Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ตำนานตะลุยอวกาศจีน กับการเดินทาง...เสินโจว7

















จากบันทึกในปี ค.ศ. 1945 ของผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดชาวอเมริกัน Herbert S.Zin การทดลองด้านการบินของจีนได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก



ในราวศตวรรษที่ 15 ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์หมิง ( ค.ศ. 1368-1644) โดยช่างทำดอกไม้ไฟชาวจีนที่ชื่อว่า Wanhoo
ต่อมาชาวจีนได้เลียนเสียงทับศัพท์เป็น ‘วั่นหู่’ บ้าง ‘วั่นฮู่’ บ้าง วั่นหู่




วั่นหู่ ได้คิดค้นอุปกรณ์สำหรับควบคุมการบิน ซึ่งตามบันทึกระบุว่ามีลักษณะคล้ายงูสองตัวติดกัน หลังจากนั้นเขาได้นำเก้าอี้วางไว้ที่ด้านบนของอุปกรณ์ดังกล่าว
จากนั้นจึงนำหิ้งไม้ซึ่งประกบกับ ‘บั้งไฟ’ จำนวน 47 ลำมาติดตั้งไว้ที่ด้านหลังของพนักเก้าอี้





ต่อมาวั่นหู่ ได้ขึ้นนั่งบนเก้าอี้ ขณะที่มือทั้งสองข้างถือพัด (บ้างก็ว่าถือว่าว) ก่อนที่เขาได้สั่งให้คนจุดบั้งไฟทั้ง 47 ลำพร้อมกัน
วั่นหู่ หวังให้ปฏิกิริยาขับดันของบั้งไฟทำให้เขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ แต่น่าเสียดายที่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามคาด
หลังจากจรวดได้รับการจุดไฟแล้ว นักคิดค้นจรวดคนแรกของจีนได้อำลาโลกนี้ไปท่ามกลางกลุ่มควันและเปลวไฟ




แม้ว่าการทดลองขณะนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ชาวจีนก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามที่จะขึ้นไปสำรวจห้วงจักรวาลอันยิ่งใหญ่
พญามังกรได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีด้านอวกาศมาเป็นลำดับขั้นจนถึงปัจจุบัน





1956- สถาบันวิจัยจรวดและขีปนาวุธแห่งแรกของแดนมังกรก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

1957- รัฐบาลมังกรเริ่มโครงการดาวเทียมเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ "ปฏิบัติการ 581"



1960- จีนคิดค้นจรวดลำแรก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของจรวดตระกูล CZ ที่ย่อมาจากฉางเจิง (Changzheng) หรือ Long March
โดยได้รับความช่วยเหลือจากนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย



Yuri Gagarin


1964 – ตัวอย่างด้านชีววิทยาบรรจุในหลอดทดลอง 12 หลอด รวมทั้งหนูเผือก หนูสีขาวอย่างละ 4 ตัว ถูกนำขึ้นจรวด T-7A-S
ซึ่งพุ่งขึ้นสู่ห้วงอวกาศที่ความสูง 70 กิโลเมตรเหนือระดับท้องทะเล

1968 - สถาบันด้านวิศวกรรมอวกาศและการแพทย์ ซึ่งมีหน้าที่วิจัยเกี่ยวกับยานอวกาศพร้อมนักบินได้เปิดขึ้นครั้งแรก



1970 -วันที่ 24 เมษายน จีนเป็นประเทศที่ 5 ของโลกที่ประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ คือ ตงฟางหง -1 (DFH-1) โดยใช้จรวดขนส่งฉางเจิง(Long March)



1980 -หนังสือพิมพ์ของทางการหลายฉบับได้เผยแพร่บทความและรูปภาพเกี่ยวกับการเตรียมการของโครงการยานอวกาศพร้อมนักบิน
แต่โครงการดังกล่าวในขณะนั้นไม่ปรากฎเป็นรูปธรรม เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ



1992 -ขณะที่จันตั้งให้โครงการยานอวกาศพร้อมนักบินเป็นเป้าหมายในระยะกลางและยาว คณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติ 'โครงการ 921'
ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ' เสินโจว ' หรือ ‘แผ่นดินเทวดา'

