ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2562
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 สิงหาคม 2562
 
 
Closer บทที่ 8 (Yuri)

 

เมื่อทุกคนขึ้นนั่งประจำที่เรียบร้อย อาจารย์หนุ่มบอกให้โชเฟอร์ออกรถ โดยมีจุดหมายปลายทางไปจังหวัดทางชายทะเล นพคุณนั่งเบาะคู่กับพรชนก ปรายตามองสาวคนพี่อย่างเสียดาย เขาคาดหวังที่จะสานสัมพันธ์กับหล่อน

เอาน่ามีโอกาสตั้งหลายวัน ฉันต้องสนิทกับคุณธัญได้สิ

“นั่งถนัดไหมคะ?” สาวร่างสูงถามเพื่อนร่วมทางอย่างใส่ใจ หลังเห็นอีกฝ่ายขยับตัวอยู่หลายครั้ง

“พี่กำลังจะปรับเบาะน่ะค่ะ แต่หาปุ่มไม่เจอ” สาวหวานอยากเอนเบาะลงสักหน่อย ขืนนั่งหลังตรงแบบนี้กว่าจะถึงที่พักคงเมื่อยแย่

“มีคันโยกอยู่ข้างๆ นะคะ เจอไหมคะ?” ชวารีถาม

“ไม่ค่ะ” หล่อนส่ายหน้า

“ขอโทษนะคะ” สาวอายุน้อยกว่าพึมพำโน้มตัวไปใกล้ เอื้อมแขนไปควานหาคันโยกแล้วดึงให้ เบาะหลังของอีกฝ่ายจึงเอนลง

“แค่นี้แหละพอแล้ว ขอบคุณนะคะ” ธัญชนกยิ้มหวานอย่างพอใจ

สาวเฉยหันมองอีกคน ในระยะที่ใบหน้าของเราอยู่ห่างกันไม่มาก รับรู้ได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจของคนสวยมากระทบใบหน้า ความงดงามนั่นทำให้ชวารีตะลึงลาน จนลืมหายใจไปชั่วขณะ

ชะ ช่างสวยเหลือเกิน

“ยะ ยินดีค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น แต่แล้วเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้กับสาวผมสั้น ที่จู่ๆ ก็มีเหตุให้คนขับรถต้องเบรกกระทันหัน

เอี๊ยด!

เสียงล้อรถคันใหญ่บดถนนดังลั่น ทำให้ผู้โดยสารเสียการทรงตัว หน้าทิ่มไปตามๆ กัน

“อ๊าย!” หล่อนหวีดร้องออกมาเบาๆ หลังเสียการทรงตัว

ร่างสูงตัวเอียงกระแทกเบาะหน้า ส่วนธัญชนกตัวลอยมาประทับจูบแก้มของเธอเข้าเต็มๆ

แม่เจ้า!

ชวารีเบิกตาโตกว้าง ตกใจที่โดนหอมแก้มเข้าเต็มรัก เป็นครั้งที่สอง แม้ครั้งนี้จะแรงไปสักหน่อย แต่ทำเอาหัวใจเต้นโครมครามไม่หยุด ใบหน้าแดงร้อน ลืมอาการเจ็บที่กระแทกเบาะไปเสียสนิท

ครั้งที่สองแล้วนะคะ!

“พะ พี่ขอโทษค่ะ เจ็บมากไหมคะ?” สาวสวยพึมพำออกมา หลังขยับตัวออกห่างจากสาวรุ่นน้อง

หลายวินาที ร่างสูงถึงหาเสียงของตัวเองเจอ

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอขยับตัวนั่งพิงเบาะ หน้าร้อนผ่าว หัวใจเขย่าแรงยิ่งกว่าคราวที่แล้วเสียอีก...แม้จะเป็นแค่อุบัติเหตุก็ตาม

นี่ฉันโดนขโมยหอมแก้มสองครั้ง จบทริปนี้คงต้องไปเช็คหัวใจสักหน่อยซะแล้วฉัน ชักจะเต้นแรงเกินไปแล้ว

