Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
การะเกด..... (จากเพลงกล่อมเด็ก สู่ บทเพลงแห่งการต่อสู้)








































เพลงกล่อมเด็กเจ้าการะเกด

"เจ้าการะเกตเอย ขี่ม้าเทศว่าจะไปท้ายวัง ชักกฤชออกมาแกว่ง ว่าจะแทงฝรั่ง ใคร
ห้ามก็ไม่ฟัง เจ้าการะเกตเอย"

ต้นกำเนิดของเจ้าการะเกด มาจากการรวบรวมบทร้องเล่นและบทกล่อมเด็กเป็นลาย
ลักษณ์อักษรของนายเปโมรา กวีสมัยรัชกาลที่ 5

อันเปโมราคนนี้..."มียศเป็น "เปซายัน" เทียบชั้นจ่านายสิบ แต่เรียกกันเป็นสามัญ
ว่า "เปโมรา" ซึ่งนักหนังสือรุ่นเก่ารู้จักกันโดยมาก เพราะเปโมราเป็นผู้ชอบแต่ง
หนังสือชนิดขบขันโลดโผน มีปฏิภาณว่องไว แต่งได้ดีชวนอ่าน" (วรรณอำจ้ำจี้ กวี
ชาวบ้าน)

นายเปโมราเป็นคนแรกที่รวบรวมบทร้องต่างๆเหล่านี้ไว้ แล้วเรียบเรียงขึ้นเป็น
กวีนิพนธ์ต่อท้ายด้วย จากบทการะเกดข้างบนนี้นำมาจาก "ฉันท์เยาวพจน์" กล่าวถึง
เหตุที่มีเพลงร้องเล่น และรวบรวมบทร้องเล่นต่างๆ ต่อด้วยคำประพันธ์ของเปโมรา
เอง

โอระว่าเจ้าการะเกต ชวนเมียไปชมเชย
ที่ท้ายตลาดหลังวัง
ขับขี่มโนมัยใจหวัง พอพบพวกฝรั่ง
ซระเซซระซุนเมาซาน
อาจขวางทางม้าด้วยโวหาร ทำทีขยับพาล
วิวาทเข้ากั้นกีดกวน
การะเกตโกรธวุ่นหุนหวน ชักกฤชประชิดชวน
จะแทงฝรั่งทำเพลง
เมียวิ่งเข้าชิงกฤชคิดเกรง อึกกะทึกครึกเครง
เมียขอสักครั้งฟังคำ
การะเกตเงื้อกฤชแทงถลำ พลัดตกหกคะมำ
ฝรั่งก็ลี้หนีไป
ไม่เชื่อเมียห้ามเปนไฉน เมื่อยขัดถนัดใจ
ก็พาเมียกลับมา เอยฯ




ทางด้านประวัติศาสตร์โบราณคดี ลักษณะ “เจ้าการะเกด” เป็นรูปแบบพื้นบ้านที่ใช้กับเพลงกล่อมเด็ก และสอดคล้องกับรูปแบบเพลงสมัยกรุงศรีอยุธยามากกว่าที่จะเป็นสมัยรัตนโกสินทร์ ทางด้านเนื้อหาก็ดูเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะสมัยรัตนโกสินทร์ มีแต่คดีพระยอดเมืองขวางเท่านั้นที่โด่งดัง และอาวุธที่ใช้ก็เป็นปืนที่ทันสมัยไปแล้ว แต่ภาพของเจ้าการะเกด เป็นภาพของคนอยุธยาตอนปลาย (เช่น สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ สมเด็จพระเพทราชา) เพราะถือว่ากริช ขี่ม้าเทศ และจากรายละเอียดที่กล่าวมาเจ้าการะเกดก็คงเป็นชนชั้นสูง ทนไม่ได้กับพฤติกรรมเลวร้ายของพวกฝรั่งมังค่า ก็ลุกขึ้นต่อสู้ แม้เมียห้ามก็ไม่ฟัง นับว่าเข้ารับเหตุการณ์ต่อต้านอเมริกาพอดิบพอดี

