ผมรอคอยวันนี้มานานแสนนาน
วันที่ฝนหยุดพรำ...
การเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลง นับจากวันเป็นเดือน จากเดือนล่วงเป็นปี ปีแล้วปีเล่าที่ผ่านไป จนไม่มีใครสนใจเวลาอีก มีเพียงแสงสว่างที่เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าที่ปลายฟ้า แล้วก็ค่อยๆเปล่งทวีความร้อนแรงอันเจิดจ้า จนแทบจะไหม้ทุกสิ่งบนดาวเคราะห์ใบนี้ และค่อยๆอ่อนแรงเลือนลางจนเหลือเพียงแต่แสงนวลเย็นที่ขอบปลายฟ้าอีกด้านหนึ่ง ทันใดนั้นความมืดสนิทก็ฉวยโอกาสกลืนกินทุกสิ่ง ขับไล่แสงสว่างวาบสุดท้ายให้เหลือไว้เพียงแต่ความเยือกเย็นที่แทรกอยู่ในทุกอณูอากาศ อาหารทำหน้าที่ต่อลมหายใจโดยไม่สนใจหน้าตาหรือรสชาติ และแน่นอนที่สุด
ฝนที่ไม่เคยหยุดพรำ...
หน้าที่เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ของผมคือ มีชีวิตอยู่รอดต่อไป เพื่อให้เห็นแสงสว่างและความมืดมน วนเวียนและเวียนวน จำนวนครั้งไม่มีนัยยะที่สำคัญอีกต่อไป เมื่อวันที่ฝนหยุดพรำ เราจะรู้คำตอบว่าควรไปทางไหนต่อ แน่นอนทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมนำพามาซึ่งความอึดอัดขัดข้อง ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เลวร้ายหรือแม้กระทั่งไปในทางที่ดีขึ้น ตอนนี้ ณ เวลานี้ ผมอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง ผมไม่แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำพาผมไปในทางที่ดีขึ้น แย่ลง หรืออยู่กับที่ พร้อมๆกับความดีใจ ตื่นเต้น ที่วันแห่งการรอคอยมาถึง ความกลัว และ ตระหนก หดหู่ ก็ก่อตัวขึ้นพร้อมกัน เป้าหมายต่อไปคืออะไรไม่มีใครรู้ ผมเพียงหวังว่าอนาคตจะเป็นคำตอบ...
.
.
.
.
และนี่คือข้อความทั้งหมดที่ได้จากการถอดรหัสค่ะ ท่านผู้นำ
เสียงคอมพิวเตอร์ดังขึ้นหลังจากฉายภาพสามมิติของตัวหนังสือประกอบกับเสียงจบลง ท่านผู้นำเดินไปมาระหว่างการฟังเสียงบรรยายและเหลือบตามองตัวหนังสือโบราณที่เขาไม่เข้าใจเป็นครั้งคราว จากนั้นก็หยุดลงที่หน้าต่างของยานและเพ่งมองไปยังท้องฟ้าที่ขณะนี้ไม่เหลือฟ้าแม้แต่น้อย เขาคือผู้อยู่รอดเพียงหนึ่งเดียวบนดาวเคราะห์ใบนี้ ดาวที่เคยมีสีฟ้าเรืองรอง และมีชื่อในภาษาโบราณว่า โลก ข้อความเหล่านี้เป็นบรรพบุรุษของเขาบันทึกไว้ เขาคือ อนาคต ที่อยู่ในท้ายบันทึก ใช่ทุกอย่างชี้ชัดว่าเขาเป็นความหวัง เป็นหวังที่จะเป็นคำตอบ แต่แม้เขาจะเป็น ท่านผู้นำ แต่สิ่งที่เขาต้องเลือกมันมากเกินไปหรือไม่ สำหรับสิ่งมีชีวิตเล็กๆเช่นเขา เขาเหลือบตาไปมองภาพสามมิติอีกด้านหนึ่ง ซึ่งคอมพิวเตอร์คำนวณซ้ำแล้วซ้ำอีก
จนได้ข้อสรุปเพียงสองทางเลือก
หลังจากเพียรพยายามสืบทอดความรู้และทำการสะสมพลังงาน เพื่อหาหนทางอยู่รอดให้กับสิ่งที่เคยมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ จนมาถึงตอนนี้เขา ท่านผู้นำ คนนี้ต้องเลือก เลือกที่จะย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาที่เผ่าพันธุ์มนุษย์เริ่มที่จะรู้จักใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อความสะดวกสบายที่ไร้สาระ และพยายามหว่านล้อมทุกวิถีทางกับกลุ่มคนจำนวนน้อยนิดบนโลกที่กุมอำนาจอยู่ เพื่อให้เข้าใจหายนะที่จะเกิดขึ้นหากยังปล่อยให้โลกดำเนินไปในทิศทางที่ไร้สาระและทำลายชีวิตกันเองเช่นนี้ และจากการคำนวณของคอมพิวเตอร์ทางเลือกนี้โอากาสที่จะช่วยโลกสำเร็จ 1.97%
กับ อีกทางเลือกหนึ่งคือย้อนเวลากลับไปในช่วงที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ก่อกำเนิดขึ้น แล้วทำลาย มนุษย์ ลงเสียทางเลือกนี้โอกาสช่วยโลกสำเร็จ 96.39%
เหลือเพียง ปุ่มสีเขียวด้านซ้าย และ ปุ่มสีแดงด้านขวา
หากใช้เหตุผลแน่นอนเขาสามารถเลือกได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที แต่หากเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกเข้าไปแล้ว จนถึงตอนนี้เขายังไม่สามารถเลือกได้เลย แต่เวลาสำหรับการตัดสินใจได้หมดลงแล้ว อีกไม่กี่นาทีนี้เขาจะไม่สามารถย้อนเวลาได้อีกต่อไป
มือของเขายื่นออกไปอย่างรวดเร็ว เขาได้ตัดสินใจแล้ว...
เสียงมือกระทบปุ่มดังขึ้นและทุกอย่างก็หมุนวนจนเขาสลบไป
หยดน้ำหล่นกระทบกับเปลือกตา เขาลืมตาขึ้นและพบว่ามันเป็น
วันฝนพรำ...
ท่านได้หายไปไหนมา ไปเที่ยวเฮติมารึ?
เอิ้กๆๆๆ