จงยิ้มเถิดน้องสาวเจ้าผมนิ่ม เพราะรอยยิ้มเจ้าเติมแต้มโลกแจ่มใส
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
30 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

มีทั้งเรื่องไม่สบายใจ...เรื่องดีใจ....โล่งใจและน่าใจหาย.....แต่เราต้องสู้ต่อไป

เดือนที่ผ่านมามีเรื่องเยอะแยะ (เยอะตลอดแหละ ที่จริง เพราะเป็นคนชอบหาเรื่องนิ) ทั้งเรื่องไม่ค่อยชอบใจ เรื่องดีใจมากๆ เรื่องชวนโล่งใจ แล้วก็เรื่องชวนใจหาย เห็นเลย ว่า ชีวิตมัน สุข-ทุกข์ ปะปนจริงๆ

เรื่องไม่สบายใจ.....

ก็ไม่เชิงว่าไม่พอใจใคร หรือเลวร้ายมาก แต่ถ้ามันไม่เกิดชีวิตจะสงบสุขกว่านี้ ไม่มีอะไร .......แค่มีเพื่อนใหม่ (ใหม่มากๆ) อีเมลมาบอกว่า
"ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อน"

บอกแค่นี้ก็ชวนลำบากใจแล้ว เพราะเรา.....

"อยากเป็นแค่เพื่อน" และ "ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เป็นเพื่อนนี่จะเป็นได้ไหม"

ที่ชวนลำบากใจยิ่งกว่า คือ....เขาเข้าใจว่า
"เราคิดตรงกับเขาในตอนแรก แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเราคงไม่..."

ก็ อึ้ง แกม โมโห เพราะรู้สึกเหมือน ถูกผู้ชายด่า...... ว่าไปให้ความหวังเขา แล้วหักอก ...... แต่เราว่า.....เราก็ทำตัวปกติ แต๊ด แต๋ หลั่นล้า อย่างนี้กับทุกคน ไม่ว่า ผู้ชาย ผู้หญิง .... (สงสัย นิสัย friendly จะทำพิษ อีกแล้ว) ยังไม่ทัน จะ ทำใจข่มความหงุดหงิด... ร่อนมาอีกฉบับ ....
"ตกลง คิดยังไงกับฉบับที่แล้ว ตอบด้วย"
....เซ็ง ทับทวีคูณเลย.........ไม่ชอบคนมาเซ้าซี้อ่ะ.....เข้าใจถูกหมดแล้ว จะมาตะแบง เอาอะไร.....งง อ่ะ...หงุด หงิด ด้วย... รอจนหายหงุดหงิด....ตอบจดหมาย
"ไม่ได้คิด ถ้าทำให้เข้าใจผิด ขอโทษด้วย ถ้ารู้แล้วว่าคิดยังไง ไม่อยากเจอหน้ากัน ก็ไม่เป็นไร เลือกแบบที่เธอสบายใจได้เลย"
........ตอนนี้เหรอ....เลิกพูดกันไปแล้ว.... รู้สึกไม่ดีนะ ถ้าเราเป็นคนทำให้คนอื่นเสียใจ อ่ะ แต่มันก็เป็นความจริงสิ่งเดียวที่ให้ได้ I'm sorry อ่ะ ใช่ก็คือใช่ ไม่ก็คือไม่ คนเราก็ต้องซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองนี่นา....

หลังจากเกิดเรื่องไม่ชอบใจ ก็เกิด อาการเบื่อ ....พวกผู้ชาย.... ท่านสุภาพ บุรุษเพื่อนบล็อก อย่าเพิ่งโกรธนะคะ ฉัน หมายถึง เบื่อพวกผู้ชายฝรั่งน่ะค่ะ....เห็นอีหน้าดำ (อย่างฉัน) ยิ้มให้ นี่คิดว่า ทอดสะพานกันไปหมดหรือไง.....หรือการสะกดจิตตัวเอง ว่า "กรูสวย" จะได้ผล จนไป effect ชาวบ้าน (คิดได้ไงวะเรา มุขนี้ อุบาทว์จริงๆ ) จบเรื่องนี้ดีกว่า....


เรื่องดีใจ.....

