Group Blog
 
 
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
เรื่องสั้น "ปอนด์ขายสมุด"

"เดี๋ยวเราอยู่ตรงนี้กันก่อนก็แล้วกัน พอร้านโรตีมาก็ค่อยย้าย"
ปอนด์พูดพลางกรอกตาไปมา ผมนิ่งไป ไม่รู้ว่าจะตอบหรือแสดงความเห็นอะไรออกไป
"...ครับ" สุดท้ายผมก็พูดอะไรออกไปบ้าง "เดี๋ยวโรตีมาเราค่อยซื้อกินกัน"
ปอนด์พยักหน้าหงึกๆ "ใช่แล้ว...เพราะเราเองก็อยากกินอยู่"
ปอนด์พูดจบก็ค่อยๆ นั่งลงบนผ้าปูส่วนที่หนังสือยังมาวางไม่ถึง ซึ่งก็เป็นแค่พื้นที่กระจิดริด ผมนั่งใกล้ๆ กับปอนด์โดยมีถุงพลาสติกเล็กๆ รองตูดอยู่

ปรกติปอนด์จะไม่มาขายสมุดในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะว่ายังเช้าไป ปรกติการมานั่งขายสมุดของปอนด์จะเริ่มประมาณหลัง 2 ทุ่มเป็นต้นไป ปอนด์ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ร้านแบกะดินอื่นๆ ก็จะเริ่มมาตั้งขายกันหนาตา เพราะฝรั่งและคนไทยจะเริ่มเที่ยวกันในช่วงดึกๆ

การขายของปอนด์จะสิ้นสุดหลังสี่ทุ่ม เนื่องจากว่าไฟที่ให้แสงสว่างข้างถนนจะดับลง ทำให้มองไม่เห็นอะไร แต่เจ้าแสงไฟนี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เพราะมันเป็นแสงสีเหลืองๆ ทำให้มองสีปกสมุดออกมาได้ไม่เหมือนกับสีที่มันเป็นจริงๆ นอกจากนั้น ปอนด์ยังต้องใช้เวลาในการเดินทางจากข้าวสารไปบางมดนานพอดู ยิ่งกลับดึกเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่ค่อยดีเท่านั้น

"หวังว่าวันนี้คงจะขายได้เกือบหมดนะ" ปอนด์รำพึงออกมา
"ถ้าขายดีจะขายได้แค่ไหนอ่ะปอนด์" ผมถาม
"ก็เหลือแค่ 6-7 เล่ม" ปอนด์พูดพลางรี่ตาเพราะใช้ความคิด ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ออกมา "แต่ถ้าขายหมดก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องแบกหนังสือไปไหนมาไหน"
คนเดินผ่านไปผ่านมา บางคนเหลียวมองดูแผงขายสมุดทำมือของปอนด์บ้าง แต่หลายคนเลือกที่จะผ่านเลย ปอนด์ดูสบายๆ เธอรู้ดีว่าบางครั้งมันก็เป็นเรื่องของการรอคอย

ผมรู้สึกว่าปอนด์เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งสวนทางกับรูปร่าง ที่ผอมบาง ผิวขาว และหน้าตาเจี๋ยมเจียม ดูไม่น่าจะแบกสมุดหลายเล่มหลายกิโลไปไหนมาไหนอย่างคล่องแคล่วได้เลย



แต่ปอนด์ก็สามารถทำอะไรได้หลายอย่างที่ต้องใช้กำลังเยอะๆ เช่น การเดินค้นหาหอพักเป็นระยะทางหลายกิโล ปอนด์ดูไม่ค่อยเหนื่อย เพราะในขณะที่ผมมีเหงื่อออกเต็มหน้าไปหมด ระหว่างเดินตะลอนกลางแดดไปด้วยกัน ปอนด์ปรากฎเหงื่อบนใบหน้าเพียงหนึ่งหยด และเป็นเฉพาะในตอนที่ทราบราคาของห้องพักแพงๆ พวกเราเดินทางไปด้วยกันตั้งแต่แถวราม ไปพระรามเก้า แล้วก็กลับไปราม แต่ปอนด์ก็เหงื่อออกมาแค่หยดเดียวเท่านั้น ปอนด์อาจจะไม่ค่อยได้กินน้ำ เลยไม่มีเหงื่อเยอะ หรือไม่ก็เหงื่อออกที่หลัง หรือไม่ก็เก็บน้ำได้ดีเหมือนต้นกระบองเพชร อืมมม