ส่วนทำนองที่ใส่กับเนื้อเพลงที่คนเป่าขลุ่ยผมยาวแต่งนั้น ใช้สำเนียงลาวคล้ายแอ่วเคล้าซอ แต่ไม่เหมือนเสียทีเดียว เป็นการไล่ทำนองโดยอัตโนมัติของคนร้อง

เนื้อร้องของเพลงการะเกด เป็นดังนี้

(สร้อย) เจ้าการะเกดเอย เจ้าขี่ม้าเทศ จะไปท้ายวัง
ชักกริชออกมาแกว่ง ว่าจะแทงฝรั่ง
ใครห้ามก็ไม่ฟัง เจ้าการะเกดเอย
1 เจ้าการะเกดเขาไปแล้ว เป็นทิวเป็นแถวทุกแห่ง
ไปตามตะวันสีแดง ที่สาดทั่วแผ่นดินไทย
ไปกับกริชคู่มือ กระชับถือด้วยมั่นใจ
เลือดใครก็เลือดใคร คงจะได้นองปฐพี
แผ่นดินถิ่นกำเนิด ตั้งแต่เกิดมาจนเป็นผี
ไอ้กันมันกล้ามาราวี ไอ้อัปรีย์ จัญไร (รับสร้อย)
2 จากอุบลราชธานี มาถึงตาคลี อู่ตะเภา
น้ำพองนั่นเป็นของเรา แต่มันทำเป็นซ่องโจร
จากระเบิดมหาภัย เป็นเปลวไฟที่ลุกโชน
ดินชะอุ่มเป็นหลุมโคลน ทุกตารางบนแผ่นดิน
บ้านแตกสาแหรกขาด ด้วยอุบาทว์จากเครื่องบิน
เสียงร้องไห้ จะมีใครยิน นอกจากเราประชาชน (รับสร้อย)
3 ประเทศไร้เอกราช เพราะถูกต่างชาติมันมาครอบงำ
ฐานทัพนั่นเลวระยำ มันเหยียบย่ำมันทำลาย
จักรพรรดินิยมชั่ว เถอะ ไสหัวมันออกไป
ชูธงประชาไทย ผสานใจเป็นสายธาร
ไปเถิด เจ้าการะเกด ไปเพื่อประเทศ ไม่เกินนาน
ใครฤา จะต้านทาน แรงมหาประชาชน (รับสร้อย)

ส่วนการขึ้นต้น ลงท้าย และลีลาการบรรเลง คนตีเครื่องหนังละแวกวัดเศวตฯ บางลำพูล่าง เป็นคนจัดการเรียบเรียง ขึ้นต้นก็ใช้เพลงสำเนียงลาวสั้น ๆ เพลงหนึ่ง แล้วขึ้นต้นแอ่ว โอ่นอ...แล้วรับสร้อย แล้วจึงเดินเนื้อหาตามที่กล่าวแล้วข้างต้น

ที่เปลี่ยนคำว่า “เมีย” เป็นคำว่า “ใคร” ในสร้อยของเดิมนั้นเพราะได้รับการทักท้วงจากผู้ร่วมวงซึ่งเป็นสตรีว่าคำว่า “เมีย” นั้นดูไม่สุภาพ และจะกด ๆ สตรีเพศอยู่บ้าง ทั้งความหมายก็คับแคบ ก็เลยเปลี่ยนคำว่า “เมีย” เป็นคำว่า “ใคร” ตามความรับรู้และความเข้าใจของพวกเราในยุคนั้น

เพลง “การะเกด” ก็กลายมาเป็นสัญญลักษณ์ในการต่อต้านอเมริกา ต่อสู้เพื่อเอกราชประชาธิปไตยของไทยอย่างมีพลัง ทั้งรูปแบบและเนื้อหา

ต่อมา เพื่อน ๆ ที่อยู่นาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็ได้นำเพลงการะเกดไปใส่ท่ารำ ก็กลายเป็นนาฏศิลป์ชุดแรก ๆ ของขบวนการประชาชน

หลังจากนั้นวงต้นกล้าก็ได้รับการติดต่อให้เล่นในการชุมนุมต่าง ๆ มาโดยตลอด ท่านเนาวรัตน์และท่านสุจิตต์ก็ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา

โดยเฉพาะท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้กลายมาเป็นสมาชิกอาวุโสของวงต้นกล้า ต่อมา คนที่เข้าร่วมวงต้นกล้าก็ไม่เฉพาะแต่นักดนตรีในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เท่านั้น นักดนตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยาลัยพาณิชยการ นักเรียนโรงเรียนมัธยมต่าง ๆ กระทั่งกรรมกรจากโรงงานปูนซีเมนต์ซึ่งเป็นมือระนาดเอก

หลังจากนั้น กระแสการต่อสู้เพื่อเอกราชประชาธิปไตยเขม็งเกลียว ทางด้านวัฒนธรรม มีการศึกษาข้อเขียนของ จิตร ภูมิศักดิ์ ที่ว่าด้วย ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน มีการตีความ จำแนกแจกแจงด้วยบรรยากาศคึกคักฮึกห้าวยิ่งนัก

ประมาณเดือนพฤษภาคม 2518 มีการจัดมหกรรมดนตรีเพื่อชีวิต ครั้งที่ 1 ขึ้นที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี วงต้นกล้าเป็นวงหนึ่งที่ได้ร่วมมหกรรมครั้งนั้น

เพลงที่เล่นก็เป็นเพลงของวงต้นกล้าเองซึ่งมีจำนวนพอสมควร เช่น การะเกด แร่ไทย แร่ใคร(ซัดอเมริกัน) ใบไม้ป่าฯ ผสมกับเพลงของวงเจ้าพระยาบางส่วนตามเคย เช่น หนุ่มสาวเสรี เจ้าขุนทอง เป็นต้น






การะเกดเวอร์ชั่น 14 ตุลา ดุเดือดไปนิด แต่ปลุกใจรักชาติได้ดี




...........เพลง การะเกด ..........


ขับร้อง//รังสิต จงฌานสิทโธ

บรรเลง-วง ต้นกล้า-

คำร้อง อานันท์ หาญพานิชพันธุ์

เมื่อ ธันวาคม พ.ศ. 2518

เจ้าการะเกดเอย ... เจ้าขี่ม้าเทศ จะไปท้ายวัง
ชักกริชออกมาแกว่ง ... เอ๋ย ว่าจะแทง ฝรั่ง
ใครห้าม ก็ไม่ฟัง ... เจ้าการะเกดเอย

เจ้าการะเกด เขาไปแล้ว ... เป็นทิวเป็นแถว ทุกแห่ง
ไปตาม ตะวันสีแดง ... ที่สาดทั่วแผ่น ดินไทย
ไปกับกริช คู่มือ ... กระชับถือด้วยมั่นใจ
เลือดใคร ก็เลือดใคร ... คงจะได้นองปฐพี
แผ่นดิน ถิ่นกำเนิด ... ตั้งแต่เกิด มาจนเป็นผี
ไอ้กันมันกล้า มาราวี( ... ไอ้อัปรีย์ จัญไร) ทำย่ำยีวุ่นวาย

เจ้าการะเกดเอย ... เจ้าขี่ม้าเทศ จะไปท้ายวัง
ชักกริชออกมาแกว่ง ... เอ๋ย ว่าจะแทง ฝรั่ง
ใครห้าม ก็ไม่ฟัง ... เจ้าการะเกดเอย

จากอุบลราชธานี ... มาถึงตาคลี อู่ตะเภา
น้ำพองนั่นเป็นของเรา ... แต่มันทำ เป็นซ่องโจร
จาก ระเบิดมหาภัย ... เป็นเปลวไฟที่ลุกโชน
ดินชอุ่ม เป็นหลุมโคลน ... ทุกตารางบนแผ่นดิน
บ้านแตก สาแหรกขาด ... ด้วยอุบาทว์ จากเครื่องบิน
เสียงร้องไห้ จะมีใครยิน ... นอกจากเรา ประชาชน

เจ้าการะเกดเอย ... เจ้าขี่ม้าเทศ จะไปท้ายวัง
ชักกริชออกมาแกว่ง ... เอ๋ย ว่าจะแทง ฝรั่ง
ใครห้าม ก็ไม่ฟัง ... เจ้าการะเกดเอย