แค่หอมแก้มก็หน้าแดงก่ำ น่ารักมากๆ แก้มเนียนนุ่มเหมือนแก้มเด็กเลย...ใช้แป้งเด็กเหรอเนี่ย

ธัญชนกอมยิ้มในหน้า ปรายตามองเพื่อนข้างกาย สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ

“อุ๊ย! ลิปสติกติดแก้ม” หล่อนอุทานออกมา หลังมองสาวหน้าคม จึงหยิบทิชชู่ออกมา เช็ดร่องรอยบนแก้มเนียมเบาๆ ผุดยิ้มหลังเห็นชวารีนั่งตัวแข็งเป็นหิน ใบหน้าแดงเข้ม

ขี้อายเกิน...น่ารักน่าแกล้งมากค่ะ

คนสวยขี้แกล้งคิดในใจ ทั้งที่ปกติจะไม่ชอบเย้าแหย่คนที่เพิ่งรู้จัก ...แต่เธอกลายเป็นข้อยกเว้น ฉวยโอกาสสัมผัสแก้มนิ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู

สาวเฉยไม่ชินที่ใครมาแตะต้องใบหน้า จึงรู้สึกใจหวิวแปลกๆ ไม่กล้าจะสบตาหล่อน

ฉันจะหัวใจวายไหม!

“ขับดีๆ หน่อยสิโชเฟอร์” นพคุณตะโกนบอกคนขับเสียงดัง หลังหน้าผากกระแทกเบาะหน้า แต่ไม่เจ็บมากเท่าไหร่

“ขอโทษครับ เมื่อกี้มอเตอร์ไซค์มันปาดหน้ากะทันหัน” คนขับรถวัยสี่สิบกว่าบอก ถ้าเมื่อกี้เขาเหยียบเบรกไม่ทัน คงได้ชนมอเตอร์ไซด์เข้าเต็มๆ มีหวังได้ติดคุกหัวโต

“ต่อไปก็ระวังหน่อยนะ” พรชนกพูดเสียงนุ่มนวล

“ครับ” อีกฝ่ายรีบรับคำ ไม่อยากถูกลูกค้าฟ้องเจ้านาย เพราะเขาอาจจะตกงานได้ง่ายๆ

“พวกข้างหลังมีใครเป็นอะไรไหม?” นพคุณตะโกนถามสมาชิกในรถอย่างเป็นห่วง

“แค่หัวโนครับ”

“เจ็บนิดหน่อยเอง สบายมาก”

หลายเสียงที่ตอบมา ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

“ไม่มีใครเป็นอะไรก็ไปเถอะรีบไป จอดแช่แบบนี้ เดี๋ยวโดนคันอื่นบีบแตรไล่” อาจารย์สาวพูดเปรยขึ้น

“ครับ” คนขับรถรีบออกรถ เพื่อเดินทางต่อ

ชวารีเอียงคอมองผู้หญิงสวยที่นั่งข้างๆ หลังรถทัวร์ออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง

“คุณธัญคะ”

“บอกให้เรียกว่าพี่ธัญไง ถ้าเรียกแบบนี้พี่จะไม่คุยด้วย” คนหวานแกล้งทำเสียงดุใส่

“เอ่อ ค่ะ พี่ธัญ” สาวเฉยเรียกเสียงเบาหวิว

“ว่าไงคะ?” สุ้มเสียงของหล่อนอ่อนหวานชวนฟังกว่าเดิม

“เห็นตอนที่จะขึ้นรถบอกว่า จะคุยธุระด้วย” เธอทวงถาม อยากรู้ว่าอีกฝ่ายมีธุระอะไรกับตน

“อ๋อ!” ผู้จัดการสาวอุทาน คว้ากระเป๋าสะพายหลังเปิดออก หยิบของบางอย่างยื่นให้สาวหน้าคม

“อะไรคะ?”

