Bloggang.com : weblog for you and your gang
**The Ordinary Life of OKB**
Group Blog
งานคือเงิน
กล่องลูกปัด
ลังสบู่
เด็กน้ำตาล
The Better Half?
พร่ำเพ้อ
ถุงหนังสือ
เที่ยวโน่น เที่ยวนี่
กล่องไหมพรม
ห้องส่วนตัว
อยู่เพื่อกิน
ND
<<
พฤศจิกายน 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
16 พฤศจิกายน 2549
ดอกไม้เบ่งบานในใจ
All Blogs
Spring flowers 2010
Thanksgiving 2009
พ่อแม่ขี้เห่อ
นางงามผัดไทย (ตกประกวด เพราะนอนตื่นสาย อิอิ)
ข้าวหมูแดง
Noodle addict
อาหารเย็นเมื่อวันก่อนโน้นนน
~*~Home~*~
Please drink responsibly.
หงอยกร่อย
คุณดอก....ไม้
Snow Day In March!
Can't wait for Spring...
Thai Night และครั้งแรกในชีวิตกับกระทงทอง
Barbies around the world
Autumn sky
Stuff
ของขวัญวันเกิดล่วงหน้า
Historic Morganton Festival
Art on the Benches
My little peach tree
สิ่งใหม่ๆ เรื่องดีๆ ในชีวิต
Locks of Love ส่งรักผ่านเส้นผม
ข้าวเหนียวกับหมูปิ้ง
อยู่เพื่อกิน
My pretty Hydrangeas
Jetlag is killing me!
อีก 15 วันเท่านั้น
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
ข้าวผัดน้ำพริกเผากุ้ง+หมูสับ พร้อมของแถม
ลมเพ...ลมพัด
จีบ
Cold weather, warm belly ^ ^
Just another year...
Busy season
ลมหนาว คนเหงา
Oatmeal cranberry cookies
Fall is coming....really?
^-^ Feeling good to know I'm loved ^-^
ใต้เงาจันทร์
Productive day off
ร้อนเฮียๆ
จบซะที
Flower power
Harry Potter and the Order of Phoenix
ดีใจได้ไปแน่
Pain in the legs!
Life with a dog (and food)
ดอกไม้รอบบ้านสปริง 2007
วีคเอนท์ที่ผ่านมา
เพลงโปรดสมัยสาวๆ
รับของแจก
สองอาทิตย์ที่ผ่านมา
My day
Waiting for the first storm of the year.
แด่คนที่ฉันเคยรัก
ความสุขอยู่ใกล้ๆตัว
กระแทกกลับมาอีกหนแร้ววว
SSDD--Same Sh*t, Different Day
Brunch
เรื่องอ้วน อ้วน
โดนอีกเช่นกัน
คริสต์มาส 2006
ดอกไม้เบ่งบานในใจ
เมื่อลมหนาวโชยพัด ใบไม้เปลี่ยนสี
My pleasure...from head to toes
Sweet 16 (twice)
ผลผลิตสวนครัว
เพื่อนเก่าชื่อไก่(มีสุข)
นกน้อยทำรังแต่พอตัว
เมื่อเพื่อนมาเยี่ยม
เอาดอกไม้จากรอบบ้านมาฝาก
5K and Dim Sum Saturday
Happy 37th Anniversary
เข้ามาอัพฯแบบขี้เกียจๆ
:(
Cook in
ภูเขา รองเท้า และยำไก่ทอด
Let's go สกีอิ้ง
เป็ด
The Family Stone
เหนื่อย
ส่งท้ายปี 2548/2005
คริสต์มาส 2005
อัพ อัพ อัพ
เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า
กระดาษใบนี้ที่รอคอยมาสองปี
ยังไม่ตาย
17 กันยายน 2548
14 กันยายน 2548
ดอกไม้เบ่งบานในใจ
เดือนนี้มีวันน่าจดจำอยู่สองวัน คือวันที่เรากับบาร์ตพบกันครั้งแรก และอีกสองปีถัดมาเป็นงานหมั้นของเราสองคนค่ะ
วันที่ 9 พย. เมื่อแปดปีก่อนเป็นครั้งแรกที่เรากับบาร์ตได้เจอกัน เราพบกันในงานแต่งงานของเพื่อนของเพื่อนอีกที เราทั้งคู่ไม่ได้รู้จักคู่แต่งงานเป็นการส่วนตัวซะหน่อย