ประเทศไร้เอกราช ... เพราะถูกต่างชาติมันมาครอบงำ
ฐานทัพนั่นเลวระยำ ... มันเหยียบย่ำมันทำลาย
จักรพรรดินิยมชั่ว ... เถอะ ไสหัวมันออกไป
ชูธง ประชาไทย ... ผสานใจ เป็นสายธาร
ไปเถิด เจ้าการะเกด ... ไปเพื่อประเทศ ไม่เกินนาน
ใครฤา จะต้านทาน ... แรงมหาประชาชน






















Create Date : 18 มิถุนายน 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 0:01:00 น. 3 comments
Counter : 2646 Pageviews.

 
เพลงยังไม่ขึ้นเลยคะ โหลดนานมากๆ

จะรอฟังค่ะฮันนี่ อยากฟังๆ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:0:19:06 น.  

 
โอ้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลและเพลงดีๆ ค่ะ

ฟังเพลงได้แล้ว

เคยฟังเพลงนี้มาก่อน แรงดีค่ะ


โดย: grappa วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:8:12:37 น.  

 
อยากได้เรื่องย่อการะเกดค่ะ


โดย: ศศิธร IP: 124.121.240.227 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:39:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นอกลู่นอกทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








ภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยา
ภาพสดๆจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก
Ban Na Song BKK, Thailand
Karon Beach , Phuket , Thailand
Federal Highway, Angkasapuri ,Pantai Valley , Malaysia
Delta Estate , Singapore
Malate ,Manila , Philippines
Bandar Seri Begawan , Brunei
Guangxi Guilin, China
달빛무지개분수(Banpo Bridge Fountain )Sin’gilsa-dong , Seoul , South Korea
Hong Kong skyline from Admiralty, China
Shiomidai , Kanagawa , Japan
Cable Beach, Broome, Western Australia, Australia
Keahua Hawaii , USA
Sacramento California, USA
Washington D.C., USA
Manhattan , New York , USA
McCulloch Kelowna, Canada
Niagara Falls , Ontario , Canada
Panama Canal , Bella Vista , Panama
Santiago de Chile , Región Metropolitana , Chile
Fairbanks, Alaska Forecast Arctic
Mar del Plata Buenos Aires , Argentina
Tasiilaq , Østgrønland , Greenland
London Skyline from the Sheraton Park Tower , Knightsbridge , United Kingdom
Trafalgar Square , London , United Kingdom
Eiffel Tower Paris, France
Harstad Nordland , Norway
Halsum , Svalbarð , Iceland
Amsterdam , Netherlands
Vatican City State, Saint Peter's Basilica Borgo , Italy
Berlin, Germany
Чебоксарский залив, Yakimovo, Chuvashia , Russia
Udaipur Lake Pichola , Rājasthān , India
Mount Everest , Junbesi , Sagarmāthā , Nepal
Cape Town Sanddrift, South Africa
Orpen , Richmond , South Africa
Abū Hayl Dubai , United Arab Emirates
Kairo, Egypt
Medhufushi, Maldives
Mawson station Antarctica

Profile Visitor Map - Click to view visits
หนังทุกเรื่องหรือเพลงทุกเพลงในบล็อกนี้ เป็นเจ้าของ ของลิขสิทธินั้นๆตามเจ้าของเดิม นำมาเพื่อแบ่งปันชมกันในหมู่เพื่อนพ้อง ชาวบล็อกแก้งค์เท่านั้นครับ....
ไม่สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 หากผู้ใดคิดจะ ลอกเลียน หรือนำส่วนใดส่วนหนื่ง ของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปเผยแพร่ ให้นำไปได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาต จขบ. แต่ต้องคัดลอกแจกจ่ายให้ครบ 50 ก็อปปี้ ไม่เช่นนั้น จะมีอันเป็นไป ต่างๆนานา ถึงขั้นชีวิตตกอับ อิอิ หากแต่ว่า..นำชื่อ จขบ. ไปใช้ในทางเสียหายหรือประจาน จะถูกดำเนินคดี ตามที่ กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด นะจ๊ะ
Friends' blogs
[Add นอกลู่นอกทาง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.