Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2562
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
27 พฤษภาคม 2562
 
All Blogs
 

นิยายแปล เรื่อง ดาวพิษ บทที่ 5 ปีกเทวดาตกสวรรค์ แปลโดย ภาวิดา คนบ้านป่า

LITERATURE
นิยายแปล เรื่อง ดาวพิษ บทที่ 5 ปีกเทวดาตกสวรรค์
แปลโดย ภาวิดา คนบ้านป่า
***********************************************************

ความเดิม:
บทที่ 1 ดาวพิษเวิร์มวู้ด
บทที่ 2 เหตุป่วนสมอง
บทที่ 3 หมอยา
บทที่ 4 ซอยอินนิโก้

แผนผัง Bloombury Square
cr:https://historicengland.org.uk/listing/
the-list/list-entry/1000210


บทที่ 5 - ปีกเทวดาตกสวรรค์

แคดมุส เลเมี่ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะยาว ตาจ้องถ่านที่ยังคุอยู่ในเตาก่อนจะมอดดับ แด๊กด้า ซาราพักนอนจมอยู่ในเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ใกล้พื้นหน้าเตาผิง อ้าปากกรนจนน้ำลายเป็นฟองฟ่อดไหลย้อยลงไปตามคางเรียวแหลม ลมเย็นจากที่ใดไม่ปรากฎพัดฝุ่นบนพื้นหินในห้องอาหารฟุ้งกระจายและหอบเทียนไขหลายเล่มที่จุดให้ห้องสว่างตกจากชั้นเหนือเตาผิง

“เจ้านี่ไม่ใช่เพื่อนคุยที่ดีเลยนะ ซาราพัก” เลเมี่ยนคำรามพลางกลืนยินล่วงลำคอขลุกขลักลงไปเหมือนคางคกผอมๆ พยายามอ้าปากสูดลมหายใจ “อย่างน้อยๆ ก็น่าจะถ่างตาอยู่ฟังข้าเล่าให้จบซะก่อน” ซาราพักยังคงหลับต่อไป ส่ายหัวไปมาราวกับตกอยู่ในฝันร้ายสุดทรมาน “เรื่องมหัศจรรย์นะเฟ้ย ไม่ใช่แค่ของธรรมดาในโลกนี้หรอก ได้มาแล้วจะได้พ้นทุกข์ยากซะที ไม่ต้องพะวงกับปลิง เรือด การดูดเลือดหรือฝีดกฝีดาษ โรคติดต่อบ้าบออะไรอีก” เลเมี่ยนตบหลังแขนเพี๊ยะ แกะหมัดกินเลือดจนอ้วนออกจากเนื้ออย่างแม่นยำเหมือนที่ทำมาแล้วเป็นพันครั้ง

“ข้าอุตส่าห์เอาขนมันมาอวดให้เจ้าดู คิดว่าเป็นข้อพิสูจน์ไงล่ะ” เลเมี่ยนคลำเปะปะด้วยความเมาแล้วดึงสิ่งที่ดูเหมือนขนนกยาวสีขาวออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อคลุม ยกขึ้นส่องกับแสงเทียนที่ไหวระริก เขามองลอดสีขาวงามปลั่งนั้นไปเห็นว่าในห้องมืดๆ กลับกระจ่างเรืองขึ้นด้วยแสงไม่เคยมีในโลก “ถามหน่อยซิวะ มีความลับแล้วเก็บไว้กะตัวน่ะมันจะได้พระแสงอะไร ดูข้าสิ แค่พ่อครัวธรรมดาที่มีบ้านเช่าเก่าๆ หลังหนึ่ง แต่ทว่าที่ชั้นบนน่ะเดี๋ยวนี้เป็นที่ห้ามหวง ข้าซ่อนสิ่งสวยงามน่าชมที่มนุษย์ไม่เคยเห็นเอาไว้ แล้วนี่ข้าจะแสดงให้ใครดูได้ล่ะ ข้าจะโอ้อวดแก่ใครได้ ความลับมีปัญหายังงี้แหละ หาประโยชน์อันใดไม่ได้จนกว่าจะถูกเปิดเผย”

ซาราพักหงุดหงิดตอบอู้อี้ เขาครึ่งหลับครึ่งตื่นพึมพำร้องเพลงที่ไม่มีใครจำได้แล้ว “จงชำระล้างมลทินให้ข้าด้วยสมุนไพรไฮส์สอพ... เพื่อว่าข้าจะได้สิ้นมลทิน...
ชำระล้างให้ข้าขาวสะอาดยิ่งกว่าหิมะ...”

เลเมี่ยนตัวสั่นราวกับได้ยินผีพูด เขาคว้าได้เหล็กเขี่ยไฟจากข้างเตามากระทุ้งอกซาราพักเข้าให้สามพลั่ก “หยุดพึมพำบ้าๆบอๆซะทีซิโว้ย” เขาเอะอะ “ข้าขนลุกแล้วนะ นั่นมันภาษาที่เขาพูดกันในโบสถ์ เก็บมันไว้ที่นั่นแหละเว้ย”

ซาราพักไถลจากเก้าอี้ลงไปกองหมดสภาพอยู่บนพื้นหิน ยึดกรอบเก้าอี้ไม้ไว้เหมือนคนกำลังจะจมน้ำไขว่คว้าหาเชือกเกาะ “เอิ๊ก! อะไร!” เขาเรอเอิ้กอ้ากเมื่อเข่าทั้งสองกระแทกพื้นหิน “ทางมันไกล... ลืมไปเสียก็มาก... มันกลับมาแล้ว กลับมาแล้ว... มันย่างสามขุมตามข้าทุกคืน เหมือนหมาล่าเนื้อ วิ่งตามข้า ไล่ล่าข้า” เขาพลันสะดุ้งตื่นจากฝัน คุกเข่าลงเบื้องหน้าเลเมี่ยนราวกับจะวิงวอน “ข้าเห็นมันนะ แคดมุส คาถาอะไรก็ช่วยข้าไม่ได้ ข้าได้ยินเสียงฝีตีนย่ำพื้นอยู่ในความมืด รู้สึกว่ามันหายใจรดต้นคอข้า ไอ้สัตว์ร้ายที่หลุดมามันจ้องจะเขมือบข้า” น้ำตาคลอตาซาราพักเมื่อเขาสะอึกสะอื้นปนคำพูดคำท้ายๆ ที่ขลุกขลักอยู่ในลำคอ “รับปากซิว่า เจ้าจะพิทักษ์ข้า แคดมุส เราน่าจะเป็นได้มากกว่าเพื่อนร่วมก๊ง เจ้าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ข้ามี และเจ้าหมาล่าเนื้อนั่นก็เข้ามาใกล้ข้ามากขึ้นทุกคืน!”

“มันก็แค่ฝัน เรื่องไร้สาระที่เกิดขึ้นตอนกลางคืน ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว” เลเมี่ยนกำขนนกยาวสีขาวปลั่งเหมือนคทาโบราณ “ดูนี่ ไอ้นี่แหละจะปกป้องเจ้า!” เขาพลันทิ่มปลายขนนกนั้นไปทางซาราพัก “เทวดาตนหนึ่ง สิ่งมีชีวิตสุดพิเศษที่เจ้าไม่เคยพานพบ กวักปีกลงจากสวรรค์มา แล้วตอนนี้ก็เป็นของข้า”

“ข้าว่าเหมือนขนหงส์ซะมากกว่า ข้ามีขนปีกเทวดาเป็นกระตั้ก ชิ้นส่วนไม้กางเขนของผู้นำศาสนายิว แล้วยังฟันมังกรอีก โลกนี้เต็มไปด้วยของพรรค์นี้แหละ ทุกอย่างซื้อได้แค่ชิ้นละหนึ่งกินีพร้อมคำโอ้อวดว่ารักษาได้สารพัดโรค” ซาราพักบิดมือของตนไปมาอย่างแรง ราวกับจะถูคราบไคลลึกลับที่เกาะติดตนอยู่ “เจ้าเป็นเพื่อนและตอนนี้ก็เป็นหุ้นส่วนธุรกิจของข้า แต่ข้าไม่ได้อยากได้ขนปีกเทวดาหรอก ไอ้ที่อ้างว่าเป็นขนปีกเทวดาน่ะล้วนแต่ได้มาจากหงส์เป็นพันๆตัวที่เดินย้ายตูดแดงเถือกเพราะขนโกร๋นอยู่ในอุทยานหลวงตั้งหลายแห่ง ขนปีกเทวดาจะงอกจากตูดหงส์ตัวไหนได้ล่ะวะ”

