สวัสดี กรกฎา ... 'เรต'มีปัญหา หา หา คุมไม่ได้เลยเธอ ปล่อยไปก็เผลอ เผลอ เผลอ จะ'เซ็นเซอร์'กระจาย!
สวัสดีมิถุนา ครับ...เพื่อนๆพี่ๆ ชาว "บล็อคแก๊งค์" ที่น่ารักทุกคน นอกเหนือไปจาก รัฐธรรมนูญ , คมช. , จตุคาม , 3 จังหวัดใต้ , ทักษิณ และ แมนฯซิตี้ ช่วงนี้อีกเรื่องหนึ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองของคนในสังคม ก็คงต้องยกให้เรื่องของ "การจัดเรตให้กับสื่อบันเทิง ทั้งภาพยนตร์และทีวี" ตอนแรกที่ได้รู้ข่าวว่าจะมีเรตให้หนังโรงแล้ว ก็แอบรู้สึกยินดีตามไปด้วย... แต่มันก็ยังดันมีเรื่องที่ชวนให้ยินร้ายว่า เซนเซอร์ยังจะมีต่อไป ตราบใดที่คณะกรรมการเห็นควรว่าภาพนี้ไม่ควรให้ใครเห็น 555 อยากหัวเราะให้ฟันร่วง... คิดมาได้ยังไง นะทั่นๆ ไอ้ที่หัวเราะข้างบนเนี่ย ...ประชดนะ ไม่ได้เห็นด้วยอะไรเลย ยากที่จะทำความเข้าใจหยั่งถึงได้ กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราที่ทำเป็นไม่รู้ประสีประสาอะไรเลย ว่าคนเขาเดือดร้อนขนาดไหนที่เห็น หนังโรง หนังแผ่น โดนเซ็นเซอร์สาดกระจายกันอย่างเนี้ย ...การเรียกร้องขอให้มี การจัดเรต ของพวกเรา มันก็เพื่อเป็นการแฟร์ๆกัน ระหว่าง ทั้งสองฝักสองฝ่าย ไม่มีปัญหาอะไรต่อกัน เราก็ไม่ต้องไปขัดคอเขา เขาก็ไม่ต้องพาลมาทำให้เราต้องหงุดหงิดไปด้วย แล้วที่มันได้ผลจริงๆ มันก็ดีอยู่หรอก... แต่มันก็ดีแตกจนได้ ที่สุดท้ายมันก็เหมือนไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ต้องกลับมานั่งทนดูทนฟังเซ็นเซอร์กันเหมือนเคย เราก็สื่อสารบอกความกับเขาอย่างชัดเจนแล้วนี่ ว่าเราจะไม่เอา เซ็นเซอร์ ไม่อยากให้เขามาตัดสินแทนเรา ว่าอะไรที่ดูได้ อะไรดูไม่ได้ ...เรารู้เองว่าอะไรที่เราได้ดู อันไหนที่ดี อันไหนที่ไม่ดี เราแยกแยะออก เรารู้ผิดชอบชั่วดีนะครับ ทั่นๆ นี่ยังไม่รวมไปถึงกรณีล่าสุดสดๆร้อนๆ ที่ลามมาถึงจอทีวี ...ท่านผู้ใหญ่แห่งกระทรวงวัฒนธรรมบอกว่า จะจัดเรตรายการให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด (เช่น ตอนเย็น ให้ฉายละครเรต น ได้ แต่ตอนกลางคืน ต้องแทนที่ด้วยรายการเรต ท ซะอย่างงั้น) ไม่รู้ว่าท่านคิดได้ยังไง(อีกแล้ว) ...ที่ต้องมาบงการชี้นิ้วสั่งว่าต้องเป็นอย่างนี้ ต้องได้อย่างนั้น บังคับกะเกณฑ์ให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในวงจร แทบจะทำเป็นลัทธินิยมก็ไม่ปาน ที่เห็นว่าอ้างเหตุผลอย่างนู้นก็ดีอย่างนี้ก็เหมาะกันไปซะยาวยืด ...