เอกามุระ...และ.. อราชิยาม่า

วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ตื่นไปบ้านเพื่อนแต่เช้า

วันนี้เพื่อนเราทำข้าวหน้าปลาไหลให้ทานตอนเช้า เสร็จแล้วเราสองคนก็ออกเดินทางไปยัง “เอกามุระ” หรือโรงถ่ายซามุไร หรือ โรงถ่ายนินจา แล้วแต่จะเรียก

ข้างในเอกามุระ ก็เหมือนโรงถ่ายยูนิเวอแซลสตูดิโอ แต่ดูจะมีเอกลักษณ์มากกว่า ตรงที่บรรยากาศทั้งหมดญี่ปู้น ญี่ปุ่น

เริ่มตั้งแต่จ่ายตังค์เข้าไป แล้วพบกับกองถ่ายหนังที่กำลังถ่ายรูปทำพิธีเปิดกล้อง เราเจอสาวสวยคนนึงในชุดกิโมโน หรือ ชุด เกอิชา เรารีบวิ่งเข้าไปขอถ่ายรูป แต่หล่อนหยิ่งมาก หล่อนพูดญี่ปุ่นไม่ได้ แต่หล่อนยกมือขึ้นทำท่ากากบาท แบบว่าไม่ยอมให้ถ่าย แล้วหล่อนก็เดินเข้าห้องเล็กๆ คิดว่าเป็นห้องเก็บตัวสำหรับนางเอก เพราะคนอื่นๆ เค้านั่งพักกันที่อื่น ไม่มีห้องส่วนตัวแบบนี้ “ช่าง! ไม่เห็นสนใจ” เราหันไปแลบลิ้นให้เค้า 1 ที แล้วเดินออกมา

รอบๆบริเวณ จะเต็มไปด้วยฉากในการถ่ายหนัง ซึ่งหลายๆฉาก จะคุ้นตามาก เช่นสะพานอันนี้ คือสะพานจากหลายเรื่องที่เราคุ้นตา โดยเฉพาะเรื่องล่าสุด Memoir of a Geisha

นินจาคนนี้ ใช้สลิง ใช้ตัวแสดงแทน ไต่ไป ไต่กลับ ทั้งวัน เพราะเขาคือ หุ่นยนต์!!!


เดินไปสักพัก ก็เจอกับซามุไรสองคน สองคนนี้นิสัยดีมาก เรายังกล้าๆเขินๆ แต่สองคนนี้เป็นฝ่ายชักชวนให้เราถ่ายรูป แถมยื่นกระบี่ให้และจับเราตั้งท่าให้ซะอีกแน่ะ


ถ่ายรูปเสร็จแล้วเขาพาเราเดินไปยังการแสดงนินจา ซึ่งเริ่มฉายไปแล้วบางส่วน เราเลือกที่นั่งด้านหลัง แต่พอสักพัก เริ่มเมื่อยคอ ก็เลยเดินไปนั่งแถวกลางๆ คุณลุงนักแสดงลงมาเล่นกับคนดู แล้วไม่รู้คุณลุงนึกยังไงเดินมาหาเรา แล้วชวนคุย ซึ่งเราตอบไปว่า “นิฮงโกะวากะริมะเซ็ง” (ชั้นฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกค่ะ) คุณลุงเก่งมากเลย รีบถามภาษาอังกฤษว่า “Where you come from?” ฮั่นแน่! เจ๋งเชียว พูดภาษาอังกฤษได้ด้วย คุยกันสักพัก (คนดูคนอื่นๆ ก็ชะเง้อมอง) คุณลุงก็พูดว่า “Why not you take photo with me?” ว้าว! ก็วายน๊อตล่ะ เรารีบลุกขึ้นไปถ่ายรูปกับคุณลุงเลย เสร็จแล้วคุณลุงก็วิ่งกลับขึ้นไปแสดงต่อจนจบ


ก่อนม่านปิด คุณลุงจ้องและตะโกนมาจากบนเวทีว่า “Have a nice day!” ว๊าว! ประทับใจจริงๆ




เสร็จจากที่นี่แล้ว เรานั่งรถต่อไปยัง Arashiyama ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราประทับใจที่สุดในทริปนี้

ที่นี่คือ Tourist Attraction แห่งหนึ่งในเกียวโต มีภูเขา ลำธาร ต้นไม้ (ต้นซากุระ) และด้วยบรรยากาศ และแสงแดดสวยงาม ที่นี่สวยสุดๆ จนไม่รู้จะบรรยายได้อย่างไร ได้แต่พึมพำกับตัวเองว่า “ชั้นจะกลับมาอีกครั้ง ชั้นจะกลับมาอีกครั้ง”



เสร็จจากที่ Arishiyama เรายังมีอีกอย่างที่ยังไม่ได้ทาน นั่นก็คือ "ทาโกยากิ" เพื่อนเราแนะนำว่า หลังจากสำรวจมาทั่วเกียวโตแล้ว ที่ Jusco ในสถานีรถไฟเกียวโตอร่อยที่สุด เราเลือกทานแบบสองอย่างในจานเดียว คือ "ทาโกยากิ+โอโคโนมิยากิ" อร่อยสมคำโฆษณาจริงๆ


หลังจากทานเรียบร้อย เรากลับไปทานอาหารค่ำที่บ้านเพื่อนเรา ซึ่งวันนี้สามีเขาเลิกงานเร็วกว่าทุกวัน เพื่อมาทำ “นาเบะ” หรือ “ชาบู ชาบู” ให้เราทาน

สรุปว่าทริปนี้เป็นทริปที่ประทับมาก ประทับใจทั้งสถานที่และการต้อนรับของเพื่อนเราคนนี้ และเราได้สัญญากับเพื่อนเราว่า ... "เราจะกลับไปอีกครั้งแน่นอน"

Create Date : 17 มกราคม 2550		1 comments
Last Update : 30 ตุลาคม 2550 21:57:12 น.
Counter : 2404 Pageviews.
Share Tweet