"วันก่อนสมุดขายได้แต่สีอื่นๆ สีชมพูกับสีแดงขายไม่ได้เลย"
ปอนด์รำพึงออกมาเบาๆ ผมไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกอย่างไรอยู่ บางทีเธออาจจะอยากให้สองสีนี้ขายได้บ้าง เพราะว่าเธอก็ตั้งใจทำเหมือนสมุดสีอื่นๆ ความรู้สึกที่เธอมีต่อสมุดสีชมพูกับแดงที่ขายไม่ได้ คงเหมือนตอนที่เธอขายสมุดที่มีลายเป็นเชือกถักไม่ได้ ปอนด์อาจจะรู้สึกเหมือนสมุดปกลายเชือกของเธอไม่เป็นที่ต้องการของตลาด จนกระทั่งมันขายไปได้บ้างแหละ ปอนด์ถึงมีกำลังใจทำต่อ

"คงใช้เวลาทำนานด้วยใช่ป่าว หมายถึงสีชมพูกับสีแดง" ผมถาม
"มันก็ไม่นานเหมือนเล่มอื่นๆ หรอก สมุดเชือกสิใช้เวลานานกว่า เพราะว่าต้องวาดเส้นลายด้วยดินสอก่อน แล้วค่อยมาเอาเชือกวางๆ" ปอนด์ตอบเบาๆ
"คนคงไม่อยู่ในอารมณ์รัก ถึงจะอยากได้สีชมพูกับสีแดง" ผมคาดเดา "แต่ก็เหมือนที่เพื่อนของปอนด์พูดไว้แหละ ว่า สมุดทุกเล่มย่อมมีเจ้าของๆ ตัวมันเอง และกำลังรอคอยเจ้าของอยู่"
เมื่อได้ยินผมกล่าวเช่นนั้น ปอนด์ก็ค่อยสดชื่นขึ้นมาบ้าง "ใช๋" ปอนด์ "นัททอนพูดถูก แต่ว่า เพื่อนเราพูดถูกสิ นัททอนพูดเหมือนเพื่อนเราต่างหาก"
เหงื่อหยดที่ใบหน้าผมหยึ่งหยด "เออ...อืมม"
"เดี๋ยวก็คงจะขายได้เองแหละ" ปอนด์พูดจบก็เบ่งกล้ามหนึ่งที


เรานั่งขายกันไปได้สักพัก ระหว่างที่สายลมร้อนพัดจนผมที่หยิกอยู่ของปอนด์ หยิกมากขึ้น จู่ๆ มีฝรั่งมาถาม ปอนด์ตื่นจากภาวะนิ่งเฉยมาสนใจฝรั่ง
"You can open it,it's ok" ปอนด์กล่าวกับฝรั่งระหว่างที่ฝรั่งยื่นหน้ามาใกล้ๆ แผงสมุด
"Emm...Where is the toilet?"
ปอนด์ได้ยินฝรั่งกล่าวเช่นนั้นก็อ้าปากเหว่อไป...



ในเช้าวันทำงานวันหนึ่ง ปอนด์เดินออกมายืนอยู่หน้าบ้านเช่าด้วยความรู้สึกแจ่มใส เธอนึกอยากทำอะไรดีๆ สักอย่าง ให้กับใครก็ได้ ไม่ใช่เพราะหวังว่าความดีนั้นจะกลับมาหาเธอเหมือนเช่นบูมเมอแรงที่กลับมาหาคนขว้างหรอกนะ แต่เพราะว่า มันทำให้เธอมีความสุข ถ้าเธอมีความสุข อะดินารีนในระดับที่พอเหมาะพอดีก็จะฉีดสูบในร่างกายของเธอ และทำให้เธอมีแรงที่พอเหมาะ แล้วงานก็จะออกมาดี
"เราต้องทำอะไรดีๆ สักอย่าง จะได้มีความสุข" ปอนด์รำพึงออกไปตามอากาศ
หลังจากปอนด์รำพึงออกมา เธอก็เดินออกไปสักพักหนึ่ง แล้วก็พบกับสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นมานานแล้ว คือ ด้วงตัวน้อยตัวหนึ่ง นอนหงายท้องอยู่

ปอนด์จำได้ว่า แม่ของเธอจะชอบจับด้วงที่พลิกหงายท้องแอ้งแม้งอยู่ ให้กลับมาอยู่ในสภาพปรกติ แม่บอกว่าหากปล่อยไว้ มันจะโดนมดมากัดจนตาย หรือไม่ก็เบื่อชีวิตขาดใจตายไปเอง แม่บอกว่าการทำเช่นนี้ก็เป็นการทำดีอย่างหนึ่ง