“เปิดดูสิ” อีกฝ่ายบอก

ชวารีรับมาเปิดอย่างว่าง่าย ก่อนเห็นกล้องยี่ห้อดัง จึงเงยหน้าขึ้นมองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ

“กล้องไลก้า?”

“ค่ะ พี่อยากให้น้องรี ลองใช้กล้องตัวนี้ถ่ายรูปดู”

“ลองใช้?” เธอพูดทวนคำ พร้อมทำหน้าสับสน

“พี่ให้ยืมใช้น่ะ เป็นกล้องตัวโปรดของพี่ ถือว่าเป็นการขอบคุณที่ดูแลพี่คราวก่อน” คนสวยบอกเจตนาแท้จริงออกไป

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ รีไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน” คนอายุน้อยกว่าปฏิเสธอย่างเกรงใจ กล้องที่อีกฝ่ายให้ยืม แม้จะเป็นกล้องไลก้าอายุหลายปี แต่ราคาของมันไม่ได้ถูกๆ เลย

...กลัวทำมันพัง กลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืนหล่อน

ขี้เกรงใจจริงๆ

ธัญชนกคาดไว้แล้วว่าอีกคนจะต้องปฏิเสธ

“พี่ไม่ได้ให้ยืมฟรีๆ นะ พี่มีข้อแลกเปลี่ยน”

“อะไรคะ?”

“ได้ข่าวว่าน้องรีจะส่งภาพถ่ายไปประกวด?”

“ค่ะ”

“เอารางวัลมาให้พี่เป็นค่ายืมกล้องตัวนี้” ธัญชนกพูดเงื่อนไข ราวกับเป็นเรื่องง่ายมาก

โห

คนฟังทำตาโตเป็นไข่ห่านกับข้อเสนอนั้น แล้วตอบอย่างไม่มั่นใจออกไป

“คุณ เอ๊ย พี่ธัญขอยากไปนะคะ”

ชวารีไม่เคยประกวดภาพในเวทีใหญ่ระดับประเทศมาก่อน เคยแข่งแต่ในชมรมของมหาวิทยาลัยเท่านั้น

“ไม่ยากหรอกค่ะ ฝีมือแบบน้องรี พี่เชื่อนะว่ามีแววไปได้อีกไกล” สาวสวยพูดตามความรู้สึกของตัวเอง

ฉันมีแววอีกไกล?

ชวารีนึกสงสัยความสามารถของตัวเองขึ้นมา

“พ่อพี่สอนว่า การถ่ายรูปด้วยกล้องที่ดี สามารถดึง ‘เอกลักษณ์ ของภาพ’ ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องกล้องดีมีคุณภาพ และช่างภาพมีฝีมือด้วย ภาพถ่ายก็จะออกมาดี เพราะภาพถ่ายไม่เคยหลอกลวงใคร” ธัญชนกเปรยยิ้ม

ถ้าไม่ครบสองอย่าง ภาพก็ออกมาไม่ดีสินะ

เธอนิ่งฟัง แล้วคิดตาม

“ส่งกล้องมาให้พี่ค่ะ” หล่อนบอก แล้วรับกล้องไลก้าไปถือไว้อย่างคุ้นเคย “มาค่ะ เดี๋ยวพี่สอนให้ว่าต้องใช้ยังไง กล้องตัวนี้ใช้ง่ายไม่ต่างจากกล้องฟิล์มนักหรอกค่ะ ปุ่มเปิดอยู่ตรงนี้ ส่วนตรงนี้เป็น...” คนงามอธิบายแต่ละปุ่มอย่างใจเย็น

คนอายุน้อยกว่าตั้งใจฟัง และพยักหน้าเป็นระยะ

หล่อนใช้เวลาอธิบายอยู่ไม่กี่นาทีก็จบลง

“น้องรีเข้าใจนะคะ?”

ตอบยังไงดี?