1993 - เจ้าหน้าที่จีนไปเยี่ยมชมโครงการอวกาศของรัสเซีย




1994- จรวด CZ-2D ภายในบรรทุกสัตว์เล็กๆหลากหลายชนิด ถูกยิงสู่ห้วงอวกาศ

1995 -โครงการอวกาศจีนพบกับเหตุการณ์เศร้าสลด เมื่อ CZ-2E ระเบิดระหว่างขึ้นจากสถานียิงดาวเทียมซีชัง มณฑลเสฉวน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย

1996 - จีนลงนามในข้อตกลงรับเทคโนโลยีด้านอวกาศของรัสเซีย



1997 - อู๋เจี๋ยและหลี่จิ้นหลง สำเร็จหลักสูตรการฝึกอบรมระยะเวลา 1 ปี จากสตาร์ ซิติ้ สถาบันฝึกอบรมด้านอวกาศในกรุงมอสโคว์ ของรัสเซีย
และได้รับการรับรองคุณสมบัติผู้ฝึกอบรมด้านอวกาศจากสถาบันดังกล่าว




1999 - ยานเสินโจว ขึ้นสู่ห้วงอวกาศพร้อมตัวอย่างด้านชีววิทยา ด้วยจรวด CZ-2F ในวันที่ 20 พฤศจิกายนและกลับสู่พื้นโลกหลังจากโคจรรอบโลก 14 รอบ



2000 - ในฮ่องกง ยานเสินโจว ถูกนำมาจัดแสดงครั้งแรก



2001- ยานเสินโจว 2 ทะยานขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 9 มกราคมและกลับสู่พื้นโลกที่เขตปกครองตนเอง มองโกลเลียใน



2002 - ยานเสินโจว 3 ทะยานขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 25 มีนาคม ในสมัยของประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน และได้กลับสู่พื้นโลกในวันที่ 1 เมษายน
หลังจากโคจรรอบโลก 108 รอบ และต่อมาไม่นาน จีนประกาศที่จะสร้างสถานีอวกาศ



วันที่ 29 ธันวาคม ปีเดียวกัน ยานเสินโจว 4 ถูกส่งขึ้นวงโคจรโลกและกลับมายังพื้นโลกในวันที่ 4 มกราคม 2003 ต่อมาในเดือนเดียวกัน
จีนประกาศว่ากำลังวางแผนที่จะส่งยานพร้อมมนุษย์ขึ้นสู่อวกาศ



2003 -วันที่ 15 ตุลาคม เสินโจว 5 ยานอวกาศพร้อมมนุษย์ลำแรกของจีนได้ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ หยางลี่เหว่ย มนุษย์อวกาศคนแรกของจีนกลับสู่โลก
หลังจากท่องอยู่ในอวกาศนาน 21 ชั่วโมงและโคจรรอบโลก 14 รอบ



2004 -หวังหย่งจื้อ หัวหน้านักออกแบบในโครงการอวกาศจีนกล่าวว่า จีนมีแผนที่จะสร้างสถานีอวกาศภายใน 15 ปี.
จีนส่งดาวเทียม 10 ดวง ด้วยการยิงจรวด 8 ครั้ง นับเป็นการส่งดาวเทียมที่มากครั้งที่สุดที่เคยมีมาในรอบ 1 ปี




ค.ศ.2005 – ‘เสินโจว6’ ประสบความสำเร็จในการพานักบินอวกาศ 2 นายตะลุยอวกาศ โคจรรอบโลก 76 รอบ
คิดเป็นระยะทาง 3.25 ล้านกิโลเมตรภายในระยะเวลา 115 ชั่วโมง 32 นาที ด้วยความเร็ว 7.9 กิโลเมตรต่อวินาที




ค.ศ.2007 - วันที่ 24 ตุลาคม จีนเตรียมตัวปล่อย “ฉางเอ๋อ1” ยานสำรวจดวงจันทร์ดวงแรกของประเทศ

จรวดลองมาร์ช 3เอ พายานโคจรรอบดวงจันทร์ดวงแรกของจีน "ฉางเอ๋อ1" ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 24 ต.ค. ปี 2007