ผมไม่เห็นว่ามันจะได้อะไรดีขึ้นมาเลย สังคมทุกวันนี้ มันเคยเหลวแหลกอย่างไร มันก็ยังเป็นอย่างงั้น มิหนำซ้ำ รังมีแต่จะหนักขึ้นกว่าเดิมทีละเล็กทีละน้อยทุกวันๆ การปิดหูปิดตา บิดเบือนข้อมูลกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ มันอาจจะส่งผลกระทบตรงๆไม่สักเท่าไหร่หรอก ...แต่ผลปฏิกิริยาในทางอ้อมของมัน จะมีไปเรื่อยๆ ยาวๆ และจะไม่หยุดง่ายๆ ตราบใดที่ผู้ใหญ่บ้านเมืองยังคิดจะเล่นงานประชาชนกันอย่างนี้ ไอ้เรื่องปิดหูปิดตา ที่ว่าสื่อสารมวลชน ร้ายกาจแล้ว ...เจอทั่นๆแห่งกระทรวงวัฒนธรรมเข้าไป สื่อทั้งหลายก็แค่สิวเสี้ยนกลากเกลื้อนไปเลย ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่า ความพยายามระลอกใหม่ในการร่วมมือของคนวงการบันเทิงทั้งหลาย จะออกมาหัวหรือก้อย ...บทสรุปของบทบัญญัติ จะตัดตอน "กองเซ็นเซอร์" หรือขอให้อนุรักษ์ต่อไปเพื่อรุ่นลูกรุ่นหลาน เราๆก็ยังต้องเล่นเกมทายใจทั่นๆกันต่อไป(อีกนานซะละม้าง) I know what I do{หนัง} this summer : ซัมเมอร์สยองต้องตีตั๋วดู(หนังฟอร์มบิ๊ก) ภาค 3 เข้ามาสู่เดือนที่สาม ของฤดูกาลซัมเมอร์ ...กรกฎา มาพร้อมกับ อีกหนึ่งหนังใหญ่มหายักษ์ที่มีคนรอคอยกันมากมายก่ายกองพะเนินเทินทึก เรื่องที่ว่านั่นก็เป็นอื่นใดไม่ได้นอกไปจาก พ่อมดน้อย "แฮร์รี่ พอตเตอร์" ...กับภาคห้าที่สาวกอย่างผม อยากดูอยากเห็น ว่า หนังสือที่เข้มแล้วมาเป็นหนังจะข้นคลั่กขนาดไหน (แม้ทว่าตัวหนังสือภาคนี้ จะเป็นอะไรที่สนุกน้อยนิด เพราะไปหนักจำนวนหน้าซะหนา อ่านไป ก็เบื่อไป พาลอยากจะให้รีบๆจบใจจะขาด) ...คำวิจารณ์ก็เริ่มมีออกมาแล้ว และก็เหมือนจะเป็นอีกภาคที่น่าจะประสบความสำเร็จในคำชมไม่แพ้ภาคก่อนๆเลยทีเดียวเชียว อีกหนึ่งเรื่องน่าดู ที่นับว่ากำลังมาแรงแซงทุกโค้งถนนในอเมริกาตอนนี้ ก็ต้องยกให้ "Ratatouille" เจ้าหนูตัวกระจ่อย ที่หาญกล้างัดข้อ พี่หุ่นเหล็ก และลุงบักอึด อย่างไม่กลัวจะโดนทับเสียบี้แบน ...งานพิกซาร์เรื่องล่า ที่กำลังได้ใจนักวิจารณ์ไปเสียเกือบร้อยดวง (96% ใน Rottentomatoes) ที่เจ๋งมากถึงขนาดมีวี่แววจะเป็นเต็งหนึ่งบนเวทีออสการ์งวดหน้าแน่แท้ ...ในฐานะที่เป็นคออนิเมชั่น และแฟนพันธุ์แท้ของพิกซาร์ที่ไม่เคยพลาดสักเรื่อง ก็ไม่มีทางไหนที่ผมจะปฏิเสธดู เจ้าหนูทำครัว อย่างแน่นอน นอกเหนือไปจากหนังซัมเมอร์สองยอดๆแล้ว ...อื่นๆที่น่าดูน่าชม ก็ยกตัวอย่างอาทิ Hula Girls (คนที่ได้ดูมาแล้ว พากันมาเยินยอความดีจนผมเคลิ้ม...