**The Ordinary Life of OKB**
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
14 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
OBX :The Outer Banks of North Carolina ตอน 1

ไปเที่ยวมาตั้งกะวันหยุด Easter ของปีก่อน จนนี่จะครบปีแล้ว และกำลังจะไปเที่ยวอีก เลยรีบเอาอันนี้มาแปะก่อนที่รูปที่ดองไว้จะเหม็นเปรี้ยวซะก่อน

วันหยุดอีสเตอร์เมื่อปีก่อน ตรงกับวันที่ 6-8 เมษา ปิดแค่สามวัน อยากไปเที่ยวที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไปนัก เลยตกลงใจกันว่าไปเที่ยว The Outer Banks กันดีกว่า

The Outer Banks of North Carolina มีชื่อเล่นว่า OBX ค่ะ คล้ายๆชื่อโค้ดสนามบินไหม ดูจากในแผนที่ของรัฐ จะเป็นทางขวาสุดนะคะ มีแถบยาวๆติดทะเล นั่นแหล่ะค่ะ OBX



ซูมหน่อย



เราออกเดินทางตอนเย็นวันที่ 5 หลังเลิกงาน ตัดสินใจพาโอ๊ตไปด้วยเพราะสงสาร ไม่อยากให้อยู่โยงเฝ้าบ้านตัวเดียว เลยหาโรงแรมที่อนุญาตให้หมาไปนอนได้ ไม่หรูหราแต่เรายอม เพื่อนังลูก

ขับรถราวๆ 5-6 ชม. หยุดให้คนและหมาไปทำธุระส่วนตัว ถึงโรงแรมปุ๊บก็ได้เวลาเข้านอนพอดี อากาศแปรปรวนมากวีคเอนท์นั้น ฝนตกและจากที่อุ่นมาเกือบเดือน ดันทะลึ่งเกิดหนาวขึ้นมาอีก ช่วยไม่ได้เลย

ตื่นมาตอนเช้า ไปหาอาหารเช้ามื้อใหญ่กิน เนื่องจากทริปนี้เราเน้นการไปเยือนประภาคารกัน เลยขับรถขึ้นเหนือลงใต้ ได้ไปชมประภาคารสี่แห่ง (จากทั้งหมดห้าแห่งใน OBX) เรียงตามนี้เลย Currituck Lighthouse, Bodie Island Lighthouse, Cape Hatteras Lighthouse และสุดท้าย Ocracoke Lighthouse ค่ะ



Currituck Lighthouse เป็นประภาคารเดียวในสี่ที่นี้ ที่ยังเปิดให้ประชาชนเข้าไปดูข้างในได้ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม จำไม่ได้แม่นๆว่าเท่าไหร่ คาดว่าราวๆ $10 ต่อคน เราเลยปีนบันไดกันขึ้นไปชมวิวข้างบน หนาวดีจริงๆ

รูปบันไดในตัวประภาคาร



จากนั้นก็ขับรถลงใต้กันค่ะ ประภาคารแห่งที่สองคือ Bodie Island Lighthouse อู๊ย ขอบอก หิมะตก บ้าไปแล้ว มาทะเลหน้าสปริง หิมะตก ลมแรงมากด้วย เลยลงรถไปถ่ายรูป เสร็จแล้วรีบวิ่งขึ้นรถ ทั้งคนทั้งหมา หัวหูกระเจิงมาก เลยไม่ได้อยู่ที่นี่นานเท่าไหร่นัก เสียดายเหมือนกัน