ค.ศ.2008 – เดือนกันยายน เสินโจว7 ทะยานออกจากฐานยิงจรวดจิ่วเฉวียน พร้อมด้วยนักบินอวกาศ 3 คน
ในจำนวนนี้ พันเอกไจ๋ จื้อกัง กัปตันเครื่องบินขับไล่ สังกัดกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) วัย 42 ปี
จะเป็นชาวจีนคนแรกที่ขึ้นไปปฏิบัติภารกิจเดินอวกาศ (space walk) และประเดิมใส่ชุดอวกาศที่ผลิตในจีนด้วย










ในศตวรรษที่ 19 กลุ่มนักคิดจีนกล่าวโทษอำนาจครอบงำของกลุ่มชาติอำนาจตะวันตกและญี่ปุ่น ทำให้จีนต้องตกอยู่ในความล้าหลังทางเทคโนโลยี

หลังจากที่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์พิชิตชัยครองอำนาจเหนือแผ่นดินใหญ่ในปี ค.ศ.1949 ก็ได้กำหนดบทพิสูจน์ถึงพลังอำนาจ ได้แก่
การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สร้างอภิมหาโครงการเขื่อน และโครงการอันน่าตื่นตะลึงแก่ชาวโลก ที่เหล่าชาติกำลังพัฒนาไม่อาจเอื้อมถึง



ในประวัติศาสตร์โครงการอวกาศจีน ฉบับกึ่งทางการ ระบุว่าแม้ขณะนั้น ประเทศชาติเต็มไปด้วยศึกขัดแย้งภายในและความอดอยาก
ผู้นำใหญ่แห่งการปฏิวัติจีนใหม่ เหมา เจ๋อตง ก็ได้รับรองแผนข้อเสนอพัฒนาเที่ยวบินอวกาศที่มีมนุษย์อวกาศขึ้นไปปฏิบัติการด้วย
ในเดือนกรกฎาคมปี 1970 สี่เดือนหลังจากที่จีนยิงดาวเทียมรุ่นโบราณดวงแรกของตน

ผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง หัวหอกแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ ผู้ยึดแนวปฏิบัติการได้จริงในปลายทศวรรษที่ 1970 ได้ผลักดันโครงการอวกาศอย่างเร่งรีบมากขึ้น
เพื่อสร้างความนับถือแก่ประเทศชาติในฐานะชาติอำนาจที่ทันสมัย ในปี 1979 เติ้ง เสี่ยวผิงได้เยี่ยมเยือนศูนย์อวกาศจอห์นสันในฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส
และได้พบกับนักอวกาศรุ่นบุกเบิกจอห์น เกลนน์ ทั้งนี้จากเอกสารประวัติศาสตร์โครงการอวกาศจีน ฉบับกึ่งทางการที่ตีพิมพ์ในปี 2005 ระบุ



“พวกคุณ ในอเมริกา มีหลายสิ่งที่ควรค่าสำหรับพวกเรา ที่กำลังศึกษา” เติ้ง กล่าวที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐฯ หรือนาซา

นับจากนั้นมา บรรดาผู้นำจีน ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นวิศวกรนั้น ต่างมองโครงการมนุษย์อวกาศ เป็นเครื่องมือลบล้างภาพลักษณ์ความล้าหลัง
ในอดีตของประเทศ โจน จอห์นสัน-ฟรีส (Joan Johnson-Freese) ผู้เชี่ยวชาญประจำโครงการที่ Naval War College สหรัฐอเมริกา
ใน โรห์ด ไอสแลนด์ กล่าว พร้อมกับบอกว่า “ฉันคิดว่าจีนพยายามดันตัวเองขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในเอเชีย ซึ่งเทคโนโลยีนี้
เป็นทั้งเครื่องชี้วัดอำนาจ และเครื่องมือสำหรับแผ่อิทธิพลเหนือประเทศอื่น”

จีนเผด็จศึกแผนอวกาศก้าวแรก ด้วยการส่งยานเสินโจวที่ไร้มนุษย์อวกาศในปี 1999 โดยมีกลุ่มหน่วยงานรัฐบาลและทหารทำงานร่วมกันอย่างลับๆ




