Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
11 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

วิกฤตสถาบันการเงิน..เริ่มลามเข้าเอเชีย


















วิกฤตสถาบันการเงินลามทั่วโลก ประกันญี่ปุ่นยื่นล้มละลาย หุ้นไทยดิ่งเหว50จุด ต้องเบรกซื้อขาย

ตลาดหุ้นงัดมาตรการเบรกซื้อขาย หลังรูดหนักกว่า 50 จุด ผลจากวิกฤตสถาบันการเงินลามไปถึงญี่ปุ่น บ.ประกันชีวิตยื่นล้มละลาย เกาหลีใต้เริ่มขาดแคลนดอลล์ ส่วนสิงคโปร์ส่อเค้า ศก.ถดถอย ผู้บริหารตลาดชงคลังลดภาษีอุ้มซื้อขาย"หุ้นกู้-พันธบัตร" ที่ปรึกษาคลังมาแปลก กดดันแบงก์ชาติประชุมฉุกเฉินลดดอกเบี้ย 0.5%





ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปรับลดลงรุนแรง จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องทำการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) ในการซื้อขายช่วงบ่ายเป็นเวลา 30 นาที








หุ้นร่วงหนัก-ตลาดพักซื้อขาย


ทั้งนี้ ดัชนีเปิดตลาดที่ระดับ 461.1 ร่วงลงทันที 38.89 จุด ก่อนปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 459.91 จุด ลดลง 40.08 จุด หรือ 8.02% และหลังจากเปิดตลาดในช่วงบ่ายในเวลา 14.30 น. ได้เพียง 5 นาที ดัชนีร่วงหนักถึง 50.8 จุด หรือ 10.02% ต่ำสุดของวัน ทำให้ ตลท.ต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ 30 นาที ตั้งแต่ 14.35-15.05 น. ถือเป็นการนำมาตรการนี้มาใช้เป็นครั้งที่ 2 ของตลาดหุ้นไทย หลังจากครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ที่ดัชนีปรับลดลงแรงหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศใช้มาตรการกันสำรอง 30% อย่างไรก็ตาม ดัชนีมีการปรับขึ้นเล็กน้อยหลังเปิดตลาดอีกครั้ง โดยปิดตลาดที่ระดับ 451.96 ลดลง 48.03 จุด หรือ 9.61% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,291.63 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 256.06 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,192.04 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 2,448.09 ล้านบาท






นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงจนต้องใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ เป็นการปรับลดตามตลาดภูมิภาค และตลาดดาวโจนส์ ทำให้นักลงทุนขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบภายนอกเป็นหลัก








ตลาดญี่ปุ่นรูดมากสุดรอบ21ปี


ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันเดียวกันธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเงินเข้าตลาดอีก 4.5 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.547 ล้านล้านบาท) นับเป็นวงเงินสูงที่สุดนับจากเกิดวิกฤตการเงินโลก เนื่องจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดร่วงลง 974.12 จุดหรือ 10.4% มากที่สุดในรอบ 21 ปี นับจากเกิดฟองสบู่เศรษฐกิจญี่ปุ่นแตกเมื่อ พ.ศ.2530 ทั้งนี้ เป็นการร่วงลงตามตลาดหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับลดลง 7.33% ปิดตลาดที่ 8,579 จุด ต่ำกว่าระดับ 9,000 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐอาจต้องเข้าเทกโอเวอร์ธนาคารขนาดใหญ่อีกหลายแห่งเพื่อให้เกิดความมั่นคง นอกจากนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังตระหนกข่าวบริษัทประกันชีวิตยามาโต ล้มละลาย ทั้งนี้ ดัชนีนิคเกอิปิดตลาดปรับลง 881.06 จุดหรือ 9.62% ปิดที่ 8,276.43 จุด






ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงแรงและความวิตกในวิกฤตการเงินโลกที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ยังส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วเอเชีย-แปซิฟิกร่วงลงอย่างแรง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว หั่งเส็งของฮ่องกงปรับลง 1,121.31 จุดหรือ 7.2% สิงคโปร์ปรับลง 7.34% ออสเตรเลียปรับลง 8.3% เป็นต้น





ส่วนทางการอินโดนีเซียมีคำสั่งพักการซื้อขายหุ้นเป็นวันที่ 3 หลังจากตลาดหุ้นเอเชียดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยอินโดนีเซียสั่งปิดการซื้อไปครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 8 ตุลาคม หลังจากดัชนีหุ้นของอินโดฯดิ่งลงกว่า 10% และเดิมมีกำหนดจะเปิดการซื้อขายในวันที่ 10 ตุลาคม






