"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 117 "เจ้ากรรมนายเวร" โดยคุณเป็ดสวรรค์
"ถนนสายนี้...มีตะพาบ" โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 117 "เจ้ากรรมนายเวร" โดยคุณเป็ดสวรรค์ (เอนทรี่นี้ไม่ต้องโหวตครับ ส่วนท่านที่ยังติดตาม: ไม้ใบของบ้านป่า ตอนความสุขของคนอยู่ไม่สุข **ขอเชิญที่นี่ครับ**)
บ่ายวานเห็นคุณเป็ดสวรรค์โต๋เต๋มาดูต้นไม้บ้านผม ทำให้นึกขึ้นมาว่า เขาจะเขียนตะพาบหนนี้กันวันไหนหว่า คือไม่ค่อยจะได้จำวันพระวันโกนเท่าไหร่ พอนึกได้ว่าก็พรุ่งนี้งัยเล่า โหยยยยย ก็เป็นงี้ทุกที กินแกงร้อนปากคอพังได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจำร้อก อ่ะเนอะ ว่าแล้ววันนี้ปั่นงานตอนเช้าเสร็จก็รีบหาภาพและเพลงประกอบ เพลงน่ะต้องคิดเอง เพราะอยากได้เพลงโบราณๆ ให้สมกับโจทย์ ส่วนภาพอ่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากคอมเม้นท์ของคุณเป็ดเมื่อวานนี้แหละ เธอว่า บ้านป่าต้นไม้เยอะดี น่าจะเล่นมาโครแมลง ก็เลยนึกถึงภาพผีเสื้อตัวนี้ซึ่งก็เป็นมาโครที่เบบี้มากๆ ขอขอบคุณคุณเป็ดที่มาช่วยให้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะไม่งั้น ป่านนี้ผมยังเลือกไม่จบ กลัวจะโดนคุณอ๋า วนารักษ์ เฉือนเลือดโชกอ่ะจิ ยอมให้เฉือนแต่พองามนะค้าบ 555++
ออกแขกโหมโรงไปจนจะเกินพอแล้ว จะได้เข้าเรื่องเสียที
พวกเราคุ้นกับคำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" มาตั้งแต่จำความได้ก็ว่าได้ เพราะเวลาสวดมนต์ทำบุญทำทานจะได้รับการสอนให้แผ่ส่วนกุศลให้ใครบ้าง และหนึ่งในรายการก็คือ เจ้ากรรมนายเวร นี่แหละ คุณยายมักสอนเสมอว่า เราทุกคนล้วนเกิดมาแต่กรรม และมีเจ้ากรรมนายเวรที่เราจะต้องชดใช้หนี้บาปให้เขา แต่เราจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ด้วยการทำบุญและทำความดีแล้วแผ่ส่วนกุศลและขออโหสิกรรมเขาไปเรื่อยๆ จะได้หมดห่วงโซ่แห่งกรรมเร็วๆ เพราะการทำบุญทำทานเป็นนิจนั้น ท่านเชื่อว่า เท่ากับทำให้เราได้หลีกเลี่ยงบาปเพื่อเข้าไปในทางบุญด้วย แล้วกรรมจะได้ตามไม่ทัน ก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ อย่าเพิ่งเชื่อว่ามันจะต้องเป็นได้เช่นนี้จริงๆ ที่ผมเชื่ออย่างแน่ใจก็คือ การทำดีโดยไม่ต้องคิดว่าทำเพื่ออะไร
พอโตมา ผมก็เริ่มคิดว่า คงได้ผ่อนหนักให้เบาขึ้นเยอะแล้วเพราะไม่เคยลืมอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรมาตลอด คงจะพอญาติดีกะเจ้ากรรมนายเวรได้พอสมควร รู้สึกชื่นชมโสมนัสในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง แล้วก็ยังทำเช่นนี้มาตลอดเผื่อว่า เจ้ากรรมนายเวรท่านใดจะใจแข็ง ยังไม่ยอมญาติดีกะผมอยู่ ส่วนผมอ่ะไม่อยากเป็นเจ้ากรรมนายเวรของใครเลย ขี้เกียจมาเกิดให้เค้าใช้หนี้ อโหสิกรรมให้ไปหมด
แต่ความชื่นชมโสมนัสในตัวเองนี้ก็มีอายุสั้นมากๆ เลย เพราะวันหนึ่ง ผมไปซื้ออาหารทะเลที่ตลาดสดใกล้บ้าน อาหารทะเลโดยเฉพาะหอยเนี่ยต้องสดขนาดยังไม่ตายสนิทถึงจะซื้อ วันนั้นขณะที่ไปยืนดูว่าจะซื้ออะไรดี ตรงที่ยืนเป็นกระบะหอยลายตัวเขื่องน่ากินมาก ผมชอบเอามาผัดน้ำพริกเผา ซื้อทีให้พอกินทั้งครอบครัวอย่างน้อยก็ต้องสองกิโล แต่วันนั้นอดกิน
