Jeff Lorber กระแสความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดยั้ง
ดูเหมือนว่า เจฟ ลอร์เบอร์จะไม่เคยหยุดสร้างสรรค์งานดนตรีเลยแม้สักวินาทีเดียว เพราะเมื่อ He Had A Hat ออกมาให้แฟนเพลงได้ยลโฉม ก็รู้เลยว่ามันเป็นอัลบัมที่บริสุทธิ์ ปราศจากสารเจือปนใดๆ ทั้งสิ้น เจฟรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ นักดนตรีหัวกะทิหลายคน ดังที่เราจะเห็นจากเครดิตอันยาวเหยียดในปกอัลบัม รวมไปถึง บ็อบบี โคลอมบาย โปรดิวเซอร์วิสัยทัศน์กว้างไกลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินแจ๊สหลายอัลบัม รวมทั้งอัลบัม When I Fall in Love (2004) และ To Love Again : The Duets (2005) ของคริส บ็อตติ ย้อนหลังกันไปจนถึงอัลบัมเปิดตัวที่ดังเป็นอมตะนิรันดร์กาลของ Jaco Pastorius ในปี 1976 ซึ่งหลายๆ คนคงได้ลิ้มลองรสชาติการเดินเบสของจาโคจากอัลบัมนี้ไปแล้ว ส่วนเจฟนั้นก็เป็นที่เลื่องชื่อในความเป็นมือคีย์บอร์ดนุ่มละมุนและเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ได้สร้างสรรค์งานที่ยากจะเลียนแบบ อีกทั้งยังเย้ายวนให้ลิ้มลองไม่ว่าจะเป็นแฟนเพลงรุ่นไหนใหม่หรือเก่าก็ตาม
He Had A Hat ชื่ออัลบัมเป็นวลีที่เจฟบอกว่ามีที่มาที่ไป
ผมแค่ต้องการบทเพลงดีๆ ดนตรีดีๆ แล้วก็กระบวนการผลิตที่ดี เพราะเหล่านี้คือพื้นฐานของความสำเร็จ พวกเราไม่ได้จำกัดตัวเองไว้กับแนวทางใดแนวทางหนึ่ง ผมคิดว่าอัลบัมชุดหลังๆ ของผมหลายๆ ชุดมุ่งไปที่การพยายามสร้างสรรค์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุด แต่ในชุด He Had A Hat เพลง He Had A Hat นี้มีความเป็นอิเล็กทรอนิกมากขึ้น คืออบอวลไปเกือบทั่วทั้งอัลบัม เรายังมีทั้งแจ๊สหัวก้าวหน้า, ฟังกี, ละติน แล้วก็เพลงร้อง ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้เหล่านี้ผสมผสานกันได้ ก็เพราะว่าคุณจะสามารถสัมผัสลักษณะเฉพาะของเพลงของผมได้ผ่านสิ่งที่คุณฟังทั้งหมด มันมีความกลมกลืนตลอดทั้งอัลบัม ไม่ว่าแต่ละเพลงจะมีสไตล์แบบไหนก็ตาม
มีอยู่สิ่งหนึ่งในอัลบัมนี้ที่เราชอบคือจิตวิญญาณของมนุษย์ในแต่ละเพลง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาชื่อเพลงแต่ละเพลง อย่างเช่น Grandmas Hands และ The Other Side of the Heart ทุกเพลงล้วนแล้วแต่เป็นความยินดีที่ได้ฟัง นอกจากนั้นก็ยังมีเสน่ห์ดึงดูดอะไรบางอย่างต่อคนฟังในอัลบัมนี้ด้วย
จริงๆ แล้ว ทั้งหมดที่เลือกมาคือเพลงที่ชอบ แต่ผมมีสี่เพลงที่ชอบเป็นพิเศษ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับเหตุผลหลายอย่าง อย่างเช่นเพลง Surreptitous ก็เป็นหนึ่งในนั้น มันเป็นเพลงที่ท้าทายแล้วก็บังคับให้คุณฝึกฝนอย่างหนักที่จะทำมันสำเร็จออกมา เช่นเดียวกับ He Had A Hat, Anthem For A New America ซึ่งเป็นเพลงโปรดของผม และ Hudson เพลงเหล่านี้dHน่าจะเป็นสี่เพลงที่ผมชอบมากที่สุด ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผมด้วย บางทีผมอาจฟังบัลลาดอย่างเพลง Orchid หรือ Requiem for Gandalf เหล่านี้อยู่ในรายการ ดีที่สุด ในมุมขององค์ประกอบต่างๆ ที่ผมได้ทำงานคลุกคลีกับมันมา
เราโชคดีมากที่ได้ทอม สก็อต (แซ็กโซโฟน) มาเป็นคนเรียบเรียงเพลงนั้น เขาทุ่มเทเป็นอย่างมาก วิธีที่เขานำมาเรียบเรียงเข้ากันเป็นอย่างดี ทำให้ได้รสชาติแท้ๆ นอกจากนี้ All Most Blues ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ชอบการอะเรนจ์เครื่องเป่าทองเหลืองในสองเพลงนี้พิเศษอย่างแท้จริง"
แน่นอนเลย ไม่ใช่ความคิดของบ็อบบี โคลอมบายหรือที่ให้ All Most Bluesมีกลิ่นอายในแบบของ Sketches of Spain (Miles Davis)
เราคิดว่าคงจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยหรือแนะนำใครสักคนให้เข้าถึงบทเพลงที่เราฟังมาแล้วชอบมันอย่างสุดซึ้ง อาจจะเป็นเพราะว่าพัฒนาการของเจฟ ลอร์เบอร์ในระยะหลังๆ จึงทำให้เป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่จะเดาเอาโดยไม่ได้เสพดนตรีของเขาอย่างจริงๆ จังๆ ดังนั้นหนทางที่จะเข้าใจพัฒนาการที่ไม่หยุดยั้งของเจฟก็คือ ลองหา He Had A Hat มาฟังให้ครบทั้งสิบสามเพลง!
Jeff Lorber / He Had A Hat Produced By Bobby Colomby All Keyboards and Keyboard Solos: Jeff Lorber Tracklisting 1. Anthem For A New America 2. He Had A Hat 3. Grandmas Hands 4. Surreptitious 5. All Most Blues 6. Orchid 7. Be Bops 8. The Other Side Of The Heart 9. Hudson 10. Super Fusion Unit 11. Eye Tunes 12. Requiem For Gandalf 13. Burn Brightly
"I still find each day too short for all the thoughts I want to think, all the walks I want to take, all the books I want to read, and all the friends I want to see." John Burroughs