่า ภาคแรก ก็ธรรมดาค่อนไปทางฝืดแล้ว ..มาภาคนี้ ยิ่งเละและเลอะ มากไปกว่าเก่า เพราะมันแทบจะไม่อาจเรียกว่าเป็นหนัง (หรือถ้าให้แซวแบบไม่ใช่ก็ใกล้เคียง.. ก็คงจะพูดว่ามันคือ "Disaster Movie" แบบฉบับไทยทำ ไทยเล่น ให้ไทยดูกันเอง) ...ถ้าไม่นับมุขฮาๆที่แทบทั้งหมดล้วนมาจากตัวอย่าง และอีกเล็กน้อยด้วยอารมณ์คนในโรงมันพาไป ก็แทบจะไม่มีสาระอันใดให้หยิบจับเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย

แล้วเรื่องของประเด็นที่กะจะจริงจัง ก็ช่างน่าเสียดาย ที่มันทำอะไรไม่ได้เลย ..ไม่ได้มีผลลัพธ์ต่อความรู้สึกใดๆด้วยซ้ำ เหมือนแค่บทจะยัดเข้ามาก็เพื่อให้มันมีอะไร ...ฉะนั้น ถ้าจะพูดว่าผู้กำกับได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไหม ก็คงว่า ไม่เลย ..แถมยังออกจะดูว่า สักจะกลับมาเพราะบุญเก่าๆ 140 ล้านแต่หนก่อนล้วนๆ

การเปลี่ยน "เท่ง เถิดเทิง" มาเป็น "โจอี้ บอย" อาจจะเข้าอีหรอบ แถเพื่อให้มีหนังก็เท่านั้น.. หากจะว่าไป การมาของหลวงพี่โจอี้ ก็พอยอมรับได้ในระดับหนึ่ง การแสดงเป็นพระที่เลื่อมใสทางธรรม(แต่ก็มักทางโลกอยู่ในบางที)ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพียงแต่บทไม่สามารถส่งให้เกิดได้เท่า หลวงพี่เท่ง ก็เท่านั้น

เอาเป็นว่า ..ไม่อยากจะบอกว่า อย่าไปดูเลย (ชาวบ้านร้านตลาด ที่ไม่คิดมาก..ห้ามได้ยาก) ..แต่เลี่ยงได้ก็ควรจะเลี่ยงซะ ดีกว่าเยอะ!!!






Star Wars : The Clone Wars -> เกรด B+



ถ้าคุณเป็นแฟนมหากาพย์สงครามอวกาศเรื่องนี้ มาแต่ไหนแต่ไร ..อาจจะรู้สึก ไม่มั่นใจในแต่แรก ที่ได้เห็นภาพลักษณ์ของ "The Clone Wars"

แม้ว่าหนังจะหาเรื่องสร้างความน่าดึงดูดใจ ด้วยการเล่าเรื่องราวที่หายไประหว่างช่วงเวลาของหนังภาค 2 และ 3 ..กับเนื้อความของ สงครามโคลน ที่ยิ่งใหญ่ และไม่ง่ายจะจบ อย่างที่ ปรมาจารย์โยดา พูดว่าคราวที่สงครามกำลังระอุในภาค 2

หากเมื่อมันถูกนำมาทำเป็นรูปแบบการ์ตูน.. ที่เน้นความเข้าถึงผู้เป็นเด็ก มากกว่าผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกับหนังชุดนี้มามากกว่าและนานกว่า ...ก็คงจะทำให้ยากต่อการตัดสินใจตีตั๋ว เพราะถึงใจหนึ่งจะรัก แต่อีกใจก็เกรงว่า อาจจะทำตัวให้เด็กมากไป จนอาจหงุดหงิดให้กับความต๊ะติ๊งโหน่งของมัน

ผมก็คือ คนหนึ่งที่คิดอย่างนั้น ..แต่เมื่อได้ลองวัดใจกันแล้ว ก็เอาสถานะความเป็นแฟนนำหน้า แล้วหวังว่ามันก็คงจะไม่ดูแคลนคนเป็นผู้ใหญ่จนเกินไปหรอกมั้ง (เพราะ "จอร์จ ลูคัส" ก็หนุนหลังอยู่ ..และย่อมรู้ว่า แฟนเก่าๆ ก็ยังอยากจะมันส์ไปด้วย)

ซึ่ง The Clone Wars ..ก็ถือว่า เป็นหนังการ์ตูนที่ตอบโจทย์ความสนุกแบบการ์ตูนของคนเป็นเด็กได้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกัน คนที่เป็นแฟน Star Wars ก็ยังดูได้แบบเพลินๆ เพราะความเข้มข้นของเรื่องราวก็มีอยู่อย่างพอเพียง และน่าติดตาม ..รวมทั้งฉากแอ๊คชั่นที่ใส่ไม่ยั้ง ก็มีความเข้มแข็งในระดับเดียวกันกับ เมื่อคราวเป็นหนังคนแสดง ได้เลยเชียว

เด็กปั้นของลูคัส ที่เข้ามาสานต่องานเล็กๆชิ้นนี้อย่าง "เดฟ เฟลอนิ" ทำหน้าที่ที่แบกรับในความยิ่งใหญ่ของหนังชุดอมตะตลอดกาลเรื่องนี้ไว้ได้อย่างน่าชื่นชม ..แม้ฉบับหนังโรง จะจบลงไปเหมือนเป็นแค่ตอนแรก ในตอนๆหนึ่งของหนังชุดที่กำลังฉายออกอากาศทาง Cartoon Network (ซึ่งผมคงไม่ได้ตามดูหรอก..เพราะที่บ้านใช้ UBC แบบฟรีวิว) แต่ตอนแรกตอนนี้ ก็พอจะทำออกมาได้น่าลุ้นอยู่