มีไปเดินแถวสยามเมื่อไหร่ จะต้องดูแน่ๆเมื่อนั้น) , Little Children (หนัง เคต วินสเลต ที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนลืมเลือนไปแล้ว...หวังว่าคงไม่มีอีกเลื่อนๆ ละกันนะ) ดู{หนัง}แล้วอยากเล่า...กรกฎาคม นี่คือส่วนที่จะมีมาอัพเดทกันโดยตลอด หลังจากดูหนังจบปุ๊บ ผมก็จะมาเล่าปั้บ แบบสั้นๆ กะทัดรัด ได้ใจความ ...จะดี ไม่ดี ก็จะเล่าให้หมดทุกเรื่อง ไม่สปอยไม่สแปลซให้เสียรมณ์อย่างแน่นอน และถ้าหนังบางเรื่องมีอะไรให้ประทับใจ หรือให้มีอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเขียน ก็จะกลายสภาพไปเป็น "ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์" รีวิวฉบับเต็มด้วยครับเก็บตกจากมิถุนา... Die Hard 4.0 ...ใครว่าพี่อึด บรูซ วิลลิส คงไปไม่รอดกับการเป็น "จอห์น แมคเครน" หนที่สี่ เห็นทีจำต้องถอนคำพูด เพราะลูกบ้า ความระห่ำ และบุคลิกแอนตี้ฮีโร่ ยังคงมีอย่างเต็มเปี่ยม ..."เลน ไวส์แมน" สานต่อตำนานคนอึดได้ดีเยี่ยม ฉากบู๊ห่ำหั่นฉะกันมันส์ลืมความเป็นจริง(ที่หนังทำซะเว่อร์) บทหนังสามารถซ่อนรูปดรามาลงไปได้อย่างแนบเนียน และยังคงเอกลักษณ์ความตลกแบบฉบับแมคเครนได้อย่างครบถ้วน ...จะมีขัดใจ ชวนหงุดหงิดอยู่นิด ก็ตรงที่ ความง่ายในเรื่องบางเรื่อง สถานการณ์บางอย่างที่ปล่อยผ่านไปแบบรีบๆ หากหนังสามารถใส่ความหนักแน่นตรงนี้อีกสักหน่อย ก็จะยกให้ขึ้นหิ้งเคียงคู่ภาคแรกที่คลาสสิคไปกันได้เลย ...Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=14-07-2007&group=2&gblog=75 Transformers ...หลังจากคว่ำมากับ The Island ก็ได้เวลาที่ชื่อ ไมเคิล เบย์จะกลับมาหงาย และขจรขจายเป็นที่รักของคอหนังแอ๊คชั่นอีกครั้ง กับ การนำเอาการ์ตูนดังสมัยยี่สิบ(กว่า)ปีก่อน มาย้อนความหลังสร้างเป็นหนังขนาดยาว 140 นาที ...ลายเซ็นของเบย์ เข้ากันได้ดีกับเรื่องราวเน้นหนุกหนานระดับครอบครัวอย่างลงตัว ทุกส่วนที่อยู่ในหนัง ดูดีดูเยี่ยมไปซะทั้งหมด ...ซีจีพี่ๆหุ่นดูสวยเท่ห์เก๋เฉี่ยว , งานด้านภาพการตัดต่อถึงจะเร็วลมกรดแต่ก็ตื่นเต้น ระทึกใจยอดๆ , "ไชอา ลาบัฟฟ์" เล่นได้เป็นธรรมชาติ น่าเชื่อ ...แม้โดยรวม จะไม่เลิศเพอร์เฟกต์ ยังมีปัญหาเรื่องบท(ตามสไตล์หนังเบย์)อยู่บ้าง แต่ความเพลินก็ทำให้ลืม และสนุกสุดๆยิ่งไปกว่าหนังซัมเมอร์ใดๆที่เคยผ่านตามา ...Super Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=05-07-2007&group=2&gblog=73 Fracture ...