สาวหน้าคมทำหน้าอึกอัก

“พอเข้าใจค่ะ”

“ถ้างั้นก็เอาไปลองใช้ดู” ธัญชนกพูดแบบมัดมือชก “และอย่าลืมเงื่อนไขนะคะเอารางวัลมาฝากพี่ด้วย รางวัลไหนก็ได้ค่ะ แค่อยากให้น้องรีทำให้เต็มที่ก็พอ”

“แต่รีไม่มั่นใจ” สาวเฉยตอบอย่างตรงไปตรงมา

“ไม่ต้องมั่นใจค่ะ แค่ลงมือทำไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดก็พอ” สาวงามยิ้มอ่อนอย่างเอ็นดู ด้วยมีประสบการณ์มาก่อน “หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องลงมือทำ ทั้งที่ยังไม่พร้อม หากรอให้ทุกอย่างเพอร์เฟค คงไม่มีวันลงมือกระทำเสียที นั่นคือความจริงของบุคคลที่ประสบความสำเร็จค่ะ”

“แล้วถ้าไม่สำเร็จล่ะคะ?” คนอายุน้อยกว่าอดซักต่อไม่ได้

“ก็พยายามทำต่อไปค่ะ ทำไปเรื่อยๆ ทำอย่างมีความสุข” หล่อนแนะนำแบบผู้ใหญ่กว่า

“พูดง่ายแต่ทำยากจัง” เธอถอนใจยาวเหยียด

ธัญชนกหัวเราะร่วน กับสีหน้าของชวารีที่เหมือนกินยาขมเข้าไปทั้งขวด

หัวเราะอะไรเยอะแยะ เห็นฉันดูกระโดกกระเดก แต่ตัวจริงฉันเป็นสาวขี้อายนะคะ

สาวน้อยบ่นกระปอดกระแปดในใจ ประหม่าเขินอายจนอยากหนีหายไปจากตรงนั้น

“ขอโทษที พี่แค่ขำหน้าตลกๆ ของน้องรี” หล่อนพูดขึ้น หลังจากหัวเราะจนน้ำตาเล็ด

ง่า...ตลกตรงไหน!

ใบหน้าคมสีแดงแป๊ด เฉสายตามองไปทางอื่น แล้วตอบเหมือนประชดนิดๆ

“มะ เป็นไรค่ะ ดีใจที่ทำให้พี่ธัญขำได้”

ฉันคงยั่วน้องรีมากเกินไปหน่อย

หล่อนคิดในใจ แล้วคิดหาเรื่องคุยเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“น้องรีคะ”

“คะ?” เจ้าของชื่อหันสบตากับคนเรียก

“ถ้าไม่รังเกียจ พี่ขอยืมกล้องฟิล์มของน้องรีหน่อยได้ไหมคะ ถือว่าเราแลกกล้องกันใช้ก็ได้”

สาวร่างสูงทำหน้าอึดอัดใจ

“เอ่อ...”

“ถ้าไม่อยากให้ยืมก็ไม่เป็นไรนะ” ธัญชนกรีบพูด หลังเห็นสีหน้าคนข้างๆ เคร่งเครียด หล่อนไม่ชอบบีบบังคับใจใคร

“ไม่ใช่ไม่อยากให้ยืมหรอกนะคะ แต่กล้องของรี ก็แค่กล้องเก่าๆ ราคาไม่กี่บาท” เธอพยายามเรียบเรียงคำพูด ไม่อยากให้อีกคนเข้าใจผิดคิดตนรังเกียจหรือหวงของ

คิดมากไปแล้วเด็กน้อย

สาวสวยผุดยิ้มมุมปาก

“บางอย่างไม่ได้สำคัญที่ราคาหรอกนะคะ ที่พี่ให้ยืมกล้องก็เพราะพี่อยากให้น้องรีแสดงฝีมือออกมาให้เต็มที่ ไม่อยากให้อุปกรณ์กลายเป็นข้อจำกัดในการถ่ายภาพน่ะค่ะ” หล่อนอธิบายเสียงนุ่มนวล “พี่ไม่ได้คิดจะดูถูกดูแคลนกล้องฟิล์มเลยนะคะ เพราะพี่ก็ชอบ ไม่สิ หลงรักกล้องฟิล์มมาตั้งนานแล้ว แต่ในการประกวดเรามีเป้าหมายเพื่อชัยชนะ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์ และวิธีการให้เหมาะสมด้วย”