จีนได้ส่งยานอวกาศ พร้อมมนุษย์ขึ้นท่องอวกาศ ครั้งแรกเช่นกัน โดยจะทำการขึ้นโคจร ในอวกาศเป็นเวลาประมาณ 1 วัน หลังจากที่จีนเคยมีการส่งยานอวกาศ
ที่ไม่มีนักบินอวกาศ ขึ้นสู่วงโคจร ยานเสินโจว 5 นั้นเป็นทรงกระบอก มีเพียงพื้นที่โล่ง สำหรับห้องพักนักบิน 3 คน ขนาดประมาณ 2.2x2.5 เมตรเท่านั้น
ซึ่งรวมแล้วไม่ถึง 6 ตารางเมตร
ยานอวกาศเสินโจว 5 ซึ่งจะเกาะติดจรวด ขนส่งฉางเจิง 2 เอฟ ขึ้นอวกาศ จากฐานส่ง ดาวเทียมจิ่วเฉวียน มณฑลกันซู่ โดยยาน จะโคจรรอบโลก
โดยวงโคจรเป็นลักษณะวงรี ทำมุม 42.4 องศา รักษาระยะห่างจากพื้นโลก 200 – 350 กิโลเมตร หลังจากนั้นจะเปลี่ยนวงโคจร เป็นวงกลม
ที่ระยะห่าง 343 กิโลเมตร และโคจรรอบโลก 14 รอบ




และเก็บเงียบเรื่องบประมาณ จนในปี 2003 กลุ่มเจ้าหน้าที่ถึงได้เผยตัวเลขในปฏิบัติการเสินโจว เท่ากับ 18,000 ล้านหยวน (2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ)





คู่แข่งขันในโลกอวกาศ

หลังเวทีโชว์ความสำเร็จด้านอวกาศ โครงการอวกาศของจีนได้กระตุ้นความวิตกในวอชิงตัน และหมู่ชาติอำนาจในเอเชียที่มีแรงบันดาลใจใ
นโลกอวกาศเช่นกัน อาทิเมื่อจีนยิงยานสำรวจดวงจันทร์ ที่ใช้ชื่อเทพธิดาดวงจันทร์ในตำนานจีน “ฉางเอ๋อ1” ในวันที่ 14 ตุลาคม 2007
ตามหลังญี่ปุ่นซึ่งได้ยิงยานอวกาศสำรวจดวงจันทร์ “คางูยะ” ชื่อเทพธิดาดวงจันทร์ของแดนปลาดิบในเดือนกันยายน ในต้นปี 2008 นี้
อินเดีย ก็ยิง “จันทรายาน1” ไปเยือนดวงจันทร์ด้วยเช่นกัน




รัฐบาลจีนได้เปิดเผยค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการในการส่งมนุษย์อวกาศ ประมาณ 1,000 ล้านหยวน (150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
สำหรับแต่ละเที่ยว แม้จะดูเป็นเศษเสี้ยวของงบประมาณแผ่นดินก้อนมหึมา แต่เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการ ก็น่าจะหนักเพียบไม่ใช่เล่น

ด้านกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จีน ก็ได้พยายามโน้มน้าวผู้นำจีนให้เดินหน้าเที่ยวบินมนุษย์อวกาศ โดยชี้ว่าโครงการแห่งเกียรติภูมินี้
ยังช่วยจีนดึงดูดวิศวกรที่กำลังหันเหไปสู่ธุรกิจเอกชน โพลพีเลอร์นักวิเคราะห์แห่งวอชิงตันชี้

โพลพีเลอร์ระบุในการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ ว่ามหาวิทยาลัยอวกาศจีน มีนักศึกษา 23,000 คน โดยประมาณ 1 ใน 3 ทำงานเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการอวกาศ
และวิศวกรรุ่นหนุ่มสาวเหล่านี้ ยังเป็น “จุดได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์สำหรับจีน”