ฉากไหนที่มี แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์ อยู่บนจอ ช่วงเวลาตอนนั้น จะเป็นหนังที่สนุกและเข้มข้น แต่พอห่างหายไป เป็นเรื่องคู่ขนานของ ไรอัน กอสลิ่ง ผมก็รู้สึกว่ามันเฉยๆ ระคนเบื่อ ไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ...จะมีมาสนุกมากหน่อยก็ในช่วงท้ายๆที่มีอะไรให้ได้ลุ้น แล้วก็จบเรื่องราวอย่างค้างคา แต่ไม่ค้างใจได้ดีเลยทีเดียว ...ผมคิดว่าเป็นหนังทริลเลอร์ขึ้นโรงขึ้นศาลที่พอใช้ได้ แต่จบแล้วก็เป็นจบกัน ไม่มีอะไรให้นึกถึงเป็นพิเศษเก็บต่อกรกฎา... Hula Girls ...ด้วยความที่เชื่อคนง่าย ก็เลยได้ดูหนังดีๆอีกเรื่องที่ แสนจะเสียดาย(อีกแล้ว)ในความต่ำต้อยด้อยโรงฉายชาติไทย ...หนังดรามาโหยหาอดีตของชาติญี่ปุ่นเรื่องนี้ ให้อารมณ์ออกมาได้เทียบเคียงกับที่เราเคยรู้สึกจาก Always หรือว่า The Village Album หากแต่หนังก็ไม่ได้กระตุ้นจงใจอย่างรุนแรง หนังปล่อยให้คนดูได้อินตามไปแบบเรื่อยๆ ...จะมีเสียแต่ว่า สุดท้ายหนังก็ยังขาดรายละเอียดบางส่วนที่มันควรน่าจะเติมเต็มให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการสร้างความผูกพันในเหล่าตัวละคร และน่าจะตราตรึงใจคนดูมากกว่านี้ได้อีก ...Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=12-07-2007&group=2&gblog=74 Priceless ...ดูเพลินๆ ยิ้มๆ กับการแสดงถึงร้ายก็รักนะ ของ ออเดรย์ โตตู ประกบคู่กับพระเอกที่มีเคมีลงตัว รับส่งความน่ารักได้อย่างสนุก ...หนังพกพามาซึ่งความตลก ในแบบที่หาได้จากหนังทวีปยุโรป หากแต่ตัวหนังก็ไม่ได้ทำเนิบนาบล่าช้าตามปฏิบัติยุโรปไปด้วย หนังเดินเรื่องได้เร็ว และกระชับดี ...มีที่เสียอยู่ก็ตรงที่ ผมดันหลับสนิทในช่วงต้นๆเรื่องที่ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าติดตามเท่าไหร่ ซึ่งมันน่าจะมีการเติมสีสันความเข้มข้นกันเสียหน่อย มันคงจะทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากกว่าที่รู้สึกอยู่ได้แน่ดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=12-07-2007&group=2&gblog=74 Harry Potter and the Order of the Phoenix ...จากฉบับหนังสือที่มีเนื้อหาเข้มข้น แต่ปนไปด้วยความเนือย น่าเบื่อ และไม่หนุกที่สุดจากทั้ง 6 เล่ม มาเป็นหนังที่ทำออกมาได้สนุกกว่าหนังสือ หากก็ตัดรายละเอียดไปอีกเยอะแยะตาแปะไก่ แต่ในความบันเทิง ผมว่าการกำกับของ เดวิด เยตส์ ทำออกมาได้เยี่ยม ทั้งความเป็นดรามา และเรื่องการเมือง(สมที่ผู้สร้างไว้ใจให้มาทำ) ...