"ไม่ได้การล่ะ เดี๋ยวมันจะซีหมองเท่งเอา" ปอนด์พูดจบก็มองไปรอบๆ ตัว แล้วเจอกิ่งไม้เล็กๆ อันหนึ่งตกอยู่ที่พื้น มันร่วงพล่อยมาจากไม้ใหญ่ที่อยู่แถวๆ นั้น ปอนด์หยิบเอากิ่งไม้นั้นขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆ เอาไปเขี่ยเจ้าด้วงตัวนั้นเบาๆ

"เอาละ เจ้าด้วง เดี๋ยวฉันจะช่วยแกเอง"
ปอนด์ค่อยๆ เอาไม้เขี่ยด้วงเบาๆ จนกระทั่งมันกลับมาพลิกขาแตะพื้นอีกครั้ง ถ้าหากมันยิ้มได้ มันคงจะยิ้มให้ปอนด์ แต่ไม่เป็นไร ปอนด์บอกกับตัวเอง เธอยิ้มให้กับมันฝ่ายเดียวก็ได้

ปอนด์เดินทางไปทำงานด้วยรถเมล์ เธอมักจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที หากรถไม่ติด รถติดก็บวกไปอีกเป็นสิบนาที แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่ารถจะติดหรือไม่ติด ปอนด์ก็มักจะไปถึงก่อนเวลางานเสมอ

ปอนด์ได้นั่งด้วยนะวันนี้ ปรกติเธอจะไม่ได้นั่งเลยเพราะว่าคนเต็ม แต่วันนี้เธอกลับได้นั่งซะอย่างนั้น ระหว่างที่นั่งไปบนรถ เธอก็นึกไปเรื่อยเปื่อย ท้องฟ้าปล่อยให้เมฆตีกัน เพราะสักพักเมฆก็จะดีกันเอง

(โปรดติดตามตอนต่อไปหง่ะครับ)


Create Date : 16 มกราคม 2549
Last Update : 16 มกราคม 2549 1:34:29 น. 5 comments
Counter : 389 Pageviews.

 
โอเคตามอ่านครับ เขียนได้ลื่นดีครับ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 16 มกราคม 2549 เวลา:3:53:55 น.  

 
เป็นเรื่องสั้นหรือ??
ถ้าเรื่องสั้น, ขนาดความยาวเท่านี้พอดีแล้วล่ะนะ...
แต่ยังมีข้อที่ต้องแก้ไขนิดหน่อย
จากที่อ่าน
เขียนภาษาไทยผิดเยอะเหมือนกันนะ
แล้วก็....
พยายามวางพล็อตเรื่องก่อนจะลงมือเขียนนะ
คือ ตอนนี้ยังรู้สึกเหมือนกับ "เขียนบันทึก"
หรือเรื่องเล่า, ความเรียง มากกว่าเรื่องสั้น

ลักษณะของเรื่องสั้น
คือ เรื่องราว / ฉาก / ตัวละคร / การดำเนินเรื่อง
การผูกเรื่อง ฯลฯ

ทำยังไงให้เรื่องนั้นน่าสนใจ?
มีอะไรในเรื่องนั้นที่ต้องการนำเสนอ?

ลองเข้าไปที่ไทยไรเตอร์
www.thai-writer.com
จะมีเรื่องสั้นให้อ่าน, มีคนคอยอ่านเรื่องสั้นและคอมเมนต์ให้ด้วย

ลองดูนะ...
เผื่อจะได้อะไรจากที่นั่นบ้างก็ได้, สักนิดก็ยังดีไม่ใช่หรือ?


ลองฝึกฝนไปเรื่อยๆ
อันนี้แนะนำ,
การเขียนหนังสือ
ต้องขยันอ่าน, ขยันเขียน และ... อาศัยชั่วโมงบิน
ฝึกเขียนบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าเรื่องจะออกมาไม่ดี
ถ้าทำดีที่สุดแล้ว...

เขียนไปเรื่อยๆ แล้วจะรู้แนวของตัวเอง

พยายามนะ, เอาใจช่วย

^_^




โดย: ดาริกามณี วันที่: 19 มกราคม 2549 เวลา:1:12:04 น.  

 
เขียนได้น่าติดตามดีคับ

จะมาอ่านต่อนะฮะ อิอิ - -" ..


โดย: เด็กชายหัวหอม IP: 58.8.199.79 วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:22:34:37 น.  

 
ไม่เห็นจะสั้นตรงไหนเลย


โดย: ดีดี IP: 61.7.228.42 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:54:26 น.  

 
บอดอ


โดย: กูเอง IP: 125.24.133.148 วันที่: 10 สิงหาคม 2550 เวลา:10:04:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hotcoffee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผมนิสัยดีครับ
Friends' blogs
[Add hotcoffee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.