จะเห็นในรูปว่ามืดครึ้มมาก


แวะกินข้าวกลางวันกันอิ่มหนำ แน่นอนว่าเป็นอาหารทะเลของโปรด ลงใต้ไปอีกไกลเลยทีนี้ ไปถึง Cape Hatteras Lighthouse อากาศค่อยอุ่นขึ้นมานิด ท้องฟ้าแจ่มใสขึ้นมาหน่อย เลยลงไปเดินเล่นกัน เค้ามีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ จัดแสดงให้ดูด้วยค่ะ ที่น่ามหัศจรรย์คือประภาคารแห่งนี้ แต่เดิมอยู่ใกล้ชายฝั่งมากกว่านี้ค่ะ แต่ปีแล้วปีเล่า น้ำซัดเข้ามากัดเซาะชายหาด ในปี 1999 ทางการเลยทำการย้ายประภาคารทั้งหลังเข้ามาในฝั่งมากกว่าเดิม ใครสนใจดูรูปว่าเค้าทำกันยังไง ดูได้ที่นี่เลยค่ะ //www.nps.gov/archive/caha/views.htm



ยังคงลงใต้ต่อไป คราวนี้จะไปประภาคารแห่งสุดท้ายของทริปนี้กัน คือ Ocracoke Lighthouse ซึ่งอยู่บนเกาะเล็กๆชื่อ Ocracoke จะไปเกาะนี้ได้ต้องขึ้นเฟอรี่ไปค่ะ

ประภาคารแห่งนี้ สร้างเมื่อปี 1823 ค่ะ เป็น Oldest active lighthouse ของ North Carolina เลยที่เดียว รูปทรงป้อมๆเตี้ยๆ ไม่สูงมากเหมือนสามแห่งข้างบน แต่มีเสน่ห์ในตัวเองอย่างยิ่ง เกาะโอคราโค้กนี้ก็มีชุมชนเล็กๆอาศัยอยู่ บ้านเมืองน่ารักดี เงียบสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนทางบนๆของOBX แต่ยังอุตส่าห์มีร้านขายอาหารไทยนะ ขอบอก แต่ไม่ได้กินอะไรเพราะเรากะว่าจะกลับไปกินอาหารค่ำกันในเมือง

ฟ้าใสแจ๋วเลย



ชมเมืองและแวะกินกาแฟอุ่นๆกับขนมเสร็จแล้ว ขับรถขึ้นเหนือกลับไปแหล่งชุมชมของ OBX กัน ใช้เวลาเกือบสองชม. แวะพายัยเด็กน้ำตาลไปวิ่งเล่นบนหาดทรายด้วย มีความสุขเป็นล้นพ้น มื้อเย็นก็อาหารทะเลอีกรอบ กลับเข้าโรงแรม หมดไปหนึ่งวัน


Create Date : 14 มีนาคม 2551
Last Update : 14 มีนาคม 2551 12:39:58 น. 2 comments
Counter : 2382 Pageviews.

 
กำลังจะไปทำงานที่ Surf City, NC ไปกับโครงการ Work & Travel
ขอบคุณที่เอารูปสวยๆ มาฝากนะคะ

ปล. ไม่ค่อยมีบล็อคไหนพูดถึง NC เลยค่ะ


โดย: Tenjo_Utena วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:13:44:38 น.  

 
กำลังเพลนจะไปอยู่ที่นี่ปีหน้าค่ะ ประมาณไตรมาตรแรก อยากไปทำงานร้านอาหารที่นั่น เพราะมีบ้านญาติที่นั่น ขอรายละเอียดด้วยค่ะว่าการไปทำงานที่นั่นแตกต่างจากแคริฟอเนียไหม และมีร้านอาหารไทยกับคนไทยที่ นอร์ทNC เยอะไหมค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: Ben (Smart Woman ) วันที่: 11 มิถุนายน 2552 เวลา:23:13:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

offita
Location :
North Carolina United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เรื่องราวชีวิตธรรมดาของหญิง(เกือบ)กลางคน เคยผอม แต่งงานกับอเมริกันชน ย้ายมาอยู่เมืองเล็กๆทางตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีลูกสาวคนสวยหนึ่งคน มีหมาน้อยสีน้ำตาลหนึ่งตัว
Friends' blogs
[Add offita's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.