ก็คือ ได้ติดต่อกับเพื่อนๆ สมัยที่มาอยู่เยอรมันแรกๆ เป็นเพื่อนเรียนภาษาด้วยกันน่ะค่ะ ฉันเป็นคนไทยคนเดียวในกลุ่ม คนละติน ทุกคนน่ารักมาก แล้วก็ดีกับฉัน ต่างบ้านต่างเมืองมาด้วยกัน ก็ ช่วยเหลือ .... มีความไม่เข้าใจกันเรื่องภาษาและวัฒธนธรรมบ้าง แต่ก็รักใคร่กลมเกลียวกัน ห่วงใยกันเหมือนครอบครัว ....ฉันรู้สึก สบายจะและมีความสุขมาก เวลาอยู่ท่ามกลางคนละติน....แยกกันไปเรียน ป.เอก แรกๆ เราก็ติดกันแจ แต่หลังจากความเครียดถาโถม ก็เริ่มห่างๆ กันไปมาก

ฉันก็อารมณ์แปรปรวนปฏิเสธสังคมเป็นครั้งคราว (จริงๆ แล้วบ่อยครั้ง) บางทีก็ทำตัวเอาแต่ใจ หรือ ทำตัวน่าโมโห น่าเขกกระบาล เช่น .....

- โทรมาไม่รับสาย เพราะกำลัง สติแตก..... ปฏิเสธสังคม.... หรือ...
- ไม่ปรากฏกายในงานแต่งงาน และงานจบการศึกษาของเพื่อน.... หรือ....
- เอาแต่ติสต์แตก จนไม่รู้ว่า เขากลับประเทศไปแล้ว โดยไม่ได้แม้แต่เอ่ย คำ ลา Aufwiedersehen Adios
ช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเวลาดีๆ ที่เพื่อนๆ โทรมาหาฉัน เราติดต่อกัน และรับรู้ความเป็นไปของกันและกันมากขึ้น คุยกัน อีเมลกัน แล้วก็รู้สึก ว่า....

"นี่แหละ เพื่อนของเรา จริงๆ เพราะ ความรู้สึกดีๆ ที่มีมันไม่จางลง ด้วยความห่างของระยะทาง และเวลา"

ฉันดีใจนะ ที่แม้ว่า ฉันจะทำตัวเยิน แค่ไหน ทุกคนยังใส่ใจ ห่วงใยฉัน.... ขอบคุณมากนะ Maria, Julio, Luis และ Tatiana..... (ข้อสังเกต ....ตอนนี้ทุกคนมีครอบครัว กันหมด แล้ว เหลือฉันโสดอยู่คนเดียว กร๊ากกกกก....สมน้ำหน้า วันๆ มัวแต่ติสต์แตก......)


เรื่องชวนโล่งใจ....

ก็คือ เดือน ก.ย. ที่ตารางชีวิต แสนจะยุ่งเหยิง กำลังจะผ่านไป ฉันต้องทำงานหลายอย่าง เดือนนี้นอกจากการทดลอง แล้วก็ต้องเตรียม present เยอะแยะ..... ทั้ง สัมนากลุ่ม.......... conference ที่อังกฤษ และ การประเมินจากคณะกรรมการที่จะจัดสรรงบประมาณให้กับ International Max Planck School ที่ฉันเป็นนักเรียนอยู่นี่ .....ทุกคนต้องช่วยกันสุดฤทธิ์

.....รวมเรื่องที่คุย scope งานกับบอส ว่าเมื่อไหร่ ฉันจะปิดแลปได้ซักที ตอนนี้ตกลงกันแล้ว ว่าถึงไหน (ยังอยู่ไกลลิบๆ) แต่ตัว boss เองก็พอใจกับ progess (ระดับเต่าคลาน พอสมควร ใจแกคงแยกจะลงแส้ เฆี่ยนเต็มทีแล้ว).....แต่ก็เร่งเรื่องเขียน thesis และ paper เหนื่อย เหมือนกัน แต่มันคงมีวันจบสิ้นซักวัน

ที่ทั้งโล่ง ทั้งลุ้น คือ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรามี internal symposium ในสถาบัน (วุ่นวายมากๆ ทั้งเดือนเลยฉัน) นอกจากนักเรียน ป.เอก ต้อง เสนอโปสเตอร์แล้ว เขาเลือกตัวแทนออกมาเป็น chair person ในช่วงของ lecture ด้วย Boss ฉัน เดินมาหา แล้วบอกว่า อยากให้ฉันทำ อ๊ะ ฉันก็ตอบ ตกลง โดยที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่า session ที่ฉันจะต้องปฎิบัติภารกิจ เขาจะพูดเป็นภาษาเยอรมัน....