“โธ่โว้ย!” เลเมี่ยนอุทาน ผิดหวังอย่างยิ่ง “นี่ไม่ใช่กลลวงของพวกเล่นกลอวดสัตว์หายากเหลือเชื่อ แต่เป็นของจริงเหมือนตัวตนของเจ้านี่แหละ ข้าได้เห็นเทวดาด้วยตาตัวเองและถอนขนนี้มาจากปีกเทวดาด้วยมือของข้าเองเลยนะ นี่ไม่ใช่ขนหงส์ที่เอามาปะติดหลังมนุษย์ แต่เป็นขนปีกเทวดาจริงๆ”

ซาราพักผุดลุกจากเก้าอี้ คว้าขนนั้นชูส่องกับแสงเทียน ตาเพ่งสำรวจเส้นสีทองหนาที่ยึดติดกันและเปล่งประกายขาวใสเลื่อมลาย มองดูเป็นโลหะสูงค่ามหัศจรรย์กับขนาดแล้วมีน้ำหนักมากอย่างเหลือเชื่อ ซาราพักสะบัดขนนั้นเข้าไปที่เปลวเทียนหวังจะเผาสิ่งต้มตุ๋นของเลเมี่ยน มันก็ไม่เห็นไหม้เกรียม ยิ่งอยู่กลางเปลวไฟกลับยิ่งเปล่งประกายขาวแกมทองขึ้น เขาวางขนนั้นบนฝ่ามือเพื่อทดสอบน้ำหนักขณะที่ใบหน้ายับย่นของเขาแสดงว่าใจคิดคำนวณอะไรอยู่ “ใครเป็นคนทำไอ้นี่ขึ้นมา” เขาถาม เลิกคิ้วข้างหนึ่ง

“สงสัยว่าจะเป็นพระผู้สร้างเราๆ ขึ้นมานั่นละมั้ง” เลเมี่ยนประชด

“ทุด! ข้าก็เคยคิดอย่างนั้นแหละ แต่ก็เหมือนอีกหลายๆ อย่างที่ถูกโกงไป ตอนนี้ข้าเชื่อแต่สิ่งที่ตาเห็น อย่างอื่นไม่เชื่อแล้ว เมื่อไหร่ข้าพบสิ่งซึ่งอ้างถึงโลกอื่นได้ ข้าจึงจะยอมเชื่ออีก” ซาราพักเคาะขนนั้นกับข้างโต๊ะ พอเริ่มเคาะมันก็สั่นสะเทือนเกิดเสียงกังวานก้อง ทีแรกเสียงสูงมากจนไม่สามารถได้ยิน แต่พอเคาะมากครั้งขึ้นเสียงก็ลดระดับลงจนได้ยินเหมือนเสียงค้างคาวร้องแหลมจี๊ด

“แปลกมากเลยนะเนี่ย” เลเมี่ยนกล่าวพลางเอื้อมไปเอาขนนกกลับมา “ทีนี้เจ้าเชื่อข้าหรือยังล่ะ”

“ถ้าข้าได้เห็นไอ้ตัวเจ้าของขนนี้ ข้าจึงจะเชื่อ ข้าค้นหาที่ซ่อนแห่งวิญญาณมานานหลายปี แยกแยะส่วนต่างๆของร่างกายคนมาแล้วทุกเชื้อชาติ ค้นหาว่าวิญญาณแอบอยู่ส่วนไหนของร่างกายมนุษย์ แต่ก็หาไม่พบทั้งในสมองและในอวัยวะภายใน ที่หัวใจก็ไม่ใช่ จนเกือบจะลงความเห็นอยู่แล้วว่า ไม่มีวิญญาณอยู่จริง ฉะนั้น ถ้าหาเทวดาได้สักองค์ เทวดาจริงๆ ตัวเป็นๆ ด้วย ข้าถึงจะเปลี่ยนความเข้าใจแต่แรกได้ เจ้ารู้จักเทวดาอย่างว่าสักองค์มั้ยล่ะ” ซาราพักชักจะรอไม่ไหว สายตาสอดส่ายดูการเคลื่อนไหวของเลเมี่ยนเพื่อสำรวจท่าที

“ข้าเอาให้ดูได้...” ประตูหน้ากระแทกปิด กระแสลมเย็นกรูเข้ามาจนหน้าต่างระรัว กระพือไฟที่ยังคุอยู่แต่ใกล้มอดให้สว่างขึ้น เลเมี่ยนจ้องตาซาราพักเป็นเชิงบอกให้เงียบ

“นั่นใครน่ะ” เขาตะโกนออกไปในโถงทางเดิน “ใครมาปลุกเราดึกขนาดนี้ เรายังไม่มีอาหารหรอกจนกว่าจะเช้า”

“ข้ามาดึกไปหน่อยน่ะ พ่อ” อเก็ตต้าตะโกนแก้ตัวสวนเสียงพ่อ “เบล้กกักข้าไว้ แล้วเดินจากบลูมสเบอร์รี่มานี่ก็มีแต่คนคอยดูฟ้าไหวแน่นไปหมด พ่อเห็นพระจันทร์แรกขึ้นหรือยัง” อเก็ตต้าพูดเร็ว หวังจะเปลี่ยนเรื่องคุยพลางซ่อนมือไว้ในกระโปรง “ข้าจะไปนอนแล้วละ” เจ้าหล่อนตะโกนจากโถงทางเดิน

“โตเป็นสาวจนไม่อยากบอกราตรีสวัสดิ์กับพ่อเจ้าแล้วเรอะ อเก็ตต้า เข้ามาบอกลาไปนอนกับเราก่อน” แคดมุสสั่ง

อเก็ตต้าเข้ามายืนลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าห้อง ยิ้มให้พ่อและก้มศีรษะให้ซาราพัก

“ระวังตัวดีๆ นะ อเก็ตต้า เวลาเดินมาทางสแตรนด์ แถวนั้นน่ะมีแต่พวกกักขฬะและผู้หญิงหากิน ไม่เหมาะกับเด็กสาวสวยๆหรอก” ซาราพักจ้องเจ้าหล่อนเขม็ง

“ใครรังแกอเก็ตต้าของข้าได้ก็ต้องเป็นคนจริงทีเดียวละ” พ่อเจ้าหล่อนตอบ “ต้องกล้าอย่างยอดหรือไม่ก็ทึ่มสุดๆ อีหนูนี่ต่อยหนักกว่านักมวยหมัดลุ่นๆ ซะอีก” เลเมี่ยนชูกำปั้นแสดงท่าต่อสู้หลอกๆ “มาเลย อเก็ตต้า โชว์ฮุคขวาให้เขาดูหน่อยซี่ ต่อยไอ้ก้อนข้างๆ หน้าข้านี่ให้หลุดไปเลย!” เลเมี่ยนชกลมวืดๆ

อเก็ตต้ายังคงยืนอยู่คนละฟากประตู ซ่อนมือขวาเอาไว้ ไม่อยากให้พ่อเห็นรอยไหม้ที่ฝ่ามือ “ข้าอยากไปนอนแล้ว วันนี้ทำงานเหนื่อยทั้งวันเลย” เจ้าหล่อนตอบห้วนๆ “มาหน่อยน่า อีหนู” เลเมี่ยนบอก สุ้มเสียงชักจะเอาให้ได้อย่างใจ “มาสู้กับพ่อสักหน่อยเป็นไร!”

