สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
วิธีคิดด้วยจิต"บวก"
เราเป็นคนชอบอ่านหนังสือพวกแนวทางการดำเนินชีวิตมาก


ชอบซื้อหนังสือพวกรวมคำคม สุภาษิต กวี แง่คิดดีๆ


ใครเหมือนเราบ้างคะ


บล๊อกนี้ เราจะรวบคำคมที่เราชอบนะคะ


ใครมีอะไรมาแบ่งบันก็แปะไว้ด้วย

+++


ในการพัฒนาความอดกลั้น
ท่านต้องการใครสักคนหนึ่ง
ผู้ที่จงใจจะทำร้ายท่าน
บุคคลเช่นนั้นแลที่จะหยิบยื่นโอกาสอันแท้จริง
ให้เราได้ฝึกความอดกลั้น
พวกเขาได้ทดสอบความแกร่งด้านในของเรา
ในวิธีที่แม้ครูของเราก็ไม่อาจทำได้
โดย พื้นฐานแล้ว ความอดกลั้นคือ
เครื่องปกป้องตัวเราจากความท้อแท้


+++


การตระหนักรู้ถึงข้อบกพร่อง
ที่มีอยู่ในตัวเราแม้เพียงอย่างเดียว
ย่อมมีประโยชน์มากเสียยิ่งกว่า
การรู้ข้อบกพร่องนับพันในตัวผู้อื่น
แทนที่จะพูดกล่าวร้ายต่อผู้อื่น
และพูดในทางที่จะก่อให้เกิดความบาดหมาง
หรือไม่สงบสุขในชีวิตของพวกเขา
เราควรที่จะฝึกมองพวกเขาให้บริสุทธิ์ขึ้น
เมื่อเราพูดถึงผู้อื่น
ก็ให้พูดถึงด้านที่เป็นคุณงามความดีของพวกเขา
หากท่านพบว่าตัวเองกำลังนินทาว่าร้ายใครต่อใครอยู่
ประการแรกให้จินตนาการว่า
ปากของท่านเต็มไปด้วยขี้
จะช่วยให้ท่านหยุดนิสัยกล่าวร้ายได้เร็วพอ


+++


โดย ท่านทะไล ลามะ
แปลโดย สุภาพร พงศ์พฤกษ์
จากหนังสือ "คิด"ด้วยจิตด้านบวกกับองค์ทะไลลามะ


เวลาเราผิดหวังกับคน หรือเจอคนไม่ดีเราจะเลือกเล่มนี้ ถ้าเวลาเราท้อเรื่องงานเราจะเลือกอ่านอีกแนวหนึ่ง เราแนะนำให้เพื่อนทางเน็ตคนหนึ่่งลองอ่าน เวลาท้อแท้เรื่องคน ก็ลองหาพวกข้อคิดของท่านทะไลลามะอ่านนะคะ เตือนสติดี จริงๆ เราก็รู้จักไม่กี่เล่มนะคะ เพราะไม่ได้อยู่เมืองไทยด้วย


ทุกสิ่งที่เรารู้สึกแย่ รู้สึกทุกข์ก็เพราะเราไปคิดเองว่ามันเป็นทุกข์ จิตใจของเราปรุงแต่งให้เรารู้สึกแย่เอง อันนี้เราต้องมาแก้ที่ใจตัวเอง


ส่วนใจของคนอื่น เราไปแก้ไม่ได้ เราไปมีอิทธิพลไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คืออย่าไปยุ่ง (แต่พระท่านให้เมตตานะ แต่เราไม่เมตตาอ่ะ ยังเลวอยู่ 555)


รุ่นพี่ที่เราเคารพคนหนึ่งเคยว่า "ความคาดหวังเป็นบาป"
ที่เราผิดหวังจากใครสักคน ก็เพราะเขาคนนั้นไม่เป็นดั่งที่เราคาดไว้
ฉะนั้น ถ้าไม่อยากผิดหวัง อย่าคาดหวังกับใครก็ตาม


พูดง่ายทำยากเนอะ


ที่ว่ามาทั้งหมด ข้าพเจ้าก็ยังทำไม่ได้ 555


เราก็พวกมองโลกในแง่ดีนะ เจอแย่ๆ มามาก จนตอนนี้้คบใคร สนิทแค่ไหน แต่ต้องมีระยะห่าง


การมองโลกในแง่ร้ายเป็นดั่งภูมิคุ้มกัน แต่ถ้ามีภูมินี้มากไป ก็อาจจะทำให้เป็นโรคขี้ระหวาดระแวด ไม่มีความสุขอีก