ถึงหนังจะสั้นเป็นที่สุด จากเรื่องราวที่หนาเป็นที่สุด แต่มันก็ตัดออกมาได้กำลังดี และ กระชับ จะมีพลาดอยู่หน่อยๆ ก็ส่วนที่เป็นเรื่องของ โช แชง และ การจากไปของตัวละครสำคัญ ที่ยังแรงไม่พอ รู้สึกได้แค่ช็อกกะทันหัน แล้วจากนั้นก็ไม่มีน้ำตาอย่างที่ผมคิดว่าจะมี ...ในฐานะของแฟนหนังสือ ถือว่า สอบผ่านได้คะแนนดี หากแต่ก็ยังต่ำกว่า ภาค 4 ที่สนุกที่สุด และลงตัวที่สุดครับ ...Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=17-07-2007&group=2&gblog=76 ตั๊ด สู้ ฟุด ...เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกถอดใจกับหนังตัวอย่างที่ตัดฉากกระเทยด่ามาใส่ไว้ แต่ด้วยความรู้สึกที่ตึงเครียดในช่วงสอบ แล้วอยากจะผ่อนคลายสักหน่อยก็เลย เลือกที่จะเสี่ยงลองไปดูหนัง(หวังจะฮา)เต็มๆที่คนดูแล้วเขาว่าไม่หยาบอย่างที่ตัวอย่างยัดเยียด ...ผมดูมันก็จริงอย่างที่ว่าแหละครับ ฉากๆนั้นเป็นฉากที่แรงที่สุดในหนังแล้ว และยังถือเป็นฉากที่ห่วยที่สุดอีกต่างหาก (เหลือๆจากนั้นก็เป็นประสาบ้านๆทั่วไป ที่ชาชินเป็นปกติ และเล็ดลอดคำเฮียๆออกมาสักสามสี่ทีได้) ...หนังโดยรวม พี่"จาตุรงค์" แห่ง "โกยเถอะโยม" มีความพัฒนาจากงานก่อนอยู่พอสมควร ในส่วนของบท เป็นเรื่องเป็นราวมีเนื้อมีหนังมากขึ้น แอบแฝงลูกเล่นไว้แพรวพราว แต่ก็ยังมีจุดอ่อนยวบยาบอยู่ ขณะงานกำกับ ก็คุมหนังได้ดีขึ้น แต่ฉากต่อฉากมันขาดความต่อเนื่อง เดี๋ยวสะดุดเดี๋ยวกระโดด ...ความตลก ก็นับว่า โอเค มีทั้งขำมาก ขำน้อยและฝืดไปเลย ...งานโปรดักชั่น ดูดี ดูจริง น่าเชื่อเหมือนเราหลุดไปอยู่เมืองจีนสมัยนั้นจริงๆ ...และการแสดง ผมชอบ บอย AF3 (เล่นเรื่องแรกก็ได้สูติบัตรเลยนะฮ้า) , จิ๊บ ปกฉัตร (ฮาไม่ห่วงความน่ารักเล้ยยย แม่คุณ) , อาเกรียงศักดิ์ (และทีมพากย์พันธมิตร ในบางตัว ...พากย์เนียนซะลืมไปว่านี่ผมกำลังดูหนังไทยอยู่นะ) ...ก็ขอเตือนสักหน่อยละกัน ว่านี่เป็นหนังดูเอาความบันเทิง อย่าหวังสาระ มันก็พอมีอะไรจะให้สนุกคลายเครียดได้อยู่ และที่สำคัญ อย่าพก"เด็ก"ไปดูด้วยเป็นอันขาด (ไม่ใช่แค่ไม่เจริญหูอย่างเดียว อาจเสียสายตากับภาพบางภาพอีกด้วย) Paris Je T'aime ... 18 หนังสั้น 20 ผู้กำกับมีชื่อ รวมกันอยู่ใน 1 หนังยาวที่บอกเล่ากันในคอนเซปต์ ปารีส และ ความรัก โดยที่ 1 หนังสั้น จะมีความยาวประมาณ 5 นาที ที่แต่ละเรื่องก็จะมีมุมมองการนำเสนอที่แตกต่างกันออกไป ...แม้ว่า ตัวหนังสั้น 18 เรื่อง ที่เอามารวมๆกันไว้ มันจะไม่ได้ให้ความต่อเนื่อง หรือมีอะไรที่สอดคล้องกันแบบ Love Actually แต่ ผมก็ชอบรูปแบบของมันที่เป็นอยู่ รูปแบบที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ความรักที่มีในทุกคนทุกผู้ ทั้งแดนปารีสก็งามงด หมดทุกซอกทุกมุมที่ถ่ายออกมา ...