แม้จีนพูดเสมอว่าการพัฒนาเทคโนโลยีของตน มีเป้าหมายสันติภาพล้วนๆ ทว่า ในปี 2007 จีนได้โชว์ศักยภาพในอวกาศ
ได้แก่การระเบิดทิ้งดาวเทียมรุ่นเก่าของตน ทำวอชิงตันและชาติเอเชียต่างๆตื่นตะลึงในความสามารถที่เป็นศักยภาพทางทหารด้วยนี้ของจีน

“ยิ่งประเทศต่างๆหันมาพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศ ก็จะยิ่งคุกคามความรู้สึกของอเมริกา เนื่องจากการใช้ประโยชน์สองทางของเทคโนโลยี
มันเป็นวงจรอุบาทว์ ” Johnson-Freese




ด้านผู้เชี่ยวชาญจีนชี้ความเสี่ยงต่ออำนาจครอบงำของจีน จะทำให้โลกอวกาศกลายเป็นสนามศึกเผชิญหน้าทางการทหาร
และศึกชิงทรัพยากร “ศึกแข่งขันด้านอาวุธในอวกาศ ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากฝ่ายสหรัฐฯ” นักวิเคราะห์อาวุโสในปักกิ่ง
เขียนไว้ในวารสารกิจการระหว่างประเทศ (China International Studies)




แต่ทั้งผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯและในจีนหลายคน ต่างเห็นพ้องกันว่า จีนยังอยู่หลังสหรัฐฯอย่างทิ้งห่างมากในสนามแข่งขันอวกาศ
โดยยังต้องใช้เวลาหลายปี ถึงจะตามทัน อาทิ การสร้างสถานีอวกาศ จีนยังจะต้องสร้างจรวดขนส่ง “ฉางเจิง” หรือ “ลองมาร์ช” ชั่วรุ่นใหม่
ซึ่งขณะนี้ ส่อเค้าว่าแผนการนี้ จะถูกเลื่อนล่าช้าออกไปถึงกลางทศวรรษหน้า นอกจากนี้ ยังต้องระดมเครื่องมืออุปกรณ์ และวิศวกรอีกนับไม่ถ้วน





“มันเป็นเรื่องเกินจริง ที่จะประกาศว่าเราทัดเทียมกับอเมริกา และรัสเซียแล้ว ขณะนี้ เราทำได้ดีที่สุดก็คือ ลดช่องว่างนี้ลงเท่านั้น”
เจียว เหวยซิน นักวิทยาศาสตร์ด้านอวกาศ แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าว

“เปรียบเทคโนโลยีจีนกับของเมกาแล้ว เหมือนเทียบ ฟอร์ด เฟียสตา กับเมอร์ซีเดส คุณภาพและข้อได้เปรียบยังห่างชั้นกันมาก” Johnson-Freese.












เปิดตำนานชัยชนะครั้งใหญ่เหนือโลกอวกาศ เมื่อมนุษย์อวกาศพิชิตปฏิบัติการเดินอวกาศ
ลอยตัวอยู่เหนือนอกยานอวกาศท่ามกลางห้วงจักรวาล เหนือพื้นโลก 341 กิโลเมตร




ยานอวกาศเสินโจว 7 จะทะยานออกจากสถานียิงดาวเทียมจิ่วเฉวียนมณฑลกันซู่ โดยมีดีเดย์เหิรสู่โลกอวกาศตั้งแต่วันพฤหัสฯ(25 ก.ย.)นี้
หากสภาพอากาศเป็นใจ โดยจะมีนักบินอวกาศโดยสารไปด้วย 3 คน และหนึ่งในนั้น จะเป็นพระเอกเดินอวกาศ (space walk) คนแรกของจีน
ซึ่งเป็นสุดยอดของความสำเร็จในโลกอวกาศที่จีนไปถึง ณ เวลานี้




สำหรับพระเอกในปฏิบัติการอวกาศเสินโจว 7 คือ พันเอก ไจ๋ จื้อกัง วัย 41 ปี นักบินเครื่องบินขับไล่ ผู้จะสร้างประวัติศาสตร์แก่มาตุภูมิ
ในฐานะนักเดินอวกาศคนแรกของประเทศ ซึ่งออกปฏิบัติการในชุดที่หนักอึ้ง 120 กิโลกรัม เขาจะเป็นวีรบุรุษมนุษย์อวกาศ
ที่ประชาชนหลายร้อยล้านตบมือให้ ซึ่งภาพการแสดงชัยชนะนี้ มีความสำคัญมากสำหรับกลุ่มผู้นำจีนที่มีจิตสำนึกทางประวัติศาสตร์