โหย พอรู้นะ เครียดเลยอ่ะ พูดเล่นๆ เมาท์แตกก็พอไหว แต่แบบเป็นงานเป็นการ มันหนาวๆ อ่ะ...แล้วเป็น session สุดท้ายด้วย ก่อนปิดงาน .....นึกแล้วยังขำไม่หาย... หน้าเพื่อนร่วมงานที่เห็นฉันเดินออกไป แนะนำ speaker ที่หน้าเวที แบบแหยงๆ เขาทำหน้าประมาณว่า........ "อีหัวดำ หน้าดำนี่มันจะทำอะไรวะ"...... พอฉัน พูดออกไปเป็นภาษาเยอรมันเท่านั้นแหละ ทุกคนทำหน้าเหวอ ปนขำแกมทึ่ง (ประมาณว่า โอ้ ใยกล้า....) ฉันก็อายมาก แต่พยายามไม่หัวเราะ และไม่แลบลิ้นออกมา (โชคดีเอามือปิดปากไว้ทัน ) แต่ฉันก็จัดการผ่านพ้นไปได้

งานนี้คุณ organizer ปลื้มมากๆ ชมไม่ขาดปาก ( ที่ตลกคือ ตอนแรกแกไปชม ขวัญ เพราะแกจำผิดคน หน้าเอเชียเหมือนกัน 55555) ฉันก็เออๆ คะ ๆ ไปตามเรื่อง ฉันรู้สึกว่า ฉันดูเอ๋อมากในเวลานั้น....ส่วน boss ของฉันน่ะเหรอ 555555 เกิด idea บรรเจิด สนับสนุนว่าฉันน่าจะลอง พูด scientific lecture เป็นภาษาเยอรมัน.....ม่ายเอาแล้วค่า.....


เรื่องสุดท้าย ชวนใจหายอย่างแรง.....

ตอนนี้ฉันก็หายใจเข้า ออกเป็นเรื่องน่าใจหายเรื่องนี้....ไมค์จะไปแล้ว....ฉันเพิ่งรู้น่ะ ......... ฉันรู้เลาๆ ว่าไมค์จะย้ายกลับบาร์เซโลน่า แต่ตอนนั้นยังไม่แน่นอน ไมค์บอกว่า อาจจะเป็น เดือน ธ.ค. หรือ ไม่ก็ใบไม้ผลิปีหน้าไปเลย....ฉันก็หวังว่าเป็น ใบไม้ผลิปีหน้า เพราะเวลานั้น.....ฉันก็น่าจะใกล้ถึงฝั่ง Ph. D. ฉันก็คงอุ่นใจ ที่ไมค์ยังอยู่....... แต่นี่ กำหนดวันออกมาแล้ว ว่าจะไปกลางเดือน ธ.ค. ปีนี้ ฉันตกใจ ใจหายมากๆ ....บอกตอนไหน ไม่บอก มาบอกตอนที่ฉันกำลังยืนรอกรรมการประเมินอยู่หน้าโปสเตอร์....ไมค์เดินมา แล้วบอก

"นี่คู ฉันคุยกะ boss เธอแล้ว ว่าฉันจะอ่าน thesis ให้เธอ ทันทีที่เธอเขียนเสร็จ ฉันก็จะจัดการอ่านให้เธอทันที... แต่เธอต้องทำส่วนนี้ให้เสร็จก่อน ไม่งั้นฉันช่วยไม่ได้นะ"

ฉันยังอึ้งๆ ที่โดนจิก ก็มีเพื่อน โผล่เข้ามาแล้วบอก....

