การสังเกตวันไข่ตกด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย

การตรวจการตกไข่
วิธีการเดียวที่จะบอกได้แน่ชัดว่าไข่ตกออกมาจากรังไข่ของผู้หญิงทุกเดือนหรือไม่คือการสังเกตการตกของไข่ออกมาจากรังไข่โดยตรง แต่ไม่มีวิธีการใดที่จะทำเช่นนั้นได้โดยไม่ต้องทำให้เกิดการบาดเจ็บ ดังนั้นความพยายามที่จะบอกวันที่ไข่ตกจึงทำได้เพียงการสังเกตอาการหรือผลที่เกิดจากกระบวนการตกไข่นั่นเอง ซึ่งได้แก่

การวัดอุณหภูมิกายพื้นฐานในตอนเช้า
การตรวจนี้มีพื้นฐานมาจากปัจจัยที่ว่า หลังจากการตกไข่ Corpus luteum จะหลั่งฮอร์โมน Progesterone ออกมา ทำให้ระดับ Progesterone ในเลือกสูงขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย (ประมาณ 0.5 °C) เมื่อผู้หญิงวัดอุณหภูมิร่างกายตนเองทุกวัน โดยปกติจะแนะนำให้วัดในตอนเช้าเมื่อตื่นนอนขึ้นมาทันทีก่อนลุกจากเตียง และบันทึกอุณหภูมิร่างกายไว้ทุกวัน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิร่างกายก็จะทราบวันไข่ตกได้ การเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิ
นี้จะยังคงอยู่เป็นสิบวันก่อนที่จะลดลงสู่ระดับปกติในรายที่ไม่เกิดการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้การตรวจนี้เกความผิดพลาดได้ เช่น การที่ผู้หญิงมีอุณหภูมิกายสูงขึ้นจากสาเหตุอื่น หรือมีไข้ หรืออาจเป็นวิธีการที่ยากในการแปลผล อีกทั้งวิธีนี้ไม่ได้บอกวันที่ไข่จะตกล่วงหน้า แต่ได้บอกว่าไข่ตกไปแล้ว 1 หรือ 2 วันก่อนหน้านี้ ทำให้เกิดความลำบากในการที่จะมีเพสสัมพันธ์ให้ตรงวันได้ อีกทั้งการที่ผู้หญิงไม่ได้มีอุณหภูมิกายสูงขึ้นในช่วงที่ไข่ตก ไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีไข่ตก แต่ในความเป็นจริงแล้วมากกว่า 50 % ของผู้หญิงทั่วไปไม่มีอุณหภูมิกายสูงขึ้นในช่วงหลังไข่ตกแต่มีไข่ตกตามปกติเมื่อได้รับการตรวจด้วยวิธีที่เชื่อถือได้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า วิธีการวัดอุณหภูมิกายพื้นฐานนี้เป็นวิธีการที่ให้ความน่าเชื่อถือได้น้อย ความผิดพลาดสูง สามารถได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆมาก และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือวิธีการนี้ส่งผลให้ผู้หญิงเกิดความเครียด ดังนั้นด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้การวัดอุณหภูมิกายพื้นฐานจึงไม่สนับสนุนให้นำมาใช้อีกในปัจจุบัน

Create Date : 18 สิงหาคม 2553		1 comments
Last Update : 18 สิงหาคม 2553 9:38:39 น.
Counter : 853 Pageviews.
Share Tweet