Group Blog
 
 
มิถุนายน 2555
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
14 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 

เมื่อน้องแบน อยากดั้งโด่ง

สวัสดีค่ะสาวๆ ไม่ได้เข้าบล๊อคนานมาก แต่บล๊อคนี้ไม่ไหวแล้วเห่อมากอยากตั้ง
คือถ้ายังพอจะจำหน้ากันได้บ้างสาวๆ คงจะเห็นว่าเราหน้าแบนมาก ราบเรียบ ไร้มิติ
เหมือนกับคนที่มีหน้าผากแล้วก็มาเป็นรูจมูกเลย

อะ เผื่อจำไม่ได้ เอารูปไปดูก่อน



และถ้าหากใครที่เป็นแฟนจีบันแลบก็คงจะจำได้ว่า เราเคยไปฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 1 ครั้ง
หลังจากที่ลองฉีด ตอนนั้นรู้สึกว่าชอบหน้าและจมูกตัวเองมาก เพราะมันโด่งกำลังดี มองดูเป็นธรรมชาติ
แต่ข้อเสียของฟิลเลอร์ก็คือพอผ่านไป 5- 6 เดือน หน้าที่เคยมีมิติของเราก็กลับมาแบนเหมือนเดิม :(

เลยเป็นข้อสรุปในการตัดสินใจว่าไหนๆ ถ้าอยากจะโด่งแล้วล่ะก็ ยัดซิลิโคนไปเลยละกัน



เราใช้เวลาหาข้อมูลอยู่พอสมควรในการเลือกคุณหมอที่จะมาช่วยเสริมดั้ง
ในเคสของเรานั้น ที่ต้องการคือไม่อยากพักฟื้นนาน ไม่อยากให้มีรอยช้ำบนใบหน้าเยอะ
และก็รูปแบบของซิลิโคนคืออยากได้เป็นแบบนิ่ม
มีอยู่หลายที่นะคะ ที่มีซิลิโคนนิ่ม แต่รอยช้ำบนใบหน้ายังเยอะเกินไปสำหรับเรา

บทสรุปจึงมาจบที่ Siam Laser Clinic



หลังจากที่ได้คุยกับที่ปรึกษาของคลีนิคตกลงเรื่องราคากันเสร็จสรรพ ก็นัดวันเป็นวันที่ 29 พฤษภาคม 2555
คุณหมอนัดบ่าย 2 แต่เราก็ไปถึงก่อนเวลานิดหน่อย อารมณ์ตอนนั้นคือตื่นเต้นมาก
พยาบาลพาไปทำความสะอาดหน้า เพราะเดี๋ยวเราต้องเข้าห้องผ่าตัดกันค่ะ


ไม่ลืมบันทึกรูปน้องแบน ไว้ก่อนเข้าห้อง ฮี่ๆ



เปลี่ยนชุดคลุมก่อนเข้าห้องผ่าตัด

หลังจากที่ทำความสะอาดหน้ากันเรียบร้อย ก็มานั่งรอคุณหมอก่อน คุณหมอจิ๊ปมีเคสเยอะมาก
ระะหว่างที่รอทีมงานก็เลยเอาซิลิโคนมาให้เราลองเลือกๆ ดูก่อน ว่าอยากได้แบบไหน

ความตั้งใจของเราคือ ไม่อยากได้โด่งมาก แบบหน้าเปลี่ยนไปเลยอะไรแบบนี้ คือไม่เอา
ขอแบบโด่งสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหลอกตา



นั่งเลือกไปเล่นๆ สักพักคุณหมอก็ออกมา หมอถามว่าอยากได้โด่งแบบไหน บอกหมอไปว่าขอแบบสวยธรรมชาติ
หมอเลยหยิบซิลิโคนออกมาให้ 2 อัน อันแรกหมอบอกถ้ายัดอันนี้เข้าไปเนี่ยหน้าจะเปลี่ยนไปมากคือมันจะโด่งมาก
จนคนทัก คำถามที่หมอถามคือ "แล้วเราจะมั่นใจมั้ย ถ้าหากมีคนทักมากๆ "
และถ้ามันโด่งมาก แต่หน้าเราสั้นมันก็จะไม่สมส่วน เดี๋ยวก็จะวิ่งมาให้หมอทำคางให้อีก อืมม ไม่โอเคค่ะ

