    
เห็ดหลินจือ
Ganoderma Lucida (Fr.) Karst.
"เห็ดหลินจือ (Lingchin หรือ Ling Zhi) เป็นชื่อเรียกในประเทศจีน ซึ่งหมายถึง "วิญญาณ" ในภาษาอังกฤษ เรียกว่า "Lacquered Mushroom" เนื่องจากเห็ดชนิดนี้ผิวจะมีลักษณะแห้ง แข็งเหมือนไม้และเป็นมันเงาเหมือนเคลือบด้วยแลคเคอร์ และญี่ปุ่นเรียกเห็ดนี้ว่า " แมนเนนทาเกะ " (Mannentake) ซึ่งแปลว่าหมื่นปี เห็ดหลินจือได้ถูกบันทึกไว้ว่า มีอยู่ในธรรมชาติถึง 113 สายพันธุ์ โดยมีอยู่ที่ประเทศจีน มากที่สุดถึง 86 สายพันธุ์ และสำหรับพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมีสรรพคุณทางยาที่สูงสุด คือ สายพันธุ์ "กาโนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม" (Ganoderma lucidum) ปัจจุบันสามารถเพาะเลี้ยงได้ในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
ลักษณะของเห็ดหลินจือ
หมวกเห็ดจะมีสีน้ำตาลม่วงหรือดำมีก้านสั้นๆ หรือไม่มีก้านก็ได้ (ถ้าดอกเห็ดยื่นมาจากโคนต้นไม้) ดอกอ่อนจะมีขอบสีขาว-เหลือง กลางดอกมีสีน้ำตาล ใต้หมวกเห็ดมีรูเล็กๆ จำนวนมาก มักพบเห็ดหลินจือขึ้นอยู่บนต้นไม้พวก คูน ก้ามปู หางนกยูงฝรั่ง ยางนา ยางพารา หรือขึ้นบนตอไม้ที่ตายแล้ว บางทีก็เกาะอยู่กับรากต้นไม้ เห็ดหลินจือมีการนำมาใช้เป็นยามาช้านาน โดยระบุสรรพคุณว่า เป็นยาอายุวัฒนะทำให้ผู้บริโภคมี อายุยืน ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย, บำรุงระบบประสาท, หลอดลมอักเสบเรื้อรัง, บรรเทาอาการหอบ, ช่วยให้นอนหลับ, บรรเทาแก้ไอ, รักษาโรคหัวใจ, ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น สารสำคัญที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในเห็ดหลินจือได้แก่
กลุ่มโพลีแซคคาไรด์ ( Polysaccharide ) สารที่มีการค้นพบได้แก่ polysaccharide A, B, C, D, E, G, H Polysaccharide BN-3-A, B, C และ polysaccharide อื่นๆ ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีฤทธิ์สำคัญในการต้านมะเร็ง และกระตุ้นภูมิต้านทาน ลดการอักเสบ และป้องกันอันตรายจากการฉายรังสี
กลุ่มไตรเทอร์ปินอยด์ ( Bitter triterpenoids ) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เห็ดหลินจือมีรสขม มีผู้ศึกษาและพบสารกลุ่มนี้ประมาณ 100 ชนิด แต่ที่สำคัญและมีผู้พบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาได้แก่ ganoderic acid R&S, ganoderic K, ganoderic acid C, F, H, ganoderic acid A, B , ganoderal A, ganoderol A, B ,oleic acid มีคุณสมบัติในการยับยั้งการ หลั่งของสารฮีสตามินซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ช่วยลดความดันโลหิตช่วยลดไขมันในเลือดฤทธิ์
กลุ่มเปปติโดไกลแคน ( Peptidoglycan ) เป็นสารกลุ่มที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ได้แก่ ganoderan A,B,C
กลุ่ม protoalkaloid และกรดอะมิโน ได้แก่ adenosine, adenine, uracil, uridine ซึ่งมี ฤทธิ์รักษาอาการกล้ามเนื้อลีบ ยับยั้งการจับตัวของเกร็ดเลือด
โปรตีน ได้มีผู้สกัดพบว่าโปรตีน Ling-Zhi 8(LZ-8) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน
ปัจจุบันเห็ดหลินจือได้มีผลการศึกษาในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลอง บ่งชี้ว่ามีศักยภาพในการต้านมะเร็ง ด้วยกลไกที่ผ่านทางระบบภูมิคุ้มกัน และศักยภาพป้องกันการเกิดมะเร็ง (cancer chemoprevention) ที่สำคัญการศึกษาวิจัยคุณสมบัติดังกล่าวเป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากใน ประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน และ สหรัฐอเมริกา
ขอบคุณแหล่งที่มาค่ะ //www.siamca.com/herb/index.php?textvar=18
สวัสดีค่ะ
เพื่อนๆ วันนี้โอเล่เอาสูตรการต้มเห็ดหลินจือมาฝากกันค่ะ
สำหรับเพื่อนๆที่อยากทราบ ทำต้มดี่มเองไม่ยากอีกเช่นเคยค่ะ
มีเนื้อหมูล้วนๆและเห็ดหลินจือ และเกลือ แค่นี้เองค่ะ
สรรพคุณของเห็ดหลินจือ มากมายจริงๆค่ะ
ใกล้ตรุษจีนแล้ว โอเล่ขอให้เพื่อนๆเฮง เฮง เฮง กันทั่วหน้านะค่ะ
ป.ล.ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่แวะมาแจมและทักทายกับโอเล่ค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
แวะเพื่อกิน
สุขภาพ
ชาบู 
...ดีจ้าคุณโอเล่ขอให้เฮงๆๆ รวยๆๆ ในวันตรุษจีนนะคะ...รักษาสุขภาพค่ะ
ส่งมาซะดีดี
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [
ดี.กำลังจะนอน
เดี๋ยวต้องไปฝันเรื่องของกินแน่ๆเลย อิอิ