Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
28 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 

หนุ่มนา(ดี)เกลือ

เพิ่งส่งออกกรุ๊ปที่มีชื่อแปลเป็นไทยว่า ไทยแลนด์ แดนตำนาน....

เหมือน เทพเบคคัส (งานนี้ ท่านพ่อจตุคามมิได้ออกคำสั่ง ) ท่านเกรงว่า กรุ๊ปนี้จะจืดชืดไม่สมกับที่จะกลายเป็นตำนาน จารลงบนแผ่นหนังหมาในหัวใจของอิฉัน

พระองค์จึงโปรดประทาน ลูกทัวร์ ผู้ที่ อิฉันจะต้องจดจำรำลึกถึงไปจนชั่วฟ้าดินสลายเชียวละค่ะ

พระเอกตามท้องเรื่องนี้ มีชื่อแบบสเปน ที่อิฉันขี้เกียจจะจดจำให้รกสมอง ค่าที่มันต้องรัวลิ้นมากเกินควร เกรงใจ ผู้พัน หากลิ้นอิฉันอักเสบเพราะงานหนักเกินการ ลิ้มรสเกสรบัวได้ไม่เต็มที่ ฮีจะระแวงเอาเปล่าๆ

จำได้แต่ว่า หน้าพ่อหนุ่มคนนี้ มันดูย้อยๆ ห้อยๆ แบนๆ จมูกโตๆไม่ได้สัดส่วน เหมือนเอาชมพู่กะหลาป๋าผ่าซีกมาแปะ

เห็นหน้าตาคนนี้ทีไร อิฉันอดจิ้นเอาเองไม่ได้ว่า ฤกษ์เกิดของพี่แก คงเป็นช่วงที่พระเจ้าเพิ่งอิ่ม ดินเนอร์ อันประกอบด้วยจานสลัดสารพัดผัก ระหว่างพระองค์ทรงจิ้มพระทนต์ เลยอดที่จะเอาเศษผัก เศษอาหารที่เหลือบนโต๊ะมาปั้นเล่นไม่ได้

อาทิเช่น เอามะเขือเทศมาทำหน้า ถึงได้แดงแบบมะเขือเทศงอมแดด เอาเม็ดองุ่นมาเจาะทำลูกตา มันเลยรีๆตุ่นๆ เหมือนคนขี้ตาแฉะ และ ชมพู่กะหลาป๋ามาทำจมูก แบนๆบานๆ แดงๆ แต่น้อยกว่าหน้าหน่อยนึง ฯลฯ โรยเกลือที่เหลือ แถมท้ายอีกกิโลนึง ก่อนจะส่งลงมาเกิด

อุ๊ยยย เลิกบรรยาย ดีกว่า เดี๋ยวพาลจะเกิดกิเลส กินเอาแกด้วยสำคัญว่าเป็นอาหารจานไดเอ็ต

เผลอกินเข้าไป คงได้ซวยซับซวยซ้อน ยอกย้อนยิ่งกว่า นิยายฆาตกรรมของแดน บราวน์ เชียวค่ะ

ตาคนนี้ แกเป็นคนสเปน ที่มาทำงานในฝรั่งเศส แถมเดินทางมาคนเดียว เลยต้องโชว์ออฟ ว่าข้านี้หนอ รู้มาก รู้จริง
แต่ขอประทานโทษ หลงกรุ๊ปมาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่ประตูทองของเจ๊วรรณ

แขกคนอื่นๆมากันเกือบจะครบ.....

ขาดก็แต่ตานี่ กับผัวเมียคู่กระเป๋าหาย (ที่ยังมีความฉลาดติดตัวด้วยการส่งผัวมาแจ้งแก่ไกด์สาวคนงามว่ามาถึงแล้ว มิได้หลงหายไปไหน แต่มีปัญหาภายใน)

แต่ตาคนนี้ซิคะ อิฉันเห็นมันเดินผ่านอิฉันไปสองรอบสามรอบ จนท้ายสุด มันเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ Atta ทางฝ่ายหลังเลยจูง(จมูก) กลับมาหาอิฉัน

ทันทีที่ปะหน้ากัน มันรัวล้งเล้งใหญ่ว่า อิฉันไปอยู่เสียแห่งหนตำบลใด

นี่ถ้าไม่ใช่วันแรกรับเข้า จะเอาป้ายเอเยนต์ที่ชูรอรับ จิ้มลูกกะตาเม็ดองุ่น แซะ ขี้ตาเกรอะกรัง (ของมัน) ให้สว่างไสว ป้ายหรือก็ใหญ่เท่าบ้าน ไม่รู้จักมอง

ชั้นก็ยืนของชั้นอยู่ตรงนี้ จนแทบจะแข็งเป็นหิน รอแกนั่นแหละ ใครจะมีปัญญาไปตามหา หน้าตา หรือ ก็มิได้รู้จักมักจี่ กันมาแต่ชาติปางไหน จะได้ตรัสรู้ได้ว่า แกจะมาเป็นลูกทัวร์ชั้น

ความไม่ธรรมดา เริ่มฉายแววตั้งแต่ยังไม่ออกทริปเสียแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งลูกทัวร์มาครบ อิฉันกวาดต้อนไปขึ้นรถ ระหว่างเดินลงมายังลานจอดรถบัส จะมีบู๊ทแลกเงิน อิฉันเลยแวะให้แลก

ตานี่มันตะโกนบอกกับทุกคนให้รอไปแลกที่โรงแรม เรตดีกว่า

อิฉันฉุนจนเกือบจะตบกะโหลกในความสาระแนของมัน บอกอย่างราบเรียบ สีหน้าน้ำยาเย็น

“ที่โรงแรม หนึ่งยูโร สี่สิบสามบาท แต่ที่ธนาคาร ราคา สี่สิบหกบาท คำนวณกันเอาเองแล้วกัน ว่าที่ไหนดีกว่ากัน ถ้าไม่แลกก็ไป อ้อ พรุ่งนี้วันเสาร์ แบงค์ปิดนะจ๊ะ”

ทุกคนแลกกันคนละหนุบละหนับ อย่างเชื่อฟังนางไกด์ที่หน้าสวยๆอย่างนางสีดากำลังจะกลายเป็นหน้านางเบญจกายก่อนแปลงอยู่รอมร่อ