อเก็ตต้ารู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธแล้วจึงเดินเข้าไปในห้อง ยังคงไขว้แขนขวาไว้ข้างหลัง เจ้าหล่อนไม่อยากจะต้องอธิบายว่ามือมีรอยไหม้ได้อย่างไร แผลที่ปวดหนึบนั้นเตือนให้นึกถึงเยอร์ซิเนีย รถม้า และเมรัยมธุรส เจ้าหล่อนสวิงหมัดซ้ายเข้าหน้าพ่ออย่างว่าง่าย ตั้งใจให้พลาดและหวังว่าจะแอบมือขวาไว้ได้

“ใส่อารมณ์หน่อยซิ อีหนู ชกแบบตั้งใจหน่อย” แคดมุสพูดพลางกำหมัด “มาเลย อีหนู ฝีมือเอ็งดีกว่านั้นน่า” เขาจู่โจมด้วยกำปั้นซึ่งทำให้อเก็ตต้ากระโดดถอยหลัง

สัญชาติญาณและการฝึกมาเป็นปีๆ ทำให้อเก็ตต้าพร้อมสู้โดยไม่ต้องคิด เจ้าหล่อนแย็บหมัดขวาอย่างรวดเร็วแหวกอากาศกระแทกหน้าพ่ออย่างจัง แคดมุส หมุนกลับ หัวร่อร่า

“ข้าบอกแล้วไง นังหนูมันสู้เป็น” เขาพูดพลางลดการ์ดลงและสูดลมหายใจ “อเก็ตต้าของข้านักสู้ฝีมือเลิศ ข้าสอนมาแบบใช้ไม้แข็ง รักลูกต้องตี ไงล่ะ ไม่งั้นเสียคน”

อเก็ตต้างอตัวด้วยความเจ็บปวดทั้งจากวาจาของพ่อและแผลที่ฝ่ามือ

“เป็นอะไรไปล่ะ อีหนู ชกพ่อแรงเกินไปเหรอ” แคดมุสมองซาราพักและหัวเราะ

อเก็ตต้ากำมือ กลั้นน้ำตา “มือข้าถูกไฟลวก เทียนไขน่ะ” เจ้าหล่อนบอก “โดนตรงฝ่ามือ”

“ให้ข้าดูซิ” ซาราพักขัดขึ้น “ข้าเป็นหมอ ข้าช่วยได้นะ”

ก่อนที่เจ้าหล่อนจะทันปฏิเสธ ซาราพักก็ก้าวเข้ามาสองก้าว คว้ามือเจ้าหล่อนไปคลี่นิ้วออกดูฝ่ามือตรงที่มีแสงเทียนส่องสว่าง รอยแผลช้ำรูปดวงตาจ้องกลับมาที่ซาราพัก เส้นสีดำเข้มรอบๆ ส่วนกลางที่แดงเหมือนเลือดนั้นมีเมือกสีเขียวข้นไหลซึม

ซาราพักรีบพลิกมือเจ้าหล่อนกลับไม่ให้พ่อเห็น “พันแผลนี้ให้ดี โดยเฉพาะคืนนี้ และอย่าให้ใครเห็น” เขาบอกพลางโอบอเก็ตต้าเข้ามาใกล้ตัว “และอยู่ให้ห่างจากที่ที่เจ้าได้มันมา คนพวกนั้นจะเรียกร้องเอาจากเจ้าเกินกว่าที่เจ้าจะคาดถึง” เขากระซิบ

“เฮ้ย อะไรกันน่ะ ให้ข้าดูด้วยซี่!” เลเมี่ยนพูดอย่างเข้มงวด “นังหนูนี่ลูกสาวข้านะ ข้าสมควรต้องรู้”

“ไม่มีอะไรต้องรู้หรอก แคดมุส ลูกสาวเจ้าต้องพันแผลนี้ไว้ ต้องไม่ให้ใครเห็น เจ้าก็ไม่ยกเว้นนะ อเก็ตต้าถูกไฟลวก ต้องพันผ้าไว้ และไม่ทำอะไรให้อักเสบมากขึ้นอีก” ซาราพักมองอเก็ตต้า “ในฐานะหมอของเจ้า ข้าขอสั่งให้ใช้ผ้าลินินพันแผลแล้วเข้านอนซะ พรุ่งนี้เช้าเจ้าก็จะสบายขึ้น ข้าจะเอายาแก้ปวดมาให้”

อเก็ตต้ามองพ่อ เจ้าหล่อนรู้จากสีหน้าว่าพ่อรู้สึกระแวงว่าถูกปัดไม่ให้รู้ความจริง

“เจ้าควรทำตามที่คุณหมอซาราพักสั่งแล้วไปนอนซะ ข้าจะปลุกเจ้าตอนเช้า เอ้า ไปได้แล้ว”

อเก็ตต้าประคองมือเดินออกจากห้องนั้น พอเจ้าหล่อนพ้นไป แคดมุสก็เหวี่ยงประตูปิดดังปัง เสียงกระแทกสะท้อนสะเทือนจนอกสั่นขวัญแขวนกันไปทั้งบ้าน

“แค่แผลไฟไหม้ก็วุ่นวายซะมาก แด๊กด้า แน่ใจนะว่าเป็นแค่นั้นจริงๆ” เขาถาม

“แน่ ข้าเคยเห็นแผลไฟไหม้มามากและอันนี้ก็เหมือนๆ กัน ทีนี้บอกข้าซิว่า ไอ้เทวดาที่ว่านี่น่ะเป็นอะไร เรื่องนี้ละก็ ข้าวุ่นวายมากแน่ๆ”

“ก่อนอื่น เรามาดื่มกันซักหน่อย ให้นังหนูเข้านอนให้เรียบร้อยซะก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปยังที่ซึ่งใกล้สวรรค์ที่สุดเท่าที่เราจะเข้าไปได้เชียวละ” เลเมี่ยนตอบ


อเก็ตต้าปิดประตูห้องที่อยู่ร่วมกับแม่ เป็นห้องเล็กๆ ที่แน่นอัดไปด้วยเตียงแคบๆ สองเตียงพร้อมฟูกยัดด้วยขนม้าที่ทั้งเก่าและยุบยวบไม่เหลือรูปเดิมแล้ว เทียนไขเล่มหนึ่งจุดอยู่ข้างเตียงของแม่ ให้แสงเพียงสลัวๆ ทำให้ห้องเยียบเย็น เจ้าหล่อนย่องไปตามพื้นที่ระเกะระกะด้วยข้าวของทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น พยายามเลี่ยงถังเมล์และถุงแป้งที่หนูพากันเข้ามาแอบกินไปบ้างแล้ว พอถึงเตียงก็คุกเข่าลงบนนั้นแล้วผลักบานหน้าต่างฝืดๆให้เปิดออกพร้อมเสียงลั่นเอี๊ยด ห้องนั้นจึงได้รับลมลอนดอนอันสดชื่น แสงจันทร์นวลแจ่มอาบผนังห้องทุกด้าน

เสียงแม่ครางทั้งๆ หลับ มือเอื้อมไปควานหาขวดเหล้ายินที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆ
นางเลเมี่ยนนอนแผ่เหมือนแมวน้ำมีหนวดเกยแหง็กอยู่บนกองหิน ศีรษะส่ายไปมาติดกับตัวอยู่ด้วยคอผอมยาวที่หายเข้าไปในระบายเสื้อคลุมนอน เสียงกรนน่ารำคาญหูดังไปทั่วห้องสลับเสียงครางอู้อี้เป็นช่วงๆ ระหว่างมือโบกไปมาเพื่อไล่แมงมุมที่ไม่มีอยู่จริง

