BASS - The Pretty Low Frequency (6) Flea - New generation red-hot bassist (มือเบสผู้ร้อนแรงยุคใหม่)
สำหรับมือเบสคนนี้คงไม่ต้องเอ่ยอะไรกันมาก ในเรื่องของฝีมือเบสและการแสดงบนเวทีของเขา ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นตัวของตัวเอง หาผู้ได้เหมือนได้ เป็นผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นมือเบสที่ฮอตและฮิตที่สุดในยุคนี้ และอยู่ในดวงใจของมือเบสและใครหลายๆคน ด้วยลีลาที่เร้าใจและการไม่สวมเสื้อเล่นบนเวทีพร้อมด้วยเทคนิค Fingerstyle Funk และการ Slap bass อันหนักหน่วงและรวดเร็ว ภายใต้วงดนตรีแนว Thrash Funk , L.A. funk-rock นามว่า "The Red Hot Chili Peppers" ชื่อก้องโลก กับผลงานเพลงคุณภาพมากมายที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก

Michael "Flea" Peter Balzary เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1962 ใน Melbourne ประเทศ Australia เขามีพี่สาว 1 คนชื่อว่า Karen ซึ่งพ่อแม่ของเขาได้หย่ากันเมื่อเขาอายุยังน้อย Flea ดังนั้น Flea และแม่จึงย้ายมาที่ Los Angeles แม่ของเขาได้แต่งงานใหม่กับผู้ซึ่งเป็นนักดนตรี jazz ดังนั้น Flea จึงได้รับอิทธิพลมาจากพ่อเลี้ยงของเขาได้มากและ ปรารถนาที่จะเรีนยรู้เพลงแจ๊ซจากพ่อเขา เครื่องดนตรีที่ Flea เล่นเป็นชิ้นแรกคือ trumpet เขาก็ได้เรียนกับอาจารย์สอน trumpet ที่ Fairfax High School ซึ่ง Flea ก็มีฝีมือในการเป่า trumpet ได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว

ที่ Fairfax High School นี่เองเป็นที่ๆ Flea ได้พบกับ Anthony Kiedis (นักร้องคนปัจจุบัน) ซึ่ง Anthony เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา ต่อมาพวกเขาทั้งสองคนก็มารู้จักกับ Hillel Slovak ซึ่งเล่นกีตาร์ ทั้ง 3 คนสนิทสนมกันมากในชีวิตวัยเรียน ซึ่งทั้ง 3 มีความสนใจในดนตรีมาก ในช่วงที่ Flea อายุ 14 ปี เขาเป็นคนที่ไม่ชอบดนตรีแนว Rock เอาซะเลย แต่เขาเป็นผู้ที่คลั้งไคล้ในดนตรี hardcore , jazz จนกระทั้ง Hillel ได้แนะนำเขาให้รู้จักกับ Jimi Hendrix กับงานดนตรีของเขา ทำให้ Flea รู้สึกชอบและสนุกกับมัน เขาจึงต้องการที่จะเรียนดนตรีในเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ดังนั้น Hillel จึงสอนเขาที่จะเล่นเบส ต่อมาพวกเขาก็ได้ร่วมเล่นแจมกันระหว่างเพื่อนๆที่เล่นดนตรีด้วยกัน โดยที่ Jack Irons เป็นมือกลองที่ได้เล่นแจมกับพวกเขาบ่อยที่สุดและต่อมาก็ได้รวมวงกัน ในขณะนั้นได้มีชื่อวงว่า "Anthym" สมาชิกคือ Flea (เบส), Hillel Slovak (มือกีตาร์) , Jack Irons (มือกลอง) และ Anthony Kiedis (นักร้อง) นอกจากนั้น Flea ก็ได้ร่วมเล่นและแจมกับวง L.A. bands อื่นๆอีกเช่น วง The vulgar punk outfit Fear และก่อนที่พวกเขาจะนัดหมายเพื่อเล่นดนตรีกันอีกครั้งในคืนหนึ่งที่ Rhythm Lounge Club เมื่อได้ขึ้นเล่นบนเวที Anthony ได้ร้องแร๊พคำร้องที่เขาได้แต่งขึ้น มีชื่อเพลงว่า "Out In L.A." ด้วยงานนี้เอง ทำให้พวกเขาได้รับความสนใจและเป็นที่เรียกร้องต่อใครหลายๆคน

ต่อมาวงก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น....

"The Red Hot Chili Peppers"