ระหว่างอยู่บนรถ ทรานสเฟอร์เข้าโรงแรม อิฉันให้ ข้อมูลเบื้องต้น อาทิเช่น การแลกเงิน น้ำดื่มในห้อง การทาครีมกันแดด อาหาร การแต่งกาย สิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำ ระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย รวมไปถึงเรื่อง pourboire (ทิป)สำหรับคนรถ เด็กรถ พนักวานขนกระเป๋า ฯลฯ

พอพูดเรื่องจะเสียเงินเท่านั้นแหละ เหมือนอิฉันก่อหวอด สร้างแรงสั่นสะเทือนใจให้พ่อเจ้าประคุณ จนต้องตะโกนออกมาด้วยภาษาฝรั่งเศสแบบร้าวๆ ว่า

“Obligé ? “ (บังคับเหรอ ) พยายามออกให้เป็นเสียงคนสเปนพูดฝรั่งเศสหน่อยนะคะ

ครั้นพออิฉันบอกว่า มันเป็นธรรมเนียม ซึ่งมีที่มาจากฝรั่งเศสนั่นแหละ และที่แนะนำก็ไม่ได้มากมายอะไร แค่ยี่สิบบาทสำหรับคนยกกระเป๋า เป็นสินน้ำใจให้เค้า

มันว่าไงรู้ไหมคะ

“ On vient pas ici pour nourrir les thailandais “ ( เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเลี้ยงดูคนไทยนะ)

แสดงสันดานออกมาอย่าง โจ่งแจ้ง และ ชัดเจน จริงๆ

โชคดีที่รถถึงโรงแรมเสียก่อน ไม่งั้น ชะตาเส้นสองสลึงของไอ้หมอนี่ถึงฆาตแน่ๆ จะบิดให้ขาดทั้งยวง แล้วโยนใส่รังมดคันไฟ

โธ่ ไอ้หน้าจรกา.....

ระหว่างทาง มันพยายามเข้ามาถามโน่นถามนี่ แต่ขอประทานโทษ อิฉันฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องหรอกค่ะ ต้องบอกให้พูดช้าๆ ชัดๆ จะได้ตอบถูก

มันหาว่า อิฉัน ภาษาฝรั่งเศสไม่ดี แน่ซิยะ ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่โคตรเหง้าของอิฉันนี่

แต่ที่อิฉันตอบออกเสียง ผ่านไมโครโฟน มิได้อยู่ในใจคือ

“ นี่เธอ เรากำลังสื่อสารกันด้วย ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ของเรากันทั้งคู่ ดังนั้น ถ้าเธอพูดช้าๆ ออกเสียงให้ชัดๆ ฉันฟังเข้าใจ สามารถตอบเธอได้ เธอไม่ต้องเหนื่อยถามซ้ำ นี่ถือว่า เป็นการประหยัดพลังงานให้ เธอเอาไว้ซอกแซ่กเรื่องอื่นไงล่ะจ๊ะ “

โชคดีของอิฉัน ที่มี องครักษ์พิทักษ์ไกด์ อันได้แก่ลุงๆป้าๆทั้งหลาย โดยเฉพาะ ลุง Francois ที่มีอาการเหม็นเบื่อกับไอ้หมอนี่เอามากมาย

ความเป็นไม้เบื่อไม้เมาของลุงกับ พี่ดีเกลือนี่ เนื่องมาจากความสาระแนของมันโดยแท้

คือ เนื่องจากโปรแกรมของเรานั้น ต้องนั่งรถเป็นระยะทางไกล ดังนั้น ตามกฎที่ตกลงกับเอเจนซี่ คือ ต้องมีบริการเครื่องดื่มบนรถ โดย เงินกำไรส่วนนี้ จะเป็นรายได้เสริมของคนรถ และ เด็กรถ ที่ได้รับเงินเดือนแต่ละเดือนไม่ได้มากมายอะไร และกำรี้กำไร ก็มิใช่จะได้มาก แถมยังต้องเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้นมาอีก กับการหาน้ำแข็งมาแช่ แช่เย็นแล้ว ก็เอามาเสิร์ฟถึงที่ น้ำที่ขายบนรถนั้น ราคาขวดละสิบบาทค่ะ

มันไปบอกกับลุง ฟรองซัวส์ ว่า ถ้าซื้อที่ เจ็ด สิบเอ็ด ราคาแค่เจ็ดบาทเอง

ลุงแกคงบอกกับไอ้หนุ่มนี่ทำนองนี้น่ะค่ะ

“ขอบใจละ พ่อมหาจำเริญ แต่ลุงกับป้าแก่แล้ว จะให้เดินฝ่าแดดเปรี้ยงๆไปซื้อน้ำ ที่ราคาต่างกันแค่ สามบาท ที่ ไม่รู้จะคำนวณออกมาไม่ได้แม้แต่เสี้ยวซองตีมส์เนี่ย ลุงกับป้า เห็นจะไม่สู้ละ เชิญพ่อตามสบายเถิด อย่าได้ปรารถนาดีโดยที่ผุ้รับไม่ต้องการเลย”

ลุงแกมาบ่นให้อิฉันฟังน่ะค่ะ ว่า ถ้าได้ทัวริสต์แบบนี้เยอะๆ ประเทศไทยเห็นจะถึงกาลวิบัติเป็นแน่แท้

แน่นอนละค่ะ คุณลุงขา อิฉันเองก็ร่ำจะทนไม่ไหว เห็นทีจะต้องถึงคราวต้องออกอิทธิฤทธิ์ อิทธิเดชที่ร้างลาไปนานเสียที

มีฤทธิ์ แต่ไม่เอาออกมาใช้ ก็เหมือนกระบี่ที่ไม่ได้ชักออกมาเชือด ป่วยการมีเอาไว้ให้หนักสะโพก
จนมีเหตุให้อิฉันได้เล่นงานมัน โดยภาพพจน์ความเป็นนางเอกไม่เสีย

คือ ตั้งแต่วันรับเข้า อิฉันได้อธิบายแล้ว ถึงเรื่องน้ำดื่มฟรีในห้อง ซึ่งก็คิด ใช้ในห้องจริงๆ ห้ามเอาขวดออกจากห้อง
เชื่อไหมคะ ไอ้หมอนี่ เอาลงมากินที่ห้องอาหารเฉยเลยค่ะ โรงแรมแรกๆ เค้าไม่ได้บอก จนอิฉันมาหยั่งรู้ได้เอง ตอนที่เห็นขวดน้ำหน้าตาแปลกๆในห้องอาหารที่โรงแรม ท็อปแลนด์ เลยถามเด็กเสิร์ฟ เด็กแกว่า หนูก็บอกเค้าแล้ว เห็นเค้ายังทำหน้าตาเฉยๆ