ภารกิจหลักของยานอวกาศเสินโจว-7คือ นักบินอวกาศจีนจะออกสู่นอกยานอวกาศเป็นครั้งแรก ได้ผลคืบหน้าสำคัญในการกุมเทคโนโลยี
เกี่ยวกับนักบินอวกาศออกเคลื่อนไหวนอกยานอวกาศ ดำเนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอวกาศหลายๆด้าน เช่น บินคู่กับดาวเทียม
การถ่ายทอดข้อมูลดาวเทียมเป็นต้น



พญามังกรประกาศแจ้งเกิดเหนือโลกอวกาศ ในปี 2003 หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งยานอวกาศเสินโจว 5
ปฏิบัติการอวกาศที่มีมนุษย์อวกาศไปด้วยครั้งแรก ทำให้จีนกลายเป็นชาติที่สาม ต่อจากพญาหมีขาวแห่งรัสเซีย และพญาอินทรีแห่งสหรัฐอเมริกา
ที่สามารถส่งมนุษย์ไปปฏิบัติการในอวกาศได้ ต่อมาในปี 2005 จีนยังได้ส่งเสินโจว 6 พร้อมมนุษย์อวกาศ เป็นครั้งที่สอง

เสินโจว 7 เป็นปฏิบัติการอวกาศที่มีมนุษย์อวกาศไปด้วยครั้งที่สามของจีน โดยจะเป็นครั้งแรกที่มนุษย์อวกาศจะเดินออกนอกตัวยานสุญญากาศ
ซึ่งจะประกาศศักดาฤทธิ์ของจ้าวอวกาศน้องใหม่ ที่พัฒนาไปอีกขั้น





หวง ไห่ ประจำมหาวิทยาลัยอวกาศในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เสินโจว 7 เป็นก้าวใหญ่อีกก้าวบนเส้นทางพัฒนาสถานีทดลองอวกาศ
โดยการเดินอวกาศและการทดลองต่างๆระหว่างปฏิบัติการเสินโจว7 นั้น เป็นการเข้าสู่ขั้นตอนของแผนระยะยาวคือการสร้างสถานีทดลองบนอวกาศ

นอกไปจากนี้ ปฏิบัติการอวกาศครั้งนี้ ยังมีนัยที่มากไปกว่าความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยี นั่นก็คือกระสวยอวกาศ “เสินโจว”
ชื่อที่หมายถึง “แผ่นดินเทวดา” นี้ ยังได้ "บรรทุก" สัญลักษณ์อำนาจอันเบ้อเริ่มของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชูเหนือจักรวาล



เสินโจว 7 ออกปฏิบัติการในจังหวะเวลาที่สวยงามของจีน ในการกระตุ้นกระแสรักชาติให้ลุกโหมยิ่งขึ้นในปีนี้
ต่อเนื่องจากโอลิมปิก ปักกิ่ง ซึ่งกระแสลัทธิชาตินิยมลุกร้อนแรงขึ้นมาระหว่างการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกทั่วโลกสืบเนื่องจากการประท้วงในกรณีความขัดแย้งทิเบต
นอกจากนี้ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ยังช่วยกระตุ้นเลือดรักชาติของชาวจีนทั่วประเทศ
ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว





หลังจากการปล่อยยานอวกาศเสินโจว-7 เข้าสู่วงโคจรสำเร็จอย่างงดงาม ทางการจีนก็ได้ประกาศว่านักบินอวกาศทั้ง 3 คน จะต้องกินยาสมุนไพร
ที่นำติดตัวไปด้วยอย่างสม่ำเสมอ โดยยาสมุนไพรดังกล่าวปรุงขึ้นจากสมุนไพร 10 ชนิด มีสรรพคุณช่วยทำให้กระชุ่มกระชวย กระปรี้กะเปร่า
เสริมกำลังกายให้แข็งแรง เพื่อไว้สำหรับสู้ศึกในภารกิจอันสุดยอดเช่นนี้