วันนั้นเราไปเป็นคู่ควงให้พี่ที่รู้จักกัน จริงๆเกือบจะไม่ได้ไปแล้ววันนั้น จำได้ว่าเรียนป.โทอยู่ปีแรก ต้องทำรายงานกับกลุ่มเพื่อนติดพันถึงเย็น แต่นัดกับพี่เค้าไว้แล้วไม่อยากผิดนัดเลยต้องรีบกลับบ้านล่กๆๆๆมาอาบน้ำแต่งตัว แต่งเสร็จพอดีกับคนมารับไปงานเลย
ส่วนบาร์ตตอนนั้นไปเที่ยวเมืองไทยพอดี เพื่อนคนไทยของเค้าไปงานแต่งงานนี้ด้วย เลยลากบาร์ตให้ตามไปในงาน
พี่คนนึงในงานแนะนำให้เรารู้จักกัน ด้วยว่าพี่คนนั้นหาเหยื่อให้มาชวนตาฝรั่งนี่คุยจะได้ไม่เหงาปาก เลยคว้าเอายัยคนนี้ หน้าตาเหมือนฉลาดน่าจะคุยกับฝรั่งรู้เรื่อง เหอๆๆ คุยกันเรื่องสัพเพเหระมาก ไปเที่ยวไหนมามั่งในไทย ชอบอาหารไทยไหม ฯลฯ ได้ความว่ามาเที่ยวรอบสองแล้ว ชอบเมืองไทยมาก นี่อีกสองวันจะกลับบ้านแล้ว ไม่รู้จะได้มาอีกเมื่อไหร่
พองานเลิก (จังหวะนี้เดี๊ยนยังจำชื่อตานี่ไม่ได้เลย เหอๆๆ)นึกยังไงไม่รู้ หยิบกระดาษปากกามาเขียนอีเมลแอดเดรสส่งให้เค้าบอกว่า ถ้าไงมาเที่ยวเมืองไทยคราวหน้าเขียนมาบอกละกันนะ เผื่อจะพาเที่ยว ตอนนั้นไม่ได้คิดหรอกว่าเค้าจะเขียนมาทำเป็ฯคนใจดีไปงั้น ที่ไหนได้ วันรุ่งขึ้นมีอีเมลมาทันทีเลย
เราติดต่อกันทางอีเมล(แบบเพื่อน)คุยเรื่องโน้นนี้ ห้าเดือนถัดมา บาร์ตพาพ่อแม่เค้ามาเที่ยวสงกรานต์ที่เมืองไทย สัญญาเค้าไว้แล้วนี่นะว่าจะพาเที่ยว ก็อ่ะ พาพ่อแม่และบาร์ตไปเที่ยววัดวาอาราม พาเค้าไปช้อปปิ้ง ฯลฯ มีโอกาสไปเที่ยวสุโขทัยและพิษณุโลกด้วย พ่อแม่เราได้เจอกัน ได้ชอบพอถูกใจกันก็ทริปนี้ล่ะค่ะ
สองปีจากนั้นบาร์ตไปเมืองไทยราวๆ ห้ารอบ เรามาอเมริกากับแม่ได้เจอกันอีก 1 รอบ (แม่ทำเป็นว่ามาเที่ยวเฉยๆ แต่จริงๆแล้วแอบมาดูลาดเลาว่าโคตรเง้าเหล่ากอตานี่เป็นยังไง หุหุ)
กลางปี 2000 บาร์ตออกจากกองทัพอากาศกำลังจะเริ่มทำงานที่คอร์นนิ่ง ขอเวลาเค้าสามเดือนก่อนเริ่มทำงานใหม่ สามเดือนนี้บาร์ตไปอยู่เมืองไทยเพื่อใช้เวลากับเรา ไปทำความรู้จักกับครอบครัวเรา เรียนรู้ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรมของไทย เรียนภาษาไทย แถมเรียนนวดไทยที่วัดโพธิ์อีกด้วย
วันที่ 11 เดือนพย.ปี 2000 เราหมั้นกัน มีงานหมั้นแขกประมาณ40-50 คน เพื่อนสนิทและญาติสนิทเท่าันั้น แหวนหมั้นเป็นเพชรทรงกลม solitaire เกือบๆกะรัตบนเรือน platinum บาร์ตไปเลือกเองที่ร้าน เจ้าตัวภูมิใจมาก ว่าใช้เวลาเลือกครึ่งวันเลยนะนั่น 555
เมื่อวานนี้บาร์ตต้องไปทำงานต่างเมือง ส่วนเรารู้สึกแย่เพราะเรื่องที่คาดหวังไว้บางเรื่องไม่เป็นดังหวัง อารมณ์หงุดหงิดทั้งวัน จนตอนบ่าย มีคนเอาดอกไม้ไปส่งที่ทำงาน ตอนแรกยังทักคนมาส่งดอกไม้ว่า อู๊ยย ดอกไม้สวยๆนี่ของใครคะเนี่ย เค้าบอกว่า ฉันคิดว่าของคุณนะ กรี๊ดดด เราเอ๋่อไปเลย แบบจริงอ่ะ อย่าหลอกกันเล่นนา 5555
ตั้งดอกไม้ไว้บนโต๊ะทำงานสองวัน มีแต่คนวนเวียนผลัดกันมาชมดอกไม้ และบอกเราว่าเป็น such a lucky woman
วันนี้เอาดอกไม้กลับมาบ้าน ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ มีเด็กคนนี้มาชะเง้อมอง
ดอกไม้สวยๆ ดูแล้วชื่นตา มันก็่คงบานไม่ได้นานก็เหี่ยวหมด แต่ดอกไม้ทำเราชื่นใจและความรักที่ได้รับมาจะเบ่งบานในใจไม่มีวันจาง
ฮิ้วววววว เลี่ยนไหมๆ
Create Date : 16 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2549 11:26:45 น.