เท่านั้น แหละ อิฉันปรี่เข้าไปเลยค่ะ จิกกัดสะบัดต่อหน้าคนอื่น ว่า ไม่มีสิทธิเอาเครื่องดื่มจากที่อื่นมาดื่มในห้องอาหารโรงแรม มันตอบว่า ก็น้ำของโรงแรมแจก ใช่ค่ะ โรงแรมแจก แต่แจกให้ดื่มบนห้อง ห้ามเอาออก ป้ายเค้าก็มีบอกอยู่ทนโท่

ดูความหน้าด้านของมัน นะคะ คุณผู้ชม อิฉันเลยแกล้งหันไปถามแขกคนอื่นๆ ว่า เอ ที่ฝรั่งเศสนี่เราเอาเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้าไปเองได้หรือ

เสียงขานรับเซ็งแซ่ว่าไม่มี๊ ไม่มี คุณป้า อีดิธ บอกว่า ชีเป็นเจ้าของร้านอาหาร ชีเปิดร้านก็ต้องการขายเครื่องดื่มด้วย

ส่วนลุงฟรองซัวส์ นั้น ทะลุโป้งออกมาเลยละค่ะ “ที่ฝรั่งเศสไม่ได้ แต่ที่สเปนอาจจะได้ก็ได้นะ”

สรุปงานนี้ อิฉันสั่งให้โรงแรม ชาร์ตให้เป็นบทเรียน

ตอนเช้า....แขกครบ แต่กระเป๋ายังไม่ขึ้นรถ เพราะ อิฉันสั่งทางโรงแรมไว้ว่า ถ้าไอ้หมอนี่ไม่จ่ายค่าเครื่องดื่ม ก็ไม่ให้ออก

แช่จนหลายคนเกิดความรำคาญ ยิ่งเมื่อ อิฉันป่าวประกาศออกไมค์ว่า อาจจะต้องเสียเวลา และ ทำโปรแกรมอื่นไม่ทัน เพราะ มีบุคคลหนึ่งในที่นี้ไม่ยอมจ่ายค่าเครื่องดื่มที่นำจากบนห้องไปดื่มในห้องอาหารของโรงแรม
ทั้งๆที่ อิฉันบอกว่า ถ้าไม่จ่าย ไม่อิฉันก็ พนักงานโรงแรมจะต้องจ่าย

เชื่อไหมคะ มันยังทำหน้าแบบทองไม่รู้ร้อน

โอย สุดจะด้าน สุดจะทน จนอยากจะหามีดคมๆ เลาะหนังหน้ามันเอาไว้ใช้ขัดไม้แทนกระดาษทรายจริงๆ ( ถึงตอนนี้ ผู้พัน แขนเดาะ บอกว่า อย่าเอามาใช้นะ เดี๋ยวโต๊ะไม้สักสึก)

ท้ายสุด ป้า อีดิธ ทนไม่ไหว บอกว่า ป้าบริจาคให้แล้วกัน ถึงไม่มีใบอนุโมทนาเอาไปลดหย่อนภาษี ก้ไม่เป็นไร

ที่สะใจ คือ ป้าแกสั่งให้เอาน้ำมาอีกขวด แล้วเอาไปวางที่เบาะไอ้หมอนั่น ที่บัดนี้ นั่งหน้าตูม บอกบุญไม่รับ

วันรุ่งขึ้น ละครฉากเดิมเกิดขึ้นอีก ดุจนักแสดงเป็นปลื้มกับเสียง แซ่ซ้อง สาธุการ Encore encore et encore

ตัวละครจึงยินดีแสดงซ้ำซากอย่างมิมีเบื่อหน่าย ตามพล๊อกเรื่องวิกสายรุ้ง
คราวนี้ อิฉันเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว ด้วยการให้ทางโรงแรมยึดกระเป๋ามัน โดยบอกว่า ถ้าไม่จัดการให้เรียบร้อย ภายในห้านาทีนี้ ชั้นพากรุ๊ปไปละ เพราะกระเป๋าทุกคนอยู่บนรถหมดแล้ว ยกเว้นของเธอ

เจอไม้นี้เข้า....ฤทธีกระบี่วณิพก เริ่มหมดกระบวนท่า

แต่...ยังก่อน ช้าก่อน หากจะหมดฤทธิ์ง่ายๆ ก็ไม่สมกับ จอมยุทธหมาเก้าหางซิคะ

เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ โดยที่ อิฉันมักจะคอยหลบๆยามเห็นมันเดินเข้ามาหา

แต่ ที่เกาะล้านนี่ซิคะ มันหลบไม่ไหว เมื่อมันรี่เข้ามาหาอิฉันบอกว่า น้ำที่เกาะแพงมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงแพง ทั้งๆที่ ก็มีน้ำอยู่เยอะแยะ

พูดพลาง ผายมือไปทางทะเล ด้วยมาดของเจ้าอาณานิคม (มือเท้าสะเอวข้างหนึ่ง อีกข้างชี้กราด )

งานนี้ อิฉันทำบาป ที่คำตอบทำให้แขกดีๆหลายๆท่าน ถึงแก่อาการสำลัก

“จะเอาไหมล่ะ เดี๋ยวจะขอแกลลอนเปล่าๆเค้ามาให้ เอากลับไปกินที่ฝรั่งเศสด้วยก็ดี ที่โน่นน้ำแพง”

ยังค่ะ ยังจบไม่ลง

หลังจากกรณีเกาะล้านแล้ว ยังมีอีกกรณี คือเรื่องดำน้ำ

การจะหาทัวร์ไปดำน้ำนั้น มันมีสองราคา คือ ราคาสำหรับคนที่มีบัตรดำน้ำ กับ คนที่ไม่มีบัตร ราคาของประการหลังนั้นจะแพงกว่า เนื่องจากต้องจ่ายค่าบัดดี้เพิ่ม

ตอนอยู่ที่เกาะ มันมาถามอิฉันเรื่องค่าดำน้ำ อิฉันก็ถามไปอย่างขั้นต้น และคำตอบที่ได้รับคือ ไม่มีบัตร อิฉันสามารถให้ราคากลางๆได้ ตามประสาเจ้าแม่ข้อมูล คือ ประมาณสามพันบาท

