ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานับแต่จุดเริ่มสร้าง...ต่างรู้กันว่ามีทั้งที่สว่างและที่มืด...หากแต่จะมีคนตระหนักหรือไม่ว่า...ในเงามืดของประวัติศาสตร์นั้นย่อมมีแสงสว่างเล็กๆอยู่เสมอ...
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
2 ธันวาคม 2552

โถ...แค่เศษกระดูกทิ่มเหงือก!!

วันนี้พาป๊าไปร้านหมอฟัน หลังจากมีปัญหากับเจ้า ฟันปลอม มานานเหลือเกินจนตอนนี้ทำเอา ป๊ากินอะไรไม่ค่อยจะได้ หน้าตาหงุดหงิด จนในที่สุดเขาก็ไม่ใส่มันให้รู้แล้วรู้รอดไป

ก่อนไปครั้งนี้ได้เช็คดูแล้วปรากฎว่าคุณหมอบอกควรจะทำอันใหม่ เพราะอันที่ใช้อยู่นี้(ประมาณ สามปีได้) ฟันซี่ที่ใช้เป็นหลักโดนเนรเทศไปซี่แล้วซี่เล่า จนตอนนี้หลวมโครก ทีนี้หมอเลยจัดการเนรเทศฟันซี่ที่มองแล้ว ใกล้จะต้องโดนในไม่ช้าออกไปทีเดียวถือเป็นการถอน...อย่างเป็นระบบ

ปัญหาก็คือ เหงือกที่ร่นหรือใช้ภาษาเราๆว่ามัน ฟีบ ลงไปทำให้กระดูกที่อยู่ใต้เหงือกมันโผล่ขึ้นมา เวลาใส่ฟันปลอมแล้วจึงเป็นแผล...

วีธีแก้คือ ผ่าเหงือกเปิดออกมาเพื่อ "เจีย" กระดูกออก!!

เอาละครับ...ป๊าผมก็ฟังดูแล้วถามว่ามันโอเคไหม ทำอะไรบ้างหว่า มันจะดีไหม มันยังไง สารพัดครับ

จนในที่สุดความเจ็บปวด และน่ารำคาญก็เอาชนะความกลัวได้สำเร็จ

ก็วุ่นวายกันไปกว่าจะลงตัวผ่ากันแล้วก็ตัดกระดูกส่วนที่ยื่นออกกว่าแผลจะหายดี กว่าที่จะพร้อมที่จะพิมพ์ปากสำหรับฟันปลอมชุดใหม่...เล่นเอาป๊าผม กินข้าวต้มเกือบสองอาทิตย์

แล้วก็ถึงวันที่รอคอย...พิมพ์ปากกันแล้ว ก่อนอื่น คุณหมอก็ขออนุญาติตรวจสอบฟันที่เหลืออยู่(บ้าง) เล็กน้อยว่าอันไหนควรอยู่ อันไหนควรแล้วที่จะไปจากปากป่ะป๊าผม

ปรากฎว่า คุณหมอมองขึ้นไปบนเพดานปากด้านบน...แล้วถามว่า " เอ๊ะ! นี่อะไรนี่!? เหมือนกระดูกเลย"
ผมซึ่งยืนดูอยู่ข้างๆ เห็นส่วนที่ยื่นออกมาจากเพดานปากเป็นสีคล้ายฟันยาวประมาณครึ่งเซ็นติเมตร...ก็ใจหายว๊าบบ คิดในใจ "เรื่องยาวอีกแล้วเนี่ย ต้องตัดอีกไหมหว่า..."

หลังจากผ่านไปสองสามวินาที คุณหมอขอเครื่องมือจากผู้ช่วย แล้วเคาะที่ส่วนที่ยื่นออกมานั้น

"เจ็บไหมครับ คุณลุง?" คุณหมอถามป๊าผม

ป๊าสั่นหัวทันที...

ผมถามคุณหมอด้วยน้ำเสียงหว่ันๆ "มันคือฟันที่โผล่มา หรือเป็นกระดูกครับ? "

คุณหมอเขี่ยส่วนนั้นไปพลางพูดว่า เดี๋ยวๆๆ แล้วหันไปขอเครื่องมืออีกตัวจากผู้ช่วย แล้วด้วยความไวคุณหมอจับคีมเข้าล็อคกับส่วนน้ันและออกแรง โยกพลางดึง...และค่อยๆเพิ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ และถามป๊าผมเรื่อยๆว่าเจ็บไหม ป๊าสั่นหัวเหมือนเดิม...

ผมตกใจคิดว่าเอางั้นเลยเรอะหมอ...

ฉึก!!

เลือดพุ่งกระฉุดออกมาตาม รูโหว่ ที่ปรากฎ หลังชิ้นส่วนนั้นหลุดติดมากับคีมของหมอ...

ผมกลั่นความตกใจแล้วถามหมอ "เอ่อ...มันคืออะไรเหรอครับ?"

หมอหัวเราะพลางถามป๊าว่าเจ็บไหม แล้วหันมาบอกผมว่า

"คิดว่าคงเป็นเศษกระดูกของอะไรสักอย่างที่กิน (ผมว่ากระดูกไก่) แล้วมันทิ่มคาไว้หน่ะ คุณลุง ไม่เจ็บเลยเหรอครับ " ป๊าผมยังสั่นหัวเหมือนเดิม แถมบอกว่า "ไม่เห็นเคยรู้สึกเลย" นั่น...เก่งอีก!

"คุณลุงเป็นคนที่อดทนมากนะครับ" หมอพูดปนหัวเราะ..

สำหรับผม...ผู้เป็นลูกชาย ก็ได้ถูกป๊าของตัวเองสั่นคลอนความเชื่อของการใช้ชีิวิตอีกครั้ง...(ว่างๆจะพรรณาถึงนะครับ)

โถ...ก็แค่เศษกระดูก....เอาออกก็หมดเรื่อง


Create Date : 02 ธันวาคม 2552
Last Update : 15 มกราคม 2553 18:43:39 น. 1 comments
Counter : 4735 Pageviews.  

 
โห..นับถือเลยค่ะ คุณลุงอดทนจริงๆสุดยอดๆ

ปล.ขอบคุณนะคะ คอมเม้นท์ของคุณ โดนใจมากๆ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:20:11:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เงามืดในประวัติศาสตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




New Comments
[Add เงามืดในประวัติศาสตร์'s blog to your web]