" เฮ้ ไมค์ ยูจะย้ายไป บาร์เซโลน่า เหรอ"

เท่านั้นแหละ นังกุสุมาก็ ฮ้า. ไม่จริงนะ ไม่จริงใช่ไหม.........โฮ โฮ โฮ....ฉันเศร้ามาก.....น้ำตาจะไหลเลยอ่ะ....น้ำตาคลอตาแล้วก็ด่ามันว่า....ทำกับฉันแบบนี้ได้ไง...ทำไมทิ้งฉันไปแบบนี้... แล้วฉันจะทำไงล่ะทีนี้.....หน้าตานี่.....ชนิดที่แบบ....ไม่ต้องเก็บกันแล้ว..... ความรู้สึก...... จะร้องไห้อยู่รอมร่อ....แต่ต้องรอกรรมการมาประเมินก่อน ทรมานจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฉันเศร้ามากเลยค่ะ........ ถึงมิตรภาพระหว่างเรา มันจะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอดปีกว่าๆ แล้ว แต่มันตัดกันไม่เคยขาดเลย....... ในความโกรธ เกลียด หรือเสียใจ กับเรื่องในอดีต ที่ฉันมีมาตลอด เนี่ย ฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่า เขาเป็นคนที่หวังดีกับฉันอย่างจริงใจ ..........และในอารามสะใจ หงุดหงิด โมโห สมน้ำหน้าแก..... ฉันก็ยังห่วงความรู้สึกของเขาตลอด .....และไม่เคยโกรธเกลียดได้นานเลยซักที (เพราะสุดท้าย ไปไหนไม่รอด ฮีก็เป็นคนยื่นมือ มาช่วยทุกทีอ่ะ)

ถึงมันจะทำร้องไห้ ก็มันแหละทุกที.... ที่เป็นคนปลอบใจ ....

มันวนเวียนเป็นเวรเป็นกรรมอยู่อย่างนี้ ....เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ที่ทั้งทิ่มแทง และทำให้อุ่นใจ พอๆ กันอ่ะ....คิดตลอดว่า .....เมื่อไหร่จะตูหมดเวรหมดกรรมกะมันซะที .......... พอมันจะต้องหายไป ก็เกิดอาลัย อาวรณ์ขึ้นมาซะอย่างนั้น..... โลกนี้มันไม่มีสมดุลเลยเนาะ.....

แต่ฉันจะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อเวลาจาก มันก็ต้องมาถึงซักวัน ดีใจที่รู้ล่วงหน้า สองเดือน ดีกว่า มาบอกตอนจะไป..... ฮือ ฮือ .....

-ต่อไปนี้ เวลามารับไปกินข้าวจะไปด้วย......
-เวลาไปไหนจะรีบรายงาน........ไม่ปล่อยให้มาตามหาเก้อ.....
-เวลาชวนไปไหน จะไม่เอาคนอื่นๆ ไปด้วยเป็นขโยง แล้วทำให้เธอกลายเป็นตัวประกอบ.....
-จะเป็นนักเรียนที่ดี ตั้งใจทำงาน ไม่อมพะนำเวลามีปัญหา.....
-จะเลิกปากมอม ทำให้เสียเซล์ฟ (ยากนะเนี่ย ปากมันไวอ่ะ)....
-จะรีบเรียน รีบจบไวๆ ไม่อยากอยู่แล้ว ที่เยอรมันเนี่ย.....

ถึงระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้ ก็อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี.....ทำได้หรือไม่ได้ก็ไม่รู้ อ่ะ รู้แต่ว่า อะไรที่ทำไม่ได้ ไม่ฝืน คง concept เดิม ฮ่า ฮ่า ฮ่า




 

Create Date : 30 กันยายน 2550
7 comments
Last Update : 30 กันยายน 2550 17:30:37 น.
Counter : 1057 Pageviews.

 

หวัดดีครับคุณปอ

หวัดดียามค่ำจากเชียงใหม่
คุณปอสบายดีนะครับ

หนุ่มคนนั้นคงไม่สบา่ย 555
เพราะเลือนชั้นเป็นเพื่อนสนิทไม่ได้ อิอิอิ

แต่เรื่องดีใจ ยังไงก็ขอให้พบเยอะๆนะครับ
ดีใจและโล่งใจเลย

มีความสุขมากๆนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 30 กันยายน 2550 19:17:33 น.  