ทันทีที่ถึงโรงแรม มันดิ่งไปเช็คที่เคาน์เตอร์ทัวร์ทันที

ราคาที่ได้รับ คือ สามพันห้า รวมหมดทุกอย่าง

มันมาชี้หน้าด่าอิฉันค่ะ ว่า อิฉันให้ราคาไม่ถูกต้อง ทำให้มันมีความหวัง แล้วเคาน์เตอร์เรียกแพงแบบนี้ มันไม่ยอม

โอย....ปวดหัวตุ้บเลยค่ะ เลยบอกให้มันไปข้างหน้าก่อนไป เข้าพัทยาไปเลย ไปถามตามเคาน์เตอร์ทัวร์อื่นๆเอาเอง

ปรากฏว่า ตอนกินข้าวเย็น เชื้อชั่วไม่ยอมตายค่ะ ปราดเข้ามาหาอิฉัน บอกว่า

“เมืองไทยแพงมากๆ อะไรๆก็แพงเป็นธุรกิจไปหมด ที่พัทยา ยิ่งแพงหนัก เกินสามพันห้าทั้งนั้น “

อยากกรี๊ดดดดดดดดดด จริงๆค่ะ กับอีแขกแบบนี้ ก็แน่ซิยะ คนเค้าทำมาหากิน ก็ต้องการกำรี้กำไร ไม่ได้ทำงานองค์การ กาชาดสากลนี่หว่า จะได้แจกฟรี

นับหนึ่งไม่ทันถึงร้อยหรอกค่ะ ไอเดียพุ่งปราด (เรื่องคำแนะนำดีๆนี่ สมองเปรื่องปราดนักค่ะ)

“อยากไปถูกๆใช่มะ เอางี้นะ ค่าเรือข้ามไปเกาะล้าน เรือเฟอร์รี่ ธรรมดา ๑๕๐ บาท อ้อ ก่อนทำตามคำแนะนำ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม มีผ้าขาว ผืนใหญ่ๆ ไม้ปักเสาธงยาวๆ ทีนี้พอข้ามไปถึงเกาะล้านนะ หาจุดที่เธอ จะยืนโบกเรือ จากนั้น เมื่อเรือมารับ ก็ติดเรือเค้าไป อยากดำจุดไหนก็ขอเค้าลง ดำจนหนำใจแล้ว ก็ชักธงขาว โบกเรือกลับโรงแรม”

แหม อยากให้เพื่อนๆเห้นหน้ามันจังค่ะ แดงเหมือนชาดแต้ม ระเรื่อยไปจนถึงหัวกะบาลเหม่งๆ

“ Tu plaisantes ? ( เธอพูดเล่นเหรอ )

“ Non ,je te moque ( เปล่าย่ะ กัดย่ะ กัด )

แหม อยากให้เพื่อนๆเห้นหน้ามันจังค่ะ แดงเหมือนชาดแต้ม ระเรื่อยไปจนถึงหัวกะบาลเหม่งๆ ยิ่ง ลูกทัวร์คนอื่นๆที่อยู่แถวนั้น หัวเราะคำตอบที่อิฉันให้กันครื้นเครง สีแดงๆแทบจะกลายเป็นสีม่วงๆ

ลุงฟรองซัวส์ ตบบ่า อิฉัน ชมเปาะว่า ตอบคำถามได้ดี

วันสุดท้าย วันส่งออก ทางบริษัทจะมี questionnaire ให้แขกกรอก พอถึงช่องไกด์ มันให้ mediocre กับ อิฉันค่ะ

ซึ่งไม่สร้างความประหลาดใจอันใดเลย ถ้ามันให้ tres bien นี่ซิคะ เห็นที อิฉันคงต้องกัดลิ้นตายเป็นแน่แท้

หลังจากจบทัวร์ กับมัน อิฉันรู้สึกโล่ง เหมือนสิ้นเวรสิ้นกรรม รีบเร่งกลับบ้านนอก มาโอยทานงานกุศล แล้วการทำบุญใหญ่ในชีวิต กุศลไหนจะส่งแรงเท่า อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ ให้ คนแขนพิการ

อิอิอิ อยากรู้ใช่มะ ใครพิการ(ชั่วคราว).....




 

Create Date : 28 พฤษภาคม 2550
60 comments
Last Update : 28 พฤษภาคม 2550 10:33:25 น.
Counter : 1446 Pageviews.

 

ขอเจิมเป็น สิริมงคล สิงห์วังชาให้ตัวเองหน่อยนะคะ
คิดถึงเพื่อนๆเป้นที่ยิ่ง ที่หายไปนานก็ภารกิจมันรัดตัว
ตอนนี้ มีเวลาว่างสามวัน ตอบเมล์ลูกค้าเสร็จแล้วจะเดินสายขอบคุณ ผุ้มีอุปการคุณทั้งหลายนะคะ

 

โดย: นางกอแบกเป้ 28 พฤษภาคม 2550 10:37:02 น.  

 

ขอเจิมต่อจาก จขบ ละกัน อิอิอิ
สบายดีนะครับ เงียบไปนานเหมือนกันนะ
อืมมม ที่ว่ารัดตัวเนี่ย ภารกิจแน่เหรอครับ หรือว่าผู้พัน
แบบว่า ... ทั้งพัน ทั้งรัดตัวจนแน่นคับติ๊วไปหมด

 

โดย: สะเทื้อน 28 พฤษภาคม 2550 10:48:06 น.  

 

กร๊ากกก...เล่นกะใครไม่เล่น เจอเจ๊กอฯ เข้า...

ตุ้งหล่ะอยากเห็นตอนที่นายคนนั้น แดงเหมือนชาดแต้ม จังค่ะ ว่าแดงขนาดไหน ลมออกหูเลยรึเปล่า...

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 28 พฤษภาคม 2550 11:40:36 น.  

 


ดีใจจังที่เห็นกลับมาปัดกวาดบ้าน..

พถดถึงคนแบบเนี่ย ถ้าเป็น จอมแก่น คงได้ชกหน้าไปแล้วอะมั่งเนี่ย

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 28 พฤษภาคม 2550 11:49:25 น.  

 

ใจเย็นลงหรือยังคะเจ๊
อิอิ
อ่านส่วนประกอบของใบหน้าแล้ว
ตาคนนี้แกหน้าตาพิกลนะคะ
555+

จะรอเจ๊แวะไปเยี่ยมนะคะ
เพิ่งกลับมาจากบ้านเมื่อวานนี้เองคะ
^^

 

โดย: I am just fine^^ 28 พฤษภาคม 2550 13:18:34 น.  