เดินทางสายกลางดีสุด ไม่มองโลกในแง่ดีและแง่ร้ายไป คบใครก็จริงใจไว้จะได้สบายใจเรา ถ้าไม่สบายใจก็ห่างมา เท่านั้นเอง


พูดง่ายๆ พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกมีความสุขน่ะ จะทำอย่างไรตัวเราเองรู้ดีที่สุด


+++


แต่เราว่า บางทีชีวิตคนต้องรู้จักคนไม่ดีบ้าง (ขอใช้คำนี้นะ นึกไม่ออกว่าจะใช้คำว่าไร ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ใช่คนดี 100%) เพราะถ้างั้น เราก็จะไม่ย้อนมามองตัวเราได้


เราก็เคยนินทาคนค่ะ ตอนหลังเรามาเจอคนช่างนินทามาก เราไม่ชอบเลย จนเราหันมามองตัวเองว่า แล้วเราล่ะ เคยเป็นแบบคนนี้ไหม นิสัยแบบนี้ไม่ดีนะ พูดส่อเสียด พูดให้คนแตกกัน ฯลฯ


เราก็เคยทำ ซึ่งไม่งามเลย จากนั้นเราก็ตั้งใจว่า จะไม่นินทา เพราะเราไม่อยากเป็นคนขี้นินทา(แบบคนนั้น) พอเราไม่นินทา (แม้จะมีคนชง) เราก็มีความสุขขึ้นนะ


แต่บางทีก็ยังเผลอทำ (ฮา)


+++


วันนี้เราก็อารมณ์ไม่ค่อยแจ่มใส เพราะเหตุผลเรื่องคนเหมือนกัน


บางทีก็ถามตัวเองเหมือนกัน เลิกยุ่งกับคนไปเลยดีไหม ยุ่งเฉพาะที่ยุ่งได้


แต่ก็เลิกไม่ได้ ด้วยนิสัยลึกๆ ที่ชอบจุ้นโน้นจุ้นนี่


อีกอย่าง ถ้าเลิกยุ่งกับคนเมื่อไร โอกาสในการพัฒนาตัวเองอาจจะช้าลงไป


เรามองว่า คนเราต้องหัดเรียนรู้จากคนอื่น จะได้กลับมามองมาพัฒนาตัวเอง


อะไรที่เราเห็นจากคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่เราไม่ชอบ เราก็อย่าไปทำ


อะไรที่เราเห็นจากคนอื่น เป็นสิ่งที่ดี เราชอบ เราก็นำมาปฎิบัติ


ที่สำคัญระวังคำพูด การระวังคำพูดง่ายกว่าระวังใจเยอะ ไม่กระทำวจีทุจริต เราก็พยายามระวังแล้วนะ แต่บางทีก็โดนเเปลเจตนาไปอีกแบบ แป่ว


เล่นเอาแบบว่ารบกวนจิตใจไปเลย แต่ก็พยายามไม่คิดอ่ะ

+++

วันนี้คุยกับตาอ้วนมาค่ะ


ลองถามแกว่า ทำอย่างไรเวลาจิตตกเพราะคน


แกว่า ก็ต้องไม่คิด เวลาใจมันจะคิด ก็ให้คิดเรื่องที่มีความสุข เช่น อาหาร (แห้ม เเฟนฉาน ^^" สมชื่อตาอ้วนจริงๆ) หมา แมว เรื่องตลก ฯลฯ


ไม่ก็ดูพวกหนังตลกๆ ทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองหัวเราะได้ พอหัวเราะได้ ใจมันจะสงบขึ้นนะ หัวเราะคือยารักษาความทุกข์ ทำให้จิตใจหายหดหู่จริงๆ


ไม่ก็ออกไปเดินชมธรรมชาติ ไปวิ่งออกกำลังกาย ไปเดินช๊อป หากิจกรรมมาหันเหความจิตตกของเรา เลือกสิ่งที่ชอบที่สุด จะไปคนเดียวหรือจะไปกับกัลยาณมิตรก็ได้ค่ะ เรารู้ดีที่สุดว่าเราเหมาะกับแบบไหน




ตาอ้วนให้อาหารเป็ด


ตาอ้วนนี่เห็นดูไร้สาระ เอาแต่กินแบบนี้ เขาเป็นคนเก่งด้านการคุมจิตใจนะ


เขาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่ค่อยเครียดเท่าไร เจอใครแย่ๆ ก็เฉยๆ ไม่รู้ว่านี่เป็นลักษณะของผู้ชายหรือเปล่า