ในส่วนของบทหนัง ก็ไม่ได้หน่อมแน้มเกินไป ยังพอจะเรียกกลิ่นอาย Star Wars แต่หนก่อนมาได้อยู่ รวมไปถึงการใส่บทบาทให้ตัวละครต่างๆ ก็เรียกว่าพอดีพอดิบ ไม่ขาดไม่เกิน แม้จะเปลี่ยนแปลงคาแรกเตอร์คุณลักษณะของบางตัวละครไปเป็นอีกอารมณ์ แต่ก็ไม่ถึงขนาด ไม่น่าเชื่อถืออะไร ..อีกทั้งดนตรีประกอบ ที่ไม่ใช่เครื่องสายบรรเลงเหิมฮึกที่เคยคุ้น หากเป็นความเร้าใจแบบแนวๆวัยรุ่นแล้ว ก็ปรับให้เข้ากับธีมของหนังได้ดี

หากจะเสียดายอยู่อย่าง คือ.. เสน่ห์ของ Star Wars คืนมาสู่จอหนังในหนนี้ได้ไม่ครบ ...ก็อย่างว่า ถ้าไม่ใช่ จอร์จ ลูคัส ทำเอง ก็ยังยากเกินไปที่จะเอาใครมาจัดการความยิ่งใหญ่แห่งมหากาพย์นี้ ได้ดีจนหมดจด






อีติ๋มตายแน่ -> เกรด A- <- {Recommended}



ดูท่าว่าน่าจะเป็นหนังตลกเอาฮาก็อาจได้ ..ถ้ามองว่า "อีติ๋มตายแน่" คือ หนังที่มี "โน้ส-อุดม" เป็นพระเอก... และปล่อยตัวอย่างเรียกน้ำย่อยออกมาเป็นหนังล้อหนัง (ที่พี่โน้สแกโดนทุเรียนซัดแหนมตุ้มจิ๋ว..รวดร้าวยิ่งกว่าสายลับรหัสตัวเลขคนนั้น!!!) แต่นั่นก็เป็นเพียงความคาดหวังจากแควนๆพี่ท่าน + การผิดแผนที่แต่เดิมคิดจะทำหนังล้อหนัง ต้องล้มเลิกไป เนื่องด้วยทุนสร้างไม่เอื้ออำนวย ...ซึ่งสุดท้ายมันก็ได้กลายมาเป็นหนังรักตลกสไตล์อุดม ที่มีผู้กำกับเป็น "ยุทธเลิศ สิปปภาค" ด้วยประการฉะนี้

แต่ก็ใช่ว่า การผิดแผนจะทำให้หนังต้องล่มตั้งแต่ปากอ่าวเสมอไป.. กลับกลายเป็นว่าการผิดหนนี้ ยังได้มีคุณอนันต์ช่วยสร้าง หนังดีแบบยุทธเลิศออกมาอีกครั้ง หลังจากครั้งสุดท้ายที่ผมรู้สึกได้ก็ตั้งแต่ "สายล่อฟ้า" นู้นเลย

ถึงแม้ว่าหนังดีแบบยุทธเลิศเรื่องนี้ จะไม่ได้มีเขาเป็นคนยืนพื้นเล่าเรื่อง (มอบหมายให้พี่พระเอกเขียนบทด้วยตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวลกันไป) แต่เรื่องของอารมณ์ การสร้างความรู้สึก นี่แหละคือหนังบันเทิงฉบับพี่ต้อมของจริงที่ผมต้องการ

และแม้ว่าตัวบทของพี่โน้ส ที่เพิ่งลองของ ริเขียนเป็นเรื่องแรก จะยังมีปัญหาบางอย่างที่เป็นข้อจำกัดของเรื่องความประทับใจ (ก็อาจจะติดความขี้เล่นของตัวเองมากไปหน่อย) แต่นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ทำอย่างน่าจดจำได้เลย โดยเฉพาะกับการแฝงนัยเสียดสีสังคม ยันไปถึงปมประเด็นที่เขาผูกเอาไว้ แล้วสุดท้ายก็กลับมาขมวดให้จบลงได้ซึ้ง พอจะเค้นๆน้ำตาให้ไหลออกมาได้อยู่

ซึ่งอานิสงส์ความน่าจำของบท ก็คงต้องขอบคุณไปถึงงานกำกับของพี่ต้อม อีกด้วยเช่นกัน.. ที่ดูไม่ฝืน ปลดปล่อยให้ดำเนินอย่างเป็นธรรมชาติ และไหลลื่น ยังทำให้เรารู้สึกสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนในหนัง เสมือนว่าเขาเป็นเพื่อนที่เรารู้จักคุ้นเคย ..ซึ่งหากเทียบกับงานก่อนหน้าจาก "รัก|สาม|เศร้า" ที่มีพื้นฐานสถานการณ์ที่เป็นความจริงเช่นกัน แต่ก็ไม่มีความละเมียดละไมพอจะทำให้เราอินตามสถานการณ์ที่เป็นไปได้น่าเชื่อถือ

การแสดงหนังของพี่โน้ส อาจจะไม่ได้ดูโดดเด่นมาแต่ไหนแต่ไร รวมถึงเรื่องนี้ก็ยังติดความเป็นตัวของตัวเอง.. หากแต่เมื่อบทที่พี่ท่านเขียน ก็ไม่ได้ต้องการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาเป็นอยู่แล้ว จึงทำให้เรารู้สึกเข้าถึงตัวละคร ไอ้ตึ๋ง ได้มากกว่าบทสามีที่ไม่รู้ค่าเมียใน "โคตรรักเอ็งเลย" ...และความเป็นตัวของตัวเองก็คือ อาวุธที่ทำให้เราได้หัวเราะกับมุขขำๆสไตล์ของเขาอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันเมื่อเป็นฉากดรามา ก็ไม่ฟูมฟายเกินไป และพอเพียงจะทำให้เราเข้าใจ เห็นใจ ในตัวไอ้ตึ๋ง