อเก็ตต้ามองออกไป คืนนี้อากาศสดชื่น เดือนสว่างกระจ่างนวล เบื้องล่างหมอกลอยอยู่บนทางเท้า ไหลเลื่อนเข้าไปในถนนและซอกซอยราวกับมังกรขาวตัวยาวเลื้อยไปสู่แม่น้ำ เจ้าหล่อนมองดูแม่ เสื้อคลุมนอนขยับขึ้นลงตามจังหวะนาฬิกาเดิน ห้องเยียบเย็นทำให้เห็นลมหายใจออกเป็นไอลอยเป็นสาย เสียงแม่หายใจฟืดแล้วยังนอนดิ้นกระสับกระส่ายทำให้อเก็ตต้านอนไม่หลับ เจ้าหล่อนคอยจ้องแม่หายใจแต่ละครั้งแล้วแทบจะหวังให้เป็นครั้งสุดท้าย

หนูตัวใหญ่ๆ ตะกุยอยู่ในผนังดังแกรกๆ เสียงมันแทะกรอดๆ ประสานกับเสียงอื้ออ้าของแม่ที่หลับอยู่ ขณะที่อเก็ตต้าซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาและหลับตา คอยให้ความเจ็บปวดคลายลงจิตจะได้ท่วมท้นด้วยแรงปรารถนาที่เยอร์ซิเนียบอกไว้ เจ้าหล่อนจำรถม้าหรูหราพร้อมด้วยเบาะนั่งทำด้วยหนังอ่อนนุ่มและจำกลิ่นหอมกรุ่นจากกายและเสื้อผ้าประณีตงดงามของเยอร์ซิเนียได้ นั่นเป็นโลกที่ห่างไกลจากบ้านอันโสโครกแห่งนี้ เป็นโลกที่ตอนนี้เจ้าหล่อนปรารถนาจะทำทุกสิ่งเพื่อให้ได้มา

เสียงแม่กรนสนั่นหวั่นไหวและหายใจฟืดฟาดไม่เอื้อให้หลับลงได้ อเก็ตต้ามองตามเงาดำสนิทที่วูบวาบพาดผ่านผนังห้องอันเปรอะเปื้อนแล้วหลับตาคอยให้ถึงรุ่งอรุณ แต่ใบหน้าของชายแปลกหน้าที่ฮอลบอร์นปรากฏขึ้นในจิตใต้สำนึก...

‘เด็กๆจะไปไหนก็ควรต้องดูตาม้าตาเรือให้ดี’ ชายผู้นั้นกล่าวเสียงทุ้ม ‘โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเคยทำอย่างนี้มาก่อนแล้ว’

อเก็ตต้าเงยหน้าขึ้น ที่เห็นโดดเด่นอยู่ในเงามืดนั้นคือชายแปลกหน้าซึ่งบัดนี้ดูตัวใหญ่ขึ้น น่าหวั่นกลัวมากขึ้นเมื่อเขาก้มลงมาหา หมวกปีกกว้างของเขาพลิ้วอยู่ในสายลมสดชื่นริมแม่น้ำ ใจเจ้าหล่อนนึกขึ้นมาแวบหนึ่งว่าจะต่อสู้ แต่แขนขาอ่อนเปลี้ยเหมือนผีอำ ขยับเขยื้อนไม่ได้

“คิดอย่างนั้นน่ะไม่ดีเลยนะ” ชายแปลกหน้าพูดเบาๆ “หน้าเจ้าเผยความคิดในใจ ตาเจ้าก็เผยความจริงที่จิตเจ้าซ่อนเร้นไม่ได้” เขาส่งมือให้ ”กลัวข้าทำไม เจ้าไม่รู้ว่าข้าเป็นใครสักหน่อย”

อเก็ตต้าพูดไม่ออก วาจาอึกอักอยู่ในลำคอ เจ้าหล่อนเอื้อมมือจะจับมือเขา
แต่กลับถูกผู้คนรุมล้อมแทรกจนผงะขึ้นไปบนทางเท้า เจ้าหล่อนล้มลง หน้าใครก็ไม่รู้มากมายผ่านเลยไป มือไม่รู้ว่ากี่มือคว้าดึงผมยาวของเด็กสาวขณะที่ศพไม่รู้กี่ศพในเสื้อผ้าขาดวิ่นล้มเข้ามาใส่ เสียงครางคำรามยาวนานก้องขึ้นในพลัน อเก็ตต้ากำผ้าปูที่นอนขณะที่หล่นตุ้บลงไปบนพื้นไม้แข็งกระด้าง แม่ส่งเสียงฮึดฮัดดังลั่น ทางด้านนอกห้องอเก็ตต้าได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ เหยียบขั้นบันไดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เจ้าหล่อนรีบกระโจนขึ้นเตียงอย่างรวดเร็วแล้วดึงผ้าคลุมเตียงขึ้นปิดหน้า


ประตูห้องเปิดดังเอี๊ยด นิ้วมือยาวๆ ดึงกรอบไม้ไว้ ทั้งๆ ที่อยู่ใต้ผ้าห่มกลิ่นอับชื้นจน ประสาทสัมผัสทุกส่วนถูกกลบด้วยกลิ่นอันรุนแรง แต่อเก็ตต้าก็รู้ว่าเจ้าหล่อนกำลังถูกจ้องจนไม่กล้ากระดุกกระดิก

“หลับเหมือนเด็กๆ” พ่อเจ้าหล่อนพึมพำขณะหันกลับออกจากห้องไป

“ดีนะ แคดมุส ที่ทั้งแม่ลูกไม่รู้ว่าเจ้ากำลังแอบทำอะไรอยู่ เจ้าเก็บความลับไว้มากๆ ไม่ได้หรอก” ซาราพักกระซิบด้วยเสียงตื่นเต้น

อเก็ตต้าเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าปีนบันไดขึ้นไปยังห้องใต้หลังคาที่ปิดล็อกอยู่ พ่อของเจ้าหล่อนคุยกับซาราพักไประหว่างขึ้นบันไดสูงและแคบ เด็กสาวได้ยินเสียงโซ่กุญแจเลื่อนกรากกระทบประตูแล้วตัวล็อกอันหนักก็เปิดออกดังเคร้ง พ่ออยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยินว่าเขาพูดอะไร ความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียแผ่ไปทั่วกายและไม่ช้าเจ้าหล่อนก็ผล็อยหลับสนิท

“เจ้าระมัดระวังแค่ไหนก็ไม่มากเกินไปหรอก แด๊กด้า!” เลเมี่ยนบอกขณะที่ปิดประตูใส่กุญแจ “ข้าต้องล่ามเขาไว้กับพื้นด้วยโซ่ตรวนชุดหนึ่ง มีคนบอกว่าเขาว่องไวกว่าเจ้าหนุ่มแจ็กผู้ฆ่ายักษ์ซะอีก และจะหนีได้เร็วกว่าถึงสองเท่า” เขานำซาราพัก
เข้าไปในห้องที่มืดและเล็ก มีเพียงแสงสลัวๆ เท่านั้น

“งั้นนี่ก็เป็นสถานกักกันสัตว์แปลกๆ ของเจ้าละสิ” ซาราพักถามเมื่อสายตาเริ่มคุ้นกับความมืด

“เป็นพวกตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมทีเดียวละ! ข้าต้องจ่ายเงินจำนวนมหึมาซื้อมา” เลเมี่ยนตอบ

“ถ้างั้นก็ขอให้เราหวังได้ว่าไอ้เจ้านี่จะเป็นของแท้ ไม่ใช่พ่อค้าขายขนหงส์ก็แล้วกัน!”