ตลาดเรียกโบรกฯหารือ


วันเดียวกัน ที่ ตลท.ได้มีการหารือร่วมกันระหว่างผู้บริหาร ตลท. ผู้บริหารและตัวแทนจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ สมาคมโบรกเกอร์ต่างประเทศ และนายอนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อประเมินสถานการณ์วิกฤตการเงินในสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย และหามาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบ






ภายหลังการประชุม นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ตลท. กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 9 ตุลาคม ดัชนีตลาดปรับลดลงแล้ว 41.73% มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแค็ป) ลดจาก 6.09 ล้านล้านบาท เหลือประมาณ 4 ล้านล้านบาท ลดลง 2 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 41% เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ปรับลดลงประมาณ 30-60% อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนีจะปรับลดลงมาก ตลท.มีกลไกดูแลอยู่แล้ว คือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ และยังไม่มีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำชอร์ตเซลล์







เสนอคลังลดภาษีซื้อขายหุ้นกู้-บอนด์


นายปกรณ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นอุปสงค์ในตลาด ตลท.จะพิจารณาขยายวงเงินการลงทุนในกองทุนรวมหุ้น หรือแมทชิ่งฟันด์ จากปัจจุบัน 8.25 พันล้านบาท ในลักษณะเพิ่มทางเลือกในการลงทุน (Opportunity Fund) และเสนอให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงพาณิชย์ ปรับเกณฑ์การซื้อหุ้นคืนเพื่อส่งเสริมนโยบายการซื้อหุ้นคืนของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งที่ผ่านมามี บจ.สนใจซื้อหุ้นคืนแล้ว 14 บริษัท คาดว่าจะมีอีกจำนวนมากที่สนใจ
"นอกจากนี้ ที่ประชุมจะเสนอให้กระทรวงการคลังใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการเข้าลงทุน เช่น การลดหย่อนภาษีเงินปันผล ภาษีกำไรจากการซื้อขาย สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ ทั้งพันธบัตร และหุ้นกู้" นายปกรณ์กล่าว






คลังกดดันธปท.ลดดอกเบี้ย


นายอนุสรณ์กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการศึกษามาตรการเพิ่มเติมในการดูแลตลาดทุน โดยเฉพาะมาตรการด้านภาษี ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ จึงจะพยายามส่งเสริมโดยไม่ให้เสียวินัยทางการคลัง เช่น การขยายเพดานการเข้าลงทุนในกองทุนรวมแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟที่ไม่ต้องเสียภาษี จาก 15% เป็น 30% ของรายได้รวม
นายอนุสรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ผู้บริหารกระทรวงการคลังจะหารือกับ ธปท.ในวันที่ 13 ตุลาคม ว่ามีลู่ทางในการผ่อนคลายนโยบายการเงินให้เร็วขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งจะดำเนินการ และตอบสนองได้เร็วกว่ามาตรการทางการคลัง อย่างไรก็ตาม ธปท.มีอิสระเต็มที่ในการทำงาน ไม่ได้กดดันแต่อย่างใด






"ผมและรัฐมนตรีคลังเห็นตรงกันว่าควรจะปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5-2% ในความเห็นผมควรจะลด 0.5% แต่รัฐมนตรีเห็นว่าควรจะมากกว่านั้น เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเศรษฐกิจ สิ่งที่น่าห่วงในตอนนี้ไม่ใช่เงินเฟ้อ แต่เป็นเงินฝืด หาก ธปท.เห็นว่าจำเป็นก็เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉุกเฉิน นี่ไม่ใช่จุดยืนของกระทรวงการคลัง เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมและรัฐมนตรี" นายอนุสรณ์กล่าว






ธปท.เมินชี้ดบ.ต่ำพอหนุนศก.


นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ สายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับลดลงรุนแรง ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดการเงิน ทั้งสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น และค่าเงินบาท ที่ยังเคลื่อนไหวในเกณฑ์ปกติ โดยดัชนีหุ้นที่ปรับลดลงต่อเนื่อง 2-3 วันที่ผ่านมา เป็นผลกระทบจากต่างประเทศเป็นหลักที่มีการเคลื่อนย้ายเงินจากภูมิภาคเอเชียไปยังยุโรปและสหรัฐ ซึ่งจะเป็นผลกระทบเกิดขึ้นทั่วโลก





สำหรับทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย นายบัณฑิตกล่าวว่า ขึ้นกับการตัดสินใจของ กนง.ที่เพิ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม และตัดสินใจที่จะคงดอกเบี้ย เพราะแรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง แต่เศรษฐกิจไทยไม่ได้มีปัญหาวิกฤตสินเชื่อสภาพคล่องเหมือนในต่างประเทศ จนทำให้หลายประเทศลดดอกเบี้ย และการคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.75% เป็นดอกเบี้ยที่ต่ำพอที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไปได้







วิกฤตโลกลามญี่ปุ่น-ประกันยื่นล้ม


ด้านผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐ วันเดียวกันนี้ สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า ยามาโตะ ไลฟ์ อินชัวรันส์ บริษัทประกันภัยชีวิตขนาดกลางของญี่ปุ่น กลายเป็นเหยื่อของวิกฤตการเงินโลกรายแรกของญี่ปุ่น โดยบริษัทดังกล่าวได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอความคุ้มครองจากภาวะล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการแล้ว เนื่องจากขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินสหรัฐ ทำให้บริษัทมีหนี้สิน 2.73 พันล้านดอลลาร์





รายงานข่าวเปิดเผยว่า ยามาโตะฯก่อตั้งเมื่อ 97 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีพนักงาน 1,000 คน มีเบี้ยประกันภัย 1 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หลังการล้มละลายครั้งนี้ บรรดาผู้เอาประกันภัยจะยังได้รับการคุ้มครอง
นายทาเคโอะ นาคาโซโนะ ประธานของยามาโตะฯ ได้กล่าวขอโทษทางโทรทัศน์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าบริษัทขาดทุน 111 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาหุ้นในตลาดลดลงอย่างรุนแรงซึ่งมีสาเหตุมาจากวิกฤตการเงินในสหรัฐ





แบงก์ญี่ปุ่นเย็นสันหลัง


ด้านนายคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของญี่ปุ่น พยายามย้ำว่า กรณีของยามาโตะฯไม่น่าตกใจ เพราะเป็นเพียงบริษัทประกันภัยที่เล็กที่สุดของญี่ปุ่น และยืนยันว่าระบบการเงินของญี่ปุ่นมั่นคงมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม นายฮิเดกิ อามิคุระ รองผู้จัดการทั่วไปของโนมูระ ทรัสต์ แอนด์ แบงกิ้ง ชี้ว่า กรณีของยามาโตะฯเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง ซึ่งทำให้พวกเราสันหลังเย็นวาบ และเชื่อว่าจะทำให้บรรดาผู้จัดการกองทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลง ขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่นก็ระบุตรงกันว่ากรณีของยามาโตะฯ ทำให้เกิดความกลัวเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ไม่เพียงวิกฤตการเงินในสหรัฐ แต่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาลักษณะเดียวกันในประเทศ





รายงานข่าวระบุว่า นับจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเป็นประเทศในเอเชียที่สถาบันการเงินไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากมีการลงทุนค่อนข้างจำกัดและระมัดระวังเพราะได้รับบทเรียนจากวิกฤตฟองสบู่ของญี่ปุ่นในทศวรรษ 1990 ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าระบบการเงินของญี่ปุ่นจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตการเงินโลกไปได้






สิงคโปร์ส่อเค้าศก.ถดถอย


รายงานข่าวเปิดเผยว่า นอกจากญี่ปุ่นแล้ว วันเดียวกันนี้ อินเดียได้ฉีดสภาพคล่องเข้าตลาด 8.2 พันล้านดอลลาร์ หลังจากอัดฉีดไปแล้ว 4.16 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม ขณะที่รัฐบาลสิงคโปร์ระบุว่า จีดีพีไตรมาสที่ 3 ลดลง 6.3% ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้าก็ลดลง 5.7% ทำให้รัฐบาลปรับลดการเติบโตทั้งปีลงเหลือ 3% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 4-5% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว




รายงานข่าวเปิดเผยว่า แม้รัฐบาลสิงคโปร์จะไม่ยอมรับว่าลักษณะดังกล่าวคือการถดถอย แต่นักวิเคราะห์ระบุว่าในทางเทคนิคแล้วถือว่าถดถอยเพราะจีดีพีลดลงติดต่อกันสองไตรมาส ซึ่งจะทำให้สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชียที่เศรษฐกิจถดถอยและเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ถดถอย