ส่วนถ้าใครที่เคยคาดหวังว่า จะได้เต็มอิ่มกับความน่ารักคิกขุของสาวยุ่น "อาซึกะ"(อึติ๋ม) แล้วละก็ ขอบอกว่าอาจผิดหวัง ..แต่สำหรับผม แค่นั้นก็เพียงพอต่อเรื่องราวทั้งหมด และส่งผลถึงความรู้สึกที่น่าผิดหวัง(เรื่องอะไร?..ต้องไปดูเอา)ในช่วงท้ายได้อย่างสมควร

แม้ว่า อีติ๋มฯ จะไม่ใช่หนังขายขำพันธุ์แท้ หากแต่ผสมเรื่องรักและตลกเล็กๆ มากลมกลืนกับดรามาเสียดสีสังคม ..แต่ก็ถือว่านี่เป็นหนังขายบันเทิงพันธุ์แท้ ที่ดูสนุก เพลินๆกับความเป็นธรรมชาติ ทั้งยังส่งเราออกจากโรงด้วยความรู้สึกดีๆ เรียกได้ว่า ถ้าไม่คิดมากมาย ก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียดายอย่างชัดเจน เช่นหนังของพี่ต้อม 3-4 เรื่องหลังๆ ..และเรื่องที่แน่ใจยิ่งกว่า นี่คือหนังที่ควรแก่การจะเรียกเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากคอหนัง มากกว่าว่าที่ร้อยล้าน อย่าง "หลวงพี่เท่ง 2" ได้แน่นอน... ผมขอ'คอนเฟิร์ม!!!'






Body of Lies -> เกรด B



เมื่อต้นปี ผมมองว่า "American Gangster" ..เป็นหนังของ "ริดลีย์ สก็อตต์" ที่ดี มีคุณภาพเปี่ยมล้น ..แต่เรื่องของความสนุกยังไม่เต็มที่ ความน่าติดตามยังไม่สุด และความประทับใจก็ยังมีเพียงครึ่งๆกลางๆ

แต่ก็ไม่คาดว่าในปีเดียวกัน กับงานอีกเรื่องอย่าง "Body of Lies" จะได้เป็นหนังดี อีกเรื่อง ..ที่ความสนุกยังด้อยกว่าได้อีกทั้งยังเป็นงานของ ริดลีย์ ที่พูดได้เลยว่าผิดฟอร์มอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่า หนังเรื่องนี้จะได้การแสดงที่ดีและเด่นเกินใครของ หนุ่มลีโอ มาประดับบารมี ..ได้บทหนังซับซ้อน ยอกย้อน ที่แม้จะงงบ้าง ตามไม่ทันบ้าง ก็ยังเล่าออกมาสนุกด้วยบทสนทนาโต้ตอบของตัวละครที่ซัดกันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ ..และการสร้างเรื่องราวให้แวดล้อมไปด้วย การโกหก ที่เสริมสร้างบรรยากาศไม่น่าไว้ใจได้ชัดเจน

แต่หนังก็ยังดูน่าผิดหวัง และลดทอนความสนุกไปได้ประมาณใหญ่ เนื่องด้วยการกำกับที่จับเรื่องของอารมณ์ร่วมมาผูกมัดกับคนดูได้ไม่สำเร็จ ..อีกทั้งความเข้มข้นก็ไม่คลั่กมากพอ จะทำให้อยากตามติดไปกับตัวหนังได้ตลอดทั้งเรื่่อง โดยเฉพาะช่วงแรก ไปถึงกลาง ที่แวดล้อมไปด้วยความน่าเบื่อชวนง่วงอยู่หลายที ...กว่าจะมาอยากเกาะติดได้ ก็ต้องอาศัยความรู้สึกที่กดดันบนความอ้างว้าง ไม่น่าวางใจ ที่ตัวละครของหนุ่มลีโอ ต้องประสบอย่างน่าเห็นใจ ในช่วงท้ายถึงไคลแมกซ์ที่พระเอกกลืนไม่เข้า คายไม่ออก จะขอความช่วยเหลือจากใครก็ไม่ได้

แม้ผมจะไม่ได้คาดหวังว่าจะได้หนังแอ๊คชั่นที่มันส์สะเด็ด ประมาณเดียวกับ "Black Hawk Down" ..แต่นี่ก็เป็นหนัง ฝีมือริดลีย์ ที่ยังมีคุณภาพเปี่ยมล้น แต่อารมณ์ชวนมันส์ก็ยังจะมีอยู่อ่อนกว่า American Gangster ที่ว่าสนุกบนความธรรมดาแล้วเสียอีก






Max Payne -> เกรด C- <- It's Baddd!!!



ถ้าจะถามกับผม ..ว่าหนังที่สร้างจากเกมเรื่องไหนที่ทำออกมาได้ดี(ไม่ถึงกับเยี่ยม) ผมจะไม่รีรอตอบว่า "Tomb Raider" ..เพราะถึงหนังจะเพ้อเจ้อจนเกินเลย แต่เรื่องของการรักษาต้นแบบก็ยังพอเอามาเทียบได้เกือบมิด ...หรือกระทั่งกับ "Resident Evil"(ภาคแรก) ที่น่าเบื่อ ก็ยังมีบรรยากาศอึดอัดแบบเดียวกับในเกมส์มาพอกดดันได้บ้าง

