จงยิ้มเถิดน้องสาวเจ้าผมนิ่ม เพราะรอยยิ้มเจ้าเติมแต้มโลกแจ่มใส
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
26 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
เที่ยวเกาะอังกฤษ วันที่ 1: ....ลอนดอน โอ๊ยกว่าจะไป

บล็อกนี้เป็นบล็อกแรกที่เขียนเรื่องการท่องเที่ยว ฉันเที่ยวเก่งมาก (ใครไม่ชอบเนาะ) เงินทอง (ใช้แรงงานไถนา......แลกมาในแลป) ไม่เคยจะเหลือเก็บ เพราะละลายไปกับการท่องเที่ยวเสียหมด ปกติในหนึ่งปีจะลาพักผ่อนนานๆ 2 ครั้ง คือ สงกรานต์กลับบ้านเมืองไทย 3 สัปดาห์ และอีกหนึ่งสัปดาห์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่สเปน ที่เหลือก็จะเป็นทริปเล็ก ทริปน้อย หลอยไปเอา รวมเสาร์-อาทิตย์เป็น 3-4 วันอย่างนี้เป็นต้น (หลอย แปลว่า แอบๆ ขโมยๆ )


ปีนี้เที่ยวน้อย ไม่ได้มีวันลาพักผ่อนจริงๆ จังๆ เพราะงานท่วมหัว บ้านเมืองไทยก็ไม่ได้กลับ มีแต่เดินสายไป conference แล้วเลยไปเที่ยวตอนเสาร์-อาทิตย์ หลังเลิกประชุมอย่างนี้แหละค่ะ


นี่เป็นครั้งแรกที่อาจหาญขึ้นไปอังกฤษ อยู่มานานไม่เคยไปเลย เพราะมันไม่อยู่ใน shenken ต้องเสียค่า วีซ่า (งก) เห็นมันมีสัมนาเชิงเภสัชที่อังกฤษ เลยเอาล่ะวา ขอไปฟังซะหน่อยซิ จะได้เลยไปเที่ยวด้วย (ยังสงสัยอยู่ว่าอะไร คือ เป้าหมายหลัก แหะ แหะ )

กว่าจะได้วีซ่ามา ก็ต้องสู้ชีวิตเหลือแสน เสียเงินไปบานตะเกียง ( อย่างที่เล่า ระบาย และด่ากราดมาแล้ว ในบล็อก ก่อนๆ ) ถึงวันจะไปจริงๆ ก็เก็บๆ กระเป๋าไปด้วยอารมณ์เซ็งๆ เพราะ แผนการที่ไม่เป็นไปตามแผน ทำให้การทำงาน และความอยากเที่ยวสะดุด อย่างแรง แต่ก็ต้องไป เพราะลงทุนไปเยอะแล้ว จะเสียเปล่าไม่ได้ สู้ค่ะ.....

วันเสาร์ที่ 8 กันยายน 2550

กุสุมาก็ลากสังขารกระเซอะกระเซิง ไปสนามบิน Leipzig Altenburg จับเครื่องบิน low cost ที่ชื่อ Ryanair ไปลง London Stansted.... ลงเครื่องแล้ว ต้องไปต่อแถวตรวจคนเข้าเมือง ข้อดีของการเป็น non EU national คือ แถวไม่ยาวค่ะ มีแค่ 5 คนแค่นั้นเอง ขณะที่ EU national รอกันเป็นกิโล (...พยายามมองหาข้อได้เปรียบ......สุดฤทธิ์)

หลังจากตอบคำถามคุณป้า ตม. เยอะมากๆ ป้าก็ปล่อยให้ "หญิงดำ" เข้าพรมแดน UK วุ้ย เริ่ดซะ ประเทศนี้ หลุดเข้าพรมแดนได้ ก็ต้องคิดเรื่องเงินๆ ทองๆ เพราะฉันเป็นคนเลินเล่อ และเซ่อเรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างแรง โดยเฉพาะ ถ้าจะต้องแลกเงิน ฉันไม่รู้ว่าฉันต้องดูค่าไหน We buy หรือ ว่า We sell เคย เสียหมามาแล้ว ที่ปราก....... ไม่อยากจะเสียสุนัขอีก (เมืองผู้ดีอ่ะนะคะ ต้องพูดจาสุภาพ......) เลยตัดสินใจไม่แลกแล้วกัน ใช้วิธีกด ATM ดีกว่า เพราะ electronic rate แบบไม่มีค่าบริการ คุ้มกว่าแลกเงินอย่างไร้สติ(แบบเฉพาะตัวของฉันค่ะ) แน่นอน