พี่ธัญตั้งใจช่วยฉัน

นักศึกษาสาวเข้าใจเจตนาดีของอีกฝ่าย

“เข้าใจแล้วค่ะ” สาวหน้าคมตอบ แล้วหยิบกล้องฟิล์มเก่าๆ ของตัวเองส่งให้อีกฝ่าย...Pentax KM ติดเลนส์ 55mm F1.8

“ขอบคุณค่ะ” ธัญชนกรับกล้องไปพิจารณา แล้วชมออกมา “ว้าว! รุ่นนี้หายากซะด้วย ให้ภาพสวยมากๆ ตาถึงนะคะ”

คนฟังยิ้มกว้างเต็มหน้า ดีใจที่อีกฝ่ายชอบอุปกรณ์ของตน ก่อนมองกล้องไลก้าที่อยู่ในมือตัวเอง

“ถ้ารีเกิดทำกล้องพี่ธัญพัง รีคงต้องทำงานพิเศษหัวโตเลย กว่าจะใช้คืนได้”

สาวสวยจ้องหน้าสาวน้อย แล้วพูดเสียงเรียบจริงจัง

“ไม่ต้องทำงานพิเศษที่ร้านมาหรอกค่ะ แต่น้องรีต้องมาทำงานใช้คืนที่บริษัทพี่แทน สักปีหนึ่งก็พอ”

ทำงานใช้ตั้งปี พูดเล่นใช่ไหม?

คนฟังขนหัวลุก ถ้าไม่ติดเกรงใจ อยากคืนกล้องให้อีกฝ่ายเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ เธอตามมุกของอีกฝ่ายไม่ทัน บางทีก็ดูจริง บางทีก็ดูเล่น

“พูดจริง?”

“พี่พูดจริงค่ะ” คนหวานย้ำหนักแน่น แล้วยิ้มอ่อน “ถ้าน้องรีเรียนจบแล้วอยากทำงานเกี่ยวกับวงการถ่ายภาพ พี่แนะนำให้มาทำงานกับพี่ รับรองว่าจะมีประโยชน์กับการถ่ายรูปมาก อยากรู้อะไรพี่จะสอนให้หมด สนใจไหมคะ?”

พี่ธัญชวนฉันไปทำงานด้วย?

“ขอบคุณนะคะไว้รีจะลองคิดดู” สาวผมสั้นตอบอย่างเกรงใจ

อันที่จริง สาวหน้าคมยังไม่รู้ว่าเรียนจบแล้วจะทำงานอะไรดี แค่อยากทำตามความฝันของตนก่อนเป็นอันดับแรก

...เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ

เธอไม่อยากอยู่แบบสิ้นหวัง ไม่อยากเป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิตอยู่แบบซังกะตายไปวันๆ

ซึ่งการลองผิดลองถูก คือหนทางเดียวที่จะรู้ศักยภาพตัวเอง ถ้าลองแล้วไม่ใช่ ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร แค่ลองอย่างอื่นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหาตัวเองเจอ

ธัญชนกชวนชวารีคุย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของสาวเฉย ซึ่งหญิงสาวก็เล่าแบบไม่ปิดบัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูกสาวแม่ค้าขายขนมหวาน หรือเรื่องที่ต้องช่วยงานที่บ้าน ทำให้หล่อนรู้สึกประทับใจในตัวอีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก

มิน่ารังสิมากับพรชนกถึงชอบเด็กคนนี้นัก

คนสวยอดที่จะคิดแบบนั้นไม่ได้ กับนิสัยตรงไปตรงมาของอีกคนที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน

“ง่วงก็นอนเถอะค่ะ” สาวผมสั้นบอก หลังคุยไปสักพักเห็นหล่อนยกมือป้องปากหาวหวอด ทำตาปรือเหมือนง่วงนอน