ในปี 1983 The Red Hot Chili Peppers ร่วมกันแสดงดนตรีทั่ว Los Angeles ต่อมาก็ได้ทำเซ็นสัญญากับทางค่าย EMI เพื่อออกอัลบั้มแรกในปีนั้นโดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "The Red Hot Chili Peppers" ตามชื่อของวง ต่อมา Slovak มีปัญหาเรื่องการเสพเฮโรอีน อีกทั้งในขณะนั้นในวงเริ่มจะมีปัญหาไม่ลงรอยกันในการแสดง จึงทำให้ Slovak และ Irons ต้องลาออกจากวงไปตั้งวงเป็นของตัวเองกัน (ในภายหลัง Jack Irons ได้เป็นมือกลองแห่งวง Pearl Jam) และในปี 1984 จึงทำให้วงต้องหามือกีตาร์และมือกลองชั่วคราวไปก่อนในการบันทึกเสียงกับอัลบั้มชุดนี้ ตำแหน่งกีตาร์เข้ามาแทนที่โดย Jack Sherman และมือกลองโดย Cliff Martinez แต่ก็ได้รับความสนใจจากคนฟังน้อยอยู่ ต่อมา Slovak กลับเข้าสู่วงอีกครั้งในปี 1985 และพยายามที่จะมุ่งทำงานเพลงชิ้นต่อไป จึงออกอัลบั้มต่อมาคือ "Freaky Styley" ในปีนั้นซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้ George Clinton เจ้าพ่อดนตรีฟังก์ แห่งวง Funkadelic , Parliament มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ แต่ถึงอย่างไรผลงานชุดนี้ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่มากนัก เนื่องจากผลงานชุดนี้ขายไม่ค่อยได้สักเท่าไร แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้เริ่มที่จะได้รับความสนใจและมีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง ในภาพลักษณ์การแสดงเวทีอันแปลกตาและวิตถารของพวกเขาเช่น เปลือยกายเล่นบนเวที ฯลฯ ด้วยเหตุนี้เป็นเวลาหลายครั้งในการแสดงเช่นนี้ทำให้พวกเขาต้องโดนจับกุมหลังเล่นเสร็จ

ต่อมาในปี 1987 วงได้ออกอัลบั้ม "Uplift Mofo Party Plan" และในปี 1988 อัลบั้ม "The Abbey Road EP" และอีกเช่นกันทั้ง 2 อัลบั้มนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ต่อมา Slovak ออกจากวง เนื่องจากปัญหาเรื่องการเสพยาเกินขนาดและทำให้เขาต้องเสียชีวิตในเดือนมิถุนายนในปีนั้น หลังจาก Slovak ตาย Flea และ Anthony ก็ตัดสินใจ regroup วงใหม่ โดยพยายามที่จะหามือกีตาร์และมือกลองใหม่ หลังจากนั้นไม่นาน วงก็ได้มือมือกีตาร์คือ John Frusciante (ผู้ซึ่งเป็นแฟนตัวจริงของวง ประมาณว่ารู้คอร์ดและเนื้อร้องทุกๆเพลงของ The Red Hot Chili Peppers) และมือกลองคนใหม่คือ Chad Smith...!!!

ด้วยสภาพความพร้อมของวงในขณะนั้นแล้ว The Red Hot Chili Peppers ได้ออกอัลบั้มครั้งสำคัญชื่อว่า "Mother's Milk" ในปี 1989 ด้วยการนำบทเพลง cover ของ Stevie Wonder คือเพลง Higher Ground และเพลงที่อุทิศแด่ Slovak คือเพลง Knock Me Down ด้วยอัลบั้มนี้ทำให้วงเริ่มเป็นที่รู้จักกับคนฟังเพลงและเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ระหว่างช่วงก่อนอัดในอัลบั้ม Mother's Milk Flea ได้แต่งงานกับ Loesha และมีลูกสาว 1 คนชื่อว่า Clara ภายหลังจากนั้นได้ไม่นานทั้ง 2 ก็หย่ากันแต่ Clara ต้องมาอยู่กับ Flea ต่อมาหลังจากอัลบั้มนี้ ทางวงก็เริ่มบันทึกเสียงในอัลบั้ม "Blood Sugar Sex Magik" กับโปรดิวเซอร์มือโปร Rick Rubin กับค่าย WEA/Warner Brothers Records ด้วยอัลบั้มนี้ทำให้วงได้รับความสำเร็จมากทั้งยอดขายที่ขายได้ กว่า 8 ล้านก๊อปปี๊ , เป็นเพลงยอดฮิตในวิทยุและรายการ MTV ด้วยเพลง "Breaking the Girl" , "Under the Bridge" และ "Give It Away" ทำให้ The Red Hot Chili Peppers เป็นอีกวงที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมีชื่อเสียงระดับโลกในยุค 90

สำหรับมือเบสแล้วอัลบั้ม "Blood Sugar Sex Magik" นี้จัดว่าเป็น1 ใน 30 อัลบั้มสำคัญที่มือเบสต้องหาซื้อมาฟังจากนิตยสาร Bass Player Magazine

อ้างอิงจาก
//www.kttbass.dwthai.com/bio_bassists/Flea.htm
//www.imdb.com/name/nm0281359/bio





Create Date : 12 มิถุนายน 2554
Last Update : 12 มิถุนายน 2554 12:23:23 น.
Counter : 6497 Pageviews.

2 comments
  
ชอบพี่เห็บตรงที่พี่แกบ้าดี
โดย: babyL' วันที่: 12 มิถุนายน 2554 เวลา:16:51:28 น.
  
โดย: linglingkame9 วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:19:24:52 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แกงไก่หมูทอด
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อยากแนะนำเพลงชื่อว่า Live and Learn
แล้วชีวิตจะเจริญและเป็นสุข
ใช้ชีวิตเหมือนอย่างเพลงไม่เป็นทุกข์
มีแต่สุขสุดแสนสบายเอย...~
Group Blog
มิถุนายน 2554

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30