1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30
เจ้าชายบาห์เรน..ฟ้องไมเคิล แจ๊กสัน และประวัติ "ราชาเพลงป๊อป"
เจ้าชายบาห์เรนฟ้องไมเคิล แจ๊กสัน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน นายบานคิม ทานคิ ทนายความของชีค อับดุลเลาะห์ บิน ฮาเหม็ด อัล คาลิฟา พระโอรสของชีค ฮาเหม็ด บิน อิซา อัล คาลิฟา กษัตริย์บาห์เรน เปิดเผยว่า เจ้าชายอัล คาลิฟา ยื่นฟ้องดำเนินคดีไมเคิล แจ๊กสัน ราชาเพลงป๊อปชาวอเมริกัน ที่ศาลยุติธรรมรอยัล ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยกล่าวหาว่าแจ๊กสันขอยืมเงินไป 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (245 ล้านบาท) แล้วไม่ยอมจ่ายคืน นายทานคิกล่าวว่า เจ้าชายอัล คาลิฟา ทรงให้เงินแจ๊กสันเพื่อนำไปตีพิมพ์หนังสือชีวประวัติส่วนตัวและบันทึกอัลบั้มเพลงงวดแรก 35,000 ดอลลาร์ ต่อมาทรงให้ไปอีก 2.2 ล้านดอลลาร์ หลังจากแจ๊กสันถูกจับข้อหาทำอนาจารเด็ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เนเวอร์แลนด์ บ้านพักส่วนตัวของแจ๊กสันที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นทรงให้เงินต่อเนื่องอีกหลายครั้งรวมเบ็ดเสร็จ 7 ล้านดอลลาร์ โดยเข้าใจว่าแจ๊กสันจะคืนให้ในอนาคต แต่ทนายความของแจ๊กสันอ้างว่าเจ้าชายอัล คาลิฟา ให้เป็นของขวัญ การยื่นฟ้องขึ้นที่ศาลอังกฤษเนื่องจากเจ้าชายอัล คาลิฟา และแจ๊กสันเคยตกลงกันไว้ว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่จะอาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ศาลอังกฤษ (เอพี) -------------------------------------------------------------------- พออ่านข่าวนี้ เลยนึกถึงราชาเพลงป๊อป คนนี้ขึ้นมา และไปค้น ประวัติ"ไมเคิล แจ็กสัน" มาฝากกันครับ -------------------------------------------------------------------- ไมเคิล แจ็กสัน ข้อมูลพื้นฐาน ชื่อจริง : ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน วันเกิด : 29 สิงหาคม พ.ศ. 2501 แหล่งกำเนิด : แกรี,อินเดียน่า,สหรัฐอเมริกา พ่อของ ไมเคิล แจ็กสัน แนวเพลง : ป็อป,อาร์แอนด์บี อาชีพ : นักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง นักเต้น นักออกแบบท่าเต้น โปรดิวเซอร์เพลง ปี พ.ศ. 2511 - ปัจจุบัน ค่าย : Motown, Epic, Sony ส่วนเกี่ยวข้อง The Jackson 5 เว็บไซต์ : michaeljackson.com ไมเคิล แจ็กสัน (อังกฤษ: Michael Jackson) มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็กสัน (Michael Joseph Jackson) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า เอ็มเจ (MJ) หรือแจ็กโก้ (Jacko) เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2501 เป็นนักร้องชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็น ราชาเพลงป็อป หรือ King of Pop ประวัติ ไมเคิล แจ็กสัน เริ่มต้นอาชีพนักดนตรีในฐานะนักร้องนำของวง The Jackson 5 เมื่ออายุได้เพียง 7 ปี และได้ออกงานเดี่ยวชิ้นแรกในอัลบั้ม Got to Be There ออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2514 ในขณะที่ยังเป็นสมาชิกของวง The Jackson 5 อยู่และมีอายุเพียง 11 ปี ไมเคิล แจ็กสันก็สามารถคว้าอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงมาครองได้มากถึง 3 เพลงฮิตแล้ว ปี พ.ศ. 2522 มีผลงานออกมาชุด Off the Wall อัลบั้มเปิดตัวที่ทำยอดขายกว่า 20 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลกตามด้วยอัลบั้มประวัติศาสตร์ Thriller (พ.ศ. 2525) ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลถึง 60 ล้านก๊อปปี้ และ Bad ในปี พ.