“นานๆ จะไปเที่ยวที พี่เลยตื่นเต้น นอนไม่ค่อยหลับน่ะค่ะ ไว้ค่อยคุยกันต่อนะคะ” คนสวยปิดเปลือกตาลง เพื่อพักผ่อนเอาแรง

ความจริงแล้ว หล่อนตื่นเต้นที่จะได้เจอกับสาวน้อยมากกว่า ไม่รู้ว่ากินอะไรผิดสำแดงเข้า ถึงได้หยุดคิดถึงเธอคนนี้ไม่ได้ ในหลายวันที่ไม่เจอกัน

ชวารีเอียงคอมองใบหน้าสวยด้านข้าง ที่อยู่ห่างไม่มากเลย ในใจอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ จึงรีบหันหน้ามองไปทางอื่นแล้วหลับตาลง

อย่าฟุ้งซ่านนะชวารี รีบนอนซะ

สาวเฉยย้ำกับตัวเอง เธอได้กลิ่นหอมโชยมาสัมผัสฆานประสาท ก็ค่อยๆ เคลิ้ม ก่อนสะดุ้งลืมตาขึ้น เมื่อศีรษะคนงามพิงซบอยู่กับไหล่ของตน สาวร่างสูงไม่ได้ขยับตัวหนี นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นเพื่อให้เจ้าหญิงได้นิทราอย่างมีความสุขต่อไป

...ในใจของเธอไม่อยากให้เวลานี้สิ้นสุดลงเลย

ถึงจะเมื่อย แต่ก็คุ้มสุดๆ ...ผู้หญิงอะไรริมฝีปากเซ็กซี่ชะมัด

พรชนกที่นั่งเก้าอี้แถวเดียวกัน ชำเลืองมองสองสาวคุยกัน แม้จะไม่ได้ยินว่าคุยอะไร แต่เห็นพี่สาวดูมีความสุขเธอก็สบายใจ จึงหลับตาลงเพื่อพักผ่อนบ้าง

ดูแล้วสองคนนี้น่าจะเข้ากันได้ดี ค่อยยังชั่วหน่อย

คมกริชซึ่งนั่งอยู่ถัดไปข้างหลังหลายแถว ชะเง้อมองสาวหน้าคมอย่างไม่ค่อยมีความสุขนัก เขาไม่ค่อยชอบธัญชนกแบบไม่มีเหตุผล ที่เข้ามาเป็นอุปสรรคกับภารกิจในทริปนี้

...ภารกิจสารภาพความในใจ

ฉันต้องหาโอกาสขอคบกับรีในทริปนี้ให้ได้ รอจนเรียนจบคงไม่มีโอกาสอีก

 

คะนึงหา

แอบมองหล่อนยามเผลอช่างน่ารัก

อยากรู้จักอยากชิดใกล้อยากค้นหา

อยากพูดคุยอยากหัวเราะอยากสบตา

คะนึงหาถึงเจ้าหล่อน...มิเว้นวาย.

 

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ และหัวใจนะคะ ชอบก็เขียนมาค่ะ...ไรท์บ้ายอ 5555

ในทริปนี้ แต่ละคนต่างมีเป้าหมายในใจค่ะ...ส่วนใครจะลงมือก่อน สำเร็จหรือล้มเหลวอย่างไร? งานนี้มีชิงไหวชิงพริบกันแน่นอน ต้องลุ้นต่อค่ะ 

ช่วงนี้กำลังเร่งรีไรท์ ทยอยส่งต้นฉบับคุณพี่บอกอบ้างแล้ว หัวฟูมากๆ น่าจะเสร็จก่อนสิ้นเดือน...หวังว่านะคะ แหะแหะ  

พบกันตอนหน้าค่ะ

นาง ^^

เมนต์เค้าหน่อยฝากติดตามด้วยน้าขอบคุณน้า

OoXoO  




Create Date : 22 สิงหาคม 2562
Last Update : 22 สิงหาคม 2562 13:35:26 น. 0 comments
Counter : 598 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com