เลเมี่ยนดึงม่านสกปรก “”พ่อเทวดาน้อยๆ ของข้า” เขาออกอุทานอย่างปลาบปลื้ม

ซาราพักอ้าปากค้างอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง ที่อยู่ต่อหน้าต่อตาเขานั้นคือบุรุษผู้หนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อคลุมขาวราวเงิน ไม่มีตะเข็บและไม่พับชาย เหมือนทอขึ้นจากเส้นวัสดุเส้นเดียว ขลิบด้วยไหมเกลียวระยิบระยับ เขาเป็นคนร่างใหญ่แข็งแรง ผิวคล้ำ ตาสีเขียวเข้มเป็นประกายมรกต

“เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ข้าไม่เห็นมีปีกเลยนี่” ซาราพักกล่าวพลางทำท่ากวักแขนเหมือนกระพือปีกบิน

“เทวดาตัวจริงต้องมีปีกงามยังงั้น ข้าเคยเห็นแล้วครั้งหนึ่งที่สถานแสดงสัตว์หายากที่พิกคาดิลลี่ เขามีปีกสวยขนาดใหญ่ยักษ์ซึ่งทิ่มทะลุผ้าลินินออกมาได้ แถมยังกระพือได้ด้วย แต่ที่ใครๆไม่เห็นก็คือ มีสายหนังผูกปีกนั้นติดไว้กับตัว อีกหกเดือนต่อมาเขาก็กลับมาอีก คราวนี้แต่งเป็นสัตว์โบราณหัวเป็นคนตัวเป็นม้า ใช้วิธีเอาขาม้าตายมาผูกติดไว้เป็นขาหลัง แต่ผู้คนก็ดูไม่ยักออก... แต่เทวดาของข้านี่น่ะของแท้และปีกของเขาก็งดงามเหมือนตัวเขานั่นแหละ” เลเมี่ยนลูบใบหน้าของร่างนั้นอย่างแผ่วเบา

เทวดาไม่มีท่าทีว่าเห็นคนทั้งสอง เขาจ้องพื้นห้องเขม็ง ใบหน้าเศร้าสร้อยลึกซึ้ง

“เขาพูดได้ไหม” ซาราพักถามอย่างตื่นเต้น

“บางทีก็พูด แต่ไม่นอน ไม่กิน เอาแต่จ้องดูพื้น ตอนมาใหม่ๆ เขาดูมีน้ำมีนวลมาก ผิวงี้แทบจะเปล่งประกายเหมือนทองแดง แต่ตอนนี้... เขาไม่มีกะจิตกะใจยังไงไม่รู้ บางอย่างภายในตัวตนของเขาเปลี่ยนไป”

“บางอย่างในตัวตนของข้าก็คงจะเปลี่ยนไปเช่นกันถ้าข้าต้องอยู่ในที่อย่างนี้ในสภาพนี้” ซาราพักตอบ ไหล่ไหวสะท้าน “ข้าว่าเขาดูเหมือนมนุษย์ อย่างน้อยๆ ข้าก็หวังว่าจะได้เห็นเทวดาสักองค์”

“เขาเป็นเทวดาจริงๆ ไม่ใช่เล่ห์กลหรือจำอวดหรอก เขามีปีกคู่หนึ่งอยู่ในเสื้อเชิร์ตลินินนั่น สวยงามมากเท่าที่ชาวลอนดอนจะพึงได้เห็นเชียวละ” เลเมี่ยนพูดอย่างตื่นเต้น ดวงตาขยิบยิกๆ ขณะลูบก้อนเนื้องอกข้างศีรษะ

ซาราพักสังเกตว่าร่างนั้นถูกตีตรวนไว้กับพื้นด้วยโซ่สีทองติดแน่นกับสายรัดทำด้วยเหล็กซึ่งรัดข้อมือสีบร็อนซ์กำยำไว้แน่น

เลเมี่ยนคว้าด้านหลังของเสื้อคลุมผ้าลินินแล้วตวัดชายขึ้นสูง “เห็นรึยังล่ะ - ปีก! ปีกที่บินได้! ปีกเทวดา! ปีกจริงๆ!” เขาพูดไปหัวเราะไป ดวงตาเป็นประกายอยู่ข้างหลังเทวดา ยังคงไม่ค่อยจะเชื่อสิ่งที่ตนเห็น “ไอ้ที่น่าทึ่งก็คือ ปีกนี่ทะลุเสื้อลินินออกไปได้นะถ้าเขาอยากทำ แล้วถ้าเขาตั้งใจจะทำละก็ มันจะขยายใหญ่ขึ้นเป็นสามเท่าทีเดียว”

ปีกทั้งคู่นั้นดูเหมือนวางแอบๆ แนบนิ่งอยู่บนส่วนหลังของร่างนั้น ขนาดของมันเท่ากับปีกนกอินทรี ปกคลุมด้วยขนสีขาวแกมทองดกหนาเป็นประกายอยู่ในแสงเทียน ซาราพักสอดส่ายสายตาหาสายรัดที่เขาคิดว่าต้องมีผูกติดอยู่กับหลังของเทวดา แล้วเอื้อมมือสอดเข้าไปหลังปีกทั้งสอง ควานหาส่วนที่มิดชิดที่สุดบนหลังของร่างมหัศจรรย์นั้น ทันใด ปีกเทวดาก็สะบัดออกแล้วในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็ขยายกางออกเต็มขนาด คลื่นสะเก็ดไฟละเอียดสีเงินโปรยปรายใส่เลเมี่ยนและซาราพัก เลเมี่ยนปล่อยชายเสื้อด้านหลังของเทวดา มันตกทะลุปีกลงไปราวกับไม่มีสิ่งใดอยู่ตรงนั้น ชายทั้งสองกระโดดถอยหลัง ตื่นตะลึงกับสิ่งที่เห็น

ปีกเทวดาขยายเต็มห้องเล็กๆ นั้น แผ่สูงกว่าร่างของเทวดาเหมือนหางนกยูงที่มีประกายระยิบระยับ ขนแต่ละอันประดับด้วยดวงตาสีฟ้าใส ซาราพักเอามือป้องหน้ากันแสงจรัสซึ่งตอนนี้เปล่งจ้าออกมาจากปีกจนตาเขาแทบบอด เขามองลอดระหว่างนิ้วมือดูปีกที่เลื่อมพรายเพริศแพร้วขึ้นทุกที ทั้งห้องอาบด้วยแสงเรืองสีทอง และแล้วก็พลันดับวับลงอย่างรวดเร็วเท่าตอนที่เกิดขึ้น แสงในห้องนั้นลดลงเท่าแสงเทียนเล่มเดียวอย่างกะทันหัน ร่างนั้นนั่งลง ใบหน้าขรึมเศร้า ดวงตาจ้องตรงไปที่แมลงสาบตัวหนึ่งซึ่งวิ่งจี๋ไปตามพื้นห้องสกปรกราวกับว่าพละกำลังของเขาถูกรีดออกจากร่างกายที่อ่อนกำลังและถูกพันธนาการไว้

ซาราพักพยายามซ่อนความตื่นเต้นทั้งที่ความคิดแล่นพล่าน “เจ้าอย่าเอาเจ้านี่ไปอวดกะใครนะ” เขาพูดเร็วปรื๋อ “คนทั้งโลกจะเป็นบะ.บะ.บ้าถ้าได้หะ.หะ.เห็น” เขาพูดแทบไม่เป็นคำ โลหิตสูบฉีดแรงตลอดถึงปลายเส้นโลหิตเล็กๆ ข้างใบหน้าตามจังหวะหัวใจที่เต้นรัวถี่ “ถ้าข้าเป็นเจ้านะ แคดมุส ข้าจะขายเขาให้ใครสักคนที่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใครก็ได้ที่สามารถใช้พลังอำนาจของเขาจนถึงก้นบึ้ง ใครสัก –“

“เหมือนเจ้ายังงั้นใช่มั้ย แด๊กด้า ใครสักคนที่เหมือนเจ้างั้นสิ” เลเมี่ยนขัดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เขาไม่ใช่สินค้าสำหรับซื้อขาย ไม่ว่าแก่เจ้าหรือใครทั้งนั้น ข้าจะเอาเขาไปแสดงให้สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษชมครั้งละหนึ่งกินี... แล้วข้าก็จะรวยเละละทีนี้”

“เขาเป็นเทวดานะ แคดมุส เทวดาของแท้เลย เราควรจะตรวจเขาอย่างละเอียดลออ ข้ามีเครื่องเพิ่มกระแสไฟฟ้า เราจะได้เห็นกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาถูกไฟฟ้าจี้ นี่เป็นยาชั้นเลิศที่จะรักษาความเศร้าสลดหดหู่ของเขา” ซาราพักตะโกนอย่างตื่นเต้นสุดขีด