 

โห..อ่านแล้วสงสารเจ๊เลยค่ะ

เหอๆ

เป็นหนูคงคว้าอีโต้มาเฉาะหัวแล้วล่ะค่ะ

ไม่ชอบเลยอ้ะ ลูกทัวร์ไม่น่ารักอย่างเนี้ย

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 28 พฤษภาคม 2550 13:45:51 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่นังกอ .. ได้อ่านแล้วก็ได้แต่ร้อง เฮ้อจัง ... ไม่ไหว
ไม่ไหว เจอแบบนี้อ่ะน๊า ไม่น่ารักเหมือนคุณสาวไกด์
ว่าจริงเชียวค่ะ ...

แต่พูดแล้วถ้าเจอแบบนี้แล้วจะเป็นยังไงหนอ จะโกรธหน้าแดง
หรือจะแปลงร่างเป็นนังยักษ์ให้ตาคนนี้ดีอ่า ...

คิดถึงพี่นังกอน๊า หายไปนาน แวะมาอ่านในบล็อกก็เริ่ม
หายคิดถึงเล็กๆ ล่ะค่ะ

 

โดย: JewNid 28 พฤษภาคม 2550 14:12:15 น.  

 

แหม่ๆ นึกว่าจะไม่มาปัดยักใยซะแล้ว..

 

โดย: thattron 28 พฤษภาคม 2550 14:32:47 น.  

 




ทันทีที่เห็น ก็รีบมาส่งความคิดถึงเลยค่ะ
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆ


 

โดย: d__d (มัชชาร ) 28 พฤษภาคม 2550 14:46:52 น.  

 

กร๊ากกก...

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 28 พฤษภาคม 2550 15:59:53 น.  

 

.....การเดินทาง...ก็เหมือนการเดินทางของชีวิต นะ...ว่ามั้ย..เดินอย่างระมัดระวัง... คงเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย..

 

โดย: ส้มปลาน้อย 28 พฤษภาคม 2550 17:14:08 น.  

 

อ่านจบแล้วก็ร้อง "เฮ่อ!!" ดังๆ
หวังว่าเจ๊จะไม่เจออย่างนี้ทุกทริปนะคะ

มาเที่ยวแล้วยังคิดเล็กคิดน้อย ราคาของที่เมืองไทย คิดเป็นเงินยูโรและราคาสินค้าที่ฝรั่งเศสแล้วเล็กน้อยมาก .... เฮ่อ!! อีกที

ยินดีที่เจ๊กลับมาอัพบล้อกค่ะ

 

โดย: Mutation 28 พฤษภาคม 2550 21:14:21 น.  

 

เจ๊...ผมปวดแขนจังเลยครับ
ก็เจ๊บังคับให้ผมถูหลังให้ซะ...

ผมว่าป้าอีดิธแกเจ๋งมากเลยอ่ะ...
มีการสั่งน้ำมาให้นายมังสะวิรัติคนนี้ด้วย
(เห็นเจ๊บอกว่าเค้าหน้าเหมือนบรรดาผัก)

ส่วนคำว่า mediocre ผมไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร
แต่คิดว่าน่าจะไปในทางดิ่งลงเหวแน่นอน...แม่นบ่เจ๊?

 

โดย: Dr.Manta 28 พฤษภาคม 2550 21:25:37 น.  

 

เจ๊บรรยายหน้าตาซะ หุๆ ให้เลวร้ายมาขนาดไหน เจ๊จัดการด้ายยย

หมดกรรมก็ได้ทำบุญเป็นพยาบาลสาวสวยซะงั้น

 

โดย: thienkam 28 พฤษภาคม 2550 21:55:50 น.  

 

เจ๊ขา.. แล้วมันก็ผ่านพ้นไป เวลาหนูเจอลูกค้าคน(เรื่องมาก)พิเศษ หนูมักจะคิดว่า เดี๋ยวเค้าก็กลับแล้ว อยู่กับเราไม่กี่วันก็ไปแล้วว

เค้าจารู้ไหมเนี่ยะ ว่าเวลาเราไปเที่ยวบ้านเค้า มันมหาโหดกว่ากี่เท่า

ไอ้ที่จะมาคอยปรนนิบัติพัดวีดูแลไม่ห่างอย่างบ้านเรา แต่จ่ายเพียงไม่กี่บาทเนี่ยะ รวมทิปแล้วก็ยังถูกอยู่ดี หาไม่ได้ง่ายๆหร๊อก ..

คนเรานี่ เลือกได้เนาะว่าจะอยู่อย่างมีสุข หรือหาทุกข์ใส่ตัวเอง แต่พอคนนี้ดันเลือกหาทุกข์ให้ตัวเองและคนรอบข้าง
บาปหนาจริงๆ ไม่ยักน่ารักอย่างป่าอีดิธ กะลุงฟรองซัวส์ เลยเนาะ

สำหรับเจ๊คนสวย ..งานนี้มารไม่มี บารมีไม่เกิดค่ะ สู้สู้ ค่ะ (งานนี้ฉุนแทนเจ๊อ่ะ)

 

โดย: paemagic 28 พฤษภาคม 2550 22:28:03 น.  

 

 

โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย 29 พฤษภาคม 2550 12:00:36 น.  

 

อ่านแล้วคิดว่าอาชีพมัคคุเทศก์เป็นงานที่หนักและต้องมีจิตใจรักการบริการมากๆๆ อาชีพหนึ่งเลยทีเดียว
ส่วนตัวเองเคยคิดอยากเป็นมัคคุเทศก์เหมือนกัน แต่พอได้ไปลองฝึกงานแล้วรู้ซึ้งถึงความเหนื่อย ความเรื่องมากของลูกทัวร์ และเรื่องจิปาถะอีกร้อยแปดก็เลยตัดสินใจไม่อาวววดีกว่า...

 

โดย: A_Mong 29 พฤษภาคม 2550 12:03:31 น.  

 

ถ้าโดนกับตัวเองคงไม่รู้จะจัดการกับแขกประเภทนี้ยังงัยดี สงสัย ปรี๊ดแตก แน่ๆๆ

 

โดย: Nisasa 29 พฤษภาคม 2550 13:37:13 น.  

 

เจ๊ขา...หายไปนานม๊ากกกกกกกกก
ทำเอาชาวบ้านตามหาทั้งในบล๊อกแก๊งค์และที่เทรคกิ้งไทย
เจ๊สบายดีนะคะ หนูละคิดถึงสำนวนคันๆของเจ๊เหลือเกิน
รีบเข้ามาทักค่ะ...เดี๋ยวขอย้อนขึ้นไปอ่านก่อนนะคะ

 

โดย: ปลาทอง9 29 พฤษภาคม 2550 16:56:48 น.  