เกาหลีใต้ขาดแคลนดอลลาร์


ทางด้านกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า นายคัง มัน-ซู รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ กำลังจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อขอหารือนอกรอบกับผู้บริหารของธนาคารสหรัฐระหว่างการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก เพื่อขอให้ธนาคารและสถาบันการเงินสหรัฐช่วยเหลือสภาพคล่องแก่ธนาคารในเกาหลีใต้ที่ขณะนี้ประสบปัญหาขาดแคลนดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารแต่ละแห่งกอดดอลลาร์เอาไว้ไม่ยอมปล่อยกู้ระหว่างกันหลังจากเกิดวิกฤตการเงินโลก นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้ประเทศเอเชียตะวันออกขยายวงเงินแลกเปลี่ยนเงินตรา (currency swap) ให้มากกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อรับมือวิกฤต







รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ปัญหาสถาบันการเงินของสหรัฐนั้น มีรายงานว่านอกจากการใช้เงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ซื้อหนี้เสียแล้ว ทางการสหรัฐอเมริกากำลังพิจารณาแนวทางที่จะอัดฉีดเงินโดยตรงให้กับสถาบันการเงินที่มีปัญหาแบบเดียวกับที่อังกฤษดำเนินการ ซึ่งนางดานา เพริโน โฆษกทำเนียบขาว ยอมรับว่าเป็นแนวทางที่นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังกำลังพิจารณาอย่างกระตือรือร้น ขณะที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช สนับสนุนเช่นกัน






ชงจี7ตั้งกองทุนให้กู้ปท.เล็ก


สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า ในโอกาสเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี-7) เพื่อหารือแก้ไขวิกฤตการเงินโลกที่สหรัฐอเมริกาในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม นายโชอิชิ นาคากาวะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นจะเสนอผ่านที่ประชุมจี-7 เพื่อให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จัดตั้งโครงการปล่อยกู้วงเงินประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ แก่ประเทศขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก โดยเงินปล่อยกู้จะมาจากการสนับสนุนของประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟและส่วนหนึ่งมาจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศที่มีทุนสำรองสูง เช่น ญี่ปุ่น จีน และประเทศตะวันออกกลาง โดยประเทศขนาดเล็กที่ประสงค์จะขอเงินกู้ต้องเขียนแผนการฟื้นฟูภาคการเงินและการตัดหนี้เสียเสนอเข้ามา แต่ประเทศในกลุ่มจี-7 และประเทศขนาดใหญ่จะไม่มีสิทธิขอกู้เงินในโครงการนี้ นอกจากนี้คาดว่ารัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นจะเสนอแนะให้สหรัฐอเมริกาใช้งบประมาณของรัฐช่วยเหลือสภาพคล่องแก่สถาบันการเงินสหรัฐ แบบที่ญี่ปุ่นเคยทำเมื่อปลายทศวรรษ 1990
รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบันจีนมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงที่สุดในโลก 2 ล้านล้านดอลลาร์ รองลงมาคือญี่ปุ่น 9.95 แสนล้านดอลลาร์







ไอเอ็มเอฟปัดฝุ่นให้กู้ปท.วิกฤต


ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ แถลงว่า ไอเอ็มเอฟได้ปัดฝุ่นโครงการกระบวนการฉุกเฉินที่จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2538 ขึ้นมาใช้ใหม่เพื่อรับมือวิกฤตกับวิกฤตการเงินโลกที่กำลังส่งผลกระทบจนทำให้เศรษฐกิจทั้งโลกใกล้จะถดถอย (recession) โดยมุ่งช่วยเหลือประเทศเศรษฐกิจใหม่บางประเทศที่อาจมีปัญหา ซึ่งจะสามารถสรุปและอนุมัติเงินได้ภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์





ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ประเทศรวยจะขอกู้เงินภายใต้โครงการนี้ นายสเตราส์-คาห์น กล่าวว่า ไม่มีใครรู้ว่าจะไม่มีประเทศรวยขอรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟมีทรัพยากรเพียงพอที่จะช่วยเหลือสมาชิกทั้ง 185 ประเทศ





รายงานข่าวเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวของไอเอ็มเอฟถูกนำใช้แล้วรวม 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2540 ซึ่งช่วยเหลือประเทศไทย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ เมื่อครั้งเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ.2544 เพื่อช่วยเหลือตุรกี และครั้งที่ 3 ปีนี้ช่วยเหลือจอร์เจีย






















 

Create Date : 11 ตุลาคม 2551
0 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2551 0:00:43 น.
Counter : 2691 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.