ออกจากสนามบิน ต้องนั่งรถไฟเข้าเมือง มีรถไฟวิ่งทุก 15 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เพื่อไปถึง สถานีรถไฟที่เชื่อมต่อกับรถใต้ดิน คือ Liverpool street จาก Liverpool street ซื้อตั๋วรถใต้ดิน (เมืองผู้ดีเขาเรียกว่า tube เด้อ) แบบตั๋ววัน (ราคา 5 ปอนด์กว่าๆ ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและบัส zone 1,2 ซึ่งก็ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ล่ะค่ะ ตั๋วนี้ใช้ได้จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ซื้อนะคะ ไม่ใช่นับ 24 ชั่วโมง จากเวลาที่เริ่มใช้) จาก liverpool street ฉันนั่งธูป (tube) ไปออกที่ Nothing Hill gate แล้วสะเมอะสะเมิงไปต่อ รถบัส กว่าจะไปถึงที่พัก คือ หอพักสำนักงาน ก.พ. ที่สถานฑูตไทย ตรงข้ามกับ Hyde Park ใกล้ๆ กับ โรงละคร Royal Albert hall ค่ะ


ที่เขียนมาเล่าเป็นฉากๆ นี่ใช่ว่าอิฉัน ชำนาญมาก นะคะทุกท่าน เนื่องจากก่อนไปอุปสรรคเยอะจัด ฉันไม่มีเวลาเตรียมตัวศึกษาอะไรมากมาย แผนที่ซักใบยังไม่มีเลย ค่ะ ไอ้ที่เดินทางไปได้ ก็อาศัย การค้นหาเส้นทางจาก internet ไม่ได้ print ออกมาด้วย ว่าต้องผ่านกี่ป้าย หน้าตาเป็นไง จดมาแค่ขึ้นป้ายไหน ลงป้ายไหน แล้วไปนั่งลุ้นระทึกบนรถเมล์ 2 ชั้น รออ่านป้ายตอนจะลงเอาค่ะ


นึกอัศจรรย์ใจในความ เซ่อของตัวเอง งานนี้ก็ใช้สัญชาตญาณดิบ บวกกับความถึกล้วนๆ โชคดีที่เดินทางคนเดียวเป็นประจำ (ไม่มีใครคบล่ะค่ะ) เลยได้ฝึกฝนการพึ่งพาตัวเอง และสังเกตการณ์ พร้อมป้องกันตัวเองจากพวกนักล้วง (กระเป๋า) ไปด้วย (เส้าหลิน จริงๆ เลย) กระนั้นก็ใช้เวลาทั้งหมดเกือบ 2 ชั่วโมง กว่าจะถึงที่พัก โทรมสุดขีด


บรรยากาศมหานครลอนดอนวันนั้น เป็นใจยิ่งนัก อากาศแจ่มใส อุ่นสบาย ที่ Hyde park ผู้คนออกมาเดินเล่น จูงหมา เลานจานร่อน จ๊อกกิ้ง ท่าทางเป็นสุ้ข เป็นสุข หากเทียบกัยเยอรมนี ช่วงก่อนที่ฉันจะเดินทาง ฟ้าเป็นสีเทา ฝนตกตลอด ตกทุกวัน ทั้งหนาวทั้งเปียก ตัวฉันเองก็เป็นหวัดงอมแงม เพราะเดินทางรอนแรมไปหลายที่ พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายหญิงถึก ก็มีทนไม่ไหว เหมือนกัน เลยป่วยไปเลย


สภาพการปรากฏกายของฉันในมหานครลอนดอน ชวนให้นึกถึงข้อสอบ ประเภท "ข้อใดไม่เข้าพวก" เป็นอย่างยิ่ง เพราะสาวๆ เมืองกรุงทั้งหลายเดินกันขวักไขว่ ใส่เสื้อสายเดี่ยว กระโปรงบานพริ้ว รับลมร้อนกันสุดๆ แต่แม่ป้าหน้าดำ นี่ ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาปึ๊ก พันผ้าพันคอ หัวหูกระเซอะกระเซิง หน้ามันเยิ้ม ลากกระเป๋าเดินทาง สะพายกระบอกโปสเตอร์ โอ้ คุณพระ ช่างน่าเอน็จอนาถเสียนี่กระไร หน้าไม่สวยแล้วยังฆ่าตัวตายด้วยการไม่ดูแล look ของตัวเองอีก เวรกรรม...