“เงียบๆ หน่อยสิเว้ย ไอ้พวกที่เช่าห้องอยู่ที่นี่อาจจะอยากตัดคอเขาไปขายเอาเงินแค่ฟาร์ธิงเดียว แล้วก็ซื่อบื้อพอที่จะตัดปีกของเขาเอาไปขายเป็นขนหงส์” เลเมี่ยนรุนซาราพักออกไปจากห้องนั้น “เขาไม่ต้องการยาใดๆ ที่เจ้าอวดอ้างสรรพคุณหรอก เขาเป็นอนาคตของข้า และอาจจะของเจ้าด้วยถ้าเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้องทำไปตามเงื่อนไขของข้า”


บทแปลนี้มิใช่เวอร์ชั่นก่อนพิมพ์เล่ม
จึงยังมีความลักลั่นเรื่องชื่อสถานที่อยู่บ้าง
ขออภัยด้วยค่ะ

(ติดตามบทที่ 6 ต่อไปนะคะ)
LITERATURE
 ขอบคุณของแต่งบล็อกจากอินเทอร์เน็ต




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2562
52 comments
Last Update : 11 มิถุนายน 2562 10:43:51 น.
Counter : 2037 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณวลีลักษณา, คุณmcayenne94, คุณtuk-tuk@korat, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน, คุณLikLi Sympathy, คุณตะลีกีปัส, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณJinnyTent, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณSweet_pills, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณหอมกร, คุณmambymam, คุณร่มไม้เย็น, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณหน่อยอิง, คุณInsignia_Museum, คุณruennara, คุณAsWeChange, คุณmariabamboo, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณlife for eat and travel, คุณmelody_bangkok, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณTui Laksi, คุณญามี่, คุณkae+aoe, คุณกะว่าก๋า, คุณNior Heavens Five, คุณชีริว, คุณSai Eeuu, คุณALDI, คุณที่เห็นและเป็นมา

 

สวัสดีมีสุขค่ะพี่ภาขา

สว.บ่นไรพึมพำคะ บ้านป่าเน็ตช้าเน็ตเต่า
ก็ขอให้พี่ปูต่อเน็ตแรงไไว้เลยค่ะ
จะได้ไม่เหงา ได้ดูภาพล้านแปดของน้องได้
ตะพาบคราวนี้ภาพบานเลยค่ะ
ลงให้สมกับไม่อยู่10วัน..กิกิ

เรื่องแปลดาวลมพิษ ยังไม่อ่านก่อนค่ะ
ติดไว้อ่านหลังซักตากผ้าที่ไปเที่ยวให้เสร๊จก่อน...สลบค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 27 พฤษภาคม 2562 18:06:45 น.  

 

มาส่งกำลังใจให้พี่ภาที่รักค่ะ เพิ่งได้เข้ามาแล้วก็ต้อง

ไปจัดการพวกอาหารเย็นให้พวกเจ้านายต่อค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะสำหรับกำลังใจที่มอบให้โอเล่เสมอมาค่ะพี่

 

โดย: โอน่าจอมซ่าส์ 27 พฤษภาคม 2562 18:52:53 น.  

 

สนุกตื่นเต้นทุกบทเลยค่ะพี่ภา บทนี้ยิ่งสนุก

 

โดย: วลีลักษณา 27 พฤษภาคม 2562 19:27:31 น.  

 

ตื่นเต้นสนุกทุกตอนค่ะ
ตัวละครหลายตัว มาคอยลุ้นใครเป็นใครค่ะ

 

โดย: mcayenne94 27 พฤษภาคม 2562 19:43:56 น.  

 

สงสารคนมีปีกอ่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 27 พฤษภาคม 2562 20:14:26 น.  

 

แวะมาทิ้งล่องลอยไว้เฉยๆ ครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 27 พฤษภาคม 2562 21:43:39 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
mcayenne94 Home & Garden Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
วลีลักษณา Literature Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Travel Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog

อุ้มตามมาอ่านต่อค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 27 พฤษภาคม 2562 22:30:24 น.  

 

สวัสดีดึกๆครับ พี่ภา
ตามอ่านถึงบทที่สองครับ

 

โดย: สองแผ่นดิน 27 พฤษภาคม 2562 23:30:35 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณพี่ภา ^_^
อ่านเรื่องแปลปีกเทวดาตกสวรรค์
บนรถไฟฟ้ากำลังสนุกตื่นเต้น...น่าติดตามเลยค่ะ

โหวตงานเขียนด้วยค่าา

 

โดย: Cherry_Wawa 28 พฤษภาคม 2562 8:27:32 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะพี่ภาขา

มาอ่านยามบ่าย ตาปรือจะปิด
แต่พอถึงตอนเห็นเทวดาปีกมลังเมลือง
ตาสว่างทันที เหตุใดเทวดาจึงตกสวรรค์มาถูกขังอยู่ในห้องมืดทึบสกปรกเยี่ยงนี้หนอ
ขนปีกที่ถูกดึงออกมาจะทำอะไรได้บ้าง
ชักอยากรู้ ตอนต่อไปค่ะ
อ่านเสร็จกลับไปคร่อกต่อสักหนึ่งยกก่อนค่ะ
คร่อก...ฟี้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ตะลีกีปัส 28 พฤษภาคม 2562 13:47:20 น.  

 

9.. ขอบคุณที่ชอบอ่านดาวพิษค่ะ คุณลิค
มีคนชอบไม่กี่คนหรอกนะคะ พี่แปลทิ้งไว้
ก็เอามาลงพอไม่ให้หน้าบล็อกจำเจเกินไป
ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 28 พฤษภาคม 2562 19:41:02 น.  

 

คิดภาพเทวดาตามที่พี่ภาบรรยายเลยค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 28 พฤษภาคม 2562 20:28:41 น.  

 

สงสัยๆ
ทำไม ซาราพัก รู้ว่าแผลที่มืออเก๊ตต้าได้มาอย่างไร
และไม่บอกพ่อของเธอ



และพ่อของอเก็ตต้า มีเทวดาในครอบครองจริงๆ
อุแม่เจ้า

เหนือความคาดหมายจริงๆ

อเก็ตต้าเป็นเด็กหยิงเก่งการต่อสู้ด้วย
สวดยอดๆค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 พฤษภาคม 2562 21:39:22 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ภา บีกลับมาบลอคคราวนี้เพื่ออ่านเรื่องดาวพิษเลยค่ะ คิดถึงบลอคและเพื่อนๆทุกคนมากๆค่ะ

 

โดย: be-oct4 28 พฤษภาคม 2562 22:45:04 น.  

 

มาอ่านดาวพิษต่อค่ะพี่ภา
ในบทที่ 3 หมอยา ต๋าเคยสงสัยว่าสิ่งมีชีวิตชนิดใด
ที่แคดมุสซื้อแล้วขังไว้ในห้องใต้หลังคา
มาเฉลยรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตนั้นในบทนี้และ
ทำให้อยากทราบต่อว่าเค้าเป็นใครกันแน่ค่ะ

ส่วนรอยไหม้ของอเก็ตต้าที่เกิดขึ้นบทที่ 4 ซอยอินนิโก้
มีกล่าวถึงในบทนี้ด้วย
เรื่องราวน่าติดตามต่อหลายส่วนค่ะพี่ภา

งานแปลของพี่ภาอ่านสนุก ขอบคุณพี่ภามากค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 29 พฤษภาคม 2562 0:22:37 น.  

 

14..อ๊ายยยยยย ดีใจๆๆๆๆๆ
กลับมาแล้ว น้องเป็ดจังตัวจริงของพี่หนูหล่อเลยนะเนี่ย
ดีใจที่กลับมาอ่านเรื่องดาวพิษของพี่ภาอีกด้วย
55 ดีใจที่กลับมานะคะ มากๆเลย

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 29 พฤษภาคม 2562 6:15:43 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะพี่ บีจะมาไล่ตามอ่านดาวพิษค่ะ เพราะเป็ดจังก็มาจากดาวนะคะ แต่เป็นดาวซินค่ะ พี่หนูหล่อคงจำได้ คิดถึงและสดชื่นมากๆค่ะ

 

โดย: be-oct4 29 พฤษภาคม 2562 7:34:22 น.  