 

 

โดย: null (kampanon ) 30 กันยายน 2550 19:28:29 น.  

 


โอว์ เรื่องแรกไม่สบายใจ กะเรื่องสุดท้าย ชวนใจหาย ไงไม่สลับคนกันนะ กุสุ

จะได้มีกำลังใจทำแลป แบบห้องแลปเป็นสีจุมพู

ที่จริง เรื่องแฟนในระดับที่ลึกซึ้ง ผมว่ามีตัวแปรมากเลยนะ ..ทางบ้าน การงาน วัฒนธรรม ฯลฯ ทั้งฝั่งเมืองไทย และ เมืองของเขา ...ถ้าให้ดี ควรจะได้ผลัดกันไปเยี่ยมเยียนบ้านเมืองและพูดคุยกันนานๆ น่าจะดี ไม่งั้นจะมีปัญหาภายหลัง


เรื่องชวนโล่งใจ ที่พูดบนเวทีเป็นภาษาเยอรมันน่ะ น่าจะเป็นเรื่องภาคภูมิใจมากกว่า ...เก่งนะ กุสุ ...เป็นตัวแทนสาวไทยและคนไทย ที่สมควรได้รับเสียงปรบมือ

 

โดย: yyswim 30 กันยายน 2550 20:04:09 น.  

 

คนเสน่ห์แรงนี่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ



เรื่องนายไมค์ ก็ขอให้เป็นความประทับใจดีๆ นะครับ เห็นด้วยว่าดีแล้วที่ได้รู้ก่อนสองเดือน ไม่ต้องไปรู้ใกล้ๆ ไม่อย่างนั้นคงจะช้ำใจแย่เพราะรับไม่ทัน

 

โดย: คนทับแก้ว 1 ตุลาคม 2550 10:04:03 น.  

 

พี่ปอขา แอบอัพบลอค ไม่บอกกล่าวอีกแล้น พลาดเลย
พอดีวันนี้หนุก็อัพค่ะ แวะมาเสนอหน้าได้แปบเดียว
กะว่าจะอ่าน แต่ไม่มีเวลาแล้ว บ่าย 3 จะออกไปข้างนอก
เรื่องานอ่ะค่ะ


กลับบ้านคืนนี้ค่อยอ่านให้จบดีกว่า ขอเม้นท์ไว้ก่อน ให้หายคิดถึงพี่ปอคะขาก่อนนะคะ จุ๊บคิส

 

โดย: กระต่ายลงพุง 3 ตุลาคม 2550 14:53:07 น.  

 

พี่ปอของหนูเสน่ห์แรงจัดมัดใจหนุ่มฝรั่งซะด้วย แต่ถ้าไม่ชอบก็เชิดเลยค่ะพี่ปอขา เราสวยเลือกได้ค่ะ


เรื่องที่สอง หนูเหมือนพี่ปอเลยค่ะ ชอบปลีกวิเวกจนเพื่อนๆจะเลิกคบแล้วเนี่ย ชวนไปไหนก็ไม่ไป


ส่วนเรื่องงานก็สู้ๆนะคะพี่ปอ จบเร็วๆ จะได้กลับมาเมืองไทยซักทีนะคะ

 

โดย: กระต่ายลงพุง 3 ตุลาคม 2550 19:34:35 น.  

 

ในที่สุดก้ได้รู้ซักทีว่านายไมค์นี่มันสำมะคันอันใดหว่า เป็นต้องมีชื่ออยู่ในเกือบทุกบล็อกของแม่นางกุสุมา

ที่แท้ก็... อิอิ

อย่าเพิ่งเศร้าไป คนเราหากคู่กันแล้วย่อมมิมีวันแคล้วคลาดจากกัน จากไปแล้วก็จะเวียนวนกลับมาเจอกันใหม่อยู่ร่ำไปนั่นแล...

 

โดย: ดอกรักเร่ (ดอกรักเร่ ) 6 ตุลาคม 2550 14:44:17 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


O_Sole_mio
Location :
TH Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add O_Sole_mio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.