ดูจบแล้ว ก็ตั้งความมุ่งหมายในชีวิตอีกอย่างหนึ่งไว้ว่า สักวันหนึ่งจะไปเที่ยว ปารีส ให้ได้เลย ...Super Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=06-08-2007&group=2&gblog=78 Ratatouille ...พิกซาร์ ไม่ทำให้ผิดหวังอีกแล้ว กับเรื่องราวน่ารักน่าลุ้น ของหนึ่งหนู กับ หนึ่งชาย ที่รวมพลังกันไต่เต้าไปสู่ความเป็นใหญ่ในวงการอาหารฝรั่งเศส ...เรื่องราวสนุกสนาน ปนตลกขบขัน ที่ตบท้ายความซึ้ง และข้อคิดข้อจำดีๆ ให้กับทุกคนในครอบครัว นี่คือหนังที่ทำให้ผมอิ่มท้องอาหารตา และอิ่มเอมในความสุข ที่แสดงผลออกมาเป็นน้ำตาและรอยยิ้ม ...นี่คือหนังที่คนรักพิกซาร์ คนรักอาหาร และคนรักหนังดี ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ... Super Recommended ครับดู{หนัง} วิธ มายเซลฟ์ : //www.bloggang.com/mainblog.php?id=onceupon&month=30-07-2007&group=2&gblog=77 อีส้มสมหวัง ...เหตุผลที่คิดดู คือ หนึ่ง กบ สุวนนันท์ และ สอง ตัวอย่างทำออกมาขำแตกดี (ใครจะมองว่ามุขเป่าอุนจิ น่าเกลียดน่ากลัว แต่ผมเห็นเป็นที่ยังไม่น่ารังเกียจเท่า มุขด่าหยาบคายเป็นสลุต แบบ ตั้ดสู้ฟุด) ...ซึ่งตัวหนังจริงก็ออกมาฮาอย่างที่ต้องการเสียด้วย (ฮารุนแรงกว่า ตั้ดสู้ฟุด ซะอีก) การกำกับของลุงโน้ต ออกมาดูน่าติดตามไปกว่า หลวงพี่เท่ง อีกทั้งบทเพลงก็ทำออกมาเพราะดี ...แต่ก็มีขัดใจกับการดำเนินเรื่องแบบสารคดี ที่ทำออกมาทื่อๆ ไม่มีลูกเล่นอะไร (ส่วนบทหนัง...ตั้ดสู้ฟุด กลับทำได้ดีกว่า) หากถ้าใส่ดรามาสู้ชีวิตเข้าไปช่วงท้ายสักหน่อยมันน่าจะดีกว่านี้ และอีกอย่างที่ขัดใจมากๆ ก็คือ การตั้งชื่อหนัง ไม่สอดคล้องกับเรื่องราวที่เป็นเลย ตัวบท อีส้ม ก็ไม่โดดเด่นอะไร จะมีที่เด่นก็แค่ ความน่ารักของ กบ สุวนันท์ เท่านั้นเอง (ชื่อ อีส้มสมหวัง ในความคิดผม ควรจะเป็นเรื่องราวที่ อีส้ม ฝันเป็นหางเครื่อง แล้วพยายามไต่เต้าเข้าไปอยู่ในวง ยอดรัก สลักใจ แล้วสุดท้ายก็สมหวัง สมใจ)
"Makes Me Wonder" โดย "Maroon 5" วงร็อกขายสไตล์โจ๊ะ เจ้าของเดียวกับ This Love ที่เคยฮิตโดนใจคอเพลงพันธุ์โจ๊ะสุดดิ้น เมื่อ 2 ปีก่อน ผมยินดีเสมอในมิตรภาพของทุกท่าน และบล็อคของผมก็ต้อนรับเสมอในความน่ารักของทุกคน ...ขอขอบคุณ และสวัสดีครับ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2550
8 comments
Last Update : 20 สิงหาคม 2550 18:21:31 น.