 

ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
สงสัยต้นฉบับไม่ดี ภาษาที่แปลยังดูแข็งๆ ค่ะพี่ภา

 

โดย: หอมกร 29 พฤษภาคม 2562 8:35:21 น.  

 

แวะมาสวัสดีแล้วก็รายงานว่า ...
อัพงานตะพาบโจทย์พี่ภาด้วยค่ะ อิอิ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 29 พฤษภาคม 2562 9:29:22 น.  

 

18..ต้นฉบับดีค่ะ พี่แปลไม่เก่งเอง แหะๆ
ขอบคุณที่ยังกรุณาโหวตให้นะคะ

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 29 พฤษภาคม 2562 9:59:47 น.  

 

สวัสดี ค่ะ พี่ภา

มาอ่าน ดาวพิษ ต่อค่ะ แหม ! เข้าใจจบตอน
ทำให้คนอ่าน อยากรู้ต่อไปนะว่า เจ้าเทวดา มีปีก
ตนนั้น ทำไมจึงถูกขังไว้ ทำให้สงสัย เทวดาน่าจะ
มีฤทธิ์ นะ แถม ในอนาคต ยังจะถูกนำไปโชว์ตัว
เก็บตังค์เพื่อดูอีก มีปม หลายปม ที่ชวนติดตามต่อไปนะเนี่ย
โหวดหมวด งานเขียน ฯ

อิอิ สายตาพี่ภาดี ค่ะ ถ้าเป็นควายจริง หนูคง
ไม่กล้าขี่ อิอิ เด็ก ๆ ออกไอเดีย จ้างทำฉากเป็น
หมื่นเลยค่ะ พี่ภา ห้าห้า

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 29 พฤษภาคม 2562 10:55:31 น.  

 

ขอบคุณค่ะ พี่ภา
จริง ๆ ที่เขาเปลี่ยนชื่อ คงเพราะชื่อ "ลั่นทม" ไปพ้องกับคำว่า "ระทม"
ซึ่งความหมายไม่ค่อยดี ก็เลยเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ซะจะได้สบายใจ

 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ 29 พฤษภาคม 2562 11:16:27 น.  

 

สวัสดีคะ แวะมาขอบคุณที่เข้าไปทักทาย หน่อยอิง ที่บล๊อก

 

โดย: หน่อยอิง 29 พฤษภาคม 2562 12:07:53 น.  

 

อ่านไปแต่ละบรรทัดแล้วก็จินตนาการภาพในเรื่องไปด้วยครับ
มีรายละเอียดของสถานที่และตัวละครที่ชัดเจนมาก อากาศที่เย็นชื้นของกรุงลอนดอน แม่ เทวดา และอีกหลายๆอย่าง เขาประพันธ์ได้ดีเยี่ยม ยิ่งกว่านั้นผู้แปลก็ถ่ายทอดอรรถรสได้ไม่แพ้กัน

 

โดย: Insignia_Museum 29 พฤษภาคม 2562 14:07:42 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ภา
เป็นยังไงบ้าง ค่อยยังชั่วหรือยังคะ

สองวันมานี้จินดีขึ้นมาบ้างแล้วค่ะ
ไม่เคยเป็นไมเกรนติดต่อกันเป็นสิบวันแบบนี้มาก่อน
เพิ่งมาเป็นหนักก็ครั้งนี้ แต่ก็เป็นบ่อยอยู่ค่ะ
ว่าจะไปหาหมอเช็คร่างกายอยู่เหมือนกันค่ะ

ตั้งแต่อายุย่างเข้า 40 จนมาถึง 45
ิจินก็ออด ๆ แอดๆ นั่นนี่มาตลอด คงสะสมมานาน
ก็ประคองรักษาตามอาการทีละอย่าง ทำใจเอา

 

โดย: JinnyTent 29 พฤษภาคม 2562 17:21:05 น.  

 

มาตามอ่านไล่ๆไปค่ะ แต่ยังงงๆวิธีการโหวต ขอเวลาเป็ดศึกษาสักพักนะคะพี่ภา เป็ดยังงงงงค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะพี่

 

โดย: be-oct4 29 พฤษภาคม 2562 20:24:12 น.  

 

เข้ามาอ่านงานพี่ภารอบค่ำค่ะ...หลายวันที่ผ่านมาบัสพบการเปลี่ยนแปลง (สิ่งสำคัญในชีวิตหายไปอีกแล้วค่ะ)...ช่วงนี้กำลังเคลียร์ความเสียศูนย์ภายในใจตัวเอง...เพียงเพื่อเข้าใจความสูญเสียอยู่ค่ะ

ปล...ยังไม่ได้เขียนงานค่ะ แวะมาสวัสดีพี่ภาก่อน ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยม blog บัสนะคะ

 

โดย: Sakormaree 29 พฤษภาคม 2562 20:52:21 น.  

 

ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog



แม่โมเคยแปล A passage to India ค่ะ
และแปลงานอีกหลายอย่างตอนนี้ไม่เอาแล้วปวดหัว
เห็นคุณแม่ทำด้วยใจรักแล้วก็นับถือค่ะ
ขอบคุณทีแวะไปที่บล๊อกนะคะ

 

โดย: mariabamboo 29 พฤษภาคม 2562 21:07:13 น.  

 

ขอบคุณพี่ภาสำหรับกำลังใจค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 29 พฤษภาคม 2562 23:50:30 น.  

 

มาอ่านต่อ จริงแล้วเข้าอ่านวันก่อนแล้วครับพี่

แต่แหะ ๆ มันยาวจังเลย..

ผมติดนิสัยอ่านสั้น ๆ งานเขียนนี้เลยต้องค่อย ๆ
อ่าน..

ผู้ประพันธ์กับพี่ บรรยายบุคคลิกตัวละครเห็นร่าง
กายแต่ละคนเลย

ตอนแรกก็งง.. ซาราเป็นหญิง อ้าวชื่อซาราพัก
เรื่องเทวดา มีทั้งไทยและเทศเราได้ฟังกันตั้งแต่เด็กแม้แต่พุทธศาสนาในปัจจุบัน

น่าจะมีจริงเพียงแต่พิสูจน์กันไม่เป็น.. ตามเรื่อง
ข้างบนเทวดาถูกจองจำ มีปีกคงถูกทำโทษอยู่
ในเมืองมนุษย์...

ไว้รออ่านตอนต่อครับพี่

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 30 พฤษภาคม 2562 6:16:22 น.  

 

ขอบคุณค่ะพี่ภา

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 30 พฤษภาคม 2562 9:55:11 น.  

 

ส่งกำลังใจค่ะพี่ภา^^

เป็นหวัดเหมือนกันค่ะ 2-3 วันมาแล้ว...

 

โดย: สันตะวาใบข้าว 30 พฤษภาคม 2562 11:50:05 น.  

 

แวะมาโหวตค่าาา

 

โดย: life for eat and travel 30 พฤษภาคม 2562 13:17:42 น.  

 

อุ๊ย... ตอนที่ 5 มาแล้ววว แฟร์ไม่ได้เข้าบล็อกเลยค่ะพี่ภาช่วงนี้ งานเช้ายันดึกเลยทีเดียว เดี๋ยวแฟร์กลับมาอ่านละเอียดอีกทีนะคะพี่ภา

รักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่ภา ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแถมฝนตกด้วย เมื่อเช้าหนูก็เปียกไปนั่งตัวสั่นติดต่องานค่ะ แหะๆๆ

 

โดย: melody_bangkok 30 พฤษภาคม 2562 16:07:06 น.  

 

อ่านซาราพักทีไร ชอบคิดว่าคำว่า "พัก" เป็นกิริยามากกว่าชื่อทุกทีเลยค่ะ

หายหวัดไวๆ นะคะพี่ภา

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
อุ้มสี Topical Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ภาวิดา คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 30 พฤษภาคม 2562 17:07:57 น.  