เรื่องก็มีอยู่ว่า ขณะกำลังทดสอบว่าหอยตายหรือยัง ก็มีคุณป้าคนหนึ่งเข้ามายืนข้างๆ ถามว่า ชอบกินหอยหรือคุณ ผมก็หันไปรับคำ เธอบอกว่า ดิฉันไม่กิน "เจ้ากรรมนายเวร" เยอะ คำหนึ่งไม่น้อยกว่าสองสามชีวิต โหยยยยย แม่เจ้า ผมบวกลบคูณหารเลขในใจอย่างรวดเร็วแล้วสะดุ้งไปแปดกลับ ผมกินไปกี่หมื่นกี่แสนตัวแล้วไม่รู้ ชาติหน้าผมต้องเจอเจ้ากรรมนายเวรเท่านี้เลยหรือนี่ คิดเช่นนั้นแล้วก็เลยไม่ได้ซื้อ ก็ใครจะไปกินลงล่ะเนอะ
แต่ผมก็เหมือนคนอื่นๆ ที่มักยังคงทำบาปโดยหาข้อแก้ตัวไปแบบน้ำขุ่นมั่งใสมั่ง ในกรณีนี้ ผมบอกตัวเองว่า ไม่ได้บาปขนาดนั้นหรอก มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่กินทั้งเนื้อสัตว์และพืช (Omnivore) ตราบใดที่เรากินโดยไม่ได้ทรมานชีวิตใด กินพอยังชีพ หลีกเลี่ยงสัตว์ใหญ่ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาโลก เนื้อสัตว์ที่ผมรังเกียจคนชอบกินมากก็อย่างเช่น ขุดหลุมฝังไก่ให้เหลือแต่คอไว้ เอากระทิหยอดให้กินจนอ้วนพีแล้วขุดมาเชือดทำอาหารกิน เค้าว่ามันอร่อยนักแล อีกอย่างคือปูนิ่มที่เค้าทรมานให้มันอดอยากจนลอกคราบแล้วก็เอามากิน ผมว่าพวกนี้แหละบาปหนามาก
คิดได้ดังนั้นแล้ว ผมก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ประการที่หนึ่ง ลดการกินเนื้อสัตว์ลงบ้าง กินพืชมากขึ้น ประการที่สอง เมื่อจะกินพวกโปรตีน ใจต้องหยุดคิดว่าต้องซื้อสดขนาดยังไม่ตายสนิท เชื่อว่า บาปบุญคุณโทษหนักเบาก็อยู่ที่ความหมายมาดในการกระทำนั่นแหละ และประการสุดท้าย สำนึกรู้บุญคุณที่เขามาเป็นอาหารให้เราได้ยังชีพและแผ่ส่วนกุศลให้เขาได้ไปเกิดในชาติภพที่ดีขึ้น ซึ่งก็คือ สรุปเจตนาในการทำบาปให้น้อยลง และทำอย่างมีสติด้วย ถ้าจำเป็น จะได้ไม่ต้องตึงเครียดวิตกวิจารณ์ในสิ่งที่มันเป็นธรรมดาโลก เพราะแม้แต่พระพุทธองค์ก็มิได้ทรงละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีผู้ถวาย
ก่อนลาไป ขอเล่าเรื่องคุณแม่บ้านของแม่ผมสักเรื่อง วันหนึ่งเธอบอกให้แม่ของเธอช่วยไปซื้อหอยแมงภู่ลวกให้เธอ แม่ผมถามว่าทำไมไม่ไปซื้อเอง ใช้แม่งกๆเงิ่นๆไป เธอบอกว่า หนูไม่อยากเห็นตอนเค้าลวก กลัวบาปกรรม แม่ผมมองหน้าเธอนิ่งๆแล้วก็บอกว่า บาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนกิน ผมก็ว่านะ เรื่องบาปบุญเนี่ย ยังเข้าใจผิดๆกันอีกมาก เจ้ากรรมนายเวรเลยไม่รู้จักสูญพันธุ์ ทำให้ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่นี่แหละ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พยายามลดจำนวนให้ได้ก็จะดีมากเลย
ขอลาไปด้วยกุหลาบพื้นเมืองโคราชกลีบงามยามฉ่ำฝนโปรย
ขอให้ทุกท่านมีความสุขในวันลอยกระทง ขอขมาลาโทษพระแม่คงคาแล้วฝากลอยเคราะห์ลอยโศกโรคภัยไปด้วยเทอญ
เอื้องหลวงขุนตาล (Queen of Lanna)
Special thanks to uploader, Sorachon Sunaphan.
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2557 |
|
35 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2557 21:34:35 น. |
Counter : 2144 Pageviews. |
|
|
|