จนล่าสุดเมื่อต้นปีกับ "Hitman" ที่ทำอะไรไม่เงียบเชียบ โฉ่งฉ่าง แต่ตัวพระเอกหัวโล้นก็สวมวิญญาณมือปืน พูดน้อย เล่นหนัก ออกมาน่าเชื่อ และหนังก็ดูจะมีความใส่ใจในคนดูอยู่บ้าง ไม่เหมือนกับความหวังล่าสุด ที่พลาดพลั้งไปดูแล้ว พบว่ามันน่าเบื่อ น่าหลับ และชวนให้น่าจะออกจากโรง นาทีไหนก็ได้เลย (แต่ผมก็ไม่ออกไปถึงจนจบ)

"Max Payne" ..อาจจะทำได้ดีในแง่ของการรักษาความนัวร์ จากตัวเกมมาสู่บนจอหนังได้ ส่วนภาพก็ดูมีศิลป์ที่สวย แต่นั่นจะมีความหมายอะไร เมื่อตัวหนังหามีความสนุกไม่ และความเป็นหนัง แทบจะหาคำว่า 'หนังแอ๊คชั่น' ได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

มันก็อาจจะดีอยู่หรอก ที่ทีมงานคนทำ นำความเป็นดรามามานำหน้าหนังแอ๊คชั่น ..แต่ความเป็นจริงที่เกมนี้ คือ เกมแอ๊คชั่นที่โคตรมันส์ติดอันดับต้นๆในความทรงจำของผม มันได้สลายสิ้นไปกับความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลง จนเสียรูปกระบวนท่า แม้กระทั่งกับการคงไว้ซึ่ง การสโลว์โมชั่น Bullet-time ที่เป็นของจำในเกมนี้ ..ก็มาแบบน้อย และเป็นการน้อยที่แห้ง จืด ชืด กันสุดๆ ...ยังไม่นับรวมกับฉากแอ๊คชั่นที่มีอยู่น้อยนั้น พยายามจะให้เกิดอะไรที่วินาศสันตะโรก็แล้ว แต่มันก็ให้ผลลัพธ์ชวนลุ้นที่แสนจะน้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดินซะ

คือ ถ้าจะดรามา ไม่ว่าอะไรเลย ..แต่ถ้าหนังพยายามจะดรามานำกันเกินไป จนไปบดบังความสำคัญส่วนอื่นๆ ก็ไม่ไหวจะรับได้หรอก

เรียกได้ว่าถ้าใครเคยเล่นเกมนี้กันจริงๆ ..เกินครึ่งต้องผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนัง และน่าจะอยากกลับบ้านมาเล่นเกมอีกสักรอบ เป็นการล้างตา ล้างสมอง ..แม้จะอยากชม "มาร์ก วอห์ลเบิร์ก" ว่าเป็น Max Payne ได้ถึงจิตวิญญาณ และเลือกเขามาได้ถูกต้องแล้ว ...แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่การแสดง ณ เบื้องหน้าไม่ช่วยอะไรเลย ตราบใดคนที่อยู่เบื้องหลังไม่เข้าถึงความเป็น Max Payne ที่คอเกมต้องการได้จริงๆ






Serbis -> เกรด B



ต้องสารภาพ ณ ตรงนี้.. ว่าผมดูหนังเรื่องนี้แล้วหลับๆตื่นๆ จึงรู้ความเป็นไปไม่ต่อเนื่อง

ซึ่งมันก็อาจจะเกี่ยวกับความเนิบนาบ ไม่เร้าอกเร้าใจอะไร ส่วนหนึ่ง ..แต่ส่วนสำคัญคงเป็นเพราะ ฤทธิ์ยา ที่กินเข้าไปก่อนเข้าโรงหนังมันแรง จนทำให้ผมชักเคลิ้มกับบรรยากาศเงียบๆ แอร์เย็นๆ และมีอันสลบไสลไป โดยพยายามต้องข่มตาให้ตื่นอย่างเมามันส์

ฉะนั้นแล้ว คำแนะนำสำหรับการดูหนังเรื่องนี้ของผม จึงขึ้นอยู่กับความกระปรี้กระเปร่าเป็นที่สุด ..ถ้าขณะนั้นคุณไม่รู้สึกตื่นเต็มที่ ก็มีสิทธิ์จะหมดเรี่ยวแรงอยากดูหนังอย่างผมก็ได้

แล้วยิ่งหนังก็เล่าเรื่องแบบเงียบเชียบ (จะมีเสียงสนทนาบ้าง..แต่ก็น้อยต่อการดำเนินเรื่อง) และถ่ายทำแบบกล้องแฮนด์เฮลด์ (เพื่อให้รู้สึกเหมือนแอบถ่ายกิจกรรมตึงๆ โจ๊ะตึ๋งๆ อย่างลับๆ) ..แต่ผมกลับเคลิ้มในความเงียบ และเวียนหัวให้กับมุมกล้องเอามาก (ทั้งๆที่ปกติ เทคนิคนี้ในหนังแอ็คชั่น ก็รับได้และชอบทั้งนั้น) จนทำให้สมองรับรู้ดูหนังผิดเพี้ยนไปหมด

แต่ถึงจะเพี้ยนไปอย่างไร ..สาส์นที่หนังต้องการสื่อ ก็ถือว่ายังพอจะมีความแรงที่ทำให้หนังไม่ได้มีแต่ความน่าเบื่ออย่างเดียว ..มิหนำซ้ำอาจจะเป็นเจตนาเสียด้วย ที่นำเสนอความขัดแย้งของครอบครัวออกมาแบบเงียบๆ แต่ทุกคนต่างก็ล้วนเก็บกด และบึ้งตึงถมึงทึงในอารมณ์ จนนำมาสู่การแสดงออกแบบเงียบๆ แต่ร้าวรานกันทั้งนั้น

สรุปแล้ว.. ถ้าผมไม่หลับเอากับการเดินเรื่องของหนัง ก็คงจะได้รับสาส์นอะไรมากกว่านี้ และคงจะรู้สึกว่ามันเป็นหนังสะท้อนปัญหาสังคมอย่างถึงแก่นที่ดี อย่างที่ใครๆเขาว่าได้เต็มที่

