Lanla~20 : The Terminal >> ชีวิตคือการรอคอย
วันก่อนทำมิลค์เชคเย็นๆกันไปแล้ว วันนี้มาดูหนังกันดีกว่า...
เมื่อวาน ได้ดูหนังเรื่อง The Terminal ที่มี ทอม แฮงค์เป็นพระเอก เล่นเป็นคนคราโคเชีย
ชื่อ วิคเตอร์ นาวอสกี้ ซึ่งเดินทางเข้ามายังสหรัฐ
มาลงที่สนามบิน JFK ทีนี้ ระหว่างที่นั่งเครื่องมา
ประเทศคราโคเชียของเขา กำลังเกิดรัฐประหารพอดี
ทำให้เอกสารต่างๆที่ออกให้โดยรัฐบาลคราโคเชีย
เช่นพาสปอร์ต ใช้การไม่ได้
ทำให้นาวอสกี้ต้องติดอยู่ที่สนามบิน
จะออกไปเหยีบแผ่นดินสหรัฐ ก็ไม่ได้
จะกลับประเทศก็ไม่ได้
แถมเจ้าตัวยังไม่รู้ภาษาอังกฤษอีกต่างหาก
(ประมาณว่า อ่านออกแต่ไม่รู้ความหมาย)
^ รูปนี้ได้อารมณ์โดดเดี่ยวมากๆเลย
แต่นาวอสกี้ก็มีวิธีการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่เรา
อยากลอกเลียนแบบมั่ง นั่นคือ
การหาซื้อหนังสือไกด์บุ้ค เล่มเดียวกับที่แปลเป็นภาษาของตัวเอง เอามาเทียบศัพท์กันทีละคำ
ในที่สุดเขาก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
นอกจากนี้เขาได้เรียนรู้การหาเงินใช้
เขาใช้วิธีนำรถเข็นที่ผู้โดยสารใช้ในสนามบิน
มาเก็บเข้าที่ ซึ่งจะได้เงิน 25 เซนต์
แม้ว่าจะถูกกลั่นแกล้งต่างๆนาๆจากเจ้าหน้าที่
รักษามาตุภูมิอเมริกา แต่ก็ดูนาวอสกี้มีความสุขดี
กับการรอคอยอยู่ในสนามบิน (ทั้งการดัดแปลงที่นอน,การเป็นพ่อสื่อให้กับพนักงานโรงครัวกับเจ้าหน้า
ที่ออกวีซ่าสาว รวมถึงการได้เป็นทีมช่างก่อสร้าง
ที่มีรายได้ชั่วโมงละ 19 ดอลฯ o_O )
มีตอนนึง เจ้าหน้าที่พยายามจะบอกให้นาวอสกี้
ก้าวเท้าออกไปจากสนามบิน เพื่อที่เขาจะได้โดนจับ
จังหวะที่จะก้าวเท้าออกไป เขาก็หันไปบอกกับกล้อง
วงจรปิดที่มีเจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ว่า "ฉันรอได้"
เป็นคนที่มีความอดทนดีจริงๆ
นาวอสกี้ เป็นคนที่ไม่เคยโกหก (ยกเว้นตอนที่เขาช่วยชาวต่างชาติคนนึงเรื่องยา) ตอนที่เขาได้เจอกับ
เอมีเลีย แอร์ฯสาวซึ่งท่าทางจะถูกใจเขา
เขาก็บอกเธอว่า เขาอยู่ที่ Gate 67 และไปไหนไม่ได้
(แต่สาวเจ้าดันเข้าใจไปเองว่า เขาทำงานเป็นพวกรับเหมาสร้างอาคาร)
การรอคอยของนาวอสกี้ช่างยาวนาน
เป็นเวลาถึงประมาณเกือบๆ 1 ปี
แต่ในที่สุด สันติภาพก็กลับคืนสู่ ประเทศคราโคเชีย
ของเขา ในที่สุดเขาก็ได้สิทธิ์เข้าไปในอเมริกา
ไปตามความฝันของเขา (ไม่เล่าต่อละกัน ไปดูเอาเอง) 555
อารมณ์หลังดูเรื่องนี้จบก็รู้สึกประทับใจ
มีทั้งมิตรภาพ ระหว่างนาวอสกี้กับเพื่อนๆหลากอาชีพ
ที่สนามบิน,มิตรภาพระหว่างเขากับเอมิเลีย ฯลฯ
รู้สึกว่าถ้าคนเราลองมีความพยายามแล้ว อะไรที่ยากๆ
ก็น่าจะพอมีทางเป็นไปได้
และรู้สึกว่า การรอคอยของนาวอสกี้ครั้งนี้ คงเป็น
ประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของเขาแน่ๆ
บางครั้งการรอคอยอะไรบางอย่าง ก็ให้ผลที่คุ้มค่านะ
ที่สำคัญ ต้องไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มซะแล้วเรา :P