3 comments
Counter : 1214 Pageviews.
Share
Tweet
อ่ะเหมือนมีพาดพิง ....... เลยจะช่วยเล่าเพิ่มว่า 1ปีก่อนหมั้น อิฉันก็หาเรื่องไปเที่ยวตามคำที่เชิญไว้ เมื่อยามครอบครัวเค้ามาเยือนเราที่พิษณุโลก
ความจริงก็ปิ๊งกะฝรั่งคนนี้เหมือนกัน อ้ายเรื่องปิ๊งนี่มันก็แปลก เพราะเวลาลูกสาวพาเพื่อนชาย เข้ามาให้ (ดูตัว) รู้จัก เวลาชายหนุ่มกลับไปแล้ว ถ้าแม่ไม่ปิ๊งก็บอกลูกว่า เป็นเพื่อนกันแหละดีแล้วลูก ถ้าอายุมากกว่าหน่อยลูกเรียกพี่ ก็บอกว่าเป็นพี่เป็นน้องกันน่ะดีแล้ว....
แต่คนนี้แม่ก็คอยดูทีท่า......สังเกตสังกา พอได้โอกาส ก็รับคำเชิญชวนไปเที่ยวทันที
เสร็จเราละ ถ้าได้ตาเหยี่ยว จมูกมดได้ไปเห็น ก็จะหาคำตอบได้........ทุกอย่างถูกใจไปหมด ครอบครัวต้อนรับดีมาก พาไปเยี่ยมเยียน โคตรตระกูลอยู่ที่ไหนพาไปหมด เพื่อนฝูงอยู่ที่ไหน เชิญมาดินเนอร์ รู้จักกันหมด...ได้คำตอบไว้ในใจ
5555 ตอนกลับ นังลูกเริ่มทำตาแดงๆก่อนจากกันกะเค้า......เออเสร็จกัน ตกหลุมรักเค้าละซีท่า...
พอกลับมารายงานพ่อ (ซึ่งเงี่ยหูฟังอยู่ ) พ่อก็บอก อนุญาตให้รักกันได้ แน่ะ!!
ก็คุณพ่อผู้ใจกว้างนี่แหละ วันที่พ่อแม่เค้ามาสู่ขอที่บ้าน พูดกะพ่อแม่เค้า หน้าตาแดงก่ำ น้ำตาคลอว่าลูกนี่นะคือหัวใจของฉัน ฮ่าๆๆๆ พากันร้องไห้น้ำตาซึม อึ้งกันทั้งห้อง พ่อแม่เค้าก็พากันสัญญิงสัญญาว่าจะรักลูก เราเท่ากะลูกเค้า
ฟังลูกเล่าก็ดีใจกะลูกด้วย......อวยพรให้ครอบครัวลูกสุขใจและกายตลอดไป มีแม่กะพ่อเป็นกำลังใจนะจ๊ะ
โดย: วันจัน (
วันจัน
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:36:58 น.
เล่าสั้น ๆ ย่อ ๆ
แต่เราว่าในรายละเอียด
คงโรแมนติคน่าดู
อิจฉาจังน๊อ
โดย: น่ารักดีค่ะ (
เจ้าแห่งโชคชะตา
) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:15:44 น.