พอถึงที่พัก ฉันก็หมดเรี่ยวแรงจะเดินเตร็ดเตร่ เพราะเหนื่อย โก๊ดๆ หนึ่งในคติที่ยึดถือมาเป็นเวลานาน คือ "ไม่ไหว ไม่ฝืน ช่างมัน โอกาสหน้ายังมี" เพราะฉันไม่ชอบการไปเดินจิ้มจุ่ม ลวกจิ้ม ผ่านๆ ไปวิ่งลงไปถ่ายรูป กับสถานที่สำคัญ แล้วก็ไปต่อ แบบเร็วๆ ให้ได้เยอะๆ เพราะมันเครียด เหนื่อย และไม่ได้ชื่นชมอะไรเลย


ไมค์ เคยบอกว่า ฉันเป็นคนที่มีพฤติกรรมแบบ " all or nothing" ประมาณว่า ถ้าไม่ได้อย่างใจทั้งหมด ก็จะไม่เอาเลย (ไม่เสมอไปนะคะ เพียงแต่ฉันก็ชอบมีเกณฑ์อะไรบ้าๆ บอๆ ของฉันไปเรื่อยแหละ) ส่วนนังคุณบง เพื่อนรัก ก็จะชอบบ่นและด่า ว่า " กรูละเบื่อ มีเพื่อนเป็นศิลปินเนี่ย" อ้าว


คืนนั้นแทนที่จะไปเฉิดฉาย ชมกรุงยามราตรี ฉันก็เลือกที่จะนอนตายอยู่ที่หอพัก ยกการชมลอนดอนไว้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ (ไกลตัวเชียว) คุยกะน้องนักเรียนไทย ที่เข้าพักห้องเดียวกันไปเพลินๆ ว่าอังกฤษกะเยอรมันมันต่างกันยังไง แล้วโทรศัพท์ฉันก็ดัง กริ๊ง กริ๊ง...... มองหน้าจอ ว่าใครโทรมา ต๊าย ตาย กิ๊กเก้..... นี่นา เพื่อน love อีกคนของฉัน เป็นหนุ่ม เม็กซิกัน ที่ขาดการติดต่อกันมาเป็นปีๆ ถามทุกข์สุข และการผจญภัย และทรมานบันเทิงในการเรียน ปริญญาเอก คุยมา คุยไป แบตหมดค่ะ ซวยอย่างยิ่ง เพราะฉันไม่มี adapter เสียบที่ชาร์ตแบต (ปลั๊กด๋อยแลนด์ กะปลั๊กอังกฤษมันไม่เหมือนกัน) เจริญจริงๆ แล้วจะติดต่อกะคุณเพื่อนบงได้ไงเนี่ย


ก็ยกเรื่องของโทรศัพท์ไว้ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน ตกกลางคืน ฉันเริ่มหิวมากๆ เลยชวนน้องไปหาอะไรกิน (จริงๆ น้องเขาใจดีพาไปน่ะค่ะ เพราะฉันไปเองไม่เป็นหรอก) เดินออกจากหอไปไกลมาก จนถึงย่าน Kensington High Street มองป้ายราคา อีหยัง อีหยังกะแพงไปหมด (เพราะมันต้องคูณ 1.5 ยูโรนิ) ลงท้ายเลยกิน McDonald เพราะเดินกันจนหมดแรงแล้ว (นี่ก็ถือว่าเสียเหลี่ยม อย่างแรง เพราะฉันไม่ชอบกิน fast food ค่ะ หากต้องจ่ายในราคาพอๆ กัน ฉันจะไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนแทน)


มีน้องใจดีพาไปหาที่กิน แต่ปัญหาของฉันยังไม่จบค่ะ ฉันเอ๋อ รับประทานกับ British English มากๆ ฟังคนขายพูดแล้วต้องนึกอยู่ครู่หนึ่ง ถึงจะเข้าใจว่าเขาหมายความว่ากระไร ปกติจะชินกับสำเนียงอเมริกันมากกว่า เพราะคนที่แวดล้อมเนี่ย มากจาก California กันทั้งน้านนน..... (หรือจะเอาให้ชินอย่างแรง ต้องสำเนียงเยอรมัน ฮิ้วววววว)



แทะไก่ไปเพลินๆ ก็มองสาวชาวกรุงแต่งตัวออกมาเที่ยวผับ โห เจริญหูเจริญตาจริงๆ แต่งตัวกันสวยทุกคน สวมเดรส รองเท้าส้นสูงปรี๊ด แต่งหน้าเช้ง ศิวิไลซ์ดีแท้ อย่างนี้หาดูมิได้ในเยอรมนี หรือ จะเอาให้จะๆ คือ หมู่บ้านแมวดิ้นตาย ที่ฉันอาศัยอยู่นะคะ ลำพังใส่เสื้อสีสันสดใส แบบหญิงไทยธรรมดา แบบไม่แต่งหน้าทาปาก ประชาชนก็มองแบบตื่นๆ กันแล้ว (ไม่รู้ตื่นตะลึงในความงามของฉัน หรือตื่นกลัว กร๊ากกกกก)