ถ้ามีโอกาสผมอาจจะดูตอนเป็นแผ่นอีกรอบหนึ่ง (หวังว่าคงจะไม่เซ็นเซอร์บานหทัยละกัน ..ไว้ใจไม่ได้จริงๆ)

ปล. บรรทัดที่ 3 ..อย่าคิดลึกนะครับ ...มิได้เกี่ยวกะอวัยวะส่วนนั้นแต่อย่างใด หุหุ






City of Ember -> เกรด B



ดูเอาสนุก ..ก็พอได้ สำหรับแฟนตาซีผจญภัยใต้ดินเรื่องนี้

แต่ถ้าดูเอาประทับใจ ..ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากกว่าเป็นหนังดูเอาเพลิน ฆ่าเวลาอีกเรื่อง

ถึงการเล่าเรื่องค่อนข้างจะเร็ว ไม่ยืดยาด เยิ่นเย้อ แต่ก็แห้งแล้งไปด้วยอารมณ์ร่วม ..เราไม่รู้สึกจะลุ้นตามตัวละครเท่าไหร่ แม้สถานการณ์หลายอย่างจะเอื้อให้ต้องตามเชียร์ก็ได้อยู่ ..อีกทั้งเรื่องของการคาดเดา(สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือ) แทบไม่ใช่ปัจจัยใดๆต่อความน่าสงสัยถึงเรื่องราวเลย เพราะหนังเดินตามสูตรเป๊ะๆ

จากหนังผีการ์ตูนที่จะหลอนก็ใช่ที่ จะมันส์ก็ชวนให้ระทึก กับ "Monster House" ..ผลงานชิ้นต่อมาของ "กิล คีแนน" กลับทำออกมาได้น่าผิดหวัง อย่างที่ได้แต่สงสัย ว่าใช่ผู้กำกับคนเดียวกันจริงหรือ? ..เพราะหนังที่เน้นขายเด็ก จินตนาการบรรเจิดเหมือนๆกัน แต่ทำไมความสนุกจึงออกมาต่างกันมากมายนัก

สุดท้ายนี้ สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีได้มากที่สุด.. ก็คือ น้องหนู "เซียร์ซ่า โรแนน" (ยัยไบรโอนี่..ตัวแสบแห่ง "Atonement") น่าร้ากกกกกกกกซะ!!!





นอกเหนือไปจากจะเอา รีวิวสั้นๆของหนังที่ผมได้ดูมา แปะไว้ที่ตรงนี้แล้ว ...ก็ยังมีอีกที่หนึ่ง ที่ผมขอแนะนำให้ทุกคนได้ลองเข้าไปชม ไปเม้นต์กันที่ //vreview.yarisme.com ...นอกจากจะมีผมก็ยังมีพี่ๆคนรักหนังอีก 5 คน ที่จะมาร่วมแจมความเห็น ..คือ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" , "บลูยอชต์" , "Nanoguy" , "renton_renton" และ "เทพบุตรตบะแตก!!" ...พร้อมกันนี้ ก็ยังมีให้ลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน อีกด้วยนะครับ






"นิยาย" - Moderndog


ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน
ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ




 

Create Date : 08 ตุลาคม 2551
34 comments
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2551 3:58:45 น.
Counter : 2371 Pageviews.

 

แก้่ด้วย
มีแต่ 6 ตุลา 19 (ไม่ใช่ 16 ตุลา)

วันนี้ถ้ามีคนตายขึ้นมาจริงๆ คงเป็น 7 ตุลาฯ 51
(แต่กับพันธมิตรเนี่ยนะ ??? ไม่ไหวมั้ง)

ส่วนคนที่ "อาจจะ" ออกมาดับเชื้อไฟได้
ตอนนี้อาจจะกลายเป็นคนที่คอยเติมเชื้อไฟก็เป็นได้
(เหมือนที่ตอน 6 ตุลา เขาก็คือคนที่โยนคบไฟให้มาเผาเองเลยกับมือ - -*)

ส่วนคนที่ขาขาดคนแรกตามข่าว
ดูภาพแล้วเหมือนจะเป็นคนชุมนุมที่ "ขาขาดอยู่ก่อนหน้า" แล้วต่างหาก - -*
ไม่รู้ว่าีทีวีนำเสนอข่าวกันยังไง

 

โดย: nanoguy IP: 125.24.145.237 8 ตุลาคม 2551 0:52:00 น.  

 

ใช่เขาขาดอยุ่ก่อนแล้ว...แต่ก้อไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อะไรอีกนับจากนี้ไป...รักกันเข้าไว้...คนที่พยายามชวนเชื่อก้อเลิกชวนเชื่อคนอื่นให้ร่วมขบวนการณ์ของตัวเองได้แล้ว ทุกอย่างก้อจะสุขสงบสันติทำได้มั๊ยล่ะ หรือยังเห็นแก่ตัวต่อไปอีกล่ะ

 

โดย: deeplove 8 ตุลาคม 2551 2:03:01 น.  

 

เครียดหรือครับ ผมว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย เพียงแต่ใครคิดได้ก่อนก็เท่านั้นครับ ถ้านรกมีจริงมีผลกับการกระทำที่เกิดขึ้น ผมว่าคงจะสนุกไม่ใช่น้อยเลยครับ หรือแม้กระทั่งเวรกรรมที่เกิดขึ้นในการกระทำนั้น ผมว่าโลกนี้คงดูดีขึ้นเยอะ ยังไงผมก็เชื่อว่าการกระทำที่เกิดขึ้นกับสภาพความเป็นจริงที่เห็น ไม่มีทางหลอกที่จะหลับสบายหายใจสดวก ไม่มีทางจริงๆ ลองหลับตาแค่สักนิดแล้วคิดดูว่า สภาพร่างกายแก่จะตาย ก็ไม่ตาย แถมยังต้อง............มากมาย กระจกเงาก็เอาไม่อยู่ครับ เพราะส่องไปก็ไร้ร่างที่มนุษย์ปรกติทั่วไปมีครับ อิอิ

 

โดย: 4444 IP: 61.90.74.35 8 ตุลาคม 2551 2:04:57 น.  

