Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
17 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เลห์แมน บราเธอร์ส (Lehman Brothers) คือใคร....ทำไมถึงล้มละลาย...



















วันที่ 15กันยายน 2551 จะเป็นวันที่ทั้งโลกเศรษฐกิจต้องจารึกไว้ว่า เป็นวันที่บริษัททางการเงินขนาดยักษ์อันดับต้นๆ ของโลกที่มีนามว่า กลุ่มบริษัท เลห์แมนบราเธอร์ส จำกัด (Lehman Brothers) ต้องประกาศขอเข้าฟื้นฟูกิจการภายใต้มาตรา 11 ของกฎหมายการเงินสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้บริษัทที่มีปัญหาทางการเงิน ประกาศขอล้มละลาย และต้องการฟื้นฟูกิจการด้วยตนเอง นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาหนี้เสียในสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้กับลูกค้าที่มีปัญหาความไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่มีเครดิต (ปัญหา Sub-Prime Lending)






เลห์แมนบราเธอร์ส (Lehman Brothers) มีจุดกำเนิดเมื่อ 158 ปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัวที่เป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตร แล้วพัฒนาตัวเองต่อมาจนเป็นนายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า, กลุ่มเลห์แมนบราเธอร์สมีธนาคารและสถาบันการเงินประเภทต่างๆ เป็นของตนเอง, เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่เป็นนายหน้ารายหลักของการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน (Primary Dealer in the US Treasury Securities Market), เป็นบริษัทที่มีการลงทุนทั่วโลกทั้งในตลาดเงิน และตลาดทุน เป็นทั้งบริษัทเงินทุน, บริษัทหลักทรัพย์ และเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก,





เป็นนายหน้ารายใหญ่ในตลาดอนุพันธ์ (Future Markets) ในตลาดการเงินต่างๆ ทั่วทั้งโลก, เป็น Investment Banker รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเจ้าของบริษัทบัตรเครดิตที่มีจำนวนผู้ใช้มากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นคือบัตร American Express มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ค และมีสาขาอยู่ในตลาดการเงินใหญ่ๆ ทั่วโลก ทั้งที่ลอนดอน, โตเกียว และเป็นผู้เข้ามาประมูลรับช่วงเข้าไปบริหารจัดการหนี้เสียของระบบสถาบันการเงินของประเทศ ในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจการเงินปี พ.ศ. 2540 (แม้ว่าปัจจุบันผู้บริหารหลายคนยังคงมีคดีค้างอยู่กับองค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.))





จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเลห์แมนบราเธอร์ส มีขนาดทางธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ (Market Cap.)ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท) มีรายรับต่อปีอยู่ที่ 59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) ในปี 2550 และมีประมาณการรายได้สุทธิของปี 2550 อยู่ที่ 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.278 แสนล้านบาท) สินทรัพย์ของบริษัท ณ สิ้นปี 2550 อยู่ที่ 691 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 23.5 ล้านล้านบาท) มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 26,000 คน และเคยฟันฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆ มาได้ตลอดทั้ง 150 กว่าปีของการดำเนินงานที่ผ่านมา





แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวถึงกิตติคุณในอดีตที่ผ่านมาก็ต้องมาล้มละลายลง เมื่อหนึ่งในบริษัทลูกที่มีนามว่า BNC Mortgage ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่มีปัญหาด้านเครดิต (Sub-prime lending) ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านและที่ดิน เกิดปัญหาหนี้เสียครั้งมโหฬาร และต้องปิดตัวลงในปี 2550 โดยการปิดตัวนี้ทำให้บริษัทขาดทุนถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ



และทำให้มูลค่าของชื่อเสียงของบริษัท (Goodwill) เสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และความเสียหายนี้ยังคงลุกลามต่อเนื่องไปจนถึงบริษัทแม่ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 กลุ่มบริษัทเลห์แมนบราเธอร์สมียอดขาดทุนถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ และทำให้บริษัทต้องขายสินทรัพย์ออกไปถึง 6 พันล้านดอลลาร์ หุ้นของบริษัทมีมูลค่าลดลงถึงร้อยละ 73 และมีแนวโน้มจะลดลงต่อไปเรื่อยๆ จนในวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาบริษัทประกาศการขาดทุนเพิ่มอีก 3.9 พันล้านดอลลาร์ และทำให้หุ้นของบริษัทดิ่งลงอีกร้อยละ 40


และแล้ววันสิ้นสุดก็มาถึงเมื่อบริษัทต้องขอความคุ้มครองตาม มาตรา 11 ของกฎหมายการเงินสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้บริษัทที่มีปัญหาทางการเงิน ประกาศขอล้มละลาย และต้องการฟื้นฟูกิจการด้วยตนเอง