ส่วนอีกอันจะโด่งน้อยกว่า หมอบอกว่าใส่อันนี้จะสวยธรรมชาติ อย่างที่ใจเราอยากได้
คุณหมอแนะนำอันหลังมากกว่า ซึ่งเราก็โอเค เพราะไม่อยากดูเปลี่ยนไปมากนัก

หลังจากเลือกซิลโคนเรียบร้อยช่วงเวลาขึ้นเขียงก็มาถึง

พอขึ้นไปนอนบนเตียงแล้ว(แอบสั่นเล็กๆ) คุณหมอก็วาดแนวสันจมูก (เวลาที่ทำอะไรคุณหมอจะบอกก่อนทุกครั้ง)
ทำความสะอาดภายในรูจมูก หลังจากนั้นก็มาถึงจุดที่ใครๆ ก็บอกเอาไว้ว่าเจ็บที่สุด
นั่นก็คือการ "ฉีดยาชา"

คุณหมอฉีดยาชาไปทั้งหมด 4 จุด 8 เข็ม ความรู้สึกเราว่าไม่เจ็บเท่าที่คิดไว้ (อันนี้แล้วแต่ความอึดของแต่ละคน)
พอยาชาออกฤิทธิ์หมอก็เริ่มกระบวนการ ซึ่งที่รู้สึกคือมีอะไรกุกกักๆ ในโพรงจมูกไม่รู้สึกเจ็บอะไร

ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย..ย


พยาบาลแปะพลาสเตอร์ให้เรียบร้อย



หลังจากทำเสร็จก็มานั่งในห้องพักฟื้น เราไม่ได้รู้สึกมึนหัวหรือว่าเป็นอะไรเลยนะคะ
แต่เค้าให้มานั่งพักประคบเย็นก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน
แต่ถ้าใครไม่ได้ขับรถมาและอยากกลับก่อนก็กลับได้ค่ะ เอาไปประคบต่อในแท็กซี่ได้

เรานั่งประคบเย็นอยู่สักพัก ก็กลับเปรี้ยวมากค่ะกลับ BTS
ระหว่างยืนโหนรถไฟฟ้า เลือดก็ออกมาจากจมูกบ้างประปรายให้คนข้างๆ ได้เสียวเล่น
เราใช้ผ้าก๊อซซับออกเบาๆ



กลับถึงบ้านวันแรก ตรงหัวตาเริ่มบวมเล็กๆ รอยช้ำก็มีบ้าง
เลือดยังไหลออกจากจมูกตลอด ต้องนอนหมอนสูงๆ


วันที่ 2

ตื่นเช้าไปทำงานได้เลย ไม่ได้พัก อาการโดยรวมก็มีตรงหัวตาที่บวมขึ้นจนดึงตาเข้ามามากกว่าเดิม
ใต้ตามีรอยช้ำเป็นสีม่วงทั้ง 2 ข้าง ชัดกว่าวันแรก มีอาการตึงๆ บริเวณจมูกแต่ไม่รู้สึกปวด

เช้านี้เราใช้คอนซีลเลอร์กลบบริเวณรอยช้ำ แล้วปัดแป้งฝุ่นทับไปทำงานได้


วันที่ 3

หลังจากทำครบ 48 ชั่วโมง หลายคนบอกว่าหน้าจะบวมกว่าเดิม ซึ่ง"จริงมาก"
ใต้ตาไม่ช้ำเท่าวันที่ 2 แต่ตาบวมขึ้น จมูกใหญ่ขึ้น อาการตึงๆ ยังอยู่

ปล.วันนี้ไม่ได้แต่งหน้าอะไรเลย


วันที่ 4

ความสวยเริ่มปรากฎแล้ว.....
ตายังบวมและตึงอยู่มาก สังเกตุว่าหน้าบวมกว่าวันที่ 3 ด้วย
วันนี้หมอให้เอาพลาสเตอร์ออกได้แล้ว