 

เมื่อก่อนคิดว่า....

"เอาวะ เราต้องทำอะไรสักอย่างสิ นี่มันประเทศของเรานะ"

ตอนนี้...

"บางทีการสยบนิ่ง มันคงจะส่งผลดีต่อประเทศมากกว่า การดิ้น การต่อสู้ การต่อต้านทรราช
เพราะในท้ายที่สุด เราก็ห้ามสิ่งชั่วร้ายให้มันเกิดขึ้นไม่ได้หรอก
ซึ่งอาจจะดีด้วยซ้ำ ถ้าเราปล่อยให้พวกเรา เจอกับย่อยยับซะเอง เฉกเช่น กับสมัยวิกฤติต้มยำกุ้ง
เพราะถึงแม้เราจะย่อยยับ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้จากความย่อยยับนั้น...."

ซึ่งสิ่งที่ "เขา" ทั้งสองฝ่ายกำลังเรียกร้องอยู่
ด้วยเจตนาที่บอกว่า "รักชาติ" เหมือนๆ กัน

ผลที่ออกมา ณ ตอนนี้... ไม่ใกล้เคียงกับคำว่า "รักชาติ" เอาเสียเลย

เหมือนเด็กที่กลัวการแพ้
เหมือนผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมจม

เราทำได้แต่กระพริบตาปริบๆ
บางคนมองว่าเราไร้ค่า ไม่มีจุดยืน...
แต่เราว่า สิ่งนี้ต่างหาก น่าจะดีที่สุดกับภาวะเช่นนี้

เพราะถ้าเราเลือกจุดยืน
จุดที่เราไปยืน...
สุดท้ายเราก็ต้องแข่งกัน เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย โดยมีประเทศเป็นเดิมพัน....

มันคุ้มเหรอ?

เหนื่อยนะ
เหนื่อยจริงๆ

ดูกันต่อไป ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สุดท้ายมันอาจจะย่อยยับจริงๆ (อย่างที่ใครบางคนต้องการ)

ถึงตอนนั้น แก้วที่มันร้าว มันก็ไม่ใช่แก้วใบเดิมแล้วล่ะ

 

โดย: คำห้วน-lopzang-เฉือนคำรัก 8 ตุลาคม 2551 2:54:04 น.  

 

+ หุๆ คิดเห็นคล้ายๆ นายเติ้ง ^ ครับ ไม่ได้เป็นฝ่ายไหนทั้ง 2 ฝ่าย (เพราะดูแล้วเหมือนจะมีผลประโยชน์แอบแฝง และ 'ธง' ที่จะต้องไปให้ถึงด้วยกันทั้งคู่) ได้แต่เฝ้ารอดูต่อไป ... และหวังว่าคงอีกไม่นาน .......

+ มาว่ากันถึงหนังเดือนตุลาดีกว่าครับ สบายใจกว่ากันเยอะ
* อีติ๋มฯ - พี่ไม่ถูกโรคกับหนังของคุณยุทธเลิศเท่าไหร่ / หนังตัวอย่างดูแล้วไม่เข้าทาง / มีดาราสุด (ไม่) โปรดเป็นตัวเอก (และรู้สึกจะรับเขียนบทด้วย) ... ดังนั้นถ้าเสียงวิจารณ์ไม่เลิศเลอจริงๆ คิดว่าคงบายแน่ๆ

* Body of lies - ริดลีย์ สก็อตต์ ก็เป็นผกก. อีกคนที่พี่ดูแล้วชอบแค่บางเรื่อง ดังนั้นรอฟังคำวิจารณ์ก่อนน่าจะดีสำหรับพี่

* Max Payne - เหมือนมุกจะเดิมๆ แถมสร้างจากเกมส์อีกต่างหาก คิดว่าคงเน้นความมันส์ ความสะใจเข้าว่า ถ้าจะน่าดูก็คงเพราะเฮียมาร์คมาเป็นตัวเอกเนี่ยแหละ ลุคพี่แกดูเข้ากับเรื่องดีอ่า

* City of Ember - เรื่องนี้คิดว่าดูแน่ๆ วรรณกรรมเยาวชนแบบดาร์คๆ ของโปรดพี่ครับ อุๆ

* Tropic thunder - เป็นอีกเรื่องที่คงไม่พลาด เสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความฮาบ้าบออื้ออึงมาแต่ไกล แล้วดูทีมดาราแต่ละคนสิ

* ปืนใหญ่จอมสลัด - คุณอุ๋ยเป็นอีกคนที่พี่ไม่ค่อยถูกจริตกับงานเค้าเท่าไหร่ ... แต่ถ้าอยากดูก็คงอยากรู้ว่าคุณวินทร์ จะเขียนบทออกมาเป็นยังไง กับดาราเก่าๆ บางคนอย่างป้าเปิ้ลอ่ะจ้า

* โปรแกรมหน้าฯ - อันนี้คงต้องฟังเสียงวิจารณ์ก่อนดูเลยแหละ ไม่อยากเจอผีต๊องๆ หลอกอ่ะครับ เหอๆ

* Saw V - เรื่องนี้บายแน่นอน (เอ๊ะ! ยังอุตส่าห์มีสร้างภาค 5 ออกมาอีกรึนี่? หุๆ)

+ ทำไมรู้สึกเหมือนหนังเดือนนี้ มีให้ดูเยอะดีแฮะ (ก็ปิดเทอมนี่นา) แต่ก็ดันเอาไปยัดไว้สัปดาห์หลังๆ ซะหมดอ่า

 

โดย: บลูยอชท์ 9 ตุลาคม 2551 19:17:14 น.  