Counter : 1060 Pageviews.
... Transformer เนื่องจากไม่ใช่หนังแนวพี่ ก็เลยยัง 2 จิต 3 ใจอยู่ว่าจะดูดีมั้ย (ที่สำคัญกลัวมัน "เบ๊ย์ ... เบย์ นั่นแหละ)
... Fracture ถ้าพูดถึงเรื่องเนื้อคดี เห็นเค้าว่าคนดูพวกซีรีส์สืบสวนมาเยอะๆ จะขำกลิ้งเลยนี่ครับ ว่าวิธีที่พระเอกพลิกคดีและหาหลักฐานชิ้นสำคัญมาได้นั้น ค่อนข้าง "เชย" เลยทีเดียว แต่ทั่นเซอร์ก็ยังเจ๋งเหมือนเดิม ส่วนไรอัน กอสลิงก็ดูมีแววนะครับ (ว่ากันว่าเค้ากำลังพยายามเดินตามรอย เอ็ดเวิร์ด นอร์ตันอยู่ แต่จะทำได้ถึงระดับนั้นหรือไม่ ต้องดูการเลือกโปรเจ็คท์ที่จะเล่นกันต่อไป)
... Hula girls / Harry V / Little children / Ratatouille ... ล้วนอยู่ใน "ลิสต์รอดู" ของพี่ทั้งสิ้น ... แถมเดือนนี้ยังมีเทศกาล BKK Films Fest. ช่วงปลายเดือนอีกต่างหาก (แต่ยังไม่รู้เลยว่ามีเรื่องเด็ดๆ อะไรเข้ามาฉายบ้าง)
+ หุๆ ... ค่ำๆ ถึงดึกๆ คืนนี้เจอกันครับคุณน้อง OncEฯ ... แล้ว "ผม(จะไปนั่ง)อยู่ข้างหลังคุณ!!!" ... ฟังน้องคณะรุ่นล่าสุดร้องเพลงเชียร์ เพลงไหนร้องไม่ดี พี่จะใช้สิทธิ์ในความเป็นรุ่นพี่(ปีชรา)ว้ากเสียงดังๆ เลย 555
... ยังไงก็ตาม ยินดีต้อนรับน้องใหม่สู่ร่มรั้วชงโคนะครับ ... เพราะคืนนี้ (Last Cheer) ถือเป็นคืนศักดิ์สิทธิ์ที่รุ่นพี่ทั้งปีแก่และปีที่เรียนอยู่ จะยอมรับน้องปี 1 เข้าเป็นเลือดสีเดียวกันแล้ว
+ ไม่รู้เด๋วนี้ยังมีรับน้องคณะ - รับน้องห้องกันอยู่รึเปล่านะครับ? แต่หลังจากกิจกรรมทั้งหลายผ่านพ้นไป ก็เตรียมอ่านสือสอบมิดเทอมได้แล้วเน้อ