ใต้ตารอยช้ำสีม่วงๆ เริ่มหายไปกลายเป็นสีเขียวๆ เหลืองๆ แทน
จมูกยังบวมอยู่ แต่ก็แต่งหน้าบางๆ กลบได้สบาย


วันที่ 5

จมูกเริ่มยุบ และเป็นทรงมากกว่าเดิม รอยเช้ายังมีอยู่ แต่น้อยมากแล้ว

ผ่านไปแค่ 5 วัน เราก็ไปดูคอนเสิร์ตแล้วจ้า


วันที่ 6

อาการโดยรวม จมูกบวมอยู่ อาการตึงๆ มีนิดหน่อย
ใต้ตาต้องใช้คอนซีลเลอร์กลบเพราะยังเขียวๆ เหลืองๆ อยู่บ้าง


วันที่ 7

ไม่น่าเชื่อว่า แค่ 7 วันของการยัดซิลิโคน จะไม่เหลืออาการโหดๆอีกแล้ว
วันนี้จมูกบวมน้อยกว่าเดิมมาก...ก ตาก็ไม่บวม รอยช้ำก็หายไปหมด 
กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติ แต่ช่วงนี้การล้างหน้ายังต้องระมัดระวังอยู่มาก



1  Week

วันนี้คุณหมอนัดไปตัดไหม ได้รับคำเตือนมาว่าการตัดไหมเจ็บมาก ชักตื่นเต้น..
ไปถึงพยาบาลก็ให้นอน ทำไปคุยไปสักพัก พยาบาลบอกเสร็จแล้วค่ะ
อ้าว...ที่หลายคนบอกว่าเจ็บนั้นก็ไม่จริงน่ะสิ เพราะมันไม่เจ็บเลย





สรุป โดยรวมแล้ว เราพอใจกับการเสริมจมูกที่ Siam Laser Clinic มาก
ลบภาพเดิมๆ ที่ฝังอยู่ในหัวออกไปจนหมดสิ้น

เราว่าถ้าใครอยากจะเสริมจมูก ลองหาข้อมูลดีๆ หาคุณหมอที่เชื่อถือได้
เมื่อตัดสินใจได้แล้วมั่นใจแล้วก็ลุยโลด




 

Create Date : 14 มิถุนายน 2555
10 comments
Last Update : 14 มิถุนายน 2555 16:48:04 น.
Counter : 9569 Pageviews.

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ

 

โดย: momnic IP: 1.2.145.248 14 มิถุนายน 2555 16:00:03 น.  

 

ถาจำไม่ผิดนะคะ จำได้ว่าเจอพี่ครั้งแรกทีงานจีบันที่เขาใหญ่
จมูกทำแล้วสวยมากค่ะ เป็นธรรมชาติ รับกับหน้าค่ะ

 

โดย: ของขวัญนายไข่ตุ๋น 14 มิถุนายน 2555 16:42:09 น.  

 

ก็นัดวันเป็นวันที่ 29 มิถุนายน 2555
วันนี้ 16 มิ.ย.55 เองค่ะ

 

โดย: รัชต์ IP: 58.9.100.176 14 มิถุนายน 2555 16:43:33 น.  

 

555 จริงด้วย จริงๆ คือ 29 พฤษภาคม ขอบคุณมากนะคะ

 

โดย: ไผ่ไร้กอ 14 มิถุนายน 2555 16:46:51 น.  

 

อยากถามว่า ตอนใส่ซีลีโคนไม่เจ็บจริงๆใช่มั้ยคะ บางคนบอก
ได้ยินเสียงตอนทำด้วย - -"
อยากทำมากเลย แต่มันกล้าๆกลัว

 

โดย: เอ้ IP: 110.171.169.200 14 มิถุนายน 2555 17:37:56 น.  

 

มันไม่เจ็บจริงๆค่ะ ในกระบวนการนี้สำหรับเราแล้วเจ็บสุดคือยาชา :)

 

โดย: ไผ่ไร้กอ 14 มิถุนายน 2555 17:43:30 น.  