 

แวะมาขอโทษคุณลุง
คุณลุงไม่ได้ขาขาดอยู่ก่อนแล้ว (จากหลักฐานและภาพเท่าที่เห็น)
ขอโทษอีกที ที่ไปขอโทษตัวเป็นๆไม่ได้


 

โดย: nanoguy IP: 125.24.130.117 10 ตุลาคม 2551 2:41:31 น.  

 

zwani.com myspace graphic comments


.....ดีใจจังที่ได้เจอคนที่เกิดวันเดียวกับผม.....

.....ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ.....

 

โดย: doctorbird 20 ตุลาคม 2551 0:09:12 น.  

 



H B D อย่าเจ็บ อย่าจน นะครับ




 

โดย: มิสเตอร์ฮอง 20 ตุลาคม 2551 0:15:12 น.  

 

center>

::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 20 ตุลาคม 2551 0:19:23 น.  

 



มีความสุขมากๆนะครับ

 

โดย: veerar 20 ตุลาคม 2551 0:25:06 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะ

 

โดย: teansri 20 ตุลาคม 2551 0:45:25 น.  

 

 

โดย: 2fast2farious 20 ตุลาคม 2551 0:46:08 น.  

 

Happy Birthday na ka

 

โดย: sablez 20 ตุลาคม 2551 3:14:52 น.  

 

ในวันคล้ายวันเกิด ขอให้มีความสุขสมดั่งใจปรารถนาทุกประการ จ๊ะ

 

โดย: บ้าได้ถ้วย 20 ตุลาคม 2551 6:52:25 น.  

 

 

โดย: แพรวา (peacepair ) 20 ตุลาคม 2551 8:24:22 น.  

 



สุขสันต์วันเกิด จ้า

พรใดทีเป็นของชาวโลก

สุขใดที่ช่วงโชติของชาวสวรรค์

รักใดที่อมตะและนิรันดร์

ขอรักนั้นและพรนั้น จงเป็นของ...จขบ...จ้า

 

โดย: หน่อยอิง 20 ตุลาคม 2551 9:05:14 น.  

 

 

โดย: supergaye 20 ตุลาคม 2551 10:01:13 น.  

 

HBD น่ะค๊า ขอให้มีความสุขในวันดี ๆ แบบนี้และก็ตลอดไปเลยค่ะ







 

โดย: plely 20 ตุลาคม 2551 10:21:21 น.  

 

บล็อกนี้อาร์ตมากชอบค่ะ


คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]

 

โดย: bo (bow_relax ) 20 ตุลาคม 2551 10:29:48 น.  

 

Birthday comments at honeypiegraphics.com!


สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จดังที่ตั้งใจทุกประการค่ะ

 

โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง ) 20 ตุลาคม 2551 10:55:24 น.  

 



お誕生日おめでとう!
สุขสันต์วันเกิด
มีความสุขมากๆ สุขสมหวังดังตั้งใจไว้ทุกประการเลยจ้า...

เดหลีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

 

โดย: เดหลีสีแดง 20 ตุลาคม 2551 12:05:40 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า..มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*****


 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 20 ตุลาคม 2551 13:11:18 น.  

 

Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
และมีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังคะ





 

โดย: คิตตี้น้อยสีชมพู 20 ตุลาคม 2551 13:30:06 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สุขสันต์วันเกิดคะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ 20 ตุลาคม 2551 13:34:57 น.  

 

ถ้าหากต้องสังเวยชีวิตพวกหนักแผ่นดินออกไปบ้าง แล้วประเทศได้เจริยก้าวหน้า ผมว่า มากกว่านี้ก็สมควรครับ

 

โดย: joblovenuk 20 ตุลาคม 2551 13:47:09 น.  

 

 

โดย: โสมรัศมี 20 ตุลาคม 2551 17:43:17 น.  

 

happy

 

โดย: retrojass 20 ตุลาคม 2551 17:53:08 น.  

 

 

โดย: sysee 20 ตุลาคม 2551 18:47:50 น.  

 



 

โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) 20 ตุลาคม 2551 20:12:42 น.  

 

+ โทรอวยแล้ว แวะมา HBD ที่บล็อกอีกรอบ (แต่ไม่ได้ขนเค้กมาด้วยเน้อ ทานจากข้างบนๆ คงจะอิ่มแย้ว กิๆ) ... ป่านนี้คงสำลักความสุขที่ได้ฉลองวันเกิดด้วยการดูหนัง 2 เรื่อง (แต่ดันหลับไปซะ 1 เรื่อง!)
... พี่ก็ขอให้น้องนัทมีความสุขไปอีกตลอดทั้งปี จนกว่าจะถึงวันเกิดในปีหน้าเลยนะคร้าบผม

 

โดย: บลูยอชท์ 20 ตุลาคม 2551 20:44:56 น.  

 

 

โดย: ส้มแช่อิ่ม 20 ตุลาคม 2551 21:05:14 น.  

 


คิดสิ่งใด
ขอให้สมหวัง

พลังแห่งความสุขในวันเกิด
จงบังเกิด

 

โดย: โสดในซอย 20 ตุลาคม 2551 21:34:30 น.  

 

สุขสันวันเกิดค๊าบ

 

โดย: ต้อม การ์ตูนล้อ (TOM_KATOON99 ) 21 ตุลาคม 2551 0:48:26 น.  