กินอิ่มแล้ว ขากลับเริ่มมีอารมณ์สุนทรีย์ ชมเมือง ลอนดอนสวยจริงๆ ตึกราม บ้านช่อง ก่อสร้างจัดวางได้งดงามดีแท้ ตกดึกมีคนเดินแค่ประปราย น้องบอกว่า "ที่พอจะเดินได้ เพราะมันดึกแล้วนะคะ กลางวันนี่คนมันเยอะมากๆ น่าเวียนหัว" เดินผ่านโรงละคร Royal Albert Hall เปิดไฟสว่างดูขลังและอลังการอย่างยิ่ง คืนนั้น โซปราโนสาว Anna Netrebko มาร้องเสียด้วย คนไร้ทรัพย์อย่างอิฉันก็ได้แค่รับรู้ผ่านจอ ทีวี ล่ะค่ะ



คืนนั้นกินยา ลดน้ำมูก เข้านอน แล้วก็หลับเป็นตาย...... อ้อ.... วันนี้ทั้งวัน กุสุมาไม่ได้ถ่ายรูปเลย แม้แต่ใบเดียว




ชมรูปภาพ โปรดติดตามตอนต่อไปเด้อค่ะ ต่อไปจะพล่ามน้อยๆๆๆ เน้น รูปๆๆๆๆ(เมื่ไหร่ ก็เมื่อนั้นนะคะ อิอิ)


Create Date : 26 กันยายน 2550
Last Update : 26 กันยายน 2550 1:34:31 น. 9 comments
Counter : 630 Pageviews.

 
อังกฤษเขาหยิ่งครับ
เขาง้อแพคเกจเชงเก้น..

แต่ถึงไม่อยู่ในเชงเก้น
ยังไงก็น่าไปเยือนแน่นอนคัรบ
ที่สะดวกๆ จากแผ่นดินใหญ่ยุโรป
ผมว่าเข้าฝรั่งเศสแล้วมุดลงใต้ทะเลไปโผล่บนแผ่นดินเกาะอังกฤษ ก็ไม่เลวนะครับ



โดย: กุมภีน วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:10:09:01 น.  

 
มีรุ่นพี่อยู่ที่อังกฤษหลายคน .... กะว่า ถ้ายากดีมีจน จะไปอาศัยเป้นสาวเสิร์ฟอยู่ที่นั่นค่ะ

เล่าเรื่องน่าสนุกดีนะคะ



โดย: กระจ้อน วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:12:54:03 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:11:21:28 น.  

 
อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจังงงง
มีความสุขมาก ๆ นะคะ

แล้วก็มาทวงต้นฉบับด้วยค่ะ
เขียนอธิบายไว้ในไดแล้วนะคะ
ว่าเขียนอะไรยังไง
ลองเข้าไปอ่านดูนะ


โดย: me (ดอกรักเร่ ) วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:20:43:10 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ปอขา หนูโผล่มาจากหลุมมาเยี่ยมพี่ปอแล้วค่า
ตามพี่ปอไปเที่ยวอังกฤษ(แบบกระเซอะกระเซิง)
พี่ปอกับกระต่ายเหมือนกันมากเลยจริงๆค่ะ
เวลาไปไหนมาไหนจะเป็นแบบพะรุงพะรัง
เสื้อผ้าหน้าผมข้าวของเยอะแยะวุ่นวายไปหมด


อ่านๆไป ตอนแรกๆกะจะทวงรูปอยู่เลยนะคะเนี่ย
แต่สุดท้ายเห็นพี่ปอบอกว่า ไม่ได้ถ่ายรูป แฮ่..
อดดูเลย จะรอบลอคหน้าก็แล้วกันนะคะพี่ปอขา


โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:20:17:28 น.  

 
พี่ปอขา เล่น msn ไม๊อ่ะคะ
ถ้าเล่น หนูขอแอดหน่อยนะคะ
เอาไว้เม๊าท์กันว่างๆค่ะพี่ปอ


โดย: กระต่ายลงพุง วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:20:21:36 น.  

 
email เรานะ piiung@hotmail.com


โดย: มาอีกรอบ (ดอกรักเร่ ) วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:20:26:11 น.  

 
หวัดดีค่ะ พี่ปอ

อ่านที่พี่ปอไปเที่ยวแล้วชักอยากไปเที่ยว ไหน ๆ มั่งอ่ะ ตอนนี้เปิดเรียนแล้วไม่ได้ไปไหนเลย (มีการบ้านตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน)

รออ่านต่ออยู่นะคะ


โดย: Conglomerate วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:4:33:02 น.  

 
พี่ปอ รี่อ่านซะเพลินเลยค่ะ จบซะแล้ว
รออ่านตอนต่อไป
อ่านเรื่องลอนดอนแล้วก็คิดถึงลอนดอนจัง


โดย: ShiEri วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:14:19:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

O_Sole_mio
Location :
TH Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add O_Sole_mio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.