และจากการล่มสลายของ Lehman Brothers ยังส่งผลทำให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอีก 2 แห่ง อันได้แก่ Merrill Lynch และ American International Group (AIG) มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทางธุรกิจที่รุนแรง และยังจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปถึงบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอีกเป็นวงกว้าง และนักการเงินส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าปัญหาที่คงจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจแท้จริงของสหรัฐอย่างรุนแรง รวมทั้งยังจะส่งผลต่อระบบการเงินในระดับโลกอย่างแน่นอน








“Hamburger Crisis” เกิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว และเมื่อสหรัฐเจ็บป่วย โลกร้ายก็จะแพร่ไปทั่วโลกอย่างแน่นอน







คราวนี้มาดูผลต่อเศรษฐกิจไทยกันบ้าง ดร.บัณฑิต นิจถาวร จากธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าประเทศไทยคงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แต่คงไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงนัก เนื่องจากระบบสถาบันการเงินของประเทศไทยมีความเกี่ยวข้องไม่มากนักต่อระบบตลาดการเงินโลก จำนวนธุรกรรมโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในตลาดล่วงหน้า และตลาดอนุพันธ์ (Future and Derivative Markets) ของประเทศไทยยังมีไม่มากนัก นอกจากนี้แล้วจากประสบการณ์เลวร้ายในวิกฤตทางการเงินในปี 2540 ที่ผ่านมายังทำให้ระบบสถาบันการเงินในประเทศไทยยังคงมีความระมัดระวังตัวในระดับที่สูง ไม่กล้าที่จะทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจนเกินไปนัก






ระบบทุนนิยมเสรีของสหรัฐอเมริกา ที่เน้นหลักการบริโภคนิยมเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ได้คำนึงถึงหลักศีลธรรมจรรยาคือปัญหาหลักที่ทำให้อเมริกาต้องมีปัญหาอย่างทุกวันนี้ หรือแม้แต่การบริโภคทรัพยากรโลกจนทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างในทุกวันนี้ ก็เกิดจากการบริโภคอย่างไม่มีปัญญาพิจารณา





ในตลาดการเงินภายใต้ระบบทุนนิยมเสรีที่ปล่อยให้ทุกคนในระบบแข่งขันกันให้ถึงที่สุดโดยไม่ได้คำนึงถึงหลักธรรมที่สำคัญ 2 ประการนั่นคือ ปัญญา และ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เช่นในกรณีของ Lehman Brothers ปัญหาเกิดจากการเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์ ที่เมื่อขาดสภาพคล่องเนื่องจากปัญหาการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่ไม่มีคุณภาพ เมื่อตลาดอยู่ในขาลง การขาดสภาพคล่อง ขาดเงินหมุนเวียนก็ทำให้บริษัทถึงจุดจบ





ตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivative Markets)โดยเฉพาะในตลาด Future ที่ Lehman Brothers เป็นดีลเลอร์ใหญ่นั้น เกิดขึ้นในโลกการเงินโดยความหวังดีที่จะมีการสร้างตราสารหรือเครื่องมือทางการเงินที่เป็นมาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการค้าสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอุปทานหรือผลผลิตขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน นอกจากนั้นการที่ไม่รู้ราคาล่วงหน้ามักจะทำให้เกษตรกรประสบปัญหาสินค้าล้นตลาด สลับกับขาดตลาดอยู่เสมอ เช่น ในปีที่สินค้าเกษตรราคาสูง เกษตรกรมักจะลงทุนปลูกพืชเป็นจำนวนมาก ทำให้ในฤดูกาลถัดมาเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด ทำให้ราคาตก เมื่อเป็นเช่นนี้ในปีการผลิตหน้าเกษตรกรก็จะลดการลงทุนเพาะปลูกลง ทำให้ในฤดูเก็บเกี่ยวถัดไปเกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้





ตลาดซื้อขายล่วงหน้า, ตลาดอนุพันธ์ ตราสาร เช่น Future จึงเกิดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงให้กับทั้งเกษตรกร และผู้ที่ต้องการซื้อผลผลิต Lehman Brothers ก็เจริญเติบโตมากับธุรกิจเช่นนี้ และเมื่อเวลาผ่านไปตราสารเหล่านี้ก็ถูกพัฒนาจากตลาดสินค้าเกษตร เข้าสู่ตลาดการเงิน และเมื่อนักลงทุน นักธุรกิจเหล่านี้เกิดความละโมภ ไม่รู้จักประมาณตนเอง ไม่รู้จักว่าทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา การลงทุนแต่พอดี การลงทุนโดยใช้ปัญญา (ความฉลาดประกอบกับคุณธรรม) ลงทุนในตราสารเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นการเก็งกำไร ใช้ตลาดการเงินเช่นนี้เป็นเหมือนการพนันที่เมื่อราคาสินค้าแพงขึ้นก็ได้สตางค์ เมื่อราคาสินค้าลดลงก็ได้สตางค์ ไม่ได้ทำเพื่อลดความเสี่ยง แต่กลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงจากการเก็งกำไร