 

โปรแกรมหน้าฯ แนะนำให้ไปดูเลยครับไม่โดนผีหลอกกินตังแน่นอน แต่คงไม่มีใครอยากไปดูรอบ 2 เพราะมันน่ากลัวเกินหละครับ ไม่ผิดหวังครับไปดูๆ

 

โดย: win IP: 124.121.33.141 1 พฤศจิกายน 2551 1:20:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


OncE UPoN'-'a MaN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




สวัสดีครับ ...บล็อคแก๊งค์

คิดไม่ออก จะพูดอะไรดี
พูดถึงประวัติตัวเอง... ก็ดูไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
พูดถึงนิสัยตัวเอง... ก็มีทั้งดีทั้งร้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป เฉกเช่นคนธรรมดา
พูดถึงหน้าตา... ก็บ้านๆแบบพื้นๆ น้องๆ แบรด พิตต์ หลานๆ ทอม ครูซ เท่านั้นเอง (แหวะ!!!)

ตอนนี้ อาจยังคิดไม่ออก แต่ถ้าตอนไหน คุณชวนผมคุย ตอนนั้นผมก็พร้อมจะคุยกับคุณ ในทุกเรื่อง ได้ทุกแนว เพียงแต่ขอยกเว้น ...เรื่องส่วนตั้ว ส่วนตัว

ขอขอบคุณ ในมิตรภาพของทุกท่าน ความรู้จักที่คุณมีให้ผม ...ผมขอน้อมรับ ในทุกสิ่ง ที่ท่านมีต่อผม ไม่ว่าจะด้วยภาษา หรือว่าความรู้สึก

ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ...แต่ถ้านี่ยังน้อยไป ก็อย่าลืม ...เมล์ของผม แอดกันได้นะ

once_upon.a.man@hotmail.com


My @ http://twitter.com/once_upon_a_man

ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ ...รักนะ คนอ่าน

ผลงานบทความที่อยู่ใน Blog นี้ สามารถให้คนอื่นนำไปเผยแพร่ในที่อื่นๆได้ แต่ต้องขอให้แจ้งทางเจ้าของ Blog ก่อน ว่าจะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางที่ถูก พร้อมทั้งให้เครดิตของเจ้าของผลงานตัวจริงด้วย โดยห้ามทำการดัดแปลงแก้ไข ด้วยภาษาของตัวคุณเอง เพื่อทำให้เจ้าของ Blog เสียหาย

ขอความกรุณา อย่าละเมิดสิทธิ์กันเลยครับ เพราะกว่าจะเป็น กว่าจะเกิดผลงานขึ้นมาแต่ละชิ้นได้ อาจคิดขึ้นมาได้ไม่ยาก แต่มันก็ลงมือทำไม่ง่ายเช่นเดียวกัน

ถ้าท่านผู้ใดไปพบว่า มีคนนำผลงานของเจ้าของ Blog ไปเผยแพร่ นำเสนอ ในทางที่ไม่ดีไม่ชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวเจ้าของ Blog กับคนอื่นๆ หรือว่าสังคม ..ขอให้แจ้งมาทาง "หลังไมค์" ของเจ้าของ Blog เลยทันที ขอบคุณมากๆครับ

OncE UPoN'-'a MaN on Facebook
Blog ใหม่ล่าสด..สด
"VieTrio & Friends" ... เพื่อนร้อง พี่น้องเล่น เป็นเพลงเพราะเสนาะหู
"Lady Antebellum : Need You Now" ... ลูกทุ่งแบบมะกัน แต่สีสันระดับโลก
"The Social Network" ... วันนี้ คุณรู้จัก Facebook ดีพอแล้วหรือยัง?
"Harry Potter and the Deathly Hallows : Part I" ... ฉันต้องเปิด เพื่อจะปิด!
"Scrubb : Kid" ... คำตอบของเพลงอินดี้ที่ฟังง่าย อยู่ในอัลบั้มนี้แล้ว
"Due Date" ... รวมกันเราต้องอยู่ (กรุณา)อย่าทิ้งตูเป็นอันขาด!!?
"B.o.B. Presents: The Adventures of Bobby Ray" ... อาจเป็นฮิปฮอปหน้าใหม่ แต่ไม่ขอยึดติดความฮิป
"RED" ... โตอย่างสมวัย แก่อย่างมีคุณภาพ และจงระห่ำอย่างไม่เหลืออะไรจะเสีย!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... (หนังสั้น)แบบตัวเต็ม ที่ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีความจริงใจ!
"ห้องตรงข้าม หัวใจตรงกัน" ... กับตัวอย่างน้ำจิ้ม ของหนังสั้นที่คงจะมีอะไรๆอยู่ในนั้น
"อินทรีแดง" ... สมศักดิ์ศรีที่ได้กลับมา ..วีรบุรุษที่หนังไทยต้องการ!
"ชั่วฟ้าดินสลาย" ... เมื่อคำ “รัก” มีค่าเท่าคำว่า “ร้าย” คงทำลายคนทั้งหลายให้วายวอด
"Resident Evil : Afterlife" ... สงครามยังไม่จบ ยังต้องนับศพซอมบี้จนเบื่อกันไปข้าง!!
"Lula : Twist" ... เพลงฟังชวนเพลิน จากคนเพลินๆ ที่ชื่อ 'ลุลา'
"Piranha 3D" ... กัดกระจุย เลือดกระจาย สามมิติกระเจิง!!!
"CHARICE" ... เพชรน้ำงามเม็ดเล็กแห่ง ‘เอเชีย’ ที่คู่ควรกับการเจียระไนโดย ‘อเมริกา’
"กวน มึน โฮ" ... ความรัก อาจแพ้บ้างอะไรบ้าง แต่ ความ ‘เห็นแก่ตัว’ เอาชนะได้ทุกสิ่ง!
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add OncE UPoN'-'a MaN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.