 

กร๊ากกกกก......
หัวเราะจนปวดท้องเลยค่ะเจ๊


ขออนุโมทนากับกุศลที่เจ๊จะทำด้วยนะคะ ว่าแต่ว่า ทำแล้วได้บุญจริงหรือ

พักผ่อนกับวันว่างนะคะ ผิวพรรณจะได้ผุดผ่อง ก่อนเดินสายอีกรอบค่ะ

 

โดย: Sirinut 29 พฤษภาคม 2550 21:43:52 น.  

 





สวัสดีตอนหัวค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ไม่ได้รัก...แต่คิดถึง
ไม่ได้ซึ้ง...แค่ห่วงหา
เพียงอุ่นไอ.....ในแววตา
ทุกเวลาที่....เธออยู่... ห่างไกลกัน

** มีความสุขกับคนที่คุณรักนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 30 พฤษภาคม 2550 0:38:27 น.  

 

กลับมาอ่านอย่างเมามันส์
คิดถึงประโยคแสบๆคันๆของเจ๊เหลือเกิน
อย่าหายบ่อย หายนานซิคะเจ๊..แวะมาบ่อยๆนะคะ

ส่วนตับหนุ่มอิหร่านทอดกระเทียมพอหาได้นะคะ
แต่ว่าคุณผู้พันยอมให้เสวยรึเพคะองค์หญิง

 

โดย: ปลาทอง9 30 พฤษภาคม 2550 2:36:25 น.  

 

เจ๊จ๋า...คิดถึง ๆ
ไม่ได้เข้ามาหากันตั้งนานแน่ะ

อ่านแล้วปลงง่ะ...
คนอย่างนี้ก็มีด้วย

เอาเหรียญอดทนไปสิบเหรียญเลยคะเจ๊กอ

 

โดย: Amber n the Gang 30 พฤษภาคม 2550 3:19:20 น.  

 

โอ้ว ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องใหม่แล้ว

ถ้าเจอลูกทัวร์แบบนี้ เซ็งงงง สิคะ
แตก็ทำได้อย่างเดียวอะ "ทำใจ" เฮ่อ!!

 

โดย: juriojung 30 พฤษภาคม 2550 3:41:08 น.  

 

เจ๊กอหายไปนานมากเลยคร้าบ..

ที่แท้ก็ไปสู้รบมานี่เอง..


แล้วอย่างนี้จะมีผลกับงานของเจ๊ป่าวล่ะเนี่ย.. บริษัทไม่ว่าเหรอค้าบ..!!

 

โดย: smartman หล่อสุดๆ 30 พฤษภาคม 2550 11:59:10 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


คิดถึงเธอทุกครั้งที่หายใจ
ห่วงใยเธอทุกครั้งที่ไกลตา
อยากเห็นเธอมาหาทุกเวลา
ฉันคงเหงาหากไม่พบเธอ


** มีความสุขกับวันวิสาขบูชานะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 31 พฤษภาคม 2550 12:44:01 น.  

 


วันนี้เรามิเคยลืมเลื่อนมิตรแสนดี

วันนี้ ขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 คือหนึ่งพระ..ในวันนี้ค่ะ
สำนวนชาววัดเรียกว่า วันเพ็ญเดือนวิสาขมาส
เป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ
ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานในวันเดียวกัน

เป็นวันที่มีค่าสำหรับเราพุทธศาสนิกชนทุกคนค่ะ

อนุโมทนา...บุญมายังกัลยาณมิตร..ที่ดีของเราเสมอค่ะ




แสงเทียนที่ลิบหลี่คือความสว่างที่มีค่าในความมืดฉันใด...
แสงธรรมที่น้อยนิดคือสิ่งที่เตือนสติให้รู้ค่าในชีวิตมากมายฉันนั้น...

ดีใจค่ะที่ได้เห็นคุณนำเนื้อหาดีๆๆมาให้อ่านค่ะ
ทุกงานมีความยากง่ายเสมอนะค่ะ
มีความใสขนะค่ะ..
ถึงนานครั้งแวะหาใช่เรื่องใหญ่ค่ะ
ขอให้มีจิตใจที่ดีมอบให้แก่กันก็สุขใจค่ะ

 

โดย: catt.&.cattleya.. 31 พฤษภาคม 2550 18:51:44 น.  

 

คิดถึงจ้าาา......

แหม...หายไปนาน แต่ยังฮาเหมือนเดิมนะจ๊ะ อ่านแค่คำบรรยายหน้านายเปนนั่นก็นึกภาพออกยังกะเห็นเองเลยล่ะ

 

โดย: P.Ta 31 พฤษภาคม 2550 19:24:48 น.  

 

เข้ามากราบลา บรรดาเพื่อนๆผู้มีอุปการคุณค่ะ
ต้องหิ้วกระเป๋าออกไปทำทัวร์หาเงินค่าซ่อมหลังคาบ้านอีกเช่นเคย
แล้วจะรีบกลับมารับใช้นะคะ
อ้อ ตอนนี้ ผู้พันแขนหักค่ะ ฝากดูแลด้วยนะคะ

 

โดย: นางกอแบกเป้ 1 มิถุนายน 2550 6:10:34 น.  

 

พี่ค่ะ เป่าหัวน่ะได้ค่ะ แต่ขอ.......
... ขออย่างเดียวค่ะ ..
..
....
........
...
..
.
น้ำลายไม่ต้องนะค่ะ....



 

โดย: Nisasa 1 มิถุนายน 2550 8:02:09 น.  

 

แวะไปเยี่ยมเยือนผู้พันไม่ได้ค่ะ เพราะว่าไม่ได้ให้ที่อยู่ไว้ ...


แต่ว่าส่งกำลังใจไปแทนนะค่ะพี่

 

โดย: JewNid 1 มิถุนายน 2550 9:07:20 น.  

 

แวะมาทักทายครับหลังจากที่ไม่ได้คุยกันเสียนาน

งานกำลังยุ่งๆ เหมือนกันครับ พอได้มาอ่านปัญหาของเจ๊กอบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้มีปัญหาหนักอยู่คนเดียว ใครๆ ก็ต้องเจอปัญหาเหมือนกัน


ว่าแต่... เจ้าหมอนี่มันสุดยอดจริงๆ อยู่ได้ยังไง มีแต่คนไม่ชอบหน้า

 

โดย: คนทับแก้ว 1 มิถุนายน 2550 14:02:59 น.  