เวลาเขามีปัญหาเรื่องคนที่ทำงาน กลับมาบ้านเขาก็ปิดสวิชต์ได้ คุยได้ กินได้ ร่าเริงเหมือนเดิม ถ้าไม่ถาม ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีปัญหาหนักมากขนาดไหน


อิจฉาวุ้ย อยากปิดสวิชต์ได้เก่งๆ บ้าง

+++

ใครมีวิธีคุมจิตใจให้ปกติ มาแชร์กันด้วยนะคะ



Create Date : 19 สิงหาคม 2550
Last Update : 19 สิงหาคม 2550 2:49:15 น.
Counter : 287 Pageviews.

5 comments
  
ชอบหนังสือประเภทนี้เหมือนกันค่ะ เมื่อก่อนชอบจดไว้ในสมุดเนเล่มๆ เลยค่ะ ตอนนี้หายหมด อิ อิ

แล้วจะหมั่นมาขออ่านด้วยนะคะ
โดย: the Vicky วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:4:04:28 น.
  
ชอบหนังสือประเภทนี้เหมือนกัน แต่ส่วนมากจะอ่านจากตะวันตก คือคนแต่งต่างชาติ ตอนแรกอ่านเป็นภาษาไทย แต่ตอนนี้จะไปซื้อหนังสือเป็นภาษาอังกฤษอ่าน มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Power of Positive Thinking แต่งโดยบาทหลวงชาวอังกฤษ ขายได้ 15 ล้านเล่มทั่วโลก แต่จะเป็นหลักของคริสเตียน เราเป็นพุทธ แต่ก็ชอบอ่านเพราะได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย คุณ Rai-Sa-Ra อยากอ่านหรือเปล่าจะส่งไปให้อ่าน
โดย: โจ้ IP: 202.28.181.9 วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:11:11:21 น.
  
เฮ้อ ตัวเองก็ยังคุมไม่ค่อยจะอยู่ เรยไม่กล้าบอกวิธิเท่าไหร่

แต่ทำได้นี่สุดยอดเลยนะ
โดย: maxpal วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:15:43:04 น.
  
งื้ดดดด มาอดทน อดกลั้น
โดย: อซ. IP: 58.10.158.64 วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:17:09:26 น.
  
ตอบคุณโจ้

สนใจอ่านค่ะ แต่เราอยู้เยอรมันน่ะซิ เด๋วเราลองหาหนังสือที่คุณว่าแถวนี้นะคะ น่าจะมี ขอบคุณมากค่ะ
โดย: นู๋ ม. วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:20:33:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นู๋ ม.
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กรุณาอย่าคาดหวังอะไรจากบล๊ิอกนี้ เขียนขึ้นตามความพอใจ มีอยู่เพื่อความพอใจ มีแต่ของเล่นๆ ของไร้สาระ เรื่องเรื่อยเปื่อย เรื่องบ้าๆของเจ้าของบล๊อก

นู๋ ม. เป็นคนสาวหมวย สวย เอ็กซ์(วายเเซต)กินเก่ง บ่นเก่ง ด่าเก่งด้วย หาใครที่เจ้าอารมณ์ ขี้โวยวาย คิดอะไรสไตล์เด็กเเนวมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

ความฝันในอนาคต คือ อยู่อย่างสงบ โดยไม่มีใครมายุ่งเรื่องส่วนตัว

อารมณ์ตอนนี้ = กำลังเซ็ง เนื่องจากโดนยุ่งเรื่องชีวิตรักเหลือเกิน เกิดมาสวย(ยี้)ก็งี้ มีแต่คนอยากรู้อยากเห็นเรื่องเรา

Life of Mine เปิดให้อ่านเฉพาะ Friend's Blogs นะจ๊ะ ใครมีชื่ออยู่ทางขวาแล้ว ล๊อกอินแล้วอ่านได้เลยจ้า


**********************************

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด



หลังไมค์ถึงนู๋ ม.

ใครนำรูปหรือบทความอะไรเราไปใช้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผิดกฎหมายนะคะ และเราเอาจริงนะ แบบว่ารวยอ่ะ มีเงินจ้างทนาย จะค้าขายอะไร ให้ไปเสริช์รูปจากเว็บเจ้าของผลิตภัณฑ์เองนะคะ