ในอีกทางหนึ่ง เงินตราที่ได้มาก็เอาไปปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นลูกหนี้ที่มีเครดิตต่ำ (Sub-prime lending) ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะชักดาบสูง การปล่อยกู้โดยประมาท ไม่รู้จักความพอดี ไม่รู้จักทางสายกลาง ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ขาลง ลูกหนี้ชักดาบ บริษัทขากสภาพคล่อง (ขาดเงิน) ก็ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้อีกด้านที่เก็งกำไรไว้ เกิดปัญหาตามมา และทำให้บริษัทถึงกับล้มละลายในที่สุด





เมื่อเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ที่เคยประกาศว่าตนบริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ เพียงเพราะไม่รู้จักหลักธรรมเพียง 2 ข้อ ทางสายกลาง คือการรู้จักประมาณตนเอง รู้จักความพอดี เมื่อทางสายกลางมารวมกับปัญญาจะทำให้เราพิจารณาได้ว่า ทางสายกลางไม่ได้แปลว่า ระหว่างกินเหล้า 10 แก้วในหนึ่งวัน กับไม่กินเหล้าเลย (0 แก้วต่อวัน) ทางสายกลางที่ใช่ปัญญาจะบอกเราว่า ตรงกลางไม่ใช่กินเหล้า 5 แก้วต่อวัน แต่ต้องไม่กินเลยซักแก้ว เพราะสุราเป็นอบายมุขประเภทหนึ่ง ทางสายกลางไม่ใช่อยู่ตรงกลางระหว่างความดี ความชั่ว แต่ทางสายกลางต้องประกอบด้วยปัญญา แล้วเลือกความดี การเมืองใหม่ก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นการเมืองที่ประกอบด้วยปัญญา เมื่อมีการเมืองใหม่ ระหว่างทรราชโกงชาติเป็นพันเป็นหมื่นล้าน กับไม่โกง ทางสายกลาง ยืนอยู่ตรงกลางไม่ใช่โกงแบบกลางๆ แต่ต้องไม่โกง ต้องเป็นการเมืองที่อยู่บนหลักศีลธรรม




เศรษฐกิจใหม่ที่จะอยู่คู่กับการเมืองใหม่ก็ต้องเป็นเศรษฐกิจอุดมปัญญาด้วยเช่นกัน ดังนั้นกิจกรรมทางการเงิน เช่น การเก็งกำไร การไม่รู้จักความความดี การปล่อยเงินกู้โดยไม่มีเหตุผล เช่น กู้เงินไปเพื่อการบริโภคแบบเดี่ยวกับ Personal Loan, Quick Cash, Easy Money ที่คนกู้เงินไปโดยไม่ได้ไปลงทุน ทำกิจการที่จะสร้างรายได้ให้งอกเงย แต่เป็นการกู้เงินไปซื้อเหล้า ซื้อรถจักรยานยนต์ การปล่อยกู้เช่นนี้ ต้องไม่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจใหม่ การกู้เงินต้องมี แต่ต้องเป็นการปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการเงินไปลงทุนในกิจการที่ถูกต้องเหมาะสมกับสังคมไทย เกิดการผลิต เกิดการสร้างรายได้ เกิดความดีงามในสังคม เราต้องปล่อยกู้ให้กับกิจการเหล่านี้ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยใช้ปัญญา






เครื่องมือทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นในตลาดหลักทรัพย์, ตลาดพันธบัตร, ตลาดอนุพันธ์, ตลาดซื้อขายล่วงหน้า, ตลาดเงินตราต่างประเทศ, และอื่นๆ ต้องเกิดขึ้น เพื่อเป็นตลาดรอง เพื่อการลงทุน และเพื่อการกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร หรือเพื่อเล่นการพนัน ไม่ใช่เปิดตลาดการเงินโดยไม่ดูความพร้อมของประเทศ, ไม่ใช่เอารัฐวิสาหกิจที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม มาแปลงเป็นหุ้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับคนแค่บางกลุ่ม





ศตวรรษที่ 21 คงจะเป็นศตวรรษของเอเซีย โลกเศรษฐกิจที่นำโดยจีนและญี่ปุ่น แล้วไทยล่ะ จะยืนอยู่ที่ไหน จะตามกลุ่มผู้นำใหม่ทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ถ้าจะตามให้ได้ผมขอเสนอให้ไทยต้องมีลักษณะเป็นตัวของตัวเอง ต้องสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ที่ใฝ่ดี มีปัญญาและต้องคู่กับเศรษฐกิจระบบใหม่ ที่อุดมปัญญาด้วยเช่นกัน





และเศรษฐกิจระบบใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่คนไทยไม่รู้จัก พ่อหลวงของเราได้แสดงให้เห็นไว้นานแล้ว ระบบเศรษฐกิจที่เป็นไปตามหลักสันโดษ (พอใจในสิ่งที่มี ที่ได้) เศรษฐกิจที่อุดมปัญญา (รู้จักพิจารณาสิ่งต่างๆ ตามที่เป็นจริง ด้วยความฉลาด และด้วยศีลธรรมที่ดี) ระบบเศรษฐกิจที่เป็นไปตามแนวทางของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของเราพยายามอธิบาย พยายามแสดงให้เห็เป็นตัวอย่างมานานแล้ว





และเราเรียกแนวคิดที่สุขสมบูรณ์นี้ว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” คำถามที่สำคัญคือ เมื่อเราจะสร้างการเมืองใหม่กันแล้ว ระบบเศรษฐกิจใหม่ ที่เดินตามรอยเท้าพ่อ เศรษฐกิจพอเพียง ถึงเวลาที่เราจะนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังแล้วหรือยัง





ที่มา
อาจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม






















Create Date : 17 กันยายน 2551
Last Update : 17 กันยายน 2551 0:02:28 น. 14 comments
Counter : 17734 Pageviews.

 
เป็นบทความที่ดีมากๆๆๆ


โดย: Tang_Siri วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:0:54:39 น.  

 
กำลังติดตามข่าวในสหรัฐเหมือนกันซึ่งการล้มละลายนี้มีผลต่อทั่วโลก
เป็นบทความที่ละเอียดควรเเก่การศึกษาค่ะ


โดย: YUCCA วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:1:18:30 น.  

 
Such a shame really.


โดย: CrackyDong วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:4:05:46 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะ
พอดีอยู่ญี่ปุ่น ดูข่าวแล้ว
มีบางจุดที่เป็นศัพท์ทางการเงินบางคำ
ยังไม่ค่อยเข้าใจ
คราวนี้แจ่มแจ้งแล้วค่ะ เป็นความรู้มากๆ


โดย: kanapad วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:7:01:20 น.  

 
ติดตามข่าวอยู่พอดี ได้อ่านบทความนี้แล้ว ทำให้รู้ที่มาที่ไป ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ


โดย: SiDaO IP: 58.181.138.50 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:12:21:58 น.  

 
เยี่ยมมากๆ เป็นบทความที่ดีมากๆ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ


โดย: วินนี่ย์หมีพูห์ วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:12:27:40 น.  

 
กรรมตามสนอง


โดย: travelaround (travelaround ) วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:12:43:39 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะสำหรับความรู้ที่นำมาฝากกัน เพราะอยากรู้อยู่พอดี ว่า สถาบันการเงินที่ใหญ่ขนาดนั้นทำไมถึงล้มละลายได้


โดย: แค่คนหนึ่งคน วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:12:49:37 น.  

 
กำลังอยากรู้อยู่ว่าบริษัทนี้ทำอะไร มาอ่านแล้วได้ความรู้ครบเลยคะ


โดย: หนูนา IP: 58.9.100.60 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:15:41:08 น.  

 
เยี่ยมเลยค่ะ


โดย: econ IP: 117.47.13.166 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:20:41:09 น.  

 
ขอบคุณมากๆสำหรับบทความดีๆและเป็นประโยชน์นี้ เพราะกำลังสนใจและจะใช้ในการสอบ ตอนนี้กระจ่างแจ้งทุกประเด็นเลย สุดยอด....


โดย: ปอม IP: 58.8.147.33 วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:6:12:17 น.  

 
สรุปเหตุการณ์ได้งดงามมากค่ะ


โดย: oui IP: 124.120.12.158 วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:21:06:16 น.  

 
อ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่าหลายๆบทความที่คนอื่นเขียนครับ
ขอบคุณมากครับ


โดย: omg IP: 222.123.158.190 วันที่: 2 มกราคม 2552 เวลา:16:24:56 น.  

 
หลังจากที่ได้อ่านบทความ ขอชื่นชมอย่างมากที่สรุปได้อย่างละเอียด โดยเฉพาะข้อคิดและแนวทางที่เราควรจะปฏิบัติในสิ่งที่เป็นสายกลาง ชอบมากที่บอกว่า การดื่มเหล้าของทางสายกลาง ไม่ใช่ 5 แก้ว แต่เป็นการไม่ดื่มเลย เพราะเราจะต้องนำคุณธรรม และปัญญามาปรับใช้ ผมชอบมากครับ ขอบคุณที่ประเทศไทยยังมีคนดีที่เผยแพร่สิ่งดีๆให้ลูกหลานต่อๆกันไป


โดย: Yossawat CH. IP: 171.96.167.42 วันที่: 17 มีนาคม 2558 เวลา:12:28:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.