 

สนุกดีค่ะ
เพิ่งไปเที่ยวอยุธยามาค่ะ
ไปตามที่ที่เค้าฮิตๆกันล่ะค่ะ
แต่เห็นวัดวาที่ถูกเผาจนเป็นเถ้าอิฐแล้ว
เศร้า
ถ้ามิถูกพม่าเผา จะงดงามเพียงใดหนอ อยุธยา

...
...


วันนนั้นไปฝนตกค่ะ
เลยแบบว่า
บรรยากาศมันทึมๆ น่ากลัวยังไงพิกล

ยิ่งคิดว่า อิฐแดงที่กองๆอยู่อายุเป็น 2-300 ปีแล้ว

*ขนลุก*

 

โดย: vodca 1 มิถุนายน 2550 14:12:43 น.  

 

อูย มาช้าไปสองวัน ไม่ทันเจอเจ๊ซะแล้ว เอ่อ ว่าแต่ ผู้พันเนี่ย อยู่ตรงไหนอะคะ จะได้ตามไปดูแลถูก อิ่ๆๆๆๆๆๆ ....

 

โดย: หนูชล 1 มิถุนายน 2550 16:25:26 น.  

 

ต๊ายย เจ๊ขา อ่านแล้วอยากฆ่ามันหมกประเทศ
ถ้าไม่กลัวว่าเลือกเนื้อสังขารไอ้บ้านี่จะทำให้ประเทศเราแย่กว่าที่เป็นอยู่
ดีใจจังที่เจ๊กลับมาแล้ว (แม้จะเป็นแบบชั่วคราว) หนูคิดถึงเจ๊ม๊ากมาก
เรื่องพม่าที่เจ๊จิกเพิ่งได้แค่ 7 ตอนเอง เหอเหอ

รักษาตัวดี ๆ นะคะ เจ๊ขาา
เลิ๊บ ๆ ๆ ค่า

 

โดย: หมาเลี้ยงแกะ 2 มิถุนายน 2550 15:34:50 น.  

 

แวะมาขำยามเช้า
เจ๊จ๋า ในฐานะที่เจ๊เชี่ยวชาญวัดพระแก้ว ถามหน่อยค่ะว่าในรูปนี้คือพระที่นั่งอิหยัง? ขอบคุณม๊ากค่ะ
Image Hosted by ImageShack.us
ตอนไปเที่ยวกะคูทิงเราก็ไม่ได้ฟังเค้าบรรยายอ่านะ มัวแต่วิ่งไล่จับเด็กซน ๆ อยู่อ่า

 

โดย: คุณย่า 4 มิถุนายน 2550 6:23:37 น.  

 



แวะมาส่งกำลังใจให้ค่ะ
อยากรู้จังว่าใครพิการ...อยากรู้ๆๆๆๆ

 

โดย: อุ้มสี 4 มิถุนายน 2550 9:47:10 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


อยากให้เธอได้รับรู้จัง
ยามที่ฉันไม่พบเจอเธอ
คิดถึง ห่วงใยเธอทุกเวลา
เพราะเธอคือ..เพื่อนที่ฉันนั้นผูกพัน


** มีความสุขกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 4 มิถุนายน 2550 11:59:37 น.  

 

เจ๊กลับมาพร้อมกับเรื่องปวดหัวของลูกทัวร์ตัวแสบเลยแฮะ งานแบบนี้ต้องใช้ความอดทนมากๆเลยนะเนี่ย

ปล.จะมาบอกว่าคิดถึงเจ๊มากกกกกน๊า

 

โดย: ณ มน 4 มิถุนายน 2550 12:43:38 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


แม้จะอยู่ห่างไกลซักเท่าไหร่
แต่รู้ไหมใจเราอยู่ใกล้กันเสมอ
แม้วันวานผ่านไปอาจะไม่พบเจอ
ขอเธอรับรู้ว่า ** มิตรภาพ** คงมั่น ฉันและเธอ


** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะจ้า **


 

โดย: จอมแก่นแสนซน 5 มิถุนายน 2550 12:01:15 น.  

 

คิดถึงจังค่ะ
หายไปนานเหมือนกัน
แวบมาแวบไป...

 

โดย: prncess 6 มิถุนายน 2550 9:11:16 น.  

 

อ่านจบแล้วนะคับ เจ๊

.
.
น่าเต๊ะก้านคอซัก 4 ป๊าบนะครับเจ๊

ปอลิง. ว่าแต่เจ๊ เหน็บกระบี่ไว้ตรงสะโพกจริง ๆ เหล๋อ

 

โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย 6 มิถุนายน 2550 10:08:35 น.  

 

อ่านแล้วก็อยากจะเห็นหน้าลูกทัวร์ของมาดามฯจังเลยค่ะ หน้ามะเขือเทศ ลูกตาเม็ดองุ่น แล้วจมูกชมพู่เนี่ย แถมนิสัยแย่อีก

 

โดย: PANDIN 7 มิถุนายน 2550 10:54:35 น.  

 

ลูกทัวร์อย่างนั้นต้องเจออย่างนี้เนอะคะ แปะ แปะ แปะ(เสียงปรบมือ)

ปล. จากว่าที่ไกด์ขอร่วมวงสนทนาด้วยคนค่ะ แวะไปที่บล็อกมั่งนะคะ

 

โดย: Paitangtour 7 มิถุนายน 2550 11:58:14 น.  

 

แวะมาอ่านบ่อย ๆ ค่ะ
แต่รู้สึกว่า ... ไม่ค่อยว่างอัพบล็อกเหรอคะ

อิอิ

 

โดย: โสดในซอย 7 มิถุนายน 2550 18:05:28 น.  

 





สวัสดีตอนค่ำๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


เวลาผันผ่านนานหลายปี
ยังมีความคิดถึงมอบให้
บวกด้วยความรู้สึกที่จริงใจ
ผูกสายใยเธอฉันนั้น "เพื่อนกัน"



** มีความสุขกับช่วงวันหยุดพักผ่อนนะจ้า **

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 10 มิถุนายน 2550 1:52:49 น.  

 

ช่วงนี้เจ๊ยุ่งแน่เลยค่ะ ไม่ค่อยเห็นเลยอ่ะ (มัวแต่ไปปักตะไคร้)

คิดถึงนะคะ

 

โดย: ตะเกียงแก้ว 10 มิถุนายน 2550 19:06:36 น.  