 

ยินดีครับ..ที่มีโอกาสได้รู้จักพี่น้องเชื้อสายมอญเพิ่มอีกคนหนึ่งครับ
ซึ่งจุดเด่นที่สุดของคนมอญ(ในความเห็นของ พายุสุริยะ ก็คือ...
ความยึดมั่น ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่ายิ่งและ ปฎิบัติตามอย่างจริงใจครับ

 

โดย: พายุสุริยะ 30 พฤษภาคม 2562 20:32:56 น.  

 

ได้อ่านแล้วตื่นเต้นกับเทวดาตกสวรรค์ค่ะ
พร้อมขอบคุณโค๊ตที่ให้ไว้นะคะ
ยังไม่ได้ลองใช้ค่ะ ขอนั่งชมเทนนิส เฟรนโอเพ่นจบก่อนจร้า
ขอบคุณมากมายค่ะคุณพี่ภา

 

โดย: Tui Laksi 30 พฤษภาคม 2562 21:56:03 น.  

 

สวัสดีครับพี่ภา
พอดีเพิ่งถ่ายรูปดอกไม้มาด้วย
เห็นโจทย์เข้าเลยประจวบเหมาะ
เอามาเขียนในหัวข้อ 'ต้นไม้ ดอกไม้' ได้ครับ
ผมชอบดอกบัวเพราะดอกใหญ่ แล้วก็มีกลิ่นเฉพาะ
อีกอย่างดอกใหญ่ถ่ายชัด สีกลับสีเกสรตัดกันดี
ขอบคุณที่บอกชื่อดอกสีขาว ๆ ครับ ผมไมรู้เลยว่า
ชื่อบัวอะเมซอน เห็นมันอยู่ที่เดียวกับบัวที่ถ่าย
จะว่าไปก็ไม่ค่อยเหมือนบัวเท่าไหร่เลย
หวังว่าในโจทย์หน้าผมคงจะได้ร่วมเขียนอีกครับ
ต้องหาแรงบันดาลใจในการเขียนสักหน่อย
เรื่องอะไรที่มันเข้ามากระทบใจย่อมจะเขียนได้ดีดว่า
มันให้ความรู้สึกร่วมได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ต้องหาแรงบันดาลใจช่วยด้วยครับ
รักษาสุขภาพด้วยครับ
แล้วผมจะแวะมาเยี่ยมใหม่

 

โดย: ruennara 30 พฤษภาคม 2562 23:58:14 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ภา

มาแปะชื่อไว้ก่อน
แล้วค่อยตามมาอ่านค่ะ

สนุกขึ้นทุกตอน ผู้แปลมีพรสวรรค์
ตัวหนังสือก็อ่านสบายตาดี

คราวหน้าจะมาให้ทันแน่นอนค่ะ

พักผ่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะพี่
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

โดย: AsWeChange 31 พฤษภาคม 2562 4:37:13 น.  

 

สวัสดียามเที่ยงค่ะคุณพี่ภา
ขอบคุณโหวตกำลังใจคร้า...

ปล.ตอนนี้ใช้ code เดิม เปิดได้เองล๊ะ
งง ๆ อยู่ เดี๋ยวได้ เดี๋ยวไม่ได้ น่าจะเป็นที่
ไวไฟบ้านมั้งคร้า...ไม่เสถียร

 

โดย: Tui Laksi 31 พฤษภาคม 2562 11:51:06 น.  

 

อากาศเปลี่ยน ป่วยกันเยอะเลยค่ะพี่ภา ที่บ้านหนูก็มีคนฟืดฟาดไปเรียน ไปทำงานกัน เราแข็งแรงไม่พอ เลยติดหวัดมาล่ะค่ะ

พี่ภาเป็นไซนัสด้วยเหรอคะ ขั้นกว่าของการเป็นหวัดและแพ้อากาศนะคะนี่...ขอให้พี่ภาหายและแข็งแรงในเร็ววันค่ะ

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 31 พฤษภาคม 2562 20:21:10 น.  

 



สวัสดียามเช้าครับพี่ภา



 

โดย: กะว่าก๋า 1 มิถุนายน 2562 6:32:20 น.  

 

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 5298518 1 มิถุนายน 2562 18:32:53 น.  

 

คนบ้านป่าอาไร๊ แปลภาษาต่างประเทศได้ด้วย 555

 

โดย: ลุงแมว IP: 1.0.153.198 2 มิถุนายน 2562 13:53:16 น.  

 

ตอนนี้ขอให้เรื่องของสุขภาพเป็นอันดับแรกเลยนะครับพี่ภา
ขอให้พี่ภาหายเร็วๆครับ

เรื่องเขียนบล้อกหรือโหวต
ผมว่าทำอย่างที่พี่ภาสบายใจนี่ล่ะครับ
ดีที่สุดเลย

ใครจะคิดหรือว่าอย่างไร
ผมว่าไม่สำคัญเลยครับพี่

 

โดย: กะว่าก๋า 2 มิถุนายน 2562 21:07:27 น.  

 

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ~

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 2 มิถุนายน 2562 21:50:02 น.  

 

สวัสดียามดึกครับพี่ภา
หายป่วยไวๆนะครับพี่ภา
โหวตครับ

 

โดย: Nior Heavens Five 2 มิถุนายน 2562 22:19:59 น.  

 

ตามมาอ่านตอน 5 ครับ พี่ภาเคยบอกว่ามันหั่นได้เท่าไหร่นะ 50 ตอน? ไม่รู้จะยังเขียนบล็อกกันถึงตอนนั้นไหมนะครับ

มหัสจรรย์ --> มหัศจรรย์

พอซาราพักกับเลเมี่ยนคุยกันก็นึกอยากรู้ขึ้นมาว่าขนปีกเทวดาจริงๆจะคล้ายสัตว์อะไรน้อ
ก็คงจะหงส์ขาวนี่แหละมั้ง ดีนะท้ายๆตอนเทวดาโผล่มาคลายความสงสัย (บริการดีจริงๆ)
และโลกต้องจดจำแคดมุส ผู้ท้าลูกสาวและถูกชก เสียดาย น่าเก็บแรงไว้ชกชายแปลกหน้าในเงามืด

 

โดย: ชีริว 2 มิถุนายน 2562 22:34:12 น.  

 

ราตรีสวัสดิ์ครับพี่

 

โดย: กะว่าก๋า 2 มิถุนายน 2562 23:17:59 น.  

 

สวัสดีค่ะ พี่ภา

ว้าว เก่งจังเลยค่ะ นึกภาพออกว่า นั่งแปลหนังสือท่ามกลางมวลแมกไม้ที่บ้านป่า และมีน้องนุ้งนั่งคลอเคลีย

ท่าจะมีความสุขมากทีเดียวค่ะ

 

โดย: Sai Eeuu 2 มิถุนายน 2562 23:36:27 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับพี่ภา


 

โดย: กะว่าก๋า 3 มิถุนายน 2562 6:41:24 น.  

 

สนุกและตื่นเต้นดีค่ะ อ่านไปนึกภาพไปด้วย เข้ามาอ่าน ตั้งแต่เมื่อวานค่ะ เมื่อวานอ่านถึงบทที่สาม อบขนมไปด้วย ขนมเกือบไหม้ค่ะ รออ่านบทที่ หกนะคะ

 

โดย: มุล (Pikku Mul ) 5 มิถุนายน 2562 14:33:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ภาวิดา คนบ้านป่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 140 คน [?]




BG Pop.Award #17
BG Pop.Award #16
BG Pop.Award #15
BG Pop.Award #14
BG Pop.Award #13
BG Pop.Award #12
BG Pop.Award #11
BG Pop.Award #10
BG Pop.Award #9
BG Pop.Award #8
BG Pop.Award #7
BG Pop.Award #6
*****
*****
Friends' blogs
[Add ภาวิดา คนบ้านป่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.