 

สวยจริงไรจริง ...สนนราคาด้วยค่ะ....อยากทราบ

 

โดย: เสี่ยวเฟย 14 มิถุนายน 2555 17:58:19 น.  

 

เคยทำค่ะ ที่กรุงธนคลีนิค ธรรมชาติมาก แต่พอหลังจากอุบัตุเหตุรถชนหน้ากระแทกกะที่นั่งตอนหน้าจมูกเลือดกำเดาใหลซ่กๆ จากนั้นมันก็เริ่มอักเสบและบวมฉึ่งหน้าเราบวมเหมือนเอเลี่ยนเลยอ่ะค่ะ ต่อมาก็เป็นหนอง ปลายจมูกเปิดเห็นแท่งซิลิโคนเลย หนองใหลโจ้กหลังจากไปเอาออกก็ไม่ทำอีกเลยเข็ดเลยค่ะ ของเดิมก็ดีอยู่แล้วไม่ได้แบนมากนัก เราไม่พอใจในตัวเองไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยพลาด แต่คนที่ทำออกมาแล้วสวยก็ดีนะคะ แต่ให้ระวังหน่อยนะคะ เวลามันกระแทกอะไรให้รีบไปหาหมอเลยอย่าปล่อยไว้เพราะบางทีมันอักเสบแบบค่อยๆเป็นหนองอ่ะค่ะ เดี๋ยวต้องไปเสียเงินเอาออกอีกเหมือนเราค่าเอาออกแพงกว่าเอาเข้าอีก แหะๆๆ

 

โดย: กาสะลอง IP: 180.183.189.88 14 มิถุนายน 2555 18:06:23 น.  

 

ซิลิโคนนิ่ม อยู่ที่ 55000 ค่ะ

 

โดย: ไผ่ไร้กอ IP: 115.87.243.98 14 มิถุนายน 2555 21:26:06 น.  

 

แวะมาทักทาย ด้วยนะจ้าาาาา อิอิ rassapoom rassapoom clinic รัสมิ์ภูมิ รัสมิ์ภูมิ คลินิก ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ Ultraformer ยกกระชับ ลดริ้วรอย สลายไขมันใต้ชั้นผิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Drakarian สลายไขมันใต้ผิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ปาก เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ขน กำจัดขน Hair Removal ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์น้องสาว ดูดไขมันเหนียง คางสองชั้น FaceTite AccuTite Hifu Super Hifu มาส์กหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น ศัลยกรรมตาสองชั้น ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์เสริมสะโพก ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก Morpheus Morpheus Pro ยกกระชับผิว ฟิลเลอร์คาง โปรแกรมฟิลเลอร์คาง Exosome Exosome Plus Exosome Plus+ กระชับช่องคลอด ช่องคลอด Vaginal Vaginal Reju Skin Quality ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultracol ไหมน้ำ Allergan โบ Allergan ฉีดโบ Allergan Super Skin Laser ฝ้า กระ ฝ้า กระ จุดด่างดำ Picocare 450 Laser ร้อยไหม ร้อยไหมคืออะไร Lenisna JUVELOOK สารเติมเต็ม REVIVE BELOTERO REVIVE Rejuran Gouri คอลลาเจน กระตุ้นคอลลาเจน Juvederm Juvederm Volite New Juvederm Volite Radiesse Radiesse Filler Sculptra คอลลาเจน เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ปลูกผม FUE ฟิลเลอร์ Filler ฉีดฟิลเลอร์ Thermage Thermage FLX ยกกระชับ ยกกระชับผิว Ulthera New Ulthera SPT Ulthera SPT EMFACE ยกกระชับ ยกกระชับกล้ามเนื้อ ฉีดแฟต สลายไขมัน ฉีดแฟตสลายไขมัน CoolSculpting Elite CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน BodyTite ดูดไขมัน Emsculpt สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สอนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ให้ใจ สุขภาพ

 

โดย: teawpretty 13 มีนาคม 2567 14:20:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ไผ่ไร้กอ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แชร์ความสุข แชร์ความสนุก http://www.catmint.in.th





Friends' blogs
[Add ไผ่ไร้กอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.