 





สวัสดีตอนค่ำๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


วัน เวลา อาจหมุนเวียนเปลี่ยนไป
แต่ไม่อาจเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้
ความ* คิดถึง ห่วงใย * เป็นเช่นไร
ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นไม่แปรเปลี่ยน


** มีความสุขกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **


 

โดย: จอมแก่นแสนซน 11 มิถุนายน 2550 2:00:05 น.  

 

แหม อ่านแล้ว มันยกร่อง สมเป็นเจ๊กอ
คนสวยของเรา อิฟะหรั่งสเปน ตัวเนียะ เจ๊น่าจะจับมันปล่อยเกาะให้กินน้ำทะเลสักสามคืน เผื่อจะนิสัยดีขึ้น

 

โดย: angy_11 13 มิถุนายน 2550 13:10:42 น.  

 

ผมแวะมาเฝ้าบ๊อก ให้เจ๊นะค้าบบบ

.
.
สงสัยจะปั่น(งาน) จนแย่แว้ววอ่ะเจ๊ของผม อิอิ

 

โดย: อืม...ครับ เชิญตามสบาย 14 มิถุนายน 2550 18:28:09 น.  

 

หายไปนาน พึ่งกลับมาอ่านครับ ตาลุงนั้น ไม่หล่อแล้วยังไมเจียมอีกนะครับ คนแบบนี้ไปที่ไหนก็วงแตก สงสัยคงไม่กลับมาไทยอีกนาน เป็นบุญของบ้านเรานะครับ

ช่วงนี้คงทำงานหนักล่ะสินะครับ แล้วผู้พันหายแขนหักหรือยังครับ ตอนแรกที่อ่านตอนจบ ไม่คิดว่าหักจริงหรอก นึกว่าเป็นมุขที่เข้าสู่ปฏิบัติการ "บัว" ซะอีก แต่มาอ่านข้างล่างอีกที ถ้าจะหักจริงๆ ก็ขอให้หายดีแข็งแรงเร็วๆนะครับ

 

โดย: ป้อจาย 16 มิถุนายน 2550 22:38:35 น.  

 





สวัสดีตอนเช้าๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


เพียงความรู้สึก คิดถึง
แค่อยากให้รู้ซึ้งและเข้าใจ
ถ้าไม่ คิดถึง ก็คงไม่หวงหา
ถ้าไม่ห่วงใย ก็คงไม่คิดถึง เธอ


** มีความสุขกับการทำงานนะจ้า **


 

โดย: จอมแก่นแสนซน 17 มิถุนายน 2550 13:10:11 น.  

 

เมื่อไหร่เจ๊จะกลับมาน้อ

คิดถึงเจ๊จังเลยค่ะ

 

โดย: ดาว (Sirinut ) 18 มิถุนายน 2550 16:34:57 น.  

 

แวะมาอ่านครับ
แต่ความอดทนในการอ่านมีน้อยครับ
คิคิคิ

 

โดย: sak (psak28 ) 19 มิถุนายน 2550 15:28:44 น.  

 

หวัดดีน้องกอ กลับมาแล้วนะ บล็อคนี้ยังน่ารักและฮาเหมือนเดิม ความจริงเข้ามาหลายวันแล้ว แต่โพสท์ไม่ได้ เน็ตแฮ้ง คิดถึงนะจ๊ะ แล้วจะแวะมาใหม่ ไปเป็นแจ๋วก่อน เดี๋ยวคุณผู้ชายมา
a bientot

 

โดย: ป้าเขียม (ป้าเขียม ) 20 มิถุนายน 2550 8:17:53 น.  

 

เมื่อวันนี้มาถึงนึกเยือนหา
เรารู้สึกระลึกนึกถึงมิตร..
ขอมอบใจและอายอุ่น
ทำให้สุขเสมอเมื่อเยือนหา

ในพระนี้..ที่สงบสู่ใจ...คุณ..มิตรแสนดี

มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นงูเห่า

บัณฑิตคือผู้มีปัญญา มีภูมิธรรม
มีเมตตาจิตรู้ให้อภัยศัตรู คือบัณฑิตมีจิตใจสูง
ทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตร

คนประเภทดังงูเห่า คือคนไม่มีคุณธรรม
กตัญญูตากตเวทิตา..คนประเภทนี้ควรถอยห่าง


ของท่านพระพุทธทาสภิกขุ..ค่ะ

อนุโมทนาค่ะ



ปล..คุณหายไปเลยนะค่ะ
สบายดีนะค่ะ

 

โดย: catt.&.cattleya.. 22 มิถุนายน 2550 20:58:41 น.  

 



โอ้ย ตาย

เจ๊ขา
เจ็งลี่เพิ่งโผล่
ฮืออออออออ

ขอโทษเจ้าค่ะ

งือๆ

ปล.แขกแบบนี่น่าส่งให้แจวเรือกลับบ้านเองนะคะ

 

โดย: jengly 25 มิถุนายน 2550 0:38:55 น.  

 

โถ่ ป้ากอของเรา

 

โดย: Bee1st 25 มิถุนายน 2550 1:24:54 น.  

 

ท่าทางงานยุ่งนะครับพักนี้..

 

โดย: A_Mong 26 มิถุนายน 2550 19:40:37 น.  

 

ไม่รู้หละ...
หายไปนาน(แจงก็ด้วย อิอิ)

มาตะโกนว่า...............คิดถึงงงงงงงง
ก่อนจ้า : )

คุณกอ...เล่ามันส์เหมือนเดิม ไม่ผิดเพี้ยน ตัวจริงแน่นอน ฮ่าๆๆ เอิ๊ก...

 

โดย: jme 7 กรกฎาคม 2550 0:00:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นางกอแบกเป้
Location :
พระนครศรีอยุธยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





ไม่มีไรค่ะ

ชีวิตอิฉันคือการเดินทางค่ะ เดินทางมันหมดทุกสัดส่วนตั้งแต่สมอง หัวใจ และ ปลายเท้า ได้พบได้เห็นอะไรมากมายเท่าฝุ่นธุลีของสุริยจักรวาล ทั้งมีสาระและไม่มีสาระ แล้วแต่เราจะเลือกอย่างไหน ขอให้ผุ้อ่านเรื่อง(ไร้)สาระของอิฉันมีความสุขนะคะ อาเมน
http://www.hanahouse.net/sozai/bg/bg8/tuyu25.gif
Friends' blogs
[Add นางกอแบกเป้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.