ยาสมุนไพรดังกล่าวได้รับการคิดค้นมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องยาของจีน อีกทั้งยังได้ผ่านการทดสอบและรับการรับรอง
จากหน่วยงานราชการที่มีอำนาจแล้วด้วยว่าใช้ได้ผลจริง




นักบินอวกาศจะได้รับความสะดวกในการโด๊บยาในภารกิจนี้ เนื่องจากยาดังกล่าวอยู่ในรูปของแคปซูลกลืนง่าย

ยาสมุนไพรตัวนี้มีชื่อว่า “ไท่กงหยั่งซิน” หรือแปลได้ว่า “ยาบำรุงหัวใจอวกาศ” นั่นเอง!!!






นักวิทยาศาสตร์ของจีนคาดหวังว่า ยานอวกาศเสินโจว-8 จะเป็นยานที่มีโมเดลสมบูรณ์แบบที่สุดในบรรดายานอวกาศเสินโจวทั้งหมด
โดยหวังว่าเมื่อมันกลายเป็นโมเดลที่สมบูรณ์แบบแล้ว ทางการจีนก็จะสามารถผลิตซ้ำ ๆ ออกมาได้ โดยใช้ต้นทุนที่ลดลงและใช้เวลาที่น้อยลง
เนื่องจากจะใช้วิธีการผลิตคราวล่ะมาก ๆ มาใช้ในการผลิตยานอวกาศในครั้งถัด ๆ ไป





สำหรับยานเสินโจว-8 นั้น จะถูกออกแบบและจัดสร้างสำหรับภารกิจสำคัญ 2 ประการอันได้แก่ การเป็นยานที่มีความสามารถในการ
ต่อเชื่อมกับยานอื่นในอวกาศ และการเป็นยานที่สามารถบรรทุกนักบินอวกาศได้





โดยรุ่นสุดท้ายที่คิดกันเอาไว้นั้น ตัวยานจะต้องมีคุณลักษณะสำคัญ 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวยานที่มีน่าเชื่อถือสูง,
มีความปลอดภัยเป็นเยี่ยมสำหรับการบรรทุกนักบินอวกาศ 3 คน ให้ล่องลอยอยู่ในอวกาศได้นานเกิน 7 วัน ในขณะที่รอต่อเชื่อมกับสถานีอวกาศ
และสุดท้ายจะต้องมีเทคโนโลยีที่สามารถต่อเติมยานได้ เพื่อรองรับกับการที่ต่อไปจีนจะผลิตยานแบบคราวล่ะมาก ๆ และจะส่งยานขึ้นสู่อวกาศถี่กว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้





จีนคาดหวังว่าด้วยรูปแบบของยานอวกาศที่ว่า จะสามารถทำให้จีนมีต้นทุนที่ถูกในการสร้างห้องทดลองอวกาศ และสถานีอวกาศในอนาคต


















ที่มา
สื่อในเครือ Xinhua
สื่อในเครือ ผู้จัดการ















Create Date : 27 กันยายน 2551
Last Update : 27 กันยายน 2551 11:54:10 น. 2 comments
Counter : 4960 Pageviews.

 
ชาวจีนมีความสามารถที่จะคิดค้นและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีด้านอวกาศถึงเเม้จะไม่ประสบความสำเร็จมาก่อนก็ตาม เเต่ความมุมานะก็ต้องถึงบรรลุจุดหมายเเน่

เคยได้ยินเรื่องดังกล่าวเเต่ไม่ละเอียดเท่านี้ ขอบคุณมากค่ะ ได้ศึกษาเกี่ยวกับประเทศจีนใกล้ตัวเรา ไม่ได้สนใจนานเเล้วค่ะ



โดย: YUCCA วันที่: 27 กันยายน 2551 เวลา:0:21:05 น.  

 



ขนมใครก็ไม่ทราบ
เห็นรูปในกระทู้พันทิป
น่าทาน น่าทานมากกกกก
เลยเอามาฝากค่ะ

ฝนตกบ่อย ๆ อย่างนี้
รักษาสุขภาพนะคะ



โดย: โสดในซอย วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:20:47:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.