มันน่าอิจฉาตรงดอกไม้นี่แหละจ๊ะออฟ
แล้วเมื่อไหร่ จะให้คุณแม่วันจัน ได้หลานซะทีล่ะจ๊ะ พี่ก็รอด้วยคนเอ๊า....
โดย:
Second impact
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:30:50 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
offita
Location :
North Carolina United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
เรื่องราวชีวิตธรรมดาของหญิง(เกือบ)กลางคน เคยผอม แต่งงานกับอเมริกันชน ย้ายมาอยู่เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีลูกสาวคนสวยหนึ่งคน มีหมาน้อยสีน้ำตาลหนึ่งตัว
Friends' blogs
Second impact
BRo0Ke.
gothenburger
ปอมปอมเกิร์ล
pim(พิม)
gw
**YuKiTsUkaI SuGaR**
วันจัน
ฝนซาฟ้าใส
จันทร์สวย
ปิ่นเดือน ครูดอย
flymom
ปรารถนา
ดาวเหนือเมื่อฟ้าสาง
Cookie Nim
น่ารัก เซ๊กซี่ ขี้เล่น แสนซน
ป้ามด
ongchai_maewmong
สาวน้อยเกวลิน
ยายกุ๊กไ่ก่
pk12th
Nony_T
Ninie
Yai Kaew
Bunnie
yinnerella
Webmaster - BlogGang
[Add offita's blog to your web]
Links
Mitsinee
Chow Crave
What I listen to
B's mixed bag
ไปซื้อรองเท้าสวยๆกัน
ไดอารี่คนชอบเที่ยว
นินทาดาราฮอลลิวูด
Drudge Report
Slickdeals
Farecast
Artemis and Isis
ลายน้ำ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
อ่ะเหมือนมีพาดพิง ....... เลยจะช่วยเล่าเพิ่มว่า 1ปีก่อนหมั้น อิฉันก็หาเรื่องไปเที่ยวตามคำที่เชิญไว้ เมื่อยามครอบครัวเค้ามาเยือนเราที่พิษณุโลก
ความจริงก็ปิ๊งกะฝรั่งคนนี้เหมือนกัน อ้ายเรื่องปิ๊งนี่มันก็แปลก เพราะเวลาลูกสาวพาเพื่อนชาย เข้ามาให้ (ดูตัว) รู้จัก เวลาชายหนุ่มกลับไปแล้ว ถ้าแม่ไม่ปิ๊งก็บอกลูกว่า เป็นเพื่อนกันแหละดีแล้วลูก ถ้าอายุมากกว่าหน่อยลูกเรียกพี่ ก็บอกว่าเป็นพี่เป็นน้องกันน่ะดีแล้ว....
แต่คนนี้แม่ก็คอยดูทีท่า......สังเกตสังกา พอได้โอกาส ก็รับคำเชิญชวนไปเที่ยวทันที
เสร็จเราละ ถ้าได้ตาเหยี่ยว จมูกมดได้ไปเห็น ก็จะหาคำตอบได้........ทุกอย่างถูกใจไปหมด ครอบครัวต้อนรับดีมาก พาไปเยี่ยมเยียน โคตรตระกูลอยู่ที่ไหนพาไปหมด เพื่อนฝูงอยู่ที่ไหน เชิญมาดินเนอร์ รู้จักกันหมด...ได้คำตอบไว้ในใจ
5555 ตอนกลับ นังลูกเริ่มทำตาแดงๆก่อนจากกันกะเค้า......เออเสร็จกัน ตกหลุมรักเค้าละซีท่า...
พอกลับมารายงานพ่อ (ซึ่งเงี่ยหูฟังอยู่ ) พ่อก็บอก อนุญาตให้รักกันได้ แน่ะ!!
ก็คุณพ่อผู้ใจกว้างนี่แหละ วันที่พ่อแม่เค้ามาสู่ขอที่บ้าน พูดกะพ่อแม่เค้า หน้าตาแดงก่ำ น้ำตาคลอว่าลูกนี่นะคือหัวใจของฉัน ฮ่าๆๆๆ พากันร้องไห้น้ำตาซึม อึ้งกันทั้งห้อง พ่อแม่เค้าก็พากันสัญญิงสัญญาว่าจะรักลูก เราเท่ากะลูกเค้า
ฟังลูกเล่าก็ดีใจกะลูกด้วย......อวยพรให้ครอบครัวลูกสุขใจและกายตลอดไป มีแม่กะพ่อเป็นกำลังใจนะจ๊ะ