ศ. 2530 ที่สร้างสถิติอีกครั้งด้วยการเป็นอัลบั้มที่มีซิงเกิ้ลต่าง ๆ ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ดมากที่สุด ปี พ.ศ. 2534 ไมเคิลกลับมาพร้อมกับอัลบั้ม Dangerous ที่มีเพลง Black or White ติดอันดับ 1 ทั้งในบิลบอร์ดและชาร์ตเพลงทั่วโลก ก่อนที่จะส่งอัลบั้ม History กับเพลง Youre Not Alone ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกในประวัติศาสตร์ที่ติดอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และล่าสุดกับ Invincible (พ.ศ. 2544) ซึ่งทิ้งห่างจากงานชุดที่แล้วถึง 10 ปีเต็ม คอนเสิร์ตในประเทศไทย ไมเคิล แจ็กสัน เป็นที่รู้จักของคนไทยส่วนหนึ่งขึ้นมาจากมีชื่อถูกอ้างถึงในเพลง ทับหลัง ของคาราบาว ในปี พ.ศ. 2531 ที่มีเนื้อร้องในท่อนแยกว่า "เอาไมเคิล แจ็กสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา" ซึ่งเป็นบทเพลงที่ได้รับความนิยมจากกระแสเรียกร้องทวงคืนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์จากสหรัฐอเมริกา เคยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทย 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในกลางปี พ.ศ. 2536 เป็นการโปรโมตปิดอัลบั้ม Dangerous กำหนดการแสดง 2 รอบ ในวันที่ 21 สิงหาคม และ 22 สิงหาคม ที่สนามศุภชลาศัย โดยทางบริษัท เทโรเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เป็นผู้จัด ซึ่งก่อนการแสดงได้มีการโปรโมตทางช่อง 3 เป็นรายการพิเศษเกี่ยวกับไมเคิล แจ็กสัน มี เมทินี กิ่งโพยม เป็นพิธีกร โดยออกอากาศในช่วงเที่ยงของวันเสาร์-อาทิตย์ อยู่นานนับเดือน คอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากชาวไทย และกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงความเหมาะสมของการจัดแสดง เพราะบางส่วนเห็นท่าเต้นลูบเป้าของไมเคิลไม่เหมาะสมต่อวัฒนธรรมไทย และเมื่อเดินทางมาถึง ไมเคิลได้แต่งตัวแปลก ๆ เมื่อลงจากเครื่องบินส่วนตัวด้วยผ้าปิดหน้า โดยเจ้าตัวอ้างว่าได้ยินว่ากรุงเทพ ฯ มีควันไอเสียเยอะ ซึ่งส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการแสดงเห็นว่าเป็นการแสดงออกที่ดูถูกประเทศไทย อีกทั้งต้องใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมากในการแสดง และราคาบัตรที่เข้าชมก็นับว่าแพงมากด้วย คือ 500, 800, 1,000, 1,500 และ 2,500 บาท โดยคอนเสิร์ตวันแรกจบลงด้วยดี แต่ในวันที่ 22 สิงหาคม ไมเคิล อ้างว่าป่วย ขอเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 23 สิงหาคม แต่เมื่อมาถึงก็ขอเลื่อนไปอีก สร้างความไม่พอใจแก่แฟน ๆ จนเกิดเป็นจลาจลย่อย ๆ หน้าสนาม ซึ่งต้องใช้เทปเสียงของเจ้าตัวมาเปิดยืนยันว่าป่วยจริง ๆ ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 24 สิงหาคม อีกที คราวนี้เมื่อถึงวันที่ 24 สิงหาคมจริง ๆ ก็สามารถจัดการแสดงได้และจบลงด้วยดี ซึ่งปรากฏการณ์คอนเสิร์ตในครั้งนี้นับเป็นการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของนักร้องชาวต่างประเทศระดับโลกครั้งแรกของไทย และต่อมาก็ได้มีศิลปิน นักร้องต่างประเทศทยอยเดินทางมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศไทยเรื่อย ๆ ตราบจนปัจจุบัน ซึ่งหลังจากเดินทางออกจากประเทศไทยแล้ว ไมเคิลก็ได้เดินทางต่อไปยังประเทศบรูไน เพื่อเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่นั่น โดยมีสุลต่าลบรูไนเป็นผู้จัดและเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ครั้งที่ 2 คือ ในกลางปี พ.ศ. 2538 เป็นการโปรโมตอัลบั้ม History จัดแสดงที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แสดง 2 รอบอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2542 ไมเคิลได้เผยว่า จะมีการจัดแสดง คอนเสิร์ตรอบพิเศษ โดยจะจัดแสดงทั่วอเมริกาเพียง 10 ที่ ซึ่งตัวไมเคิล เอง อยากจะแสดงและโชว์อีกครั้ง แต่ในการแสดง แต่ในการแสดงอาจจะมีการเปิด เทป ในการแสดงเป็นบางช่วง เพราะตัว ไมเคิล เองอาจร้องไม่ไหว และ การเต้น อาจจะ ไม่สนุก เหมือน ครั้งที่ผ่านมา เพราะ ไมเคิล มีอายุถึง48ปี ในการแสดงครั้งนี้จะเปิดการแสดงในชุด Jackson 5 ซึ่งมีการรวมตัวเหล่าพี่น้องของ ไมเคิล ในการแสดงจะมีเพลง แค่ 16 เพลง ในชุด Jackson 5 จะมี 6 เพลงและเพลงของไมเคิลเอง 10 เพลง คือ You Are Not Alone, Heal the World, Billie Jean, Man in the Mirror, Will You Be There, Black or White, Beat It, Stanger in Moscow, Rock with You และ Bad และจะจัดขึ้นทั่วโลกในปี พ.ศ. 2552 เพียง 9 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, อิตาลี, เสปน, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฝรั่งเศส รวมถึงประเทศไทยด้วย ในราคาค่าตัวสำหรับการเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ตถึง 20,000,000 ปอนด์ หรือ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 650,000,000 บาท คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในประเทศไทยที่ สนามศุภลาศัย ที่จุคนได้ถึง 70,000 คน โดยคาดว่าค่าบัตรเข้าชมจะมีราคา 1000, 2,000, 3,000, 4,000 บาท โดยประมาณ ในวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2551 ไมเคิล แจ๊กสันแล้ว พี่น้องเขาให้สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อได้ปรากฏตัวอีกครั้งในรูปแบบคอนเสิร์ตเต็มที่ และทำให้ นักข่าวตกตะลึง เมื่อ สถานที่แสดง ศิลปินวงอื่น ๆ ยังสามารถ ทำได้เพียง 50,000 คน เท่านั้น แต่ในที่นี้ไมเคิล ได้ทำลายสถิติ ทั้งหมด เพียง1ครั้งเท่านั้น โดยมีผู้ชม ถึง 125,000 คน เลยทีเดียวถือว่า ประวัติศาสตร์ ได้จารึกแล้วเพลง ตำนานที่ไม่ถูกลืมเลยที่เดียวชีวิตส่วนตัวและเรื่องอื้อฉาว ไมเคิล แจ็กสัน ถูกมองว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่ชอบทำตัวให้เด่นดังและเป็นข่าวอยู่เสมอ ๆ โดยใช้ชีวิตบนความหรูหรา โอเวอร์เกินคนธรรมดา เช่น คฤหาสถ์ส่วนตัวใช้ชื่อว่า "Never Land" โดยตั้งชื่อให้เหมือนกับดินแดนในเทพนิยายเรื่อง ปีเตอร์แพน ซึ่งในนั้นมีเครื่องเล่นเหมือนสวนสนุกอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังชอบเลี้ยงดูอุปถัมภ์เด็ก ๆ จำนวนมากเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งได้มีการตีความทางจิตวิทยาว่า ตัวไมเคิลเองมีนิสัยเหมือนเด็กที่ไม่ยอมโต นอกจากนั้นไมเคิลยังมีชีวิตที่แปลกพิศดาร เช่น มักแต่งตัวแปลก ๆ อย่างตอนเดินทางมาถึงประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2536 หรือเคยมีผู้พบว่าไมเคิลแต่งตัวเป็นผู้หญิงในห้องน้ำหญิงสาธารณะ หรือการที่เปลี่ยนสีผิวตัวเองด้วยวิทยาการทางการแพทย์จากผิวดำให้เป็นขาวซีดอย่างในปัจจุบัน หรือการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าด้วยซิลิโคนหลายต่อหลายครั้ง เมื่อต้นปี พ.ศ. 2537 ไมเคิลได้สร้างประหลาดใจให้แก่แฟน ๆ เมื่อจู่ ๆ ประกาศหมั้นและแต่งงานกับ ลิซ่า มารี เพรสลีย์ บุตรสาวของเอลวิส เพรสลีย์อย่างกระทันหัน โดยทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตเช่นสามี ภรรยา ก่อนจะเลิกรากันไปในปี พ.ศ. 2539 โดยไม่มีบุตรด้วยกัน (ภายหลังไมเคิลมีบุตร 2 คนจากการผสมเทียมกับเด็บบี้ โรวว์ พยาบาลสาวใหญ่ และมีเพิ่มอีก 1 คนจากสาวผู้ไม่เปิดเผยนาม ด้วยการผสมเทียมเช่นเดียวกัน) ไมเคิลมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเด็กมากมาย มักปรากฏข่าวถึงการลวนลามทางเพศกับเด็กผู้ชายเสมอ ๆ โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 ไมเคิลต้องขึ้นศาลฟังคำพิพากษาเลยทีเดียว เมื่อมีคดีข่มขืนเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ปรากฏว่าศาลพิพากษาให้รอดพ้นไป รวมทั้งเคยอุ้มลูกของตัวเองซึ่งยังเป็นทารกอยู่โดยทำท่าว่าจะทิ้งลงมาจากหน้าต่างโรงแรมที่เจ้าตัวอาศัยอยู่ เพื่อทักทายแฟน ๆ ที่รออยู่ข้างล่าง จนได้รับเสียงตำหนิต่อว่าอย่างหนักจากสังคม เป็นต้นผลงานอัลบั้ม พ.ศ. 2514 Got to Be There พ.ศ. 2515 Ben พ.ศ. 2515 A Collection of Michael Jackson's Oldies พ.ศ. 2516 Music and Me พ.ศ. 2518 Forever, Michael พ.ศ. 2522 Off the Wall พ.ศ. 2524 One Day in Your Life พ.ศ. 2525 Thriller พ.ศ. 2527 Farewell My Summer Love พ.ศ. 2530 Bad พ.ศ. 2534 Dangerous พ.ศ. 2538 HIStory - Past, Present and Future - Book I พ.ศ. 2540 Blood on the Dance Floor: HIStory in the Mix พ.ศ. 2544 Invincible พ.ศ. 2544 Greatest Hits - HIStory Volume I พ.ศ. 2546 Number Ones พ.ศ. 2547 Michael Jackson: The Ultimate Collection พ.ศ. 2548 The Essential Michael Jackson ----------------------------------------------------------------- ได้อ่านเรื่องราวของ ไมเคิล แจ็กสัน แล้ว โดยส่วนตัว ผมก็นึกปลงๆอะไรบางอย่าง ชีวิตคนเราช่าง อนิจจัง...ไม่เที่ยงจริงๆ มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับ... คงจะเหลือไว้ก็เพียง..ผลงานที่ดีงามฝากไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้ชื่นชมกันครับ ----------------------------------------------------------------ที่มา วิกิพีเดีย
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2551 0:01:58 น.
6 comments
Counter : 3131 Pageviews.
โดย: โสดในซอย วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:25:47 น.
โดย: Mimi-jaiko วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:40:19 น.
โดย: 625 IP: 124.120.101.82 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:12:53 น.
โดย: วราภรณ์ มะโนทัย IP: 203.144.144.164 วันที่: 8 มีนาคม 2553 เวลา:17:28:14 น.
โดย: พีช IP: 27.55.8.215 วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:15:56:08 น.
โดย: พืช IP: 27.55.8.215 วันที่: 5 สิงหาคม 2555 เวลา:16:11:30 น.
ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica
free counter
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้
เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม
นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง
ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539
หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง
ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่
ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ.
แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้
ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ
อิอิ
หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน
จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
แม้พฤติกรรมระยะหลัง ๆ เริ่มแปลก ๆ
แต่ก็ยังยอมรับว